“ยาย่า–หมอต่อ” สวนกลับเม พรีมายา เคลียร์ทุกประเด็นร้อน!

ยาย่า–หมอต่อ” สวนกลับเม พรีมายา ปกเว็บ

ฟังอีกมุม “ยาย่า – หมอต่อ” ปมเปิดศึก “เม พรีมายา” ยันเมขายขาดกว่า 3 แสน ไม่ได้ฝากหุ้น คุยกันไม่ได้เพราะหยาบคาย โต้กลับทุกประเด็นร้อน

กรณีที่ก่อนหน้านี้ “เม พรีมายา” ออกมาเปิดศึกแฉหุ้นส่วน Dermatige Aesthetice ธุรกิจคลินิกความงามซึ่งรีแบรนด์มาจาก PRIMAYA คลินิก โดยได้ตั้งคำถามว่าตนเองถูกฮุบบริษัท เพราะหมดผลประโยชน์หรือไม่ ถูกกีดกันการเข้าถึงข้อมูลของบริษัท อ้างมีการเรียกตร.มาจับตน มีการฟ้องร้องกันไปมาสองฝ่าย และยังข้อสรุปไม่ได้  

รายการ โหนกระแส วันที่ 6 ต.ค. ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมาย เลข 33 ได้สัมภาษณ์คู่กรณีคุณเม พรีมายา คือ ยาย่า หุ้นส่วนบริษัท มาพร้อม ทนายตั้ม เกรียงไกร วิศิษฎ์สรอรรถ ขอแจงทุกประเด็นความขัดแย้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“เม พรีมายา” ร่ำไห้แฉ! ถูกฮุบธุรกิจคลินิก จี้หุ้นส่วนเคลียร์ 8 คำถาม
ช็อกวงการ! “เม พรีมายา” แฉถูกเพื่อนรักหักหลัง ฮุบธุรกิจที่สร้างมากับมือ
เปิดประวัติ ‘เม พรีมายา’ ทำเอาสังคมไทยถึงกับตกใจ

รู้จักคุณเม พรีมายาได้ยังไง?

ยาย่า : ก่อนอื่นเลย ย่าทำธุรกิจเสื้อผ้า คุณเมก็เป็นลูกค้าร้านเสื้อผ้าย่า คุยกันตามโซเชียล ได้นัดเจอทานข้าวกันหลายครั้ง ตอนนั้นคลิกกับน้อง เขาเป็นคนน่ารัก คุยกันถูกจริต แต่ก่อนอื่นย่ามีแพลนอยากเปิดคลินิกเสริมความงามอยู่แล้ว ย่าเป็นลูกค้าคุณหมอ 2 ท่านนี้อยู่แล้ว ตั้งแต่เขามีคลินิกอยู่แล้ว คุณหมอกลาง กับคุณหมอต่อ เมเขาไม่รู้จักคุณหมอมาก่อน เหมือนย่ารู้จักคุณเม ย่าเป็นตัวกลาง ย่าพูดคุยกับน้อง ย่ามีแพลนทำคลินิกเสริมความงามอยู่แล้ว ร้านเสื้อผ้าย่าตอนนั้นก็โด่งดังระดับนึง มีคนฟอลโลว์ประมาณ 4 แสน ชื่อว่าเบสิก บายสิตา เป็นธุรกิจที่ทำให้เราเกิดมามีตรงนั้น เรามีฐานลูกค้าผู้หญิงอยู่แล้ว ย่าไปเจอคุณหมอสองคนนี้ เพื่อนเราไปทำกับเขาเยอะมาก เขามีฝีมือที่ดี ก็เกิดไอเดียว่าอยากทำคลินิกเสริมความงามด้วยกัน ตอนคุยกับน้องเม ย่าก็พูดคุยกับโปรเจกต์นี้ แล้วเขาก็สนใจมาก ๆ ซึ่งไม่ใช่ Dermatige ค่ะ

ทนายตั้ม : ตอนที่เขามาคุยกัน เขาจะทำคลินิกสองอัน PP คือแบรนด์คลินิกศัลยกรรม เป็นบริษัท ๆ นึง ส่วนอีกอัน คลินิกเจ้าปัญหา ขอใช้ชื่อย่อว่า PC คลินิกเวชกรรม เดิม PC มีการจดจัดตั้ง 4 คน

คุณเมบอกว่าเขาเปิดบริษัท ก. ขึ้นมา และไปเปิดบริษัทร่วมกัน คือ Dermatige ตกลงเป็นยังไง?

ทนายตั้ม : เดิมมีการทำคลินิกเวชกรรมหนึ่งอัน กับอีกอันคือคลินิกศัลยกรรม ซึ่งคลินิกศัลยกรรมเกิดก่อนชื่อ PP ตอนนั้นพอมีปัญหาก็หยุดประกอบการ เปิด PP เดือนม.ค. ปี 64 แต่หยุดประกอบการ มีปัญหาตอนมีกระแสข่าวของเขา

PP ใครเป็นหุ้น?

ยาย่า : มี 4 คนนี้ และมีอีก 2 คน

มียาย่า เม, หมอต่อ, หมอกลาง และอีก 2 คน นี่คือ PP แล้วยังไงต่อ?

ทนายตั้ม : ตอนก.พ.64 จัดตั้ง PC คลินิกเวชกรรม ที่ประกอบกิจการตอนนี้ แต่ในตัวบริษัท เขามีแบรนด์ถือโดยบริษัท อย่างตัว PP ถือแบรนด์ชื่อย่อ PP เหมือนกัน ส่วนตัว PC ใช้แบรนด์ชื่อ PC คนถือแบรนด์สองบริษัทนี้ เป็นตัวบริษัทถือแบรนด์ ซึ่งตัวที่มีปัญหาคือ PC

บริษัทที่เปิดชื่ออะไร?

ยาย่า : พริมยาไพรม์ หนูเป็นคนคิดชื่อนี้เองค่ะ

หุ้นส่วนเดียวกันหมด?

ทนายตั้ม : ไม่เหมือนกัน พริมยาไพรม์มี 6 หุ้นส่วน แต่พริมยาคลินิก มี 4 หุ้นส่วน ตอนทำแบรนด์ตัวนี้มีแบรนด์อยู่ข้างใน คือตัวคลินิก และแบรนด์พริมยาคลินิก โดยบริษัทพริมยาคลินิกเป็นเจ้าของแบรนด์ ตอนนั้นพอทางคุณเมมีปัญหาจากข่าว ที่สอบข้อเท็จจริงมาด้วย มันเลยมีการขายหุ้นตอน 15 ก.พ.66 มีรายงานการประชุม ขายหุ้นของพริมยาคลินิกทั้งหมด

แล้วพริมยาศัลยกรรม?

ยาย่า : ก็ยังค้างไว้อยู่ ไม่ได้ประกอบกิจการแล้ว เพราะคุณหมอที่ทำศัลยกรรม ตอนเขาเจอข่าว คุณหมอต่อ คุณหมอกลาง เขาไม่ได้เป็นเฮดด้านศัลยกรรม เพราะเขาเป็นแค่หมอสกิน แต่คุณหมท่านนึงที่เขาเป็นผู้ถือหุ้น เขาเป็นเฮดด้านของการทำศัลยกรรมโดยเฉพาะ

แต่เม พรีมายา เขาไม่ได้พูดถึง PP นะ เขาพูดถึงแค่ PC?

ทนายตั้ม : ผมให้เห็นว่าโครงสร้างสองบริษัท แบรนด์แยกจากตัวบริษัท ตอนมีปัญหา 15 ก.พ.66 น้องเมมีการขายหุ้น โอนหุ้น มีเอกสารการโอนต่าง ๆ ตัวสัญญาโอนมีการตีอากรในฉบับจริง ตอนขาย ณ ตอนนั้นแบรนด์ พริมยาคลินิก ก็มีปัญหาไปด้วย เพราะยอดมันตก สามารถไปเช็กที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ ณ ช่วงนั้นลดลงจริงมั้ย เพราะมีการส่งงบการเงินต่าง ๆ สามารถตรวจสอบได้ เขาซื้อมาตามราคามูลค่าบริษัท ณ ตอนนั้น ซื้อเสร็จคุณเมก็ออกจากบริษัท ตามรายงานประชุม เขาเป็นคนเสนอขาย

ยาย่า : ที่น้องเมแจ้งเป็นช่วงพรบ.คอมพ์ฯ แต่จริง ๆ แล้วมีอีกคดีที่ตรงกับตัวคลินิก คือตามข่าวเขาโดนคดีเรื่องการใส่สารอันตรายในอาหารเสริม ตอนนั้นเป็นข่าวที่ตร.ไปบุกจับที่โรงงาน ตัวเขาเองเห็นใจพวกเรา  เพราะข่าวแรงจริง ๆ การทำคลินิก ใช้ความน่าเชื่อถือเป็นหลัก กระแสข่าวมาแรงมาก ๆ ทำให้ไม่มีความน่าเชื่อถือเลย ในคลินิก

พอเขาต้องคดี คุณยังไง คุณเสนอซื้อ หรือเขาเสนอขาย?

ยาย่า : เป็นการตกลงร่วมกัน บริษัทจะไปต่อกันได้ เขาเสนอมา เราก็ยินดีจะรับซื้อ เขาเสนอขายค่ะ

ทำไมเขาถึงมาเสนอขาย?

ยาย่า : เขาโดนคดีค่ะ

ขายขาด?

ทนายตั้ม : ตอนเสนอขายเป็นช่วงบริษัทกับสาขาวิกฤต ตรงทองหล่อแทบไม่มียอดเลย

ตอนนั้นมีกี่สาขา?

ยาย่า : ตอนนั้นมี 3 จริง ๆ PP กับ PC มีสาขาที่แมตซ์กันด้วยค่ะ  ยอดตกหมดเลย เพราะข่าวคุณเม

เขาเสนอขายคุณเท่าไหร่?

ยาย่า : เขาไม่ได้เสนอขายหนูคนเดียวนะคะ เขาเสนอขายทุกคน จำนวน 108,000 บาท

ทนายตั้ม : ของคนอื่นก็ซื้อลดหลั่นกันไป

3 คนก็ประมาณ 3.3 แสน?

ทนายตั้ม : แต่ละคนยอดก็ตามสัดส่วน

สองคนนี้พูดไม่เหมือนกัน เมบอกว่า ณ วันนี้เธอต้องคดี ทางนี้บอกว่าขอได้มั้ย เอาชื่อออกจากผู้ถือหุ้นและกรรมการไปก่อน เพราะพอมีคดี ทำให้คลินิกเสียหาย แต่ทางนี้บอกว่าไม่ใช่ เมมาขายขาดให้เธอ ทั้งหมด 3 คน รวมแล้ว 3.3 แสน คนละ 108,000 ถามว่ามนุษย์ที่มีสติสัมปชัญญะ แล้วสามารถพิสูจน์รายรับที่เขาบอกว่าเข้ามา 50 ล้าน เขายอมขายหุ้นแค่คนละ 108,000 บาท มันเป็นไปได้เหรอ?

ยาย่า : ตอนเป็นพริมยาคลินิก ยอดไม่ได้เยอะขนาดนี้เลย

ถ้ากระทบตัวยอดได้ ก็จะเป็นคำถามสำคัญเหมือนกัน ต่อให้ ณ เวลานั้น มีรายได้เข้ามา 5 ล้าน หรือ 10 ล้าน อยู่ดี ๆ คนนึงจะเอาหุ้นไปขาย 3 แสนกว่าบาท ทิ้ง 10 ล้านไป ผมว่ามันก็ไม่สมเหตุสม?

ยาย่า : บริษัท PP ทุกวันนี้ยังเคลียร์กันไม่ได้เลย ยังติดลบอยู่เลย

คุณเมพูดเอาไว้ว่า จริง ๆ แล้วธุรกรรมในการขายหุ้น เป็นธุรกรรมแอบแฝง ไม่ได้ขายจริง เขาฝาก แล้วหาร 3?

ทนายตั้ม : น้องเมมีคดี หรือมีอะไร มีทีมกฎหมายดูแล การฝากหุ้น ไม่น่าต้องมาฝากลักษณะนี้ มันค่อนข้างขัดแย้ง ถ้ามีการแค่ฝาก ไม่จำเป็นต้องทำรายงานประชุมหรือทำสัญญาโอน สัญญาโอนก็ตีอากรด้วย มันดูไม่เมคเซ้นส์สักเท่าไหร่

ฝั่งคุณเมใช้คำว่าฝาก ไม่ได้ขายขาดแต่ต้องไปลงว่าขาย?

