“เม พรีมายา” ร่ำไห้แฉ! ถูกฮุบธุรกิจคลินิก จี้หุ้นส่วนเคลียร์ 8 คำถาม

เม พรีมายา โหนกระแส

 “เม พรีมายา” ร่ำไห้แฉเดือด โดนฮุบธุรกิจคลินิก จี้หุ้นส่วนตอบคำถาม 8 ข้อ ลั่นอยากจบแต่ต้องจบอย่างยุติธรรม   

กรณีพิพาท ระหว่าง “เม พรีมายา” กับหุ้นส่วน Dermatige Aesthetice ธุรกิจคลินิกความงาม ซึ่งรีแบรนด์มาจาก PRIMAYA คลินิก โดยเมออกมาตั้งคำถามว่าตนเองถูกฮุบบริษัท เพราะหมดผลประโยชน์หรือไม่ ประกาศอยากจบ แต่ต้องจบอย่างยุติธรรม

รายการ โหนกระแส วันที่ 2 ต.ค. ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมาย เลข 33 สัมภาษณ์ เม พรีมายา มาพร้อม แซค สามีคุณเม และ ทนายโรส อังศวีร์ อนุวัตน์รุจิกร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ช็อกวงการ! “เม พรีมายา” แฉถูกเพื่อนรักหักหลัง ฮุบธุรกิจที่สร้างมากับมือ
เปิดประวัติ ‘เม พรีมายา’ ทำเอาสังคมไทยถึงกับตกใจ

โรสดูแลให้ได้ยังไง?

ทนายโรส : เป็นทีมของอาจารย์ที่เคารพกันค่ะ อาจารย์เป็นทนายความ แล้วโรสได้มีโอกาสเข้ามาดูแลเป็นที่ปรึกษาเมื่อเร็วๆ นี้เองค่ะ

เห็นว่าอยู่กันมานานมาก?

แซค : ตั้งแต่ม. 1

เม : เป็นเพื่อนกัน ไม่ได้อยู่ด้วยกัน

แซค : แฟนกันไม่ใช่เหรอ

เม : ปั๊บปี้เลิฟค่ะ ไม่ได้มีอะไร เหมือนปั๊บปี้เลิฟในโรงเรียน เป็นคู่ฮอต เดี๋ยวลูกมาฟังตอนโต (หัวเราะ)

เรื่องเมเกิดอะไรขึ้น คนส่งเรื่องนี้มาหาเยอะมาก?

เม : เมขออนุญาตให้แซ็คมีส่วนร่วมในการเล่าด้วย เพราะแซ็คอยู่ในเหตุการณ์ อาจเล่าเรื่องให้เข้าใจได้ง่ายที่สุด ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่เมมีส่วนในการก่อตั้งขึ้น เพื่อนกลุ่มนี้เป็นเพื่อนที่เราเจอในโซเชียล เขาทักเข้ามาว่าทำธุรกิจคลินิกกันมั้ย เขามีทีมหมอนะ เราเองช่วงนั้นเป็นช่วงพีคในชีวิตเม พรีมายา เราโด่งดังที่สุด เราก็เลยตัดสินใจทำคลินิกกัน ตอนนั้นรวมเมก็เป็น 4 คน มีคุณหมอ 2 ท่าน มีเพื่อนผู้หญิงอีก 1 ท่าน

ใครชวนใคร?

เม : รู้ไม่รู้จักใครเลย แต่ผู้หญิงดีเอ็มมา เมไม่รู้จักใครเลย ตอนนั้นเราอาจเคยเห็นหน้าค่าตากันในโซเชียล เมเป็นที่รู้จักในทางสังคม แต่หมอเนี่ย เมไม่รู้จักอยู่แล้ว

คุณก็มีชื่อเสียงแวดวงความงามอยู่แล้ว วันดีคืนดี สมมติว่าชื่อคุณญา ติดต่อมา ทั้งที่ไม่รู้จักมาก่อนเลย ติดต่อมาว่าอยากทำคลินิกมั้ยเหรอ?

เม : ก็เข้าหาจากการเป็นเพื่อนนี่แหละค่ะ ถามว่าเฮ้ย เรามาทำคลินิกด้วยกันมั้ย

ไม่งงเหรอ อยู่ดี ๆ คนแปลกหน้าโทรมา?

เม : ไม่ได้งงค่ะ สมัยนั้นเหมือนอินฟลูฯ 2 ท่านเข้าหากัน เขาก็เป็นอินฟลูฯ เหมือนกัน เราเริ่มมีชื่อเสียงที่จะต่อยอดในทางธุรกิจได้ เราก็ไม่ใช่หมอ เราคุยกับเพื่อนว่าเรามาเปิดคลินิกกันมั้ย เขามีหมออยู่สองคน เดี๋ยวเขาให้หมอปิดคลินิกเดิมมาทำกับเรา เราก็ได้ทีมมา เป็นเม กับพาร์ตเนอร์ทั้งสามท่าน มารู้จักกันและก่อตั้งธุรกิจนี้ขึ้นมา

สรุปแล้ว เมรู้จักกับญา ญาชวนทำคลินิก เรียกหมอมาอีก 2 คน คุณก็ตัวคนเดียวแล้ว สามคนนั้นเขารู้จักกันมาก่อน?

เม : การทำงานก็เป็น 2 ฝ่าย คือเมกับกลุ่มนี้มาเป็นหนึ่งเสียง หนึ่งมติมาโดยตลอด

เปิดบริษัทร่วมกันมั้ย?

เม : ร่วมกันค่ะ มีชื่อทั้ง 4 คนก่อตั้งบริษัทขึ้นมา โดยเวลาแรก เมถือหุ้น 30 เปอร์เซ็นต์ คุณญาถือหุ้น 30 เปอร์เซ็นต์ หมอท่านนึงถือหุ้น 30 เปอร์เซ็นต์ และท่านสุดท้ายถืออยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์ค่ะ นี่คือวันก่อตั้ง

จากนั้นยังไงต่อ?

แซค : หลังดำเนินธุรกิจไป 1 ปี เราเห็นความเป็นไปได้ของธุรกิจ เราเห็นว่าหมอสองทำงานหนัก เราเลยตกลงกันว่า เดี๋ยวเราจะลดหุ้น 3 คน ที่ได้คนละ 30 มาแบ่งให้หมอ ให้เหลือเท่ากันคนละ 25

แม่พระ?

เม : จริงๆ สายนั้นเป็นสายที่คุณหมอท่านนึงต้องการหุ้นเพิ่ม หรืออะไรก็ไม่รู้ เมก็รับสายเพื่อนผู้หญิง ว่าหมอเริ่มมีลูกค้าติดแล้ว หมอสองอยากได้หุ้นเพิ่ม เมคุยกับหมอหนึ่ง เพื่อน และเม ว่าเราจะทำยังไงดี สุดท้ายสองท่านไม่มีใครแบ่งหุ้นให้คุณหมอเลย เป็นตัวเม แต่ตรงนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีหลักฐานนะ แต่เป็นสิ่งที่เมพูดมาตลอดว่า คนๆ นี้ได้มีหุ้นขึ้นมา เพราะเมบอกว่าให้ไปเถอะ เราทำกันมาด้วยกันแล้ว สุดท้ายพอเมให้คนที่หนึ่ง ทำให้สองท่านก็ตัดสินใจลดหุ้นมาให้คุณหมอสอง รวมเป็น 25 เปอร์เซ็นต์

แบ่งคนละ 5 ก็เป็น 25 ทุกคนมี 25 เปอร์เซ็นต์เท่ากันหมด แรกๆ เราเปิดแค่ 1 สาขา?

เม : ใช่ค่ะ แล้วเราก็ขยายเป็น 3 สาขาชื่อ PRIMAYA คลินิก พอผลประกอบการไม่เป็นไปตามเป้า มีรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นในสาขาทองหล่อ ก็เลยมีการปิดสาขาทองหล่อ มาเปิดแค่ 2 สาขา คือสยาม และเลียบด่วนค่ะ ที่ต้องพูดแบบนี้เพราะในใบชี้แจงของเขา เขาบอกว่าทำให้รายได้ตกต่ำจนทำให้บางสาขาปิดกิจการลง เขาบอกว่าหนูเป็นผลกระทบจากการที่ทำให้บางสาขาปิดตัวลง จริงๆ ไทม์ไลน์ก็ไม่เกี่ยว

ตอนแรกแบ่งหุ้นให้เขาไป ถือคนละ 25 เปอร์เซ็นต์ เปิด 1 สาขาก่อน มีรายได้เข้ามามั้ย?

เม : มีรายได้เข้ามา เราเปิดตัวสาขาสยามวันแรก เราได้ทุนคืนกันตั้งแต่วันแรก

ลงทุนไปเท่าไหร่?

แซค : ประมาณ 2 ล้าน คนละ 5 แสน

ไม่สั่งเครื่องสั่งอะไรเหรอ?