ยาย่า : มันไม่เป็นความจริงค่ะ

ตอนให้เงินเขาไป ให้เงินสด หรือโอน?

ยาย่า : ให้เงินสดค่ะ เพราะตอนนั้นเขาต้องคดี เราก็ต้องระวังด้วย เราก็กลัว เพราะข่าวมันแรงมาก ๆ

ทำไม ณ วันนั้นในเมื่อบอกเมขายขาดไปแล้ว ทำไมเมถึงได้เงินปันผล?

ยาย่า : หนูอยากพูดมาก เพราะมันเป็นอะไรที่ทุกวันนี้มันย้อนกลับมาทำร้ายตัวหนูเองและแบรนด์หนู วันนั้นหนูคิดว่าคนที่เขามาซื้อหุ้นเรา คือญาติของคุณ คือคุณ R ซึ่งหนูทำอีกธุรกิจนึงกับเขาด้วย

คุณให้ปันผลเขามั้ย หลังขายขาดให้คุณไปแล้ว?

ยาย่า : ไม่ได้ให้ค่ะ ของเราตอนเขาขายขาดมาเรียบร้อยแล้ว ก็มีกระแสเงินสด ที่ยังคงเหลือของพริมยาคลินิก ที่เรายังให้เขาค่ะ

คุณยังโอนปันผลให้เมอยู่มั้ย?

ยาย่า : ไม่มีค่ะ

ทำไมยอมขายคืนให้เขา?

ยาย่า : หนูไม่ได้ขายคืนให้เขานะคะ หนูขายคืนให้ญาติของเขาคือคุณ R จริง ๆ ถ้าไปเช็กได้เลย หนูทำธุรกิจกับเขาอีกธุรกิจนึง

คุณเมบอกว่าหลังเขากลับมาแล้ว เคลียร์ตัวเองรอลงอาญา เขาก็ไปพูดคุยกับคุณว่าเขาต้องการเอาหุ้นกลับคืนมา ที่เขาฝากเอาไว้ คุณเองให้คืน แต่มีข้อแม้ คือต้องไม่ใส่ชื่อเม ต้องใส่ชื่อญาติเม?

ยาย่า : ตอนเขามาคุย เขากับญาติเขามีความประสงค์อยากกลับมาทำธุรกิจซึ่งญาติเขาหนูมีบริษัทกับเขาอีกบริษัทนึง หนูเป็นผู้ถือหุ้น 30 เปอร์เซ็นต์ คุณ R ถือหุ้น 70 เปอร์เซ็นต์ เรารู้จักน้องเขาดีอยู่แล้ว วันที่เราตัดสินใจ เขามาบอกความประสงค์ แต่คนเข้ามาซื้อหุ้นเราจริง ๆ คือคุณ R

ตกลงเมมาขอซื้อคุณ หรือ R มาขอซื้อ?

ยาย่า : เมมาในฐานะพี่เลี้ยงของ R หนูไม่รู้ว่าคุณเมกับคุณ R เขามีข้อตกลงกันหรือเปล่า

ไม่รู้ว่าเมให้ญาติมาเป็นนอมินีหรือเปล่าเหรอ?

ยาย่า : ใช่ หนูไม่ทราบ หนูไม่รับรู้ แต่คนมาซื้อหุ้นเราคือคุณ R

แต่เมบอกว่าเขาไปขอจากคุณ แต่คุณมีข้อแม้กับเขา ให้ใส่ชื่อคนนี้แทน?

ทนายตั้ม : เหมือนทางเมเขาติดต่อซื้อหุ้น แล้วต่อมาแจ้งว่าคนจะซื้อจริง ๆ เป็นญาติ มีการขายหุ้นให้ญาติ จะขอซื้อคืนในราคาเดียวกับที่เคยขายให้ได้มั้ย ถึงบริษัทจะมีกำไรแล้ว

ยาย่า : พอเราได้ทำการซื้อหุ้นจากคุณเม เราก็ทำแบรนด์ขึ้นมาใหม่ ชื่อว่า Dermatige เราก็ได้เปลี่ยนเป็นบริษัท DMT

พูดง่าย ๆ คือบริษัท ข.?

ทนายตั้ม : เหมือนบริษัทพริมยาคลินิกเดิมเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท DMT รีบริษัทใหม่ แต่แบรนด์ Dermatige สามคนเป็นเจ้าของแบรนด์ ไม่เกี่ยวกับทางเม บริษัทก็ไม่ได้เกี่ยวแล้ว Dermatige สามคนเป็นเจ้าของ อนุญาตให้บริษัทเอาแบรนด์ไปใช้ มันคือบริษัทเดิม แต่ไม่มีชื่อเม

ยาย่า : ไม่ใช่แบรนด์เดิม เราทำแบรนด์ขึ้นมาใหม่

บริษัท PC เมื่อก่อนมีเม เมขายขาดให้คุณ คุณเลยเปลี่ยนพริมยาเป็น DMT มีคลินิกนี้อยู่ภายใต้อันนี้ และเปลี่ยนชื่อคลินิกเป็น Dermatige?

ยาย่า : เราทำแบรนด์ใหม่ขึ้นมาเลย และไม่เกี่ยวข้องกับพริมยาคลินิกเลย โละใหม่ทุกอย่าง ทั้งโลโก้ ทั้งทุกอย่าง แบรนด์เป็นเอกเทศ เป็นของหนูกับคุณหมอที่คิดขึ้นมา ไม่เกี่ยวกับเมเลย โลโก้หนูยังมีสลิปที่เราโอนส่วนตัวของเรา ในการออกแบบ ทำทุกอย่าง เราเปิดแบรนด์ใหม่ อนุญาตให้คลินิกเวชกรรมอันนี้ใช้ชื่อแบรนด์เรา Dermatige เป็นตัวแบรนด์ แล้วเราอนุญาตให้บริษัทคลินิก DMT ใช้ชื่อแบรนด์เราค่ะ

คุณไม่ต้องการให้ Dermatige เกี่ยวกับทางคุณเม แต่ถ้าอยู่ตรงนี้จะเกี่ยวข้อง?

ทนายตั้ม : ไม่เกี่ยว เพราะเขาขายทิ้งไปแล้ว

ขอคุยกับคุณย่าก่อน ไม่งั้นจะงง?

ทนายตั้ม : ผมอยากให้เขาอธิบายให้ชัด

ยาย่า : เราคิดแบรนด์ขึ้นมาใหม่คือ Dermatige เราเอาแบรนด์นี้มาใช้กับตัวคลินิก ระหว่างนั้นช่วงที่ทำ ยังไม่เกี่ยวกับญาติคุณเม คุณหมอทั้งทำงาน ลงตรวจทุกอย่าง ตอนนั้นได้รับความนิยมชมชอบจากคนไข้เยอะมาก คุณหมอมาเป็นมาร์เก็ตติ้งด้วย เราทำแบรนด์ดิ้งใหม่ ปรับกลยุทธ์ใหม่ทุกอย่าง แต่ก่อนหนูเคยเป็นมาร์เก็ตติ้งตอนเป็นพริมยา แต่ตอนนี้เราก็ไม่ได้เป็น เพราะเราคิดแบรนด์มา เราต้องการให้คุณหมอเป็นจุดยืนของแบรนด์ ที่เราวางกลุยุทธ์กันมา 3 คน ธุรกิจต้องการความน่าเชื่อถือ เราเลยเอาคุณหมอเป็นตัวชูโรง พอเสร็จปุ๊บระหว่างนั้น มีนักลงทุนรายใหญ่ที่เข้ามาสนใจ เรียกว่า S ตอนนั้นก็อย่างที่ทุกคนทราบกัน เขาสนใจเพราะธุรกิจไปได้ดี ก็จัดดีลกัน ราคา 100 ล้าน พอจะดีลกันปุ๊บ สุดท้ายดีลไม่ได้เกิดขึ้น เพราะคุยแล้วตกลงกันไม่ได้ การประเมินมูลค่าตรงนั้น ทางน้อยอาจเข้าใจผิดว่ามูลค่าบริษัทมันเยอะ แต่ตามสัญญาของเรา ที่ไม่ได้นำมาเผยแพร่ เขามีสัญญาว่าไม่ได้เป็นมูลค่าของบริษัท แต่เป็นมูลค่าบริษัทบวกบุคคลที่เราต้องทำงานต่อตรงนั้นอีก 5 ปี คุณหมอทั้งสองและตัวหนูด้วย ตรงนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณเมเลยนะคะ พอเราเปิดอีกบริษัทนึงคือ DMP เราเปิดตอนที่บริษัท S เขาจะมาร่วมลงทุนกับเรา แต่สุดท้ายไม่ได้จบดีล

คุณเมติดต่อเข้ามานะ วันนั้นพยายามให้คุณกับคุณหมอเข้าสาย ทำไมไม่เข้าสาย?

ยาย่า : วันนั้นหนูไม่ได้รับสาย น่าจะมีการเข้าใจกันผิด วันนั้นไม่ได้คุยกับทีมงานโหนฯ เลย

ทางเราติดต่อไปทางพี่สาวคุณยาย่า?

ยาย่า : ไม่ได้อยู่ด้วยกันค่ะ

ทางคุณบอกว่าคุณหมอยังไม่สะดวกให้พูด?

ยาย่า : พี่โรสติดต่อกระชั้นชิดมาก จะบอกว่าให้มาเลยได้มั้ย ตอนเที่ยง แต่วันนั้นมันไม่ทัน

ก็เลยขอโฟนอิน?

ยาย่า : หนูเหรอคะ

มีขอโฟนอิน พูดผ่านรายการอยู่ คุณหมอเองอยากให้มา ก็งงทำไมวันนี้คุณหมอไม่มา?

ทนายตั้ม : เขาบอกเขาติดเคส เขาพยายามเร่งมา ผมทราบแค่นั้นจริง ๆ ไม่ทราบว่าใครจะมาตอนแรก

ยาย่า : คุณหมอติดเคสจริง ๆ ใครจะไม่อยากมา คุณหมอโดนกล่าวหาหนักกว่าหนูด้วยซ้ำ แต่วันนี้มันติด ถ้าไม่ติดมาแน่นอน คุณหมออยากชี้แจงด้วยตนเองอยู่แล้ว

ขอโฟนอินได้มั้ย?

ทนายตั้ม : ถ้าไม่ติดเคส ผมก็คิดว่าได้

คุณหมอผ่าตัดเหรอ?

ทนายตั้ม : น่าจะทำหัตถการ

ยาย่า : คุณหมอกลางคิวเขาเต็มล่วงหน้า 2-3 เดือนเลยนะคะ ลูกค้าคุณหมอกลางจะรู้เลย บางคนบินมาจากต่างจังหวัดค่ะ

ก็งง เพราะตอนแรกทีมงานแจ้งว่าคุณหมอออกแถลงการณ์ว่าวันนี้จะมา ทางเราก็ล็อกคิวเรียบร้อย เลยเลื่อนคิวคุณบอย ท่าพระจันทร์เป็นวันพรุ่งนี้ อยู่ดี ๆ วันนี้คุณหมอไม่มาอีก ตอนแรกจะให้คำตอบตอน 4 ทุ่ม ผมบอกว่าไม่ได้ ถ้าไม่มา ผมจะหาเคสไม่ทัน บอกจะให้คำตอบตอนเช้า ผมก็บอกว่าไม่ได้ ผมจะหาเคสที่ไหนทัน สุดท้ายทนายประสานมา?

ทนายตั้ม : ผมประสานทางผู้ช่วย ก็แจ้งว่าใครจะมาบอกหน่อย เพราะรายการติดต่อมา

หุ้นส่วน 4 คน เม ย่า หมอต่อ หมอกลาง ทำคลินิกร่วมกัน กระจายหุ้นก็ตามที่เมบอกไป ถือคนละ 25 เปอร์เซ็นต์ ทั้งหมดเปิดมามีบริษัทนึงชื่อพริมยา เป็นบริษัทก่อน จากนั้นเขามีแบรนด์ ชื่อ PC สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น คุณเมต้องคดี ทางนี้อ้างว่าเมขายขาด หุ้นให้ 3 คนนี้ ในราคา 3 แสนกว่าบาท ตลกเฉลี่ย 108,000 บาท พริมยาก็เหลือแค่ 3 คนแล้ว คลินิก PC ก็จะเหลือแค่ 3  เพราะเมออกไปแล้ว จากนั้นเขาอ้างว่า PC ผลประกอบการไม่ดี ติดแบรนด์เก่า ๆ เขาฆ่าทิ้ง แล้วเปิดคลินิกใหม่ ชื่อ Dermatige  ผมใช้ว่า DM  เขาทำกัน 3 คน เป็นแบรนด์ของเขา ไม่เกี่ยวกับพริมยา แล้วพริมยาอยู่ไหน เขาเปลี่ยนเลย เขาฆ่าทิ้งอีก แต่พริมยาเปลี่ยนใหม่ ใช้ชื่อว่า DMT เป็นชื่อบริษัท ถามว่าคลินิก Dermatige กับ DMT เกี่ยวข้องกันมั้ย เขาบอกว่าไม่เกี่ยว เพราะ DM เป็นเอกเทศของเขา แต่อนุญาตให้ DMT ใช้ชื่อแบรนด์ DM ได้ จากนั้นฝั่งเมเขากลับมา เขาถามว่าพริมยาอยู่ไหน คุณบอกว่าพริมยาไม่มีแล้ว แต่มี DMT  คุณจะซื้อมั้ย ถ้าซื้อจะขายให้?

ยาย่า : ก่อนเมกลับมามีนักลงทุน S เข้ามาเพิ่ม

จะขอเทค DMT แต่บริษัท S แนะนำว่าเทค DMT มันโน่นนี่นั่น คุณสร้างมาอีกแบรนด์นึงคือ DMP?

ยาย่า : โครงสร้างจะลิงก์กัน DMP คือ DMT  ถือหุ้น 99 เปอร์เซ็นต์

ก็เป็น 3 คนอยู่ ไม่เกี่ยวกับ Dermatige คำถามคือทำไม S จะมาซื้อ DMT?

ยาย่า : เพราะตอนนั้นกิจการมันเติบโต ตัวคลินิกค่ะ

แสดงว่ามันเกี่ยวพันไง?

ทนายตั้ม : เกี่ยวในความหมายคือเขาใช้แบรนด์ Dermatige

ทำไม S ไม่ไปเทค DM เลยซื้อแบรนด์ไปเลยไม่ได้เหรอ?

ยาย่า : เขาต้องการตัวคุณหมอ เขามีสัญญามาเลยว่าที่เขาสนใจบริษัทนี้เพราะคุณหมอกลาง คุณหมอต่อ

ฉะนั้นถ้า S ไปเทค DMT ก็จะได้ DM ไปด้วยเหรอ?

ยาย่า : ใช่ เพราะเรามีหนังสือสัญญา หนังสือที่เราอนุญาตให้ใช้อยู่แล้วค่ะ

คุณไม่ได้เบี่ยงบาลีว่า DM กับ DMT ไม่เกี่ยวกัน?

ทนายตั้ม : ไม่ครับ มี MOA ไขว้อยู่ด้วย

หลังจากนั้นคุณอ้างว่าญาติเมเข้ามาขอซื้อหุ้น?

ยาย่า : ยังไม่เข้ามาค่ะ ยังมีอีกบริษัท DMW ตั้งขึ้นมาเพื่อเรา 3 คนลงทุน จะเอาไว้ดูแลสาขาที่เราเปิดใหม่

ทนายตั้ม : ตอนช่วงมีคนที่มีคนมาลงทุน เขาจ้างที่ปรึกษากฎหมายดูแลเกี่ยวกับสถานประกอบพยาบาล รพ. เขาก็มาแนะนำให้กับทางนี้

ยาย่า : คือบริษัทเราต้องการวางแผลให้ไปสู่โกลบอล มันเลยมีสตรักเจอร์ที่ฟังเข้าใจยากนิดนึง แต่เราอยากอธิบายให้ฟัง มันเป็นแผนที่เราวางไว้อยู่แล้วค่ะ

เอาเรื่องง่าย ๆ ที่คนสนใจดีกว่า เอาที่เข้าเป้า ว่าตกลงญาติเมมาขอซื้อ แล้วคุณยังไง?

ทนายตั้ม : ญาติเมมาขอซื้อ หลังจากจด DMW ให้เลือกสองบริษัท

เขาเลือกอันไหน?

ยาย่า : เขาเลือก DMT เพราะมีรายได้อยู่แล้ว ส่วน DMW ยังไม่มีรายได้ ไม่มีอะไร

DMT มีรายได้จากอะไร?

ยาย่า : จาก 2 สาขา คือ Dermatige  

งั้น Dermatige ก็อยู่ภายใต้ DMT สิ?

ทนายตั้ม : ไม่ใช่ครับ

จะไม่ใช่ได้ไง ในเมื่อ DMT คือบริษัท แล้วคุณมีรายได้จาก Dermatige เข้าไปสู่ DMT?

ทนายตั้ม :   สมมติพี่หนุ่มมีคลินิกเวชกรรม แต่ใช้หัวชื่อแบรนด์เขามา ใช้แบรนด์ Dermatige นะ เงินที่เข้า DMT คือเงินคลินิกเวชกรรมที่ใช้แบรนด์ Dermatige ฉะนั้นสาขาที่ DMT ดูแลสองสาขา คนมาทำเงินก็เข้า DMT ตามคลินิกสาขาที่ DMT เป็นเจ้าของ

เหมือนกระจายแฟรนไชส์?

ทนายตั้ม : คล้าย ๆ เซเว่น แต่เจ้าของแบรนด์ 3 คน เขาลงทุนสาขาเอง

แต่มุมสังคมเขาก็ต้องเข้าใจได้ว่า DMT มีรายได้จาก Dermatige ?

ทนายตั้ม : มีรายได้จากคลินิก

คลินิกชื่อ?

ทนายตั้ม : Dematige (ดีแมตทีต)

แล้ว Dermatige?

ทนายตั้ม : Dermatige เป็นแบรนด์

มีเงินจาก Dermatige เข้าไปสู่ DMT   บ้างมั้ย?

ทนายตั้ม : พี่หนุ่มตัด มันจะมี MOA ระหว่างกันอยู่ เป็นบันทึกข้อตกลง 3 ฝ่าย หนึ่ง แบรนด์ Dermatige สองตัวบจก.DMT ซึ่ง DMT ดูแล 2 สาขา รวมถึงกรณีคนมาลงทุน จะมาซื้อหุ้น ดำเนินขายกิจการต่อ เราใช้ DMT ส่วนที่สามคนนี้ไปลงทุนเอง ใช้แบรนด์ Dermatige จะผ่าน เดอมาเวย์ แยกที่ลงทุนเอง กับรับคนลงทุน

ที่เปิดอย่างนี้ เพราะอะไร?

ยาย่า : มันเหมือนบริษัทโฮลดิ้ง ที่ปรึกษากลยุทธ์เขาแนะนำให้เราเปิดอย่างนี้ ที่ปรึกษากฎหมายเขาดูแลเครือรพ. ทั้งหมด เขามาวางให้

ทนายตั้ม :   ตอนบริษัท S มาซื้อ เขาเลยว่าจ้างที่ปรึกษาคนนั้น

ญาติเมมาซื้อ คุณขายให้ไป คุณเมบอกว่าคุณมีข้อตกลงว่าจะคืนหุ้นให้ แต่ไม่ขอให้ใส่ชื่อเม ให้ใส่ชื่อคนอื่น?

ยาย่า : หนูไม่ได้พูดนะคะ

หมอสองคนพูดมั้ย?

ยาย่า : ไม่ได้พูดค่ะ มีการคุยกับเขา และญาติเขา สุดท้ายญาติเขามาลงทุนที่บริษัท

คุณ R ก็กลับมาอยู่ตรงนี้ แล้วเกิดอะไรขึ้น?

ยาย่า : หลังจากนั้น อย่างที่เขาคุยกับเรา ว่าทำไมบริษัท DMT ปิดกิจการไม่บอกผู้ถือหุ้น ตรงนี้ไม่ใช่ เรามีเอกสารมาชี้แจง ญาติเขาเมื่อมาถือหุ้นเราให้เป็นกรรมการบริษัทด้วย แต่ตอนแรกที่เราคิดว่าญาติเขาจะมาช่วยทำงานให้เติบโต เราไม่มีเจตนาปิดกิจการเลย เพราะมันเป็นบริษัทที่มีนักลงทุนเขาสนใจจะมาลงทุนอยู่แล้ว

ทนายตั้ม : พอตั้งเขาเป็นกรรมการ เขามีหนังสือลาออกเอง

ยาย่า : ว่าเขาไม่สนใจบริหาร

ทนายตั้ม : เขาซื้อ 20 ส.ค. หลังตั้งเดอมาเวย์แล้ว

จะบอกว่าสิ่งที่เมพูดไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ขออนุญาตต่อสายหาเม พรีมายา คุณเมอยู่ข้างล่างจริงมั้ย?

เม : ไม่จริงค่ะ แต่เรียกได้นะ 10 นาทีถึง ขึ้นไปได้มั้ย

คุณเอายังไง?

ยาย่า : ไม่สะดวกค่ะ ไม่อยากเจอ เจอกันมาหลายรอบแล้ว ไม่ว่าจะที่ศาล หรือที่ประชุม ทั้งกริยาของเขาทุกอย่าง ทำให้มีวันนี้ วันที่ปิดกิจการ

คุณเมยังไง?

เม : หนูได้ดูตั้งแต่เปิดรายการ ตอนนี้ผ่านไป 3 เบรกแล้ว จริง ๆ เราคาดหวังให้คุณหมอ หุ้นส่วนสามท่านนั่งอยู่ตรงนี้ และเป็นคนเล่าข้อเท็จจริงให้กับรายการ แต่สามเบรกที่ผ่านไปมีหลายประเด็นมากจริง ๆ ที่ไม่ตรงกับไทม์ไลน์ข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ตามเอกสาร แต่ไม่เป็นไรค่ะ ข้ามมาเลย คือสิ่งที่อยากถามคุณยาย่า ทำไมวันนี้สิ่งที่พูดอยู่ พูดเหมือนเป็นแผนการหนูอย่างเดียว จริง ๆ ข้อเท็จจริง ต่าง ๆ หนูได้โชว์ไปหมดแล้ว พี่กำลังทำอะไรอยู่คะตอนนี้

ยาย่า : สิ่งที่พยายามอธิบายคือแผนธุรกิจอยู่แล้ว เรื่องเราเปิดบริษัทต่าง ๆ นานา เราได้บอกน้องเมและญาติน้องเมซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น เป็นผู้ลงนามตามเอกสาร วันนี้มันไปถึงการปิดกิจการกัน

เม : หนูอยากให้คุณหมอสองท่านมานั่งอยู่ตรงนี้ เพราะมันไม่ใช่ข้อเท็จจริง อันนี้น่าจะเป็นข้อกฎหมายที่ทางคุณยาย่าและหุ้นส่วนสามารถเอาตัวรอดจากเหตุการณ์นี้ได้นะคะ ในมุมมองของเม

ยาย่า : คนเราจะเอาตัวรอดอะไร ต้องเอาตามเอกสารหลักฐาน และพยานหลักฐานด้วยนะคะ สิ่งที่เมพูด น้องเมมั่นใจใช่มั้ยว่าจะรับผิดชอบการกระทำของน้องเม น้องเมไม่ได้พูดเท็จ

เม : หนูได้ฟังทุกอย่างพร้อมสังคมเหมือนกันค่ะ ใน 3 เบรก ที่ผ่านมา ว่ามีประเด็นใหม่ ๆ เกิดขึ้น ที่หนูต้องชี้แจงอะไรบ้าง

วันนั้นคุณเมมานั่ง ตกลงยังยืนยันว่าฝากหุ้นไม่ได้ขายขาด?

เม : ค่ะ ทั้งหมดในรายการวันนั้นเป็นข้อเท็จจริงทั้งหมดนะคะ มีเอกสารที่ได้มา เป็นบันทึกจากศาล ศาลให้ไกล่เกลี่ยตลอด จะจ่าย 100 ล้าน หรือ 50 ล้านในปีนี้ เอกสารที่บันทึกจากศาลพอจะบอกได้มั้ยคะว่า ณ ปีนี้ อัปเดตล่าสุด เรามีการดำเนินการซื้อขายหุ้น ก็บอกชัดเจนอยู่แล้วว่าเราเป็นส่วนนึงของธุรกิจนี้ ไม่ต้องย้อนไทม์ไลน์ไปไกลเลยค่ะ เอาแค่ ณ ปัจจุบัน บันทึกจากศาลก็บอกชัดเจนอยู่แล้วว่าเราพยายามไกล่เกลี่ย พอจะตอบสังคมได้มั้ยว่าข้อเท็จจริงคืออะไร ถ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้ เราจะไกล่เกลี่ยกันมาทำไมตั้งแต่ต้นปียันตอนนี้

คุณเมต้องการยังไง?