เม : เครื่องไม่ได้ลงอะไรเยอะ เราเลือกทำส่วนที่ไม่ต้องลงทุนเยอะก่อน ความเสี่ยงน้อยก่อนในบริการที่เราบริการให้ลูกค้า ทำให้ธุรกิจนี้ได้ทุนคืนตั้งแต่วันแรกอยู่แล้ว

ผลประกอบการดูแล้วน่าจะไปได้ แล้วยังไง?

เม : ผลประกอบการได้ดีมาตลอดทุกเดือน เราได้แบ่งมาตลอด จนกระทั่งเริ่มขยายสาขา เพราะเราขยายสาขาอย่างรวดเร็ว ทำให้รายจ่าย หรือฟิกซ์คอร์ส กับรายได้ไม่สอดคล้องกัน ก็กลายเป็น 3 สาขา คือสยาม เลียบด่วน ทองหล่อ เปิดไปสักพักก็ได้ปิดตัวทองหล่อไป เพราะผลประกอบการไม่เป็นไปตามเป้า คลินิกที่ชื่อพริมย่าคลินิกค่ะ สุดท้ายดำเนินมาเรื่อยๆ จนตัวเมมีดราม่า ดราม่านั้นก็ยอมรับว่าส่งผลกระทบให้ตัวเมและครอบครัว ธุรกิจที่เมเกี่ยวข้องเยอะพอสมควรเหมือนกัน

ดราม่านั้นคือ?

เม : ตอนหนูมีคดีความ ตอนนั้นเปิด 3 สาขา

แซค : กำลังจะปิดทองหล่อ

เรื่องคดีความ ตอนนั้นต้องโทษเลยมั้ย?

เม : ค่ะ ตอนนั้นเมโดนกระแสสังคมโจมตีหนัก เพราะสิ่งที่เมเคยทำคอนเทนต์ไป อาจทำให้สังคมเข้าใจผิดหลายๆ เรื่อง ว่าคนๆ นี้อาจเป็นคนไม่ขาวสะอาด อาจเป็นคนที่สังคมต้องระวังหรือเปล่า ก็เกิดข้อสงสัยค่อนข้างจะเยอะ (ร้องไห้)

เขาเลยบอกว่าความน่าเชื่อถือของคุณทำให้คลินิกพังได้ เขาเลยขอให้คุณถอดถอนชื่อออกเหรอ?

เม : ค่ะ

คุณยอมมั้ย?

แซค : พอมีข่าวด้วยความไม่อยากให้ธุรกิจกระทบ ไม่อยากให้กระทบธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่ใช่พรีมายา เพราะตอนนั้นพรีมายาโดนเต็มๆ เราก็ออกจากบริษัทอื่น ไม่ใช่แค่คลินิกอย่างเดียว บริษัทอื่นก็ออกจากหุ้นส่วนเหมือนกัน เพราะเราตั้งใจให้ธุรกิจดำเนินต่อได้ แต่อันนี้ทางเขาเสนอมาว่าออกมั้ย จะได้ไปต่อ

เม : ณ วันนั้นเมก็ยอมรับว่ามันแรงมากๆ สำหรับข่าวที่เข้ามา ตัวเมก็เป็นแค่แม่ค้าคนนึง ทำคอนเทนต์ไปช่วงอายุ 22 23 เมก็ไม่รู้หรอกว่าวันนึงมันจะเป็นมูมเมอแรงกลับมาที่ตัวเมมากแค่ไหน (ร้องไห้) สุดท้ายชีวิตเมก็พังทุกอย่าง (ร้องไห้) จากอดีตที่เมทำไป มันอาจสร้างความไม่สบายใจให้สังคม แต่ตัวหนูเองไม่เคยอยากเอาตัวเองไปทำในสิ่งที่ไม่ดี (ร้องไห้) สุดท้ายแล้วเรื่องนั้นหนูก็ได้บทเรียนมาเยอะแยะมากมาย เราก็โดนพรบ.คอมพ์ฯ แต่กระแสโจมตีค่อนข้างหนัก เพราะภาพที่เมสื่อออกไปตั้งแต่วัยรุ่น มันอาจไม่น่ารัก ก็ได้รับผลกระทบมาถึงทุกวันนี้

เมอารมณ์อ่อนไหวหน่อย เพราะตอนนี้กำลังตั้งครรภ์ กี่เดือนแล้ว?

เม : จะ 7 เดือนแล้วค่ะ

เมเป็นเจ้าแม่ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ที่ดังมากและพีคสุดๆ คือขายได้ยอดดีมาก ๆ หลังจากนั้นมีมรสุมชีวิตเรื่องคดีความ ถ้าจำไม่ผิด คุณโดนเรื่องไปชวนลงทุนหรือเปล่า?

แซค : มันเป็นโพสต์ที่เราแสดงความยินดีกับตัวแทนคนนึงว่าเขาลงทุนเท่านี้ แล้วระยะเวลาผ่านไป เขาขายได้เท่านี้

เป็นโฆษณาชวนเชื่อ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จที่คุณโดน คดีนั้นรอลงอาญา ในช่วงที่คุณเมดังมากๆ มีอินฟลูฯ ติดต่อมาหาคุณเม ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกัน ชวนมาร่วมกันทำคลินิก จากนั้นคุณญาไปชวนหมอมาสองคน เปิดคลินิกมา ทุกอย่างดีหมดเลย มีผลประกอบการที่ดี เงินไหลมาเทมา คุณเมต้องคดี หุ้นส่วนสามคนบอกว่าคุณเมถอนชื่อออกไปเถอะ ถอนชื่อจากการเป็นผู้ถือหุ้น ตอนนั้นเป็นกรรมการทั้ง 4 คน ไม่งั้นคลินิกที่มีอยู่จะล่มสลาย เพราะคุณเมไม่มีความน่าเชื่อถือแล้วในสังคม คุณเมยอมถอนมั้ย?

แซค : ยอมครับ

โดยการเอาหุ้นไปให้ใคร?

แซค : โดยการไปฝากไว้ที่หุ้นส่วนอีก 3 คน คนละเท่าๆ กัน

เม : ตามที่เขาเสนอมาค่ะ

คุณก็ไม่มีหุ้นในนั้น หุ้นคุณกระจายให้สามคนนั้นถือ จากนั้นยังไงต่อ?

แซค : ธุรกิจก็ดำเนินไป และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เราก็ยังได้ผลตอบแทน ได้เงินจากธุรกิจนี้มาเรื่อยๆ จนวันที่คดีความเราจบเสร็จสิ้น ศาลตัดสินหมดแล้ว เราก็จะขอกลับเข้าไปถือหุ้นเหมือนเดิม วันนั้นเขาเสนอมา 2 ออฟชั่น ออฟชั่นแรก ถือหุ้น 25 เปอร์เซ็นต์เหมือนเดิม ต้องทำงานนะ แต่ไม่ต้องออกหน้า ออฟชั่นที่สองคือลดหุ้นเหลือ 12.5 เปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องทำงาน รอรับปันผลอย่างเดียว

ตัดออกจากวงจร กลับไปเป็นกรรมการได้มั้ย?

แซค : ไม่ครับ ไม่ต้องทำอะไรเลย

ให้ทำงาน ทำอะไร?

แซค : วางแผนการเติบโต ตอนนั้นเราคุยกันว่าจะทำงานส่วนไหน โดยห้ามออกหน้า

กับอีกอัน เอาคืนไป 12.5 เปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องทำอะไรเลย รอรับปันผลอย่างเดียว แล้วคุณเลือกอะไร?

แซค : 25 เปอร์เซ็นต์ครับ นี่คือออฟชั่นที่เขาเสนอมาก่อน จนวันไปประชุมที่บ้านคุณญา เขาก็มีเงื่อนไขโผล่เข้ามาในคืนนั้น ว่าสาขาใหม่ที่จะเกิดขึ้น เราไม่ให้หุ้นกับคุณ ทั้งที่อยู่ในแผนการเติบโตของบริษัทอยู่แล้ว แต่คืนนั้นเขาบอกไม่ให้นะ

คุณเปิดบริษัทร่วมกัน 4 คน หลังจากนั้นเปิดคลิกขึ้นมา 3 สาขา มีเรื่องปัญหาคดีความ ข้อกฎหมาย คุณก็ถอนออกไปก่อนตามที่เขาแจ้ง เอาหุ้นกระจายให้เขา แบ่งให้เขาเท่า ๆ กัน 3 คน ช่วงที่เขาบริหาร คุณต้องคดี คุณได้รับเงินจากหุ้นที่ฝากไว้มั้ย?