เม : อยากชี้แจงว่า เขาชี้แจง 3 เบรกว่าหนูไม่เกี่ยวข้อง น้องหนูมาซื้อบริษัทอะไรก็ไม่รู้ บริษัทใหม่ ๆ มีบริษัทใหม่เพิ่งงอกออกมา ไทม์ไลน์ก็ไม่ตรง สร้างความสับสนให้สังคมค่อนข้างเยอะค่ะ ทีนี้หนูก็เลยชี้แจงข้ามมาเลยว่า ณ เวลานี้ที่เราไกล่เกลี่ยศาลอาญามาตลอด มีบันทึกข้อตกลงต่าง ๆ ว่าจะซื้อเรา 50 หรือ 100 ล้าน พอจะคลายความสงสัยให้สังคมได้มั้ย ว่าเราเกี่ยวข้องกับตรงนี้จริง ๆ ไม่งั้นศาลท่านจะให้ไกล่เกลี่ยทำไม ตั้ง 4-5 รอบ

แซค : คือเมอยากบอกว่าถ้าเมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ขายหุ้นไปหมดแล้ว ศาลท่านจะเสียเวลาให้เราไกล่เกลี่ย 3-4 รอบเหรอครับ จริงๆ เรามีส่วน แต่ที่เขาอ้างมามันไม่จริงครับ ไม่งั้นศาลคงไม่ให้เราไกล่เกลี่ยหรอกครับ

เม : ตัว Dermatige ที่บอกว่าไม่เกี่ยวกับบริษัทเลย ที่จดเป็นบุคคล จริง ๆ จดปลายปีที่แล้ว หลังเรามีปัญหากันปีที่แล้ว น่าจะเดือนธ.ค. ช่วงนั้นหนูส่งหนังสือให้กรรมการฟ้องตัวเอง เพราะได้นำเครื่องหมายทางการค้าไปใช้ในธุรกิจอื่น ที่บริษัทเราไม่เกี่ยวข้อง และช่วงนั้นแหละเป็นช่วงที่เขาสามารถอ้างตรงนี้ได้ว่า Dermatige เป็นเครื่องหมายตัวบุคคล 3 คน แต่จริงๆ แล้วข้อเท็จจริงแล้ว ทางเราได้ส่งหนังสือไปหลายรอบ ให้คุณฟ้องตัวเอง เพราะคุณเอาเครื่องหมายทางการค้าเราไปดำเนินกับบริษัทอื่น

แซค : แล้วบริษัท DMT ได้ใช้เครื่องหมายการค้านี้ไปตั้งนานแล้ว หมายความว่าเจ้าของจริง ๆ ควรเป็นบริษัท ไม่ใช่ 3 คนที่ไปจดหลังมีปัญหากันแล้ว

เม : อยากถามว่าตรงนี้มุมมองสังคม หรือคนทำธุรกิจมันยุติธรรมกับหุ้นส่วนตรงไหน ทนายหยุดพูดก่อนค่ะ หนูอยากฟังหุ้นส่วน

อุ้ยตาย เขาบอกDermatige ไม่เกี่ยวกับ DMT คุณมองยังไง?

แซค : DMT เป็นคนใช้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ แต่เขาเพิ่งไปขออนุญาตจดลิขสิทธิ์ปลายปีที่แล้ว หลังมีปัญหากัน เป็นของเขาเอง 3 คน

ยาย่า :   ตั้งแต่คุณเมออกไป เรามีการทำแบรนด์ขึ้นมาใหม่ ถามหน่อย เวลาเราทำแบรนด์เสื้อผ้า เหมือนคุณทำแบรนด์พรีมายา คุณทำปุ๊บคุณจดแบรนด์เลยเหรอคะ เราทั้งทำโลโก้ทำทุกอย่างขึ้นมา 3 คน ตัวแบรนด์เราเป็นคนคิด มันถูกมั้ยคะ

ทนายตั้ม :   มีหนังสืออนุญาตก่อนหน้านั้นแล้ว ตั้งแต่รีบริษัท Dermatige ใหม่ ๆ ไม่นาน เพราะมีเอกสารพวกนี้ปรากฏอยู่เหมือนกัน

เขาบอกว่าก่อนหน้านั้นมีหนังสือ ทำหนังสือเอาไว้ เขาก็อ้างว่าทำหนังสือย้อนหลังได้?

ทนายตั้ม : มีอยู่ตั้งแต่ส่งผู้สอบ หรือที่ปรึกษาเดิม ฝั่งคุณฟังเราพูดบ้างได้มั้ย คุณพูดอยู่ฝ่ายเดียวเลย ขอให้สิทธิ์ทางน้องอธิบายด้วย

ยาย่า : เราต้องคุยข้อเท็จจริงกัน Dermatige พี่สามคนเป็นคนคิด ทำแบรนด์ดิ้งนี้ออกมาตั้งแต่น้องออกไป เรารีเปลี่ยนแบรนด์ใหม่เป็น  Dermatige  

เม : ณ เวลานั้น เมฝากหุ้นไว้กับพี่แล้ว วันนี้มีเวลาพอให้หนูไปนั่งอยู่ตรงนั้น ทำไมพี่ไม่ให้หนูไปนั่งอยู่ตรงนั้น

ยาย่า : ก็พี่ไม่อยากเจอหนูไงคะ พอเจอหนูมา พี่โดนทั้งอวัยวะเพศ โดนด่าพ่อล่อแม่ ตั้งแต่เทปแรกหนูบอกว่าพี่ชวนหนูมาหุ้นธุรกิจ โดยหนูไม่รู้จักเลยว่าเป็นใคร  เขาดีเอ็มมาชวนหนูทำธุรกิจหนูมีหน้าที่ฉายแสงให้ทุกคน ตอนนั้นพี่มีแสงของพี่อยู่แล้ว บ้านพี่มีฐานะ พี่มีครอบครัว มันเป็นไปไม่ได้ที่หนูจะหุ้นกับพี่ ถ้าพี่ไม่มีความสำเร็จอะไรเลยในชีวิต ถ้าไม่มีโปรไฟล์ ถ้าพี่เป็นไก่กาทักไป ตรงนี้ก็ไม่ถูกแล้ว ที่หนูพยายามกดคนอื่น ทั้งสามคนเห็นตรงกัน ประชาชนอาจคิดว่า 3 รุม 1 แต่คิดมั้ยว่าทำไม 3 คนถึงอยู่กับน้องเมไม่ได้

เม : วันนี้ถ้าพี่ย่าอนุญาตให้หนูนั่งอยู่ตรงนั้น สังคมจะได้รับฟังข้อเท็จจริงทั้งหมด วันนี้คุณกล้าเอาคุณหมอมานั่งด้วย พูดเรื่องข้อเท็จจริงหรือเปล่า ตอนนี้ทนายดำเนินรายการไปแล้ว 80 เปอร์เซ็นต์

ทนายตั้ม : โอ้โห ก็เกินไป คุณพูดจาดี ๆ หน่อย

เม : จริง ๆ อยากมานั่งตรงนั้นด้วย อย่างโลโก้ เครื่องหมายทางการค้า เขาจะกล่าวอ้างอะไรก็ได้ ถ้าอยากวัดกันเลย ให้สังคมตัดสิน ก็สามารถดูตามเอกสาร วันที่ ไทม์ไลน์ต่าง ๆ ได้ วันนี้โต้เถียงกันไปโต้เถียงกันมา หนูมีคลิปเสียงอยู่เลย หนูปล่อยได้มั้ยล่ะ คุณหมออนุญาตหรือเปล่า

คลิปเสียงอะไร?

เม : ก่อนมีปัญหากันอย่างร้ายแรง หนูถามพี่หมอ ใช้เครื่องหมายการค้าเรา พี่หมอจะยังไง ขอทางออกหน่อย

คือตัวไหน?

เม : Dermatige ค่ะ

ตอนนี้สองฝ่ายพยายามพูดว่า Dermatige เป็นสิทธิ์ของเขา ยาย่าบอกว่า Dermatige เป็นแบรนด์ที่เขาสร้างมาเอง ไม่เกี่ยวกับเม แต่เมบอกว่าไม่เกี่ยวได้ไง ในเมื่อ Dermatige คือพริมยามาก่อน?

เม : ถูกต้องค่ะ มีการรีแบรนด์ดิ้งโดยตลอด ถึงแม้เราไม่ออกหน้า คุณเองยังโทรมาหาเราอยู่เลย ว่าเพื่อนคุณเป็นคนคิดชื่อให้นะ Dermatige คุณก็เลยตั้งชื่อ Dermatige ขึ้นมา เรามีไฟล์โลโก้อยู่เลยที่คุณส่งมาให้เราต่าง ๆ นานา

ยาย่า : ตอนนั้นเราคิดว่าคุณเป็นเพื่อนเรา ไม่ได้คิดว่าจะมาทิ่มแทงฉัน

เม : ไม่ว่าคุณจะพูดยังไงกับสังคม ณ วันนี้ เมเชื่อว่าเราสามารถเอาข้อเท็จจริงหลักฐานมาให้ได้ อย่างวันนี้เราเล่าคนละเรื่องกันเลย จะให้ปล่อยคลิปเสียงคุณหมอได้มั้ย เราจัดประชุมขึ้นถามพี่หมอต่อว่าถ้าจะเอาเครื่องหมายทางการค้าไปใช้ จะแบ่งรายได้แบ่งทุกอย่างกันยังไง วันนั้นคุณหมอเป็นคนพูด แต่ขอเวลาถ้าอยากจะฟัง คุณหมอเองก็มาขอแนวทางปรึกษา ว่าเป็นปัญหาตรงนี้เหมือนกัน ณ เดือนก.ย. คุณหมอมาขอทางออก เขาอยากคลี่คลายเหมือนกัน ว่าเขาเอาเครื่องหมายการค้าไปใช้แล้ว

จะบอกว่าหมอต่อเคยพูด คุณอัดเสียงไว้ด้วยว่าหมอต่อยืนยันจากปากตัวเองว่าเขาเอาเครื่องหมายการค้ามาใช้จริง?

เม : ใช่ค่ะ  วาระการประชุมวันนั้น ยังคุยกัน ไม่ได้ทะเลาะกัน ว่าหนูขอทางออก ถ้าพี่ไม่ให้สาขาใหม่หนู เรื่องเครื่องหมายการค้า หรือเรื่องการจัดแจง ค่าใช้จ่าย ต้นทุนต่าง ๆ พี่จะบริหารกันยังไง หนูขอคำตอบหน่อย แต่ขอให้เอาทนายมาด้วย หนูเคยพูดในอีพีแรกไปเหมือนกัน หมอเขาพูดเป็นนัย ๆ ว่าเขาอยากหาข้อสรุปว่าจะทำยังไง แบ่งต้นทุนกันมั้ย

ยาย่า : น้องเมไม่ได้เป็นคุณหมอ ไม่รู้ว่าพวกพี่บริหารธุรกิจกันยังไง เพราะน้องเมไม่ได้เข้ามาทำงาน และไม่ได้เข้ามาบริษัท ประเด็นแรกคือที่น้องเมออกมาทำลายแบรนด์ ทำลายธุรกิจทำลายทุกอย่าง ใช้สังคมทำลายชื่อเสียง ทั้งคุณหมอ พี่ และคลินิกเอง จะบอกว่าวันนี้ถ้าพี่ย้อนกลับไปได้ พี่คงไม่ตัดสินใจขายหุ้นให้น้อง R เพราะวันนี้เป็นสิ่งที่พลาดที่สุดในชีวิต เพราะน้องเมไม่ได้ทำร้ายแค่ตัวพี่ ตัวคุณหมอ หรือตัวแบรนด์ ตามอารมณ์น้องเมที่อยากจะทำ แต่พนักงานในบริษัทพี่เป็นร้อยคน ต้องได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ ถ้าเราทะเลาะกันแค่ 4 คน รวมคณไอซ์ด้วยก็ 5 คน ทำไมเราไม่พิสูจน์กันทางกฎหมาย เรามีการไปศาลกันหลายรอบ ทำไมไม่ชี้แจง ไม่ยื่นพยานหลักฐานกันตรงนั้น ทำไมวันนี้เรามาทำร้ายกันผ่านโซเชียล พี่ก็ยืนยันว่าพี่มีเอกสารทุกอย่างที่พี่พูดในวันนี้ สิ่งที่น้องเมบอกว่าหลักฐาน ๆ ไม่มีเอกสารหลักฐานอะไรเลยที่ยืนยันได้ น้องเมอาจโชคดีมีชื่อเสียง มีกระบอกเสียง มีแฟนคลับ ตรงนี้พี่ไม่เคยคิดอยากจะออกมาทำร้ายกัน หรืออะไรแบบนี้บนโซเชียลมีเดียเลย วันนี้ธุรกิจนึงที่ทำกับน้องไอซ์ ทำไมเราไม่ยึดตามความเป็นจริง ข้อเท็จจริง ว่าน้องเมไม่เกี่ยวข้อง ไม่เคยทำงานใน Dermatige เลย ที่แบรนด์โตมาได้ น้องเมยอมรับมั้ยเป็นเพราะพี่ เพราะคุณหมอ น้องเมเคยช่วยอะไร Dermatige บ้าง ไม่เคย เพราะน้องเมไม่เคยเกี่ยวข้องกับ Dermatige ค่ะ

เม : วันนี้เมโชคดีมาก ๆ ที่เมมีโอกาสได้คุยกับคลินิก S คุณเองก็รู้ว่าคุณมีมติที่ประชุมให้เราไม่ออกหน้า อย่างที่คุณแจ้งมาว่าเราจะสร้างผลกระทบให้คลินิก คุณให้เรายุติบทบาทหลายอย่างมาก ๆ ไม่มีเหตุผลเลยที่หนูจะไม่อยากเกี่ยวข้องกับบริษัทนี้ หนูเองได้รับการยืนยันจากคลินิกชื่อดัง จากคุณหมอเอง ว่าคุณมีแผนการทำธุรกิจ ปั้นบริษัทนี้ขายให้คุณหมอคนนี้ ให้คลินิกท่านนี้ งานเราคือให้เงียบที่สุด คุณเองเป็นคนมาสั่งการ เป็นแผนการของเราทั้งหมดที่ให้เราไปขายกับคลินิก S

ยาย่า : คุณหมอ S เป็นคนพูดเหรอคะ น้องเมยืนยันได้มั้ยคะ

เม : วันนี้คุณหมอก็น่าจะยืนยันตรงนี้ได้เหมือนกัน วันนี้คุณบอกว่าห้ามลงรูปกับฉันนะ ห้ามแท็กอะไรมาที่คลินิกนะ ถ้ามีน้องเมอยู่ คุณเองรู้อยู่แก่ใจ วันนี้ถ้าคุณจะเล่นประเด็นนี้ เมก็ไม่รู้จะตอบยังไงเหมือนกัน เพราะที่ผ่านมาคุณให้ฉันทำมาโดยตลอด ทำไมฉันถึงจะไม่อยากออกหน้ากับสิ่งที่ฉันสร้างมา เรื่องที่สอง ถ้าคุณให้เราอยู่ตรงนั้น สังคมจะได้รับข้อเท็จจริงมากกว่านี้ เราเองไม่ได้อยากจะออกมาทำลายบริษัท หรือตัวพี่ ๆ ทั้งสามคนเลย แต่พี่กล้าพูดมั้ยล่ะว่าตลอดระยะเวลาที่เราไกล่เกลี่ยกันมาตลอดในศาล พี่ทำอะไรไม่โปร่งใสบ้าง หนูไม่เคยได้รับข้อมูลบริษัทเลย ทั้งที่ส่งหนังสือไปต่าง ๆ นานา สิ่งเดียวที่จะเรียกร้องความยุติธรรมได้ หนูก็ต้องออกมาตรงนี้เหมือนกัน

ตกลงแล้ว มีการขายหุ้นจริงมั้ย?

เม : มันเป็นการโอนฝากไว้ หนูก็ได้รับปันผลมาตลอด

ยืนยันว่าฝากหุ้นไม่ได้ขายขาด ทำเอกสารเพื่อหลบเลี่ยง ถูกมั้ย?

เม : ถูกต้องค่ะ ถ้าหนูขาหุ้นไปแล้ว เขาจะมีสองเงื่อนไขให้หนูกลับไปทำไม มันไม่ต่อเนื่องกัน

หุ้น 25 เปอร์เซ็นต์ คุณมีการหารสาม แบ่งให้ทั้งสามคน ถูกมั้ย?

เม : ใช่ค่ะ

ตอนไปเอากลับ คุณไปขอซื้อ หรือญาติคุณไปขอซื้อ?

เม : ไม่ได้เข้าไปขอซื้อ ไม่ได้รับเงินเลย หนูสืบมาว่ามีการล้มดีลบริษัท S ที่คุณเงียบเพราะต้องขาย S หนูเองก็กลับไปถือหุ้นได้แล้วสิ ก็เลยมีการทักกลับไปว่างั้นฉันจะกลับมาถือหุ้นแล้วนะ เขาก็เลยให้เป็น 2 ออฟชั่น 12 เปอร์เซ็นต์หรือ 25 เปอร์เซ็นต์ เขาพิมพ์มาเองว่าขอเป็นบุคคลอื่นนะ

แชตการแบ่งเงินคืออะไร?

ยาย่า : เรามีกระแสเงินสดในการทำธุรกิจ ซึ่งมันก็มีช่วงของการที่เราแบ่งกระแสเงินสดกัน ตัวคลินิกถ้าลงทุนไป ลูกค้าซื้อคอร์ส แล้วใช้ไม่หมด ก็จะมีกระแสเงินสด ที่เกินออกมา

ผลประกอบการหลักล้าน อยู่ดี ๆ เขาจะมาขายหุ้น 3 แสน แลกกับเงินหลักล้าน?

ทนายตั้ม : ในเมื่อเป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม ก็น่าจะไปเปิดในกระบวนการยุติธรรมให้เรียบร้อย ผมก็เคยเจอแชตที่มันปลอม

มุมสังคมก็จะตั้งคำถามไง ว่าเม พรีมายา รู้ว่าตัวเองติดคดี เลยเอาหุ้นมาขายทางเรา 3 แสน ขณะที่ผลประกอบการเป็นล้าน มีใครอยู่ดี ๆ มาขายหุ้น 3 แสน แลกผลประกอบการหลายล้าน?

ทนายตั้ม : ถ้าดูตามกรมพัฒน์ ที่ผมเห็น มันได้น้อยจริง ๆ นะ ที่ยื่นตอนมีปัญหา

ยาย่า : ตอนนั้นเราไม่ได้ทะเลาะอะไรกันเลย เราเป็นเพื่อนกัน ไปกิน ไปเที่ยว ไปดื่ม ทุกอย่างสถานการณ์ปกติ จากเขาออกไปจากพริมยาคลินิก เราจะตัดเลย คุณเอาไปเท่านี้ ด้วยคนทำธุรกิจ เราไม่ได้คิดอย่างนั้น น้องเขาเจอปัญหาชีวิต เรื่องต่าง ๆ นานา อะไรเป็นของเก่าพริมยาคลินิก อะไรคืนมาได้ เราก็ยังให้เขาอยู่ แต่ถามว่าเกี่ยวอะไรกับตรงนี้ มันไม่ใช่ไงพี่หนุ่ม

ทนายตั้ม : ถ้าเมมั่นใจ ทำไมไม่พิสูจน์ในชั้นศาล แชตจะได้พิสูจน์เลยว่าแชตจริงแชตปลอม

เมยื่นที่ศาลมั้ย?

เม : ยังค่ะ

ทนายตั้ม : พอถึงช็อตที่เราอธิบาย ยังไม่ถึงตรงไหนเลย ก็ให้คุณโฟนมาเลย จริง ๆ ให้ทางนี้อธิบายก่อนดีมั้ย ไม่งั้นก็ไม่จบ

ยาย่า : ประเด็นที่โซเชียลถามว่าญาติเขามาถือหุ้นปุ๊บ ทำไมปิดกิจการ ไม่บอกกล่าวผู้ถือหุ้น หรือญาติน้องเม เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงเลย เราทั้งไปเจอที่ศาล เรามีหลักฐาน

ทนายตั้ม : ส่วนที่บอกว่าไม่มีการแจ้ง ไม่มีการบอก ตัวคุณ R ผู้ถือหุ้นจริงไปที่ศาล ที่บอกว่าไม่รับรู้เรื่องแจ้งประชุม มันไม่จริง จริงๆ พอขายปี 67 มีใครสนใจมาลงทุนมั้ย

ยาย่า : เราไม่ได้ตั้งใจจะปิดบริษัทนี้อยู่แล้ว คนทำธุรกิจมันมีรายได้ มันมีผลประกอบการ ตอนปลายปี ไม่ใช่นักลงทุน S แล้ว เพราะ S ตกลงกันไม่ได้ มีคนเข้ามาซื้อหุ้น 5 เปอร์เซ็นต์ เขาบริหารรพ.ใหญ่ๆ มาก่อน เขาซื้อหุ้นกับคุณหมอ

ทนายตั้ม : ผมสอบข้อเท็จจริงกับที่ปรึกษาเดิม มีการเรียกคุณไอซ์เข้ามา แล้วติดที่ว่าไม่ได้เข้ามาแจง ตีรวนกันอยู่

ยาย่า : เขากล่าวหาเราว่าเราไม่มีการแจ้งคุณไอซ์ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะวันที่เราไปเจอกันที่ศาล เราก็แจ้ง เราลงจดหมายทุกอย่าง ลงหนังสือพิมพ์ด้วยค่ะ

ทนายตั้ม : ไม่ใช่ว่าโกหกว่าไม่รู้ หาว่าไม่แจ้ง มีการคุยในศาล ส่งจดหมาย ผมก็สอบข้อเท็จจริงมาที่ถูกต้องนี่แหละ เราอยากให้มองว่าคนถือหุ้น มาซื้อหุ้น 5 เปอร์เซ็นต์ อาจจะลงทุน พอหุ้นส่วนมีปัญหาระหว่างกัน ที่ปรึกษาท่านเดิมบอกว่าไม่รู้ท่านนี้เล่นละครอะไรกันหรือเปล่า มีหนังสือเข้ามาจะฟ้องบริษัท เขาก็เลยเรียกประชุมมติพิเศษ เพื่อปิดบริษัทและเคลียร์เงินใน DMT

วันนี้สิ่งที่คุณต้องการบอกเรา คืออะไร?

ยาย่า : อยากบอกข้อเท็จจริง เพราะสิ่งที่น้องเมพูดไม่ทั้งหมด Dermatigeไม่เกี่ยวน้องเม หนูทำมาด้วยน้ำพักน้ำแรง หนูเดือดร้อนกับการที่น้องเมพูดแล้วทำให้คนเข้าใจผิด หนูอยากบอกน้องเมว่าถ้าตรงไหนไม่ยุติธรรม บ้านเมืองเรามีศาล หนูออกมาพูดวันนี้ที่แรก เพราะพี่หนุ่มให้โอกาสหนู มันเข้าใจผิดเยอะมาก แต่ละเรื่องมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะมาก ๆ แล้วน้องเมไม่ได้พูด

เหมือนเข้าใจคนละอย่าง?

ยาย่า : เรื่องเขาหาว่าเราโกงบริษัทเราเอง ลูกค้าได้รับผลกระทบมาก ๆ จากตัวคลินิกและตัวแบรนด์ เขาบอกว่าลูกค้าโอนเงินจอง 999 โอนเข้าบริษัท DMT พอลูกค้าทำหน้าปุ๊บ โอนเข้าบริษัท DMW อยากมาแจงว่า คุณเมเขาไม่ได้บริหารอะไร เขาไม่เกี่ยวข้องกับเรา ไม่รู้เขาได้หลักฐานอะไรมา ลูกค้าเลือกสาขาไหนก็เข้าก็โอนเข้าสาขานั้น ลูกค้าเป็นคนเลือก สมมติลูกค้าไปปิ่นเกล้า ปิ่นเกล้าอยู่ภายใต้การดูแลของ DMW ก็โอนเข้าอันนี้ ถ้าไปสเตเดี้ยมก็โอนเข้า DMT ลูกค้าที่เขากล่าวอ้าง ก็เป็นผู้จัดการเก่าของเขา ไม่รู้เขาตั้งใจกลั่นแกล้งหรือเปล่า ไม่อยากกล่าวหา แต่ลูกค้าคือผู้จัดการเก่าพรีมายา ซึ่งวันนี้มันไปกันไม่ได้

เอาเลขที่จดแจ้งไปแขวนไว้อีกที่?

ยาย่า : อันนี้ให้ปากคำเรียบร้อยแล้ว ใบอนุญาตเราคบ แต่ ณ โมเมนต์นั้น โฟร์แมนที่เราไปทำงาน เราเปิดสาขาที่ปิ่นเกล้า สยาม รังสิต พร้อม ๆ กัน โอเคพนักงานเราอาจไปติดตรงนั้นผิดจริง ๆ แต่เราก็รีบแก้ไขทุกอย่างโดยถูกต้อง เราชี้แจงพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว

ไทม์ไลน์นั้น ตกลงสาขานั้น มีเลขที่อนุญาตหรือยัง?