เม : ได้รับตลอดค่ะ มีส่วนร่วมเช่นซื้อเครื่องนี้ บริษัทไม่อยากจะจ่ายเงินสด เราก็รูดออกให้ ใช้บัตรเครดิตเรา ไปเลี้ยงพนักงาน ก็ไม่เคยเบิกบริษัท เราเลี้ยงทีมมาร์เก็ตติ้งเอง เงินส่วนตัว เมรับผิดชอบในส่วนที่เมพอจะทำได้ ณ ตอนนั้นหน้าที่ของเมคือการโปรโมต พอเมโดนกีดกันไม่ให้ออกหน้า เมก็ไปหาช่องลงเหมือนกัน ว่าจะทำอะไรดีที่จะมีส่วนร่วมตรงนี้ แต่ว่าเราก็ยังสรุปกันไม่ได้ ว่าถ้าไม่ออกหน้าเราจะทำอะไรกันต่อให้บริษัท

แต่ที่แน่ ๆ คุณเองได้เงินปันผลทั้งที่หุ้นฝากเขาไว้ แต่พอ 100 เปอร์เซ็นต์ออกมาแล้ว เดินไปขอหุ้นคืน เขาตั้งเงื่อนไข หนึ่ง 25 เปอร์เซ็นต์ ทำงานนะ แต่ไม่ต้องออกหน้า สอง 12.5 เปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องทำอะไรเลย รับแต่ปันผลอย่างเดียว?

ทนายโรส : วันที่เขาบอกห้ามออกหน้า เอาชื่อไปลงหุ้นเองได้มั้ย

เม : วันที่หนูจะขอกลับไปถือหุ้น หนูอยากเอาชื่อหนูกลับเข้าไปใส่อยู่แล้ว แต่หุ้นส่วนพิมพ์มาว่าขอเป็นชื่อคนอื่น หุ้นส่วนคนอื่นยังไม่สบายใจที่เป็นชื่อเรา และขอเป็นคนที่หุ้นส่วนยอมรับได้ เขาก็เลยเลือกเป็นน้องสาวของเรา

เขาคืนให้คุณ 25 เปอร์เซ็นต์ แต่มีออฟชั่นเพิ่มขึ้นมา มันคืออะไร?

แซค : สาขาที่จะเปิดใหม่ไม่ให้ครับ

ตอนแรกมีอยู่ 3 แต่พอจะขึ้นที่ที่ 4 ให้เอาแค่คลินิก 3 อันไปได้ แต่ที่จะเปิดใหม่ ไม่ให้ ทั้งที่อยู่ในแผนการก่อตั้งบริษัทมาอยู่แล้ว แล้วคุณว่ายังไง?

แซค : ตอนนั้นเราจำใจต้องเลือกอันนี้ เพราะเราอยากกลับเข้าไปถือหุ้นก่อน

ตกลงได้เป็นชื่อเรามั้ย?

แซค : เป็นชื่อน้องสาว

ทำไมใส่ชื่อน้องสาว?

แซค : ทางนั้นถ้าเป็นชื่อเมก็อาจเกิดความไม่สบายใจ เขาขอให้เป็นคนอื่นได้มั้ย

เม : ตอนนี้หุ้นส่วนทั้งสามท่านอาจมีชื่อเสียงขึ้นจากวันแรกที่เรามาร่วมก่อตั้งบริษัทกัน จากวันแรก เมเป็นแสงสว่างเดียวของธุรกิจนี้ โปรโมตทำให้คนรู้จักคลินิกนี้ แต่พอระยะเวลาผ่านไป ทั้งสามท่านกลายเป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือ มีชื่อเสียงขึ้นมา เขาเองอาจไม่ได้สบายใจที่จะมีเราอยู่ในธุรกิจนี้ เขาเลยรีเควสเป็นชื่อน้องสาวของเราค่ะ คุณหมอหนึ่งเป็นคนพิมพ์ไลน์มา

คุณโดนรอลงอาญากี่ปี?

แซค : 2 ปีครับ วันที่ 10 ต.ค.ก็จะครบแล้ว

เขาก็น่าจะให้ชื่อคุณได้?

เม : จริงๆ มันก็ควรจะได้ แต่หนูเองรู้สึกว่าความสัมพันธ์เริ่มแปลกๆ มาสักระยะนึงแล้ว ตั้งแต่บริษัทเริ่มเติบโต มันไม่เป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนวันแรกที่เราก่อตั้งมา ต้องยอมรับว่าเขาก็ดังขึ้น เขาอาจกังวลเรื่องชื่อเสียงเขามั้ง

คุณหมอส่งมาให้คุณ 6 ส.ค.64 ขอเสนอสองทาง ให้เมกลับไปถือหุ้นปกติเลย หรือสองให้หาคนมาถือแทน อาจจะหนึ่งคนถือเท่าๆ กับทุกคน หรือสองคนแล้วหารสองกันไป จะได้ดูไม่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อยากเคลียร์เรื่องนี้ด้วยเพื่อความสบายใจ ยังไงฝากด้วย คุณหมอบอกว่าได้ครับ รับทราบถึงความไม่สบายใจ ทุกคนไม่เสียผลประโยชน์ หมออีกคนบอกว่าช่วยกันคิดๆ กำลังจะบอกว่าอะไร?

แซค : ขอให้คนมาถือหุ้นแทน ขอให้เป็นคนที่ผู้ถือหุ้นปัจจุบันสบายใจด้วย

คุณเอาหุ้นกลับมาโดยให้น้องถือ โดยเขาเป็นคนร้องขอ จากนั้นยังไง?

แซค : พอมีออฟชั่นสาขาใหม่จะไม่ให้เรามีส่วนร่วมด้วย มันก็ไม่แฟร์กับเรา แต่เราก็ต้องยอม จำใจ เพื่อเอาหุ้นกลับมาก่อน จากนั้นพอธุรกิจดำเนินไปเดือนหรือสองเดือน เราก็คิดว่าเรามาคุยกันดีกว่า ว่าสาขาใหม่ที่คุณจะเปิด จะแบ่งกันยังไง เพราะคุณใช้แบรนด์เดิม พนักงานชุดเดิม

เม : ชื่อเดิม แบรนด์เดิม ช่องทางการขายเดิมทั้งหมด ไม่มีอะไรสร้างใหม่ขึ้นมาเลย

แซค : ฐานข้อมูลลูกค้าก็บรอดแคสจากอันเดิมหมด แต่ผลประโยชน์ไปตกอยู่ที่บริษัทใหม่ ซึ่งบริษัทเดิมไม่ได้อะไรเลย ทั้งที่บริษัทเดิมไม่ได้มีแค่เมที่ได้ เขาก็ได้เหมือนกัน เราได้เท่ากัน

จะบอกว่าไม่แฟร์กับคุณเท่าไหร่ เพราะ 3 คลินิกอยู่ในชื่อบริษัท ก. อยู่ดีๆ จะไปเปิดสาขาที่ 4 แต่ก็อยู่ภายใต้บริษัท ก.เหมือนกัน?

แซค : สาขาใหม่เขาจะแยกไปเป็นบริษัทใหม่ แต่เอาฐานข้อมูลบริษัท ก. ไปเปิด เอาชื่อบริษัทเดิมด้วย

เม : ตอนนั้นไม่ได้ทะเลาะกันรุนแรง แค่ตัวเราเองรู้สึกว่าโดนแล้ว สุดท้ายแซคบอกว่าเมไม่เป็นไร เอา 25 เปอร์เซ็นต์นี้ไว้ก่อน ไม่ได้สาขาใหม่ก็ไม่เป็นไร เพราะ 40-50 ล้านต่อเดือน มันเพียงพอที่จะเลี้ยงครอบครัวเราแล้ว นี่คือรายได้ ถ้าเขาจะยืนยันเป็นแบบนี้ ตัวเราเองก็ต้องรับในจุดนี้ ยังไม่ได้ทะเลาะกันมากหรอกค่ะ ตอนนั้นยังคุยกันได้ เจรจากันได้ สุดท้ายมีการนัดกันไปกับคุณหมอที่หนึ่ง เอาทนายมาด้วย อยากให้คุยกันว่าชื่อที่ใช้ใหม่หรือช่องทางการขายต้องแบ่งกันยังไง ถ้าเราคุยแค่ 4 คนมันไม่จบ เพราะมันต้องเติบโตอีกเยอะ

คุณญาดูอยู่ เขากำลังปรึกษากันอยู่ว่าจะเข้าสายดีมั้ย ช่วงเช้าติดต่อไปทางคุณหมอ แต่ไม่เจอตัวคุณหมอ เจอเลขาฯ ก็บอกให้ชี้แจงจะได้คุยกันทั้งสองฝ่าย เพราะทางนี้คุยมาก่อนหน้านี้ ทางโน้นแก้มาโดยออกหนังสือ ทางนี้แค่สงสัยว่าเขาเองเปิดบริษัท ชื่อ ก. แล้วบริษัท ก. มีคลินิก 3 แห่ง วันนึงเขาประสบปัญหาชีวิต เขาต้องถอนชื่อออกไป เพราะสามหุ้นส่วนบอกว่าถ้าอยู่เดี๋ยวจะพังหมด เขาก็ออก นี่คุณเมใจกับเขามากนะ อยู่ดีๆ เอาหุ้นไปแตกให้สามคนถือไว้ อยู่วันนึงคุณเมไปขอหุ้นคืน เขามีสองออฟชั่นให้เลือก หนึ่ง 25 เปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องออกหน้า กับสอง 12.5 เปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องทำอะไรเลย รอแค่ผลประโยชน์ คุณเมก็เลือก 25 เปอร์เซ็นต์ เขาก็ขออีกว่าให้เอาชื่อคนอื่นมาใส่แทน คุณเมก็เอา เอาหุ้นมาก่อน เสร็จปุ๊บเพิ่มออฟชั่นมาอีกว่า เขาจะแตกสาขาที่ 4 แต่สาขานี้เงินปันผลไม่ให้คุณเม แต่คุณมองว่าแล้วไปเปิดได้ไง เขาบอกเปิดได้สิ เพราะ ก.ดูแล 3 คลินิก ส่วน ข. ที่จะเปิดใหม่ก็ดูแลคลินิกเปิดใหม่ คุณไม่มีสิทธิ์ตรงนี้ ขณะเดียวกัน ทั้งสามคนเอาฐานข้อมูลจากบริษัท ก. ฐานลูกค้าต่างๆ นานา รวมทั้งชื่อเสียงไปกระจายถึง บริษัท ข. เพื่อไปหาคลินิกที่ 4 ประเด็นหลักสำคัญคือคลินิกที่เปิดภายใต้ ข. ดันชื่อเดียวกับบริษัท ก. อีก คุณรู้สึกว่ามันไม่แฟร์?

เม : ค่ะ

คลินิกนั้นชื่อว่า?

เม : Dermatige Aesthetice ค่ะ

จากนั้นยังไงต่อ?

แซค :   เราจะมาตกลงกันว่าจะแบ่งกันยังไง ถ้าใช้พนักงานชุดเดิมจะแบ่งกันจ่ายมั้ย ถ้าใช้ฐานลูกค้าเดิมคุณจะจ่ายยังไง เพราะคุณบรอดแคสไป ฐานลูกค้าเดิมทั้งหมดที่ไปสาขาใหม่ ความตั้งใจวันนั้นที่จะคุยกันคือเราจะแบ่งกันยังไง สมมติบริษัทหนึ่งได้ เราไม่ได้คนเดียว เขาก็ได้เท่ากัน เราไม่ได้จะเอาอะไรเข้าตัวเราอย่างเดียวอยู่แล้ว วันนั้นเราตกลงกัน ประชุมกัน คุยกันไม่รู้เรื่อง ตกลงกันไม่ได้

เม : ตัวแทนการประชุมฝั่งนั้นค่ะ จริงๆ เราไม่ได้รู้สึกว่าทะเลาะกันมาก แต่มีความระแคะระคาย ตั้งแต่ได้รับออฟชั่นต่างๆ มา ได้ยินเหตุผลหลายๆ อย่าง ซึ่งเราคือเพื่อนกัน จากการทำธุรกิจนี้ด้วยกันมา แต่วันที่มีผลประโยชน์อยู่ตรงนี้กลับกลายเป็นสิ่งที่เราไม่เคยเจอในแง่มุมต่างๆ การประชุมวันนั้น ตัวแทนการประชุมเขา ก็เปิดการประชุมว่าจริงๆ แล้วคุณหมอสองท่านนี้จะไปทำอะไร ไม่เกี่ยวกับคุณ ไม่จำเป็นต้องมารายงานคุณด้วยซ้ำ คุณเองลงทุนไป ก็ได้ผลกำไรตอบแทนมาแล้วไม่ใช่เหรอ จะเอาอะไรอีก ซึ่งจริงๆ เราไม่ได้อยากเกาะแข้งเกาะขาคุณไปตลอดชีวิต วันนี้เราไม่เห็นอนาคตร่วมกันแล้ว เราต้องการว่ามันจะยุติธุรกิจนี้ยังไง

บริษัท ก. มีคลินิก 3 คลินิก คุณอยู่ใน ก. อยู่ดีๆ เขาไปเปิด ข. ชื่อเดียวกัน มันได้มั้ย?

ทนายโรส : ถ้าบริษัทเป็นกรรมการอยู่แล้ว กรรมการจะไปเปิดธุรกิจเดียวกันอีก จริงๆ ไม่ได้นะ ถ้าจะได้คือที่ประชุมบริษัทเก่าต้องอนุญาต

มันคือการค้าแข่ง แล้วถ้าวันนี้คุณไปถามเขา ฉันกับผัวฉันจะหาหมอคนอื่นมาหุ้นกับฉัน เปิดบริษัท ค. แล้วไปเปิดคลินิก 5 6 7 8 เขาโอเคมั้ย?

เม : มันไม่ได้อยู่แล้วค่ะ จริงๆ ตัวเขาเอง ณ วันนั้นเขาก็ยอมรับว่าเขาต้องใช้ตรงนี้ เขาต้องทำยังไงดี คุณหมอคนที่หนึ่งเขารู้ว่าการใช้ข้อมูลเดิม การใช้ช่องทางการขายของบริษัทหนึ่งมันทำไม่ได้ เพียงแต่เขาไม่รู้ว่ามันจะมีผลกระทบอะไรตามมา สิ่งนี้ทำให้เมกับแซครู้สึกมันไม่แฟร์มากๆ จากการประชุมวันนั้น เมบอกว่ามาคุยกันหน่อย ทุกอย่างที่คุณเอาไปใช้ คุณจัดสรรยังไง เราอยากได้ความยุติธรรม หรือข้อสรุปจริงๆ สุดท้ายพอเขาเปิดประชุมมาแบบนั้น ทำให้เรารู้แล้วว่าวันนี้จุดประสงค์การประชุมของเราไม่ได้ต้องการมาหาความยุติธรรมแล้ว ก็ล้มการประชุมกันไป เขาบอกฉันจะทำอะไรก็เรื่องของฉัน ทุกคนก็แยกย้ายกลับบ้าน โดยไม่ได้ข้อสรุปว่าจะจบยังไง

ทนายอธิบายซิ ผมงง?

ทนายโรส : ในคลินิกที่ลูกค้าใช้บริการ จะมีสองบัญชีให้ลูกค้าโอน มีทั้งบริษัท ก. และ ข. ด้วย

แซค : ถ้าโอนจองคิวทำ จะโอนเข้าบริษัท ก. แต่พอทำเสร็จแล้ว ที่จะเป็นยอดใหญ่ สมมติ 3 หมื่น 5 หมื่น ก็จะโอนเข้าบริษัท ข. อันนี้ลูกค้าส่งมาให้ดู เราตรวจสอบแล้วรู้สึกว่ามันผิดปกติ

เม : แล้วจะดำเนินธุรกิจกันไปแบบนี้เหรอ เราอยากได้ทางออกจริง ๆ นะว่าในทางกฎหมายมันทำได้เหรอ ในทางที่เราทำธุรกิจกันอยู่ มันทำได้จริงๆ เหรอ แต่คุยกันได้ ไม่ได้ทะเลาะกันมาก เขาก็ยังตอบสิ่งนี้ไม่ได้ ซึ่งบริษัท ก. เสียผลประโยชน์อย่างชัดเจน ซึ่งเขาก็อยู่ด้วยนะ

ลูกค้าไปทำหน้าที่สาขา บริษัท ก. โอนเงินเข้าบริษัท ก.?

แซค :   โอนมัดจำ สมมติ 999 บาท ก็โอนเข้าบริษัท ก. แต่พอทำเสร็จแล้ว จะมียอดที่เหลือ ก็ให้โอนเข้าบริษัท ข. เลย

เม : ทั้งที่การโอนจองทุกอย่าง มันคือช่องทางการขายร้านค้าของ ก. เป็นลูกค้าเก่าของเรา

แทนที่ลูกค้าโอนเงินเข้าบริษัท ก. แต่เปล่า เขาโอนเข้าบริษัท ข. ซึ่งไม่มีคนอยู่ แล้วทำแบบนี้ได้ยังไง?

เม : เอาจริงๆ ตอนแรกไม่ได้แจ้งหนูด้วย ตอนหนูตั้งประเด็น หนูตั้งแค่ว่าพี่ใช้พนักงานชุดบริษัทหนู ใช้ช่องทางการขายบริษัทหนู แล้วเราจะอยู่กันอย่างยุติธรรมได้ยังไง ประเด็นนี้ก็ให้พี่ไปหาทางออกมาให้ความยุติธรรมกับบริษัทหน่อย อันนี้เจอเอง ลูกค้าส่งมาให้

รบกวนคุณหมอและคุณญาติดต่อมาหน่อย ตอนแรกเขาบอกจะปรึกษากันก่อน ทีมงานประสานไปหาคุณญา เขาบอกว่าเขาจะพูด แต่ตอนนี้คุณหมอบอกว่าขอประชุมก่อน ยังไม่อยากให้พูด แต่คุณหมอต้องพูดนะ เพราะอันนี้ก็งงอยู่ว่าเป็นอย่างนั้นได้ยังไง ลูกค้าทำหน้าภายใต้คลินิก ก. โอนมาที่บริษัท ก. แต่พอเขาโอนเงินให้โอนเข้าบริษัท ข. ก็ไม่แฟร์กับเธอนะ เพราะเธอมีหุ้นอยู่ในบริษัทก. เงินที่ไปเข้าบริษัท ข. เธอก็ไม่ได้เงินจากตรงนี้ แต่ค่าใช้จ่าย ค่าคน ค่าของ ค่าฉีดหน้า ค่าเครื่อง ก.เป็นคนจ่ายถูกมั้ย?