ยาย่า : มีเรียบร้อยค่ะ ถูกต้อง

เขาบอกเอาจากสาขารามอินทราไปแขวน?

ยาย่า : เท่าที่ได้รับรายงานมา น่าจะสาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า คนที่เขาไปติด โฟร์แมน เขายื่นขออนุญาตไปแล้วเรียบร้อย ตอนนั้นใบอนุญาตเราจ้างคนทำ เราเป็นนักธุรกิจไม่ได้เดินงานเองทุกอย่าง

ตอนไปติด แล้วมีคนไปทำหน้า สาขานั้นมีใบอนุญาตหรือยัง?

ยาย่า : หมายถึงสาขาไหนคะ

สมมติสาขาปิ่นเกล้า ในความเป็นจริง มีใบอนุญาตมั้ย?

ยาย่า : ลูกค้าที่เขาแจ้งคือผู้จัดการเก่าเขา วันนั้นที่หนูสอบถามโฟร์แมนหน้างาน มีการติดผิดจริง ๆ วันนั้นดำเนินการขอใบอนุญาต เซ็นทรัลปิ่นเกล้าที่เป็นสาขาใหม่ มันอยู่ในระหว่างการดำเนินงาน

แสดงว่าไม่มี?

ทนายตั้ม : ทนายที่รับผิดชอบตรงนี้ เขาแจ้งว่ามีคนไปแจ้งมีส่วนที่ติดผิด มีอีกอันคือพนักงานไปดำเนินการขออนุญาต ขอเอกสารพวกนี้ แจ้งคลินิกแล้วดำเนินการส่งเอกสารต่าง ๆ ให้ไปติด แล้วไม่รู้เขาพลาดด้วยประการใด ส่งไปแล้วเขาเข้าใจผิด ก็มีคนไปแจ้งที่สน. เอาเอกสารตัวนี้ไปแจ้งที่สน. แต่ผมไม่ได้เห็นเอกสารเอง ตอนนี้คนดำเนินการพลาดก็มีหมายเรียกตามตัวอยู่ ตัวที่ดำเนินการแบ่งเป็นสองส่วน มีการย้ายสาขาด้วย ใบปิดก็ไม่รู้ผิดพลาดยังไง แต่ตัวขออนุญาตก็ได้รับแจ้งมาว่าดำเนินการแล้ว แล้วก็มาติด มีการแจ้งว่าดำเนินการกับคนที่แจ้งทางเราแบบนั้นไป

ณ  เวลานั้น ตามไทม์ไลน์ ไม่มีใบนั้นจริง ๆ ?

ทนายตั้ม : ทุกอันต้องได้รับใบอนุญาตก่อนถึงมาดำเนินการ แต่สาขานั้น มีเรื่องความเข้าใจผิดจากบุคคลที่เราจ้างดำเนินการ

แต่ตัวกฎหมายไม่ได้?

ทนายตั้ม : คลินิกก็เป็นผู้เสียหาย กับตัวคนที่เราไปว่าจ้าง

แต่มุมกฎหมายถ้าไม่มีใบอนุญาตก็เปิดรักษาไม่ได้?

ทนายตั้ม : เรียนตรง ๆ ก็ถูก แต่ทำแบบนั้นถ้าพฤติกรรมคนทำแบบนั้นเป็นอาจิณ ก็ต้องทำทุกสาขา

จะบอกว่าเกิดจากความไม่ได้ตั้งใจจากฝั่งคุณ แต่เป็นฝั่งคนไปจดแจ้ง?

ทนายตั้ม : เขาแจ้งแบบนั้น ผมตรวจเอกสารสาขาอื่น ๆ ก็ไม่มีพฤติกรรมแบบนั้น สาขานั้นก็ดำเนินคดีคนที่ไปดำเนินการให้เราด้วยเหมือนกัน

ยาย่า : การมาบอกว่าคลินิกเถื่อนมันก็แรง

ทนายตั้ม : เราก็เป็นหนึ่งในผู้เสียหายเหมือนกัน

จะบอกว่า Dermatige เป็นแบรนด์ที่เปิดมาเอง ตัว DMT สามารถหยิบชื่อนี้มาใช้ได้ มันเป็นช่องว่างทางกฎหมายหรือเปล่า?

ทนายตั้ม : ไม่ครับ เหมือนเราเป็นเจ้าของแบรนด์อนุญาตให้ใช้ เราเหมือนเป็นเจ้าของแบรนด์นี้ ก็มีบันทึกสัญญาระหว่างกัน ทำกันมาตั้งแต่ต้น บริษัทอื่น ๆ ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ถือพวกสิทธิ์การค้ามันก็มี

มองแค่ว่ามุมคุณเขาจะมองว่าแบบนี้ก็ทริกกี้เหมือนกัน เป็นข้ออ้าง ทำสัญญาเพื่ออำพราง สังคมจะมองแบบนี้?

ทนายตั้ม : ถ้าอำพราง ต้องไม่เปิดเผยเรื่อง MOA ซึ่งในรายการเขาก็รับรู้ รับทราบ ถ้าคุณทำแล้วไม่เปิดเผยเลยก็อีกเรื่อง แต่นี่คุณทำก็เปิดเผยทุกอย่าง ไม่น่าใช่แบบนั้น

แล้วจะเอายังไงดี จะซื้อหุ้นมั้ย?

ยาย่า : ก่อนหน้านี้หนูมีการคุยกับน้องสาวเขาที่ศาลด้วย เขากล่าวหาเราดำเนินคดีเพื่อปิดปาก วันนี้อยากบอกว่าเราไม่เคยมีเจตนานั้น เราไม่ได้อยากปิดบริษัท แต่ตัวคุณเองที่คุยไม่รู้เรื่อง เจอทีไรก็เป็นอย่างเมื่อกี้ แล้วจริง ๆ แรงกว่าเมื่อกี้เยอะมากในศาล จนศาลต้องมาห้ามปราม เราพยายามทุกวิถีทางแล้ว วันนี้ บริษัท DMT ดำเนินมาถึงวันปิดกิจการแล้วค่ะ มีเงิน มีทรัพย์สินเหลือในนั้น ทำไมเราไม่แบ่งกันด้วยดี มีสำนักงานบัญชีที่เป็นโปรเฟสชั่นแนล แบ่งทรัพย์สินนี้ออกมา แต่วันนี้เขาเลือกออกมาพูดโฆษณาในมีเดียต่าง ๆ ซึ่งหนูก็ไม่เข้าใจว่าทำไม เพราะถ้าคุณบอกคุณมีหลักฐานทุกอย่าง คุณมีเวลาทำเรื่องนี้เป็นปี หรือสองปี คุณสามารถยื่นให้ศาล ทำไมท่านถึงประทับรับฟ้องคุณเป็นจำเลย ถ้าคุณบอกว่าคุณมีหลักฐาน วันนี้คุณเลือกออกมาโพทะนาในโลกโซเชียล ทำไมไม่ใช่กระบวนการยุติธรรม เราอาจไม่ได้มีพละกำลังเล่นโซเชียลแบบเขา ทำให้เราเดือดร้อนกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถ้าคุณบอกมีหลักฐาน มีทุกอย่าง คุณสามารถพิสูจน์ได้เลยในกระบวนการยุติธรรม คุณไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องนี้ที่คุณพูดข้อเท็จจริงไม่หมด มากล่าวหาเราตรงนี้

ทนายตั้ม :   ที่เรียกว่าทางนี้เรียกขึ้นไปเพื่อเรียกตร.มา

ยาย่า : เรื่องนี้สำคัญมาก เรื่องนี้โดนประณาม

ทนายตั้ม : จริง ๆ มีวิดีโอที่ศาลด้วย ทางเขาขึ้นไปเอง

เขาบอกขึ้นไปในฐานะผู้ถือหุ้น?

ยาย่า : ไม่ค่ะ เขาไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้น น้องเขามา แต่ไม่ได้แสดงตัว เขาบอกมีเอกสารส่งมา เรามีเอกสารตอบเขาไปแล้ว วันนั้นหนูอยู่ประเทศลาว คุณหมอไปลงเวร ตอนนั้นวันเสาร์ เราส่งเอกสารไปแล้ว แต่เขาบอกว่าต้องการเข้ามา มาเจอกรรมการ ตรวจบัญชีการเงิน ดูเอกสารได้เลยค่ะ

ทนายตั้ม :   มีหนังสือปฏิเสธตอบกลับไป เขาติดธุระกันจริง ๆ วันที่เขามา เขาก็รู้อยู่แล้วว่าทางนี้ไม่ว่าง

เขาบอกวันอื่นคุณก็ไม่ให้เขาเข้าไป?

ทนายตั้ม : มันมีปัญหาโย้ไปโย้มา นัดแล้วไม่มา ดื้อแพ่งกันไปกันมา

คุณไม่ให้เขาตรวจ?

ยาย่า : ไม่เคยมีเจตนาไม่ให้ตรวจค่ะน้องไอซ์เป็นผู้ถือหุ้นบริษัท เขามีสิทธิ์ตรวจอยู่แล้ว วันประชุมปิดกิจการ หนูเองไม่ได้ไป หนูได้รับจดหมายหนูก็ส่งตัวแทนไป ตัวเขาเองก็เลือกไม่มา แต่บอกว่าเราไม่แจ้ง ไม่บอก เราทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ทนายตั้ม : ในวิดีโอ มีหลักฐานในศาลว่าไม่ได้เรียกเขาขึ้นไปแล้วให้ตร.มาจับ เขาโวยวายตอนคนไข้ทำหัตถการข้างล่างด้วย

ยาย่า : เขาไปกัน 10 กว่าคน ไปเปิดทุกกล้องวงจรปิด ลูกค้าทำหน้าอยู่ก็ตกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้น เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรา ผู้จัดการสาขานั้นก็ไม่ได้รู้จักคุณเมโดยส่วนตัว สถานการณ์ตอนนั้นผู้จัดการเขาตัดสินใจแจ้งความ

น้องสาวเขาเป็นนอมินีให้เมจริงมั้ย?

ยาย่า : หนูไม่รู้ว่าน้องสาวกับคุณเมไปคุยอะไรกัน หนูไม่รับทราบ แต่หนู และคุณหมอ รับรู้ว่าคุณไอซ์เป็นผู้ถือหุ้น ที่เราไปศาลก็เป็นคุณไอซ์มาโดยตลอด

หมอต่อสายมาแล้ว คุณเมบอกว่ามีอัดเสียงคุณหมอ ที่คุณหมอตกลงว่าเอาชื่อแบรนด์ไปใช้จริง?

หมอต่อ : เปิดไฟล์เสียงเลยครับ เราชี้แจงแล้วว่ามีบริษัท DMT และ ดีเอ็มเวย์ และเดอร์มาเพลสทีส ที่ตกลงกันไม่ลงตัวคือ MOU ระหว่างบริษัท DMT กับเดอร์มาเพลสทีส ที่บริษัท S เสนอให้เราเป็นคนจัดตั้งบริษัท ซึ่งเขาจงใจบิดข้อเท็จจริงตรงนี้ครับ

Dermatige เป็นแบรนด์ลูก DMT หรือเปล่า?

หมอต่อ : ไม่ใช่ครับ ผมทำมาด้วยแรงกาย แรงใจ ตั้งแต่ยังเป็นที่รู้จักน้อย ๆ สร้างมาด้วยมือตัวเอง ออกโซเชียลต่าง ๆ นานา เป็นแบรนด์ของเราจริง ๆ ผมรักแบรนด์นี้จริง ๆ และแบรนด์นี้ไม่เกี่ยวกับน้องเม เพราะเขาขายหุ้นขาดไปแล้วครับ

เขาอ้างว่ามีการฝากทำอำพรางเอาไว้ว่าเป็นการขาย?

หมอต่อ : ถ้าเป็นการฝากหุ้น จะเป็นสัญญาอีกแบบนึงมั้ยครับ แต่อันนี้มันเป็นการซื้อขายหุ้นครับ

เขาบอกเขากลับมาขอเจรจา แต่มีข้อแม้ให้ไปซื้อในชื่อคนอื่น?

หมอต่อ : เขากับน้องสาวมีข้อตกลงอะไรกันไม่รู้ แต่คนมาซื้อคือน้องสาวเขาครับ ที่เข้ามาลงทุน อยากชี้แจงเรื่องหมอกวางได้มั้ยครับ

หมอกวางเป็นเจ้าของคลินิกแห่งนึง หมอกวางบอกว่ามีพนักงานอยู่ในนั้น 4 คน อยู่ดี ๆ 4 คนทิ้งทุ่นไปเลย ต่าง ๆ นานา หมอกวางต้องมารับหน้าเอง หมอ 4 คนเหมือนไม่มีจรรยาบรรณ ทิ้งคนไข้ หมอเป็น 1 ใน 4 หรือเปล่า?