เม : เบื้องต้น บริษัท ก.เป็นคนจ่าย จากนั้นหนูไม่สามารถเข้าถึงบัญชีรายรับรายจ่ายการเงินของบริษัทได้ ซึ่งตอนนี้หนูก็ไม่รู้ว่ามันถูกจัดสรรปันส่วนไปตรงไหนบ้าง ตัวหนูไม่รู้จริงๆ แต่เบื้องต้นที่เกิดเหตุนี้ขึ้น บริษัท ก.ก็เป็นคนจ่ายทั้งหมด ค่ายิงแอดเราก็รับผิดชอบทั้งหมดค่ะ

ตอนแรกยังงง แต่เพิ่งจะเข้าใจว่ามันก็แปลก ๆ ?

ทนายโรส : พอเขาตกลงกันไม่ได้ ไม่มีการคุย แล้วก็โดนเตะออกจากทุกช่องทาง

เม : เราถูกเด้งออกจากกลุ่มสำคัญของบริษัท ไม่ว่ากลุ่มบัญชี กลุ่มการเงิน กลุ่มผู้บริหาร แล้วก็กลุ่มอื่น ๆ ที่ดำเนินธุรกิจนี้ เพราะมีหลักฐานต่างๆ อยู่ในนั้นค่อนข้างจะเยอะค่ะ

ตอนพักเบรกไป เลขาฯ คุณหมอติดต่อมา ว่าตอนนี้คุณหมอลงพื้นที่ เลยยังไม่สะดวก คุณหมอบอกว่าพรุ่งนี้อยากมาชี้แจง แต่ขออภัยจริงๆ พรุ่งนี้มีเคสสำคัญที่ค้างอยู่เหมือนกัน ถ้าจะได้อีกทีก็เป็นวันจันทร์-อังคาร ไม่ได้จะลำเอียงนะ แต่พรุ่งนี้มีเคสสแตนบายอยู่แล้ว อาจเป็นอาทิตย์หน้า จริงๆ ตอนแรกจะให้มาเจอกันเลยวันนี้ คุณเมก็อยากเจอ แต่เขาบอกคุณหมอไม่ว่าง มันกะทันหันเกินไป ผมก็บอกให้มานั่งเจอกันเลย จะได้ชัดเจนกันไปแต่แกไม่มา แกอาจติดธุระก็ต้องเข้าใจแกด้วยในมุมนึง แต่พรุ่งนี้ทางเราก็ติดเหมือนกัน อาจต้องเป็นวันจันทร์ แต่วันนี้คุณหมอจะชี้แจงข้อเท็จจริงตรงนี้ก่อนก็ได้ว่าทำไมเงินต้องโอนเข้า ข. ทั้งที่เงินค่าดำเนินการ ออกจาก ก. จากนั้นยังไงต่อ?

แซค : หลังจากที่เราโดนเตะออกจากทุกกลุ่ม แต่คืนนั้นก่อนโดนเตะเขามีการโทรมาก่อนว่าที่เราประชุมกันอาจไม่เข้าใจกัน ขอเคลียร์ได้มั้ย ผมด้วยความโกรธ เพราะคุณให้ตัวแทนคุณมาพูดแบบนี้กับเรา เหมือนไม่ให้เกียรติกัน ผมก็โกรธ ผมด่าเขาไป ผมคุยในสาย ประชุมกัน ว่าคนนั้นที่มาพูดอย่างนี้ได้ เขาไม่มีสิทธิ์มาพูดแบบนี้กับผม ถ้าไม่ใช่สาส์นจากคุณ

เม : ตัวแทนการกระชุมที่พูดกับเราทั้งหมด มันคือแมสเสจที่อยากสื่อสารให้กับเราใช่มั้ย ทำให้เรารู้เจตนารมณ์ว่าตัวคุณเองไม่ได้ต้องการยุติเรื่องนี้อย่างยุติธรรมให้กับเรา แต่เป็นการมานั่งบอกว่าทำไมฉันต้องรายงานให้คุณทราบ คุณก็ได้เงินลงทุน ปันผลไปแล้วนี่ แล้วจะต้องทำอะไรอีก

ซึ่งมันคนละเรื่องกัน?

เม : ใช่ค่ะ มันทำให้เรารู้ว่าวันนี้เขาไม่ได้จะมาจบ เขาอยากไปโบยบินกันแล้ว แต่ก่อนจะไปโบยบิน ช่วยมาเคลียร์บริษัทเราก่อนว่าเราจะจบตรงนี้ยังไง เราอยากจะรู้

คุณแซคเลยให้ของลับเขาไปเลย?

แซค : ใช่ครับ หลังจากให้ของลับก็โดนเด้งออกจากทุกกลุ่ม เวลาผ่านไปเราไม่ได้รับรู้อะไรเกี่ยวกับคลินิกแล้ว เราก็ส่งหนังสือขอตรวจสอบบัญชีในฐานะผู้ถือหุ้น เราก็ไปตามวันเวลาที่ระบุ ส่งไปหลายครั้ง

ทนายโรส : การเป็นผู้ถือหุ้นสามารถตรวจสอบงบ เอกสารต่างๆ ที่บริษัทได้อยู่แล้ว เป็นสิทธิ์ผู้ถือหุ้น วันนั้นไปแล้วเกิดอะไรขึ้น

แซค : พอไปตามนัด พนักงานเชิญเราไปนั่งชั้น 5 ห้องประชุม ห้องผู้บริหาร นั่งสักพักเอาน้ำมาเสิร์ฟ ระหว่างรออยู่ เราก็ไม่ได้รับการอนุญาตให้ดู

จริง ๆ ต้องให้ดูมั้ย?

ทนายโรส : ต้องให้ดูค่ะ เพราะเขาเป็นผู้ถือหุ้น ตามระเบียบ ต้องมีสำเนาด้วยที่บริษัท ให้ผู้ถือหุ้นมาดูได้

เม : ก่อนหน้าขอตรวจสอบในฐานะผู้ถือหุ้น เราขอตรวจสอบในฐานะเพื่อนมาก่อนแล้วด้วยเหมือนกัน ว่าขอดูบัญชีหน่อย เราจะจบเรื่องนี้ยังไง จะขายหุ้นกันมั้ย เมไปซื้อหุ้นคุณมั้ย 75 เปอร์เซ็นต์ หรือคุณจะมาซื้อหุ้น 25 เปอร์เซ็นต์ของเมมั้ย แต่พอมีจุดแตกหัก คืนนั้นถูกเตะออกจากทุกกลุ่ม ก็เลยดำเนินการทุกอย่างในฐานะผู้ถือหุ้น ส่งไปหลายฉบับมากว่าวันนี้เราจะเข้าไปนะ คุณก็ตอบรับว่าคุณรู้ว่าเราจะมา แต่สุดท้ายแล้ว วันนั้นเอง เมถูกแจ้งข้อหาบุกรุก ตร.จะมาจับเรา

แซค : ระหว่างที่เรานั่งรอที่ห้องประชุมที่คลินิกที่เราเป็นผู้ถือหุ้น

เขาแจ้งความให้ตร.จับคุณบุกรุก?

เม : ค่ะ ตอนนั้นไปกัน 11 ท่าน มีเม ผู้ถือหุ้น และทนาย เพราะไม่ได้คิดว่าจะมีตร.เข้ามา เราก็ตกใจมากๆ เราตกใจและโกรธมากๆ ที่ตรงนี้คือที่ที่เมใช้คอนเนกชั่นหรือใช้เครดิตเมกว่าจะหามาให้ธุรกิจเราได้ เหมือนอยู่ดีๆ จากสิ่งที่เมสร้างมา วันนั้นทำให้รู้ว่า มันสู้กันแบบไหนวะเนี่ย เราไปในฐานะผู้ถือหุ้น เราโทรบอกพนักงานว่าแจ้งผู้บริหารได้เลย บรรยากาศก็แฮปปี้ดี พนักงานก็เป็นเอฟซีลูกเรา แต่พอสักพักมีตร.มาจับกุมเราว่าเราบุกรุก วันนั้นเมถูกแจ้งความบุกรุก ถูกฟ้องหมิ่นประมาท และโดนฟ้องพรบ.คอมพ์ฯ เมโดนสามเรื่องค่ะ

แซค : เรื่องหมิ่นประมาท วันนั้นตร.เข้ามา เราก็ชี้แจงตร.ว่าเรามาตามหนังสือนัดนะ เรามาตามปกติ เราสามารถตรวจสอบได้ เพราะเราเป็นผู้ถือหุ้น เราตรวจพบความผิดปกติ

เม : ตร.เปิดเข้ามา หนูพูดคำนึงกับตร. เราพูดคำนี้กับตร. ถ้าเราไม่พูดวันนั้นตร.ก็ต้องจับเราไปแล้ว เราบอกว่าเราตรวจพบการ…เกิดขึ้น เราจึงเข้ามาวันนี้ ตามใบนัดหมาย ในฐานะผู้ถือหุ้น ตร.ก็เลยกลับไป การที่เราพูดคำนั้นออกไป ทำให้เราโดนฟ้องเรื่องหมิ่นประมาทมา แต่ศาลยังไม่รับฟ้อง

ทนายโรส : ไม่เข้าบุกรุกอยู่แล้วเพราะมาตามเอกสาร ตามหนังสือที่ส่งไป แต่โดนอีก 2 แทน

เม : วันนั้นเมมีการถ่ายคลิปด้วย เหตุการณ์นี้ทำให้เมรู้ว่ามันไม่ได้เล่นกันบนโต๊ะแล้ว เราเพียงต้องการรู้ความเคลื่อนไหวบัญชีบริษัท ก. ว่ามีรายรับรายจ่ายหรือรายได้ยังไงบ้าง เราไม่รู้จริงๆ ว่าเงินถูกกระจายไปไหนบ้าง เราเองอยากเห็นบัญชีนั้น สุดท้ายพอเจอตร.จะจับเมกับครอบครัว กับทีมเม เมก็โกรธมากๆ เมได้อัดคลิปนึงโพสต์ลงโซเชียล บอกว่าเปิดอีกหนึ่งธุรกิจเม พรีมายา รายได้ … ล้าน เมทำสิ่งนั้น เมก็ยอมรับว่าหุ้นส่วนไม่อยากให้เมออกหน้าที่สุด ไม่อยากให้เมมีบทบาทอะไรเลยต่อธุรกิจนี้ ไม่อยากให้เมเปิดเผยว่าเมยังมีส่วนได้เสียหรือเกี่ยวข้องกับ Dermatige อีกต่อไปแล้ว ซึ่งเมรู้ว่าถ้าเมได้ทำคลิปนี้ออกไป คุณต้องโกรธมากๆ เหมือนที่ฉันโกรธอยู่ตอนนี้

คุณทำมั้ย?

เม :   ทำค่ะ เมโพสต์

แล้วเขาโกรธมั้ย?

เม : โกรธค่ะ เขาเลยแจ้งพรบ.คอมพ์ฯ มาฟ้องเราเลย ยอมรับว่าวันนั้นก็ฟิวส์ขาดเหมือนกัน ที่ตรงนั้นคือเครดิตเราทั้งหมด ที่กว่าจะได้ตึกนี้มา กว่าจะไปขอผู้ใหญ่มา ขอราคาเช่าเท่านี้นะ ทุกอย่างได้มาเพราะเรา คุณก็รู้

ที่เอาตร.ไปจับ แล้วบุกรุกยังไง ในเมื่อเป็นที่เขาด้วยเหมือนกัน?

ทนายโรส : มันเป็นสิทธิ์ของผู้ถือหุ้น พอถึงวันนัด พนักงานก็พาไปที่ประชุมรอ แต่ไม่มีใครมา ตร.มาแทน หาว่าเราบุกรุก ซึ่งเราไม่ใช่บุกรุก เราเป็นหนึ่งในหุ้นส่วน เราสามารถไปที่ทำการบริษัทได้ มันไม่ใช่การบุกรุกค่ะ วันนั้นเราแจ้งตร.ไปว่าเรามีหนังสือมานะ ตร.ก็โอเค ตร.ตรวจเอกสารแล้วก็กลับ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เด็ก ๆ ไม่ตกใจเหรอ?

เม :   ลูกๆ ตกใจที่แม่ฟิวส์ขาดมากกว่า สติแตก โวยวาย จำเหตุการณ์ไม่ได้จริง ๆ วันนั้นใช้คำว่าอาละวาดได้มั้ย ก็อาจจะได้เหมือนกัน นี่คือสิ่งที่เราสร้างมา แล้วเราถูกแจ้งความบุกรุก

เขา…จริงเหรอ คุณพบอะไรจากอันไหน?

เม :   พบจริง ๆ ค่ะ

แซค : นำเงินจากบริษัท ก. ไปจ่ายค่าใช้จ่ายสำหรับบริษัท ข. ซึ่งเราไม่ได้ถือหุ้น

ทนายโรส : คุณเมสงสัยเลยขอไปดูตัวนี้แหละเพื่อจะได้รู้ว่าตกลงมันเป็นยังไง

ถ้าเพื่อความเป็นธรรม คลินิกก็แถลงนะว่าถูกพาดพิงทำให้เกิดความเสียหาย ให้ข้อมูลเท็จบิดเบือน ทำให้คลินิกตลอดจนผุ้เกี่ยวข้องบริษัทเดือดร้อนโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยมุ่งหมายหาประโยชน์มิชอบจากการกระทำดังกล่าว จึงขอออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อมูลเท็จ ยอดขายตกเพราะความเสื่อมเสียชื่อเสียงจากบุคคลดังกล่าว รายได้หดหาย เงินไม่พอกับค่าใช้จ่ายต่างๆ จนต้องปิดกิจการบางสาขา ต่อมาบุคคลดังกล่าว ซึ่งน่าจะคือคุณ เสนอขายหุ้นให้ผู้ถือหุ้นพร้อมลาออก คุณฝากหุ้นไว้ แต่เขาบอกว่าคุณขาย?

แซค : มีเอกสารขายหุ้นที่เราต้องเซ็นตามขั้นตอน แต่เราไม่ได้รับเงิน ยืนยันครับ ในใบก็ระบุว่าเป็นเงินสด

เอาง่าย ๆ ถ้าขายไปแล้ว คุณจะคืนหุ้นให้เขาทำไม เขาบอกว่ายุติกิจการ PRIMAYA คลินิก?

เม : PRIMAYA มาจากพรีมายา และญา มาจากพาร์ตเนอร์อีกคน เราคิดง่าย ๆ เราเปลี่ยนชื่อจาก PRIMAYA เป็น Dermatige แต่อยู่ภายใต้บริษัทเดียวกันค่ะ

คำว่าเรา คือมีคุณด้วยที่ร่วมกันเปลี่ยน เขาบอกว่าเขาพยายามแก้วิกฤตปัญหา ด้วยการให้แบรนด์ใหม่ ที่ชื่อ Dermatige ดีขึ้น เขาบอกคุณเองเหมือนออกมาพูดสร้างความเดือดร้อนให้เขา ถูกกระทำต่างๆ หลายครั้งให้รับความเสียหายมาก จนไม่อาจวางเฉยได้ จนต้องฟ้องร้องที่ศาล ได้รับความเมตตา ศาลเองมีคำสั่งประทับรับฟ้อง 1 คดี แถลงการณ์เขาประมาณนี้ เขาลงสุดท้ายว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย และทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ คุณเป็นทองแท้หรือเปล่า?

เม : ทองม้วนค่ะ (หัวเราะ) จริง ๆ แถลงการณ์นี้ที่หนูอ่าน อยากให้เขาเอาหลักฐาน เอาไทม์ไลน์มาชนเหมือนกัน แค่บรรทัดที่บอกว่าบริษัทเดือดร้อน เสียหาย บุคคลท่านนี้ทำให้บริษัทเดือดร้อน เสียหาย กระทำไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย มุ่งหาประโยชน์ส่วนตัวโดยมิชอบ เมอยากให้เอาหลักฐานหรือมาขยายความตรงนี้ อย่าให้เมเปิดเรื่องของคุณเลย ที่เป็นการกระทำที่ไม่กลัวกฎหมาย

อุ้ยตาย คุณมีความลับของเขาเก็บไว้เหรอ?

เม : วันนี้เมเองต่างหาก เมอยู่เฉยๆ ถูกลดบทบาทไปเยอะแยะมากมาย เมจะไปทำอะไรได้ วันนั้นเมเข้าไปหนึ่งรอบ คุณแจ้งบุกรุกฉัน คุณทำให้เราโดนพรบ.คอมพ์ฯ กับหมิ่นประมาท ด้วยคุณให้พนักงานคุณอัดเสียง ถ่ายภาพต่างๆ เราเอาไว้ อยากถามว่าเมไปทำอะไรให้คุณเดือดร้อน วันนี้เรื่องไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย ที่คุณชี้แจงมาทั้งหมด ก็แค่สิ่งที่คุณมองว่าเราหมดผลประโยชน์แล้ว ไม่อยากแบ่งเราต่างหาก เรื่องมีแค่นี้เอง

เขาฟ้องคุณเรื่องอะไร ที่บอกว่ามีมูล?