หมอต่อ : เป็น 1 ใน 4 ครับ จริง ๆ มีการฟ้องร้องมาด้วยและศาลยกฟ้องนะครับ พี่ตั้มได้เตรียมหลักฐานแล้วครับ มันเป็นความไม่สบายใจ  ถ้าเราทำงานต่ออาจมีความเสี่ยงต่อใบประกอบโรคศิลป์ พอเรารู้ว่ามีเรื่องนี้ เราก็ไม่อยากไปทำงาน ส่วนหลักฐานเป็นยังไง ให้พี่หนุ่มดูหลักฐานแล้วกัน ถ้าออกไปโพทะนาแบบนี้ ผมก็อาจโดนคดีเพิ่ม แต่ถ้าเขาดีจริง หมอก็คงไม่ออกมาแบบนี้หรอก ตามหลักฐานก็ฟ้องอยู่แล้ว

เอกสารนี้คุณยื่นให้ศาลไปแล้ว ว่าคุณหมอท่านนั้นมีพฤติกรรมแบบนี้ เลยทำให้คุณอยู่ไม่ได้?

หมอต่อ : ยื่นครับ จริง ๆ มีใบลงบันทึกประจำวันชัดเจนว่าสาเหตุที่ต้องทำอย่างนี้เพราะอะไร เขาก็มีพฤติกรรม ..ไม่รู้พูดได้หรือเปล่า เดี๋ยวผมจะโดนคดี คือมีพฤติกรรมไม่ถูกต้องครับ

ทำไมไม่เจรจากับเขา ทำไมเลือกไม่ไปทำงาน ทิ้งคนไข้ ดีดตัวออกเลย?

หมอต่อ : ก็อาจเป็นความคิดของเด็ก ตอนนั้นผมก็ยอมรับว่าผมผิดจริง ๆ แต่ผมชั่งใจแล้วถ้าผมทำงานอีกวันเดียวผมทำไม่ได้

มันอาจมีผลมาถึงคุณได้ ถ้าเกิดเรื่องนี้แตกขึ้นมา?

หมอต่อ : ใช่ แล้วผมก็ไม่รับเงินเดือนด้วย ผมยอมออก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นศาลพิพากษาแล้วว่าผมไม่ผิด

ยาย่า : แล้วเรื่องคริสตัล ตลกมาก

หมอต่อ : จากนั้นมีการอยากขยายสาขา เขาประกาศเซ้งคริสตัล เราก็ไปขอเซ้ง เขาก็บอกว่าโอเค ๆ เรายังขอบคุณเขาเลยว่าขอบคุณนะพี่เราจบกันด้วยดี ผมก็ยังมาช่วยเซ้งสาขาคริสตัลเขาเลย ไม่คิดว่าวันนึงพอเราโดนกระแสสังคมแบบนี้ เขาก็มาทำแบบนี้ ทั้งที่เรื่องทุกอย่างจบไปตั้งนานแล้ว

ยาย่า : คริสตัลคือคลินิกหมอกวาง เขาเซ้งสาขา คุณหมอต่อ เห็นว่าเป็นเจ้านายเก่า เคลียร์กันหมดแล้ว ก็ไปเซ้งมา คุยทุกอย่างดีมาก ๆ แต่วันนี้พอเกิดเรื่องก็มาผสมโรงด้วย ไม่แน่ใจว่าตรงนี้เกิดจากอะไร

จะบอกว่าไม่มีอะไรแล้ว ทำไมวันนี้ออกมาพูด?

หมอต่อ : ใช่ การออกไลน์กลุ่มผมไม่ได้บอกว่าผมไม่ผิด แต่ถ้าชั่งใจกับหลักฐานในมือพี่หนุ่ม พี่หนุ่มคิดว่าอันไหนมีความผิดมากกว่ากัน

อันนี้คือคำพิพากษาของศาล ในนี้มีข้อมูลบางอย่าง ซึ่งทำให้เข้าใจได้ว่าทางฝั่งหมอต่อเขาอยู่ต่อไม่ได้ แต่อีกมุม ก็ต้องบอกว่า หมอต่อก็อาจต้องพูดคุยให้เป็นกิจจะลักษณะ ว่าขออนุญาตออก เพราะเรื่องแบบนี้ ผมอยู่ไม่ได้เพราะโดนคดี เขาถึงออกมาพูดว่าคุณออกไปโดยไม่มีอะไรแจ้งเขาเลย?

ทนายตั้ม : จริง ๆ ตัวเอกสารที่ผู้ช่วยน้องเขาส่งมา มีใบแจ้งความของหมอ และมีหนังสือชี้แจงส่วนหนึ่ง จากหมอทุกคน

หมอต่อ : อันนั้นยอมรับว่าผมเป็นเด็ก และผมผิดจริง แต่เมื่อเราชั่งใจแล้ว มันไม่ได้มีแค่นี้ เวลาเราเปิดคลินิกเวชกรรม เราไม่สามารถผ่าตัดได้เลย แต่ไม่แน่ใจว่าพี่ตั้มได้โชว์หลักฐานหรือเปล่า

ทนายตั้ม : อันนี้เดี๋ยวจะรุนแรงเกินไป ให้เห็นพฤติการณ์ว่าทำไมคุณออกก็พอ เพราะเราไม่ได้ออกมาทำร้ายใคร แค่อยากมาดีแคร์ ประมาณว่าฝั่งโน้นทำไม่ถูกต้อง

มีเหตุผลสำคัญทำให้ต้องออก เขาส่งเอกสารให้ศาลเห็นหลักฐาน ศาลจึงตัดสินให้เขาเป็นผู้บริษัท?

หมอต่อ : วันที่ผมเซ้งสาขาคริสตัล ผมยังได้โทรไปขอโทษเขาว่าผมยังเด็กอยู่ ถ้าทำอะไรไม่ถูกไม่ต้อง ขอโทษนะพี่ เขายังบอกว่าเขาไม่ได้คิดอะไรแล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาทำแบบนี้ไม่รู้เหมือนกันเขามีวัตถุประสงค์อะไร

แยกเรื่องกันนะ อันนี้เข้าใจได้ เพราะมีคำพิพากษามาแบบนี้ รอทางหมอกวางชี้แจงมาอีกที?

ยาย่า : เหมือนมาเป็นสเต็ป แฟนหมอกวางเขาก็เรียนคอร์สกับคุณแซค มันอาจจะบังเอิญ

อาจจะเชื่อมโยงกันหรือเปล่า ตั้งเป็นคำถาม ขอให้หมอกวางออกมาชี้แจงด้วย ออกมาพูดทำไม ศาลพิพากษาถึงที่สุดไปแล้ว ตอนนี้มีการตั้งข้อสังเกต ว่าหมอกวางไปเข้าคอร์สเรียนกับคุณแซค เลยออกมาพูดเรื่องนี้ หมอต่อต้องการให้จบยังไง?

หมอต่อ : จริง ๆ แล้วถ้าจบได้ด้วยดี ผมก็ยินดีรับทุกข้อเสนอ แต่ที่ผ่านมาบอกตรง ๆ ว่าเวลาไปเจรจา ก็เพิ่มความหยาบคายขึ้น ผมก็รับไม่ได้ แต่ถ้าวันนี้รีเซ็ตกันได้แล้วคุยกันได้ ก็โอเค เราเป็นพี่น้องเคยทำงานร่วมกันมาก่อน

คิดว่ารีเซ็ตได้?

ยาย่า : ทุกครั้งที่คุณไอซ์มาด้วย คุณเมย์จะมาด้วย แต่พูดถึงอดีต พูดกันไปพูดกันมา ทางคุณไอซ์กับคุณเมด้วยความเป็นญาติกัน เกิดการไฝว้กันตลอด คุยกันไม่รู้เรื่องเลย

ต่อสายหาคุณเม อยู่ในสายกับหมอต่อด้วย วันนี้ถ้ารีเซ็ตกลับมาคุยกันใหม่ เอายังไงก็ว่ากัน คุณเมมองยังไง?

เม : ตัวหนูปีนี้ยังไม่ได้เริ่มฟ้องเขาเลย เพราะหาทางไกล่เกลี่ยกับเขา ที่คุณย่ากับพี่ต่อพูดว่าไกล่เกลี่ยกันไม่รู้เรื่อง ไม่ได้เป็นข้อเท็จจริง เพราะศาลท่านก็ไกล่เกลี่ยมาให้ตลอด ไม่ว่าจะเรื่องไปซื้อหุ้นเขาเถอะ ไปปิดบัญชี ชี้แจงบัญชีเขาเถอะ หนูคิดว่าเขาไม่มีทางออกอื่นให้หนูเลย นอกจากปิดบัญชีบริษัท ชำระบัญชีบริษัท หนูไม่ได้เห็นทางออก

คุณเมต้องการได้อะไร?

เม : ถ้าวันนี้เราไม่สามารถดำเนินธุรกิจด้วยกันได้แล้ว เราก็ต้องจบแบบยุติธรรม ซึ่งตัวหนูเรียกเงินไปให้เขาซื้อหุ้นมา แต่ก็ไกล่เกลี่ยไม่ลงตัว

25 เปอร์เซ็นต์ เสนอขายไปเลยจะได้จบ ๆ ไป?

เม : ถูกต้อง หนูอยากได้ความยุติธรรมกับหนู

คุณเมอยากขายหุ้น จะได้จบกันไป ส่วนมูลค่าหุ้นไปตีกันว่ายังไง หรือมีในใจ?

เม : เป็นอย่างนั้นมาโดยตลอด เลยยังไม่ได้ฟ้องอะไรกับฝั่งนั้นเลย เพราะคิดว่าจะเจรจากันก่อน จนหนูคิดว่าน่าจะมีทางออกแล้วแหละ ศาลให้ไกล่เกลี่ยตั้งแต่ม.ค. ถึง ก.ย. ที่ผ่านมา ทีนี้ทางออกเขาคือการชำระบัญชีบริษัท ณ วันนี้หนูยังไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลบัญชีบริษัทได้เลย เขาพูดกับพี่หนุ่ม หนูยังไม่เห็นว่าหนูได้รับสิ่งนั้น คุณบอกจะซื้อหุ้นเรา จะยุติกิจการไป แบ่งผลกำไรไป ก็ส่งมาให้เรารับรู้บ้างสิ วันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายปิดชำระบัญชีบริษัทแล้ว หนูยังเชื่อมั่นตัวพี่ต่อ พี่กลางเสมอ

ไม่เชื่อมั่นตัวยาย่าเหรอ?

เม : หนูคิดว่าวงในรู้กันดีค่ะ ยังเชื่อมั่นตัวคุณหมอทั้งสองท่าน

ยาย่า :   โอ้โห ขนาดเชื่อมั่น ยังทำลายกันขนาดนี้

เม : สุดท้ายแล้วคุณบอกให้ไปจบที่ศาล แต่การกระทำจริง ๆ ที่เฟซทูเฟซ ไม่ได้เป็นแบบนั้น

ยาย่า : ยังไงคะ เราติดต่อคุณไอซ์ตลอด

เม : อย่างกรณีบุกรุก หรือเชิญคุณไอซ์แล้วคุณไอซ์ไม่ได้มาร่วมประชุม ทำไมศาลถึงบอกว่างั้นไปนัดกันนะว่าจะปิดบัญชีบริษัทเวลาเท่าไหร่ ที่ไหน แต่ทางเราไม่ได้รับ คุณสามารถโทรคุยกับเราได้ว่าพรุ่งนี้อย่าลืมมานะ 4 โมง หนูติดต่อหาพี่ ไม่ว่าทนายต่อทนาย หรือผู้ถือหุ้นกับตัวพี่ หรือหนูโทรหาหมอ ก็ไม่ได้มีการตอบกลับมา

เชื่อว่าสามฝ่าย หมอเอง ย่า หรือเมเอง ถ้ากลับมารีเซ็ตใหม่ ตกลงเจรจากันว่าจะเอายังไง คิดว่าเป็นเรื่องที่ดี ตีต้องเข้าใจบริบทก่อน ถ้าคิดจะย้อนกลับไปคุยต้องย้อนจริง ๆ ไม่มีเรื่องอดีตกลับมาพูด ไม่งั้นก็จะไม่จบ ถ้าเราพูดวันนี้ก็จะจบวันนี้ เอาทิศทางก่อน เมเองอยากขายหุ้นนะ?

เม : ค่ะ

คุณยินดีซื้อมั้ย?