แซค : พรบ.คอมพ์ฯ ครับ เรื่องที่เมไปถ่ายคลิปและลงว่าอันนี้คืออีกหนึ่งธุรกิจของเม เมเป็นเจ้าของ เขาไปบอกศาลว่าเมไม่ใช่เจ้าของ  เอาใบซื้อขายหุ้นให้ศาลดู ศาลก็เลยรับ

ทั้งที่หุ้นกลับมาอยู่กับคุณแล้ว?

ทนายโรส : ไม่ใช่เป็นชื่อเมค่ะ แต่เป็นชื่อน้อง

เม : ศาลประทับรับฟ้องก่อนค่ะ แต่ยังไม่ได้ดูหลักฐานจากทางเรา

อันนี้ไม่น่ามีปัญหา ศาลให้ความยุติธรรมอยู่แล้ว?

แซค : เหมือนฟ้องปิดปากครับ จะได้เคลียร์กันง่าย ๆ

ทนายโรส : แต่บริษัทตอนนี้เป็นยังไงนะ

เม : เมไม่เห็นถึงข้อเท็จจริงในแถลงการณ์เลย เมอยากเรียกร้องให้คุณเอาหลักฐานเอาไทม์ไลน์มาซัปพอร์ตตรงนี้ อย่างเช่น ส่งผลชัดเจนในสาขาที่เกิดขึ้น ทำให้ยอดขายตกต่ำ รายได้หดหาย เงินไม่พอจ่ายกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทำให้ต้องปิดบางสาขา คุณเอามาชนเลยว่าสาขาไหน เราปิดทองหล่อไป มันอยู่ในไทม์ไลน์ก่อนเรื่องดำเนินมาถึงวันนี้ มันไม่ได้เกี่ยวกับดราม่าเม ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ซะด้วยซ้ำ สิ่งที่คุณแถลงมันคลุมเครือ มันไม่มีหลักฐานมาซัปพอร์ต ตัวเมเองมีไทม์ไลน์ทั้งหมด เมอยากไฮไลต์ทุกอย่างบนหน้ากระดาษนี้ ว่ามีอะไรที่เป็นข้อเท็จจริงบ้าง

คุณเมบอกให้เชิญหมอมาหน่อยได้มั้ย ผมก็เชิญ แต่หมอไม่มา หมอบอกปัจจุบันทันด่วนไปหน่อย?

ทนายโรส : งบตัวล่าสุดที่หามาได้ ก็ไม่ได้ขาดทุนนะ

เม : ตรงใบแถลงการณ์นี้ คุณบอกว่าบุคคลท่านนี้สร้างปัญหา สร้างความปั่นป่วนเยอะแยะมากมายให้ธุรกิจนี้ เราไม่ได้ทำอะไรเลย เราอยู่เฉยๆ แค่ขอบัญชีและขอทางออก เราอยากจะจบแบบยุติธรรมที่สุด เราให้ทางออกคุณไปเยอะมาก แต่คุณไม่เลือกเลย สุดท้ายเมไม่ได้เริ่มฟ้องอะไรคุณเลยด้วยซ้ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราให้เวลาคุณไกล่เกลี่ย หาทางออกมาโดยตลอด เมไม่เห็นว่าเมไปปั่นป่วนคุณตรงไหน เมแค่เรียกร้องสิทธิ์ตามกฎหมายที่เมควรได้รับ เมอยากรู้ว่าเมไปปั่นป่วนคุณตรงไหน วันนั้นเมก็เข้าไปถูกต้อง ถ้าคุณไม่แจ้งจับเรา มันก็คงดีกว่านี้

ทีมงานติดต่อคุณญา เขาไม่รับโทรศัพท์ หมอหนึ่งหมอสองลงพื้นที่ทั้งคู่เลยเหรอ?

ทนายโรส : ล่าสุดมีการขอปิดบริษัท

แซค : โดยไม่ได้บอกเรา เขายื่นชำระบัญชี

เม : ที่เมกับแซคจำใจเลือก 25 เปอร์เซ็นต์ เพราะแซคจับมือเมเองว่ารายได้ 40-50 ล้านต่อเดือน มันเพียงพอจะเลี้ยงครอบครัวเราแล้ว เราจำใจเอาออฟชั่นนี้ แต่สุดท้ายคุณปิดบริษัทเราทั้งหมด แล้วไปเปิดสาขาใหม่ใกล้เคียง บริษัทนี้มันก็ไม่เหลืออะไรแล้ว (เสียงสั่นเครือ)

แซค : เขาทยอยปิดสาขาบริษัทเดิม และเปิดสาขาใหม่ เป็นของบริษัทใหม่

ทนายโรส :   ค้าแข่งก็ไม่ได้แล้วตามกฎหมาย เมื่อกี้ มีการยื่นชำระบัญชี มาตรวจดูในรายงานการประชุมที่เขาเอาไปส่ง จริงๆ การปิดบริษัท ต้องเป็นการประชุมใหญ่ มีผู้ถือหุ้นครบทุกคน แต่จากที่ดู คุณเมบอกว่าไม่มี ไม่รู้เลย ว่ามีการประชุม มันก็ไม่ครบแล้วค่ะ

เม : เมอยากให้มานั่งคุยกัน ตอบสังคม ตอบเมให้ได้ว่าคุณใช้วิธีไหนในการจัดประชุมขึ้นแล้วไม่แจ้งผู้ถือหุ้น เรื่องนี้อยู่ในศาล เมก็ถามเขาในศาลว่าคุณจัดประชุมแล้วไม่เชิญผู้ถือหุ้น คุณจัดได้ยังไง เขาบอกว่าเขาส่งมาให้แล้ว เธอไม่ได้รับเอง โน่นนี่นั่น เถียงกันต่างๆ นานา สุดท้ายขอดูเอกสารตัวที่ส่งมาให้ผู้ถือหุ้นรับรู้หน่อย ทุกคนก็ใช้เวลา 3-4 นาที เลิ่กลั่กกัน แต่หนูก็ไม่ได้เห็นเอกสารชิ้นนั้นว่าเขาส่งมาทางไหน แต่จริงๆ ต้องบอกว่าเมเองให้ทนายติดต่อไปมากกว่า 3-4 ครั้ง พิมพ์ไลน์ไปสองอาทิตย์ก่อนหน้า เมมีการตามไทม์ไลน์ตลอด สามวันก่อนถึง ห้าวันก่อนถึง ผู้ถือหุ้นตัวจริงก็พิมพ์ถามกับพาร์ตเนอร์อีกสามท่านเหมือนกัน เอกสารทางกฎหมายก็ส่วนนึง แต่จริงๆ เราสามารถคุยกันได้ แต่คุณมีวิธีอะไรอีกเหรอ ที่ทำให้เกิดการประชุมที่ไม่มีเราเกิดขึ้นอยู่ตรงนั้น (ร้องไห้)

ทนายโรส : ถ้าจะปิดบริษัท ต้องมีผู้ถือหุ้นครบทุกคน และยินยอม 3 ใน 4 แต่นี่ผู้ถือหุ้นอยู่ไม่ครบทุกคนค่ะ

อันนี้คือสุดท้าย เขาเริ่มไล่ปิดสาขา เพื่อเปิดสาขาใหม่ใกล้ๆ กัน และอยู่กับบริษัท ข. ต่อไปบริษัท ก. จะไม่มีสาขา ไม่มีรายได้ ก็เป็นการบีบคุณไปในตัว แต่ประเด็นหลักสำคัญคือหมอต้องตอบให้ได้ก่อน ระหว่างปิดบริษัท พวกนี้จะชี้แจงว่ายังไง เพื่อความเป็นธรรมนะ ก็งงเหมือนกัน การที่ลูกค้าไปทำหน้าที่คลินิก ภายใต้ บริษัท ก. แต่พอจ่ายเต็ม ไปจ่ายเข้าบริษัท ข. ซึ่งไม่มีเขาอยู่ ข.เวลาแบ่งเปอร์เซ็นต์นี่เขาไม่ได้รับไง แต่เวลาจ่าย เขาจ่ายจากบริษัท ก. ก็ไม่แฟร์กับเขานะ หนึ่งให้คุณหมอมาวันนี้แล้ว คุณหมอไม่มา ให้คุณญาโฟนอิน ก็ไม่โฟนอิน บอกกำลังประชุมอยู่ ขอมาพรุ่งนี้ แต่พรุ่งนี้ผมติดเคสจริง ๆ ?