ยาย่า : ถ้าคุณไอซ์ต้องการขายแบบคุณเมด้วย มันดำเนินมาถึงการปิดกิจการแล้ว สถานะคือปิดกิจการแล้ว ผ่านการเจรจามาหลายรอบ ถ้ามาเจอพี่หนุ่มเร็วกว่านี้ก็โอเค เราอยากเจรจากันด้วยดี

จะบอกว่าไม่มีตรงนั้นแล้ว เพราะผ่านไปแล้ว?

ยาย่า : ใช่ค่ะ

หมอต่อล่ะ?

หมอต่อ : ผมคิดว่ามันเลยไปแล้ว แต่ถ้าจะเป็นตัวเลขแบบเดิม ตัวเลขสูง ๆ ผมจ่ายไม่ไหวจริง ๆ ผมจะหาเงินที่ไหนมาจ่ายมากมายขนาดนั้น

เจตนาทุกคนพร้อมต่างคนต่างลงแหละ?

ยาย่า : น้องไอซ์เขาก็ทำธุรกิจอื่นกับหนูด้วย หนูกลายเป็นคนซวยสุด เพราะอีกธุรกิจที่หนูอยู่กับน้องไอซ์ หนูยังไม่ได้ดูบัญชีบริษัทเลย ไม่ได้ดูอะไรเลย เพราะทะเลาะกันอยู่ หนูก็เสียอีกธุรกิจไปด้วย หนูต้องอยากจบด้วยดีอยู่แล้ว ไม่มีใครไม่ได้อยากจบด้วยดีอยู่แล้ว

แสดงว่าที่ผ่านมาตกลงกันไม่ได้เรื่องราคา?

เม : จริง ๆ จะมากจะน้อยหนูก็พูดกับพี่ต่อมาตลอด ถ้าพี่มองว่าตัวเลขหนูสูงเกินไป งั้นพี่พอจะกางบัญชีการเงินบริษัทให้หนูดูได้มั้ย หนูยังไม่เห็นตรงนั้น หนูอยากจบไปใช้ชีวิต หนูพูดเสมอ ณ วันนี้เราไม่มีข้อมูลในการจบปัญหานี้เลยจริง ๆ คุณพยายามปกปิดหรือเปล่าอันนี้เมย์ไม่รู้ แต่ว่าให้ข้อมูลตัวเลขจากอะไร เพราะเมไม่เห็นตัวเลขตรงนั้น

ยาย่า : พี่ไม่รู้จะให้ตัวเลขจากอะไร เพราะน้องเมไม่เคยเกี่ยวข้องกับ Dermatige น้องเมไม่เคยทำงาน แล้วน้องเมเคยทำอะไรให้ Dermatige บ้างคะ

ทนายตั้ม : เท่าที่ผมทราบ ปิดชำระบัญชียังไม่ถึงปีนะ ที่คุณไปศาลเม.ย.68 เพิ่งดำเนินการและมีเรื่องปิด เขากำลังชำระบัญชีอยู่ ถ้าถามผมในฐานะคนกลาง ในเมื่อตอนนี้จะปิดเพื่อเคลียร์มูลค่าบริษัท ก็เหมือนกึ่ง ๆ ข้อยุติประมาณนึงว่ายอดเท่าไหร่ที่จะเคลียร์ ถ้าคุณมีเอกสารหลักฐานก็แจงเข้ามา ไม่ได้ยากเลย

เม : มันไม่ได้ยากเลยจริง ๆ ค่ะ แต่เราเพิ่งรู้ว่าคุณยื่นชำระบัญชีกับศาลเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เราไม่รู้ข้อมูลนั้นคืออะไร เราไม่เห็นข้อมูลอะไรเลยมา 1 ปี ก็ไม่รู้จะจบยังไง วันนี้คุณมานั่งบอกว่าเมไม่เกี่ยวข้อง หนูจะไม่เกี่ยวข้องได้ยังไง ตลอดระยะเวลาหนูรองรับความเสี่ยง ทำเท่าที่หนูจะทำได้ ในฐานะเพื่อน หรือน้อง หรือผู้ถือหุ้น ยังไงก็แล้วแต่ หนูมีสิทธิ์ได้รับตรงนี้ตามกฎหมาย

ทนายตั้ม : เมก็ไปเดินคดียักยอกฉ้อโกงกับทางนี้ ทางนี้ก็เอาหลักฐานไปแจงพนักงานสอบสวนแล้วนะ พนักงานสอบสวนมีความเห็นว่าไม่ได้เป็นเหมือนที่น้องเมดำเนินการ พูดตรง ๆ ว่าเคยพูดว่าทำไมไม่ลองคุยกัน ไม่รู้คุณติดปัญหายังไง แต่ส่วนนึงผมมองว่า…

เม : พนักงานยังไม่แจ้งนะคะ ทนายรู้ได้ยังไงว่าเข้าหรือไม่เข้า เรายังไม่ได้ให้หลักฐานอะไรทนายเลย เราเพียงแต่แจ้งความไว้เพื่อไม่ให้หมดอายุความ

ทนายตั้ม : เดี๋ยวนะครับ พี่รับทราบจากพนักงานสอบสวน ว่าทางนี้มีไปให้การแล้ว เขามีการส่งพยานหลักฐาน

เม : หนูยังไม่ได้ให้หลักฐานอะไรกับเจ้าหน้าที่เลยนะคะ

ทนายตั้ม : ทนายที่ดูอยู่เดิมเขาก็แจ้งมา ดูแล้วเขาไม่น่ายักยอกฉ้อโกงคุณ แต่วันนี้ผมว่ามันยุติได้อันนึง คุณอยากรู้มูลค่าบริษัท ถ้ามีการชำระบัญชีตามกฎหมาย ก็เห็นมูลค่าจริงนั่นแหละ

เม : อยากรู้สเตทเมนต์ค่ะ

ทนายตั้ม : ผู้ชำระบัญชีเขาก็ต้องดูอันนี้เหมือนกัน เขาก็ต้องเอาไปแสดงอยู่แล้ว

เม : เราอยากดูสเตทเมนต์ แต่เราไม่เคยเข้าถึงสเตทเมนต์ได้เลยค่ะ หนูอยากรู้สเตทเมนต์ ขอได้มั้ยคะ ทำหนังสือไปหลายรอบแล้วด้วย

ก็ให้ไอซ์ขอมา?

เม : ตามกฎหมายหนูขอไปทั้งทำหนังสือ ทั้งโทรหา ทำหมดแล้วค่ะ

ทางนี้เขาโอเคจะให้ดูนะ?

ยาย่า : ต้องไปถามผู้ชำระบัญชี เรามีคนกลางบริษัทมาจัดการแล้วค่ะ วันนี้น้องเมสามารถบอกน้องไอซ์ ผู้ถือหุ้นตัวจริง ให้เขาทำโนติสไปที่สำนักงานบัญชีได้เลย เพราะบริษัทปิดกิจการแล้ว ตามกฎหมายเรามีคนกลางที่เป็นผู้ชำระบัญชีมาดูแลแล้ว มีมติมาแล้ว ตรงนี้เอกสารทั้งหมดอยู่ที่ผู้ชำระบัญชี ตัวพี่เองไม่ได้มีอำนาจให้น้องเมมารับรู้ตรงนี้

เม : เดี๋ยวจะลองประสานไปแล้วกัน ถ้ามีอะไรหนูค่อยโพสต์แล้วกัน การทำจริง ๆ ไม่ได้ง่ายเหมือนที่คุณพูด เหมือนอย่างที่เราคุยกันแบบนี้

เมมองยังไง?

เม : วันนี้เขาพูดแค่ประเด็นว่าหนูไม่ใช่เจ้าของแล้ว มันไม่ได้เป็นแบบนั้น สตอรี่ช่วง 2 เบรกแรก เป็นสตอรี่ใหม่มาก ๆ หนูต้องไปทำความเข้าใจกับทีมกฎหมายเหมือนกัน ตอนนี้สังคมต้องการข้อเท็จจริง หนูมองว่าข้อเท็จจริงที่เราเองเป็นผู้ถือหุ้นควรได้รับความยุติธรรมหรือทำธุรกิจอย่างมีจริยธรรมศีลธรรม ซึ่งกับกฎหมายมันคนละเรื่องกัน วันนี้คุยในแง่กฎหมายทั้งหมด เพราะทุกคนเอาตัวรอด แต่หนูมีเพียงข้อเท็จจริงที่ปรากฏ การกระทำจริง คลิปเสียง แชตไลน์ ทั้งหมด เหมือนคุยข้อเท็จจริงกับคุยข้อกฎหมาย ก็เหมือนคุยกันคนละโลกไงคะ หนูก็ไม่รู้จะพูดอะไร แต่หนูมีเพียงเท่านี้

หมอต่อ?

หมอต่อ : จริง ๆ หลักฐานต่าง ๆ อยากให้ไปพิสูจน์ในชั้นศาลได้เลย ผมยินดีครับ

เม : เดี๋ยวหนูเดินหน้าทำตรงนั้นอยู่แล้วค่ะพี่ต่อ แต่สิ่งที่ค้างคาใจเมมาตลอด 1 ปี ให้โอกาสทุกคน และตัวเองจบเรื่องนี้ เมก็ไม่สามารถรอกระบวนการไกล่เกลี่ยทางศาลได้เหมือนกัน วันนี้เมถึงออกมาเรียกร้องความยุติธรรม ให้ตัวเมได้หลุดพ้นจากเรื่องนี้สักที นี่คือบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ของเมมาก ๆ แต่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ สิ่งที่เมต้องพิสูจน์ตัวเองทางกฎหมาย เมทำแน่นอนค่ะ

ยาย่า : งั้นทำได้เลยค่ะ เพราะวันนี้สิ่งที่น้องเมบอกว่าออกมเรียกร้องความยุติธรรม น้องเมก็ทำไม่หมด แล้วก็บิดเบือนข้อเท็จจริง วันนี้สิ่งที่พี่โดน พี่อาจไม่ได้มีแฟนคลับเหมือนน้อง ก็เป็นความผิดพลาดเหมือนกัน ที่เราต้องมารู้จักกัน การกระทำของน้องเมที่มันเห็นมาตลอด พฤติกรรมของน้องหรือทุก ๆ อย่าง ในการพูดเกินความจริง อันนี้พี่ต้องพูดว่ามันมีประวัติอยู่แล้ว วันนั้นที่เราดีกัน ไม่ได้ทะเลาะกัน เราก็ไม่ได้อยากให้ถึงจุดนี้อยู่แล้ว วันนี้อะไรที่เมพูดต้องยืนอยู่บนหลักฐานความเป็นจริงด้วย ไม่ใช่น้องเมใส่ไปเพิ่ม ๆ จนคนอื่นเข้าใจผิด

เม : คุณกีดกันเรามาหนึ่งปี วันนี้เราไม่สามารถสร้างหลักฐานอะไรเพิ่มได้เลย จากอดีตที่ผ่านมา ฉะนั้นพี่จะพูดอะไรก็ได้ให้พี่ดูดี คนมีประวัติคือใครกันแน่ วันนี้คุณมาโน้มน้าวสังคมต่าง ๆ นานา ตัวคุณเองรู้ดีว่าคุณมีอุดมการณ์อะไรบ้างในการทำธุรกิจคุณต้องถามตัวเอง

ยาย่า : คุณอย่ามาพูดลอย ๆ คุณพูดปั่นให้คนมากล่าวหาฉันอีกแล้ว

เม : ถ้าสังคมขุ่นเคืองใจในส่วนไหน เมก็สามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น ส่วนตัวคุณเองไม่จำเป็นต้องรอศาล สามารถชี้แจงให้สังคมรับรู้รับทราบได้ ก็รอทองแท้ไม่แพ้ไฟเหมือนที่พี่แจ้งนั่นแหละค่ะ

ทนายตั้ม :   ทองแท้น่าจะแพ้ทองขึ้นนะครับช่วงนี้

เม : ใช่ค่ะ

จริง ๆ อยากให้หมอต่อมาพร้อมหมอกลาง?

หมอต่อ : โทษทีไปไม่ทันจริง ๆ ครับ

เรื่องนี้ดูทรงแล้วน่าจะจบที่ศาล หลักของคุณที่จะพูดคือเมไม่เกี่ยว Dermatige เมเข้าใจไปเอง แต่เมมองอีกแบบ เขาก็ไปร้องต่อศาลได้เหมือนกัน?

ทนายตั้ม : เขาบอกว่ามีหลักฐาน ก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเลยดีกว่า หลักฐานเราก็พิสูจน์ได้ว่าไม่ทำย้อนแน่นอน

About Author