เม : บริษัท ก. หรือ ข. ตอนนี้ไม่รู้บริหารจัดการกันยังไง แต่ช่วงแรก ก. รับไว้อยู่แล้ว เมอยากเห็นบัญชี หรือการเงินที่คุณทำ ซึ่งเมขอมา 1 ปีเต็ม แต่เราไม่สามารถเข้าถึงบัญชีบริษัทเราได้ ทุกอย่างจะไม่ดำเนินการมาถึงวันนี้เลย ถ้าเราได้ข้อมูลหรือความโปร่งใสบ้าง เมเองไม่รู้เลยว่าตัวเลขเป็นยังไง ผลสรุปคืออะไร มันไม่รู้เลยจริงๆ บางทีมันอาจทำให้เมเข้าใจมุมมองอีกฝ่ายนึงมากขึ้นซะด้วยซ้ำ แต่วันนี้ข้อสงสัยคือสิ่งที่เมมีเท่านี้ ที่คุณให้เม และคุณไม่คุย คุณไม่ให้ข้อมูลอะไรเลย คุณเลือกทำทุกอย่างใต้โต๊ะหมด แล้วเมจะไม่คิดอย่างนี้ได้ไง

บอกคุณหมอเป็นข้อ ๆ ในสิ่งที่คุณเมค้างคาใจ สิ่งที่เธอเดินทางมาออกโหนกระแส ประเด็นแรกที่เธอสงสัยอยากให้คุณหมอตอบ หนึ่งการกลับเข้าไปถือหุ้น ทำไมเสนอ 2 ออฟชั่นให้เขา เพราะอะไร สองเธอถามว่าถูกตัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลบริษัทได้ยังไง ทั้งที่เธอคือผู้ถือหุ้น ช่องทางถูกตัดทั้งหมด สามขอตรวจสอบบัญชีในฐานะผู้ถือหุ้น ได้หรือไม่ สี่คดีความข้อกล่าวหา ด้วยเหตุอะไร  ห้าลูกค้ามารักษาที่บริษัท ก แต่สุดท้ายไปจ่ายเงินที่บริษัท ข. อันนี้คืออะไร หกการยื่นเรื่งขอชำระบัญชีบริษัท แต่ไม่แจ้งผู้ถือหุ้นให้รับทราบ อันนี้ความหมายคืออะไร เจ็ดประเด็นคลินิกเถื่อนคืออะไร?

เม : อันนี้อาจเป็นคำที่พูดให้เข้าใจง่าย

แซค : มีลูกค้าไปใช้บริการ เขามาเล่าให้ฟัง ลูกค้าเก่ามาทำเพราะเม มาเล่าให้เมฟังว่าเขาโอนจองเข้าบริษัท ก. พอทำเสร็จกลายเป็นว่าสาขาให้โอนเข้าบริษัท ข. ลูกค้าเขารู้สึกแปลกๆ ว่าทำไมกลายเป็นอย่างนี้ ที่ผ่านมาเขาโอนเข้าบริษัท ก. ตลอด เขาออกจากสาขามาเขามีความเอ๊ะ เขาไปเช็กกับใบอนุญาต

ลูกค้าไม่มั่นใจ จึงไปแจ้งความเอาไว้ และกลับมาถามคุณเมเพื่อให้ชี้แจง เขาเลยตั้งข้อสงสัยว่าคลินิกไม่มีใบอนุญาตหรือเปล่า ถึงให้มีการโอนไปอีกที่นึง?

เม : ก็เลยได้เช็กตัวเลขที่แปะอยู่หน้าคลินิก

ก็บอกว่าเขาเป็นคลินิกเถื่อนไม่ได้นะ?

เม : มันคือคลินิกที่ไม่ได้รับอนุญาต เพราะเป็นคลินิกที่เปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต

แซค : มันเป็นคลินิกของ บริษัท ข.

เม : การกระทำเดือดร้อนไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย มุ่งหาประโยชน์มิชอบจากการกระทำ เมบอกเลยว่าสิ่งที่เราเจอมา ที่เรายังไม่ได้พูด มันพอชี้แจงได้มั้ยว่าใครกันแน่ที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย มุ่งหาแต่ประโยชน์อย่างเดียว คุณโฆษณาเครื่องหมายการค้าคลินิกเรา คุณเองเป็นหมอต้องมีจรรยาบรรณสิ ต้องรู้ว่าอะไรทำได้ทำไม่ได้ เมเป็นแม่ค้า ขายของไม่มีอย. ขายของไม่ดี เมทำได้เหรอ เราทำไม่ได้ ยิ่งดังเราต้องยิ่งระวังตัว แต่วันนี้คุณกลับมาตราหน้าเม แล้วสิ่งที่คุณทำล่ะ

ตกลงอันนี้คืออะไร ที่คุณไปตั้งประเด็น?

แซค : ลูกค้าไปแจ้งความ พนักงานสอบสวนเรียกพยานหลักฐานเรียบร้อยแล้ว ตอนทำลูกค้าไม่มีใบอนุญาตจริงๆ

ทนายโรส : เป็นการคาดการณ์ของลูกค้า แล้วลูกค้ามาบอกเรา แล้วลูกค้าไปแจ้งความ ช่วงนั้นเขาอาจกำลังขอใบอนุญาต

เม : แต่มันทำไม่ได้ไงคะ

ไม่อยากให้ใช้คำนี้ เพราะไม่เหมาะกับเขาเหมือนกัน เขากำลังพิสูจน์อยู่ใช่มั้ย เขาพิสูจน์หรือยัง?

ทนายโรส : รอเขาชี้แจงมา

แซค :   ตอนนั้นลูกค้าบอกว่าตร.เช็กกับสาธารณสุขแล้ว คือใบยังไม่ออกจริงๆ

ณ เวลานั้น ลูกค้าไปทำอาจไม่มี แต่ตอนนี้อาจมีแล้ว?

เม : ใบที่แปะคือใบของสาขาเรา คือการสวมใบอนุญาต

แซค : เอาสาขารามอินทรา ไปแปะไว้ที่หน้าคลินิกเขา

เม : เมไม่รู้ว่าร้ายแรงหรือผิดจรรยาบรรณแค่ไหน เพียงแต่เป็นข้อมูลที่เมได้รับมาค่ะ

เป็นสิ่งที่คุณหมอต้องมาตอบ มันพิสูจน์ไทม์ไลน์ของตร.ได้ ข้อที่ 8 การใช้ทรัพย์สิน และชื่อเสียงบริษัทเดิม ไปใช้ที่บริษัทใหม่?

แซค : อย่างฐานลูกค้าที่มีค่ามากๆ และมีการปิดสาขาเดิม เปิดข้างๆ ทำให้บริษัทเดิมไม่เหลืออะไร

ทนายโรส : จริง ๆ ฝั่งคุณเมถ้าดำเนินคดีอะไรหลายๆ อย่างเขาทำได้นะคะ แต่เขาเลือกคุยมากกว่า เขาอยากคุยและอยากจบค่ะ

แซค : ระยะเวลาที่ผ่านมา ที่เราไม่ดำเนินอะไรมากมาย เราอยู่ในชั้นศาล ศาลก็ให้ไกล่เกลี่ย ตั้งแต่ม.ค.- ก.ย. พอไกล่เกลี่ยไม่ลง ศาลประทับรับฟ้อง เราก็ถึงเวลาแล้วที่จะแอ็กชั่นอะไรสักอย่าง

เม : หลายคนถามว่าทำไมเมถึงเพิ่งออกมาพูดตอนนี้ เมต้องการความยุติธรรม จะบอกว่ามันคือเงินก็ได้ เพราะเมถือหุ้นตรงนี้ ถ้าเมจะได้ไปต่อหรือไม่ได้ไปต่อ เมก็ต้องได้รับผลตอบแทนของเมหรือเปล่า

วันนี้คุณอยากให้เป็นยังไง?

เม : หนูไม่ได้อยากจะมีเรื่องมีราว อยากไกล่เกลี่ยให้เร็วที่สุด เพราะชีวิตตอนนี้มีความสุขมากๆ เรื่องนี้คือเรื่องเดียวที่ทำให้หนูเศร้าและเสียใจ ไปไหนไม่ได้เลย เราก็อยากให้ยุติธรรมที่สุด เพราะตอนนี้บริษัทเติบโต มีรายได้ มีกำไร ถ้าจะมีเราหรือไม่มีเรา ก็ควรมีคำตอบ มีเอกสาร มีข้อมูลบางอย่างให้เราหรือเปล่า

สิ่งที่คุณต้องการคือมานั่งคุยกัน และเปิดบัญชีให้ดูกันเลย ว่าเป็นยังไง คุณหมอก็ชี้แจงว่าเงินเอาไปใช้จ่ายแบบนี้จริงมั้ย ให้ลูกค้าโอนเงินเข้าบริษัท ข. จริงมั้ย?

เม : เราก็ให้ไปทุกวิธีค่ะ คุณอยากซื้อหุ้นเมมั้ย 25 เปอร์เซ็นต์ หรือเมไปซื้อหุ้นคุณ 75 เปอร์เซ็นต์ เมเคยไปเสนอไป ถ้าคุณบอกว่าไม่มีเงินสด คุณผ่อนมั้ย 3 ปี 5 ปี เมให้ไปทุกอย่างแล้ว จนสุดท้ายเมไม่ได้ดำเนินอะไรเลย ในมุมของเม เพราะคุณฟ้องเมมาก่อน พรบ.คอมพ์ฯ กับหมิ่นประมาท ศาลให้ไกล่เกลี่ยมาตลอด ระยะเวลาเมก็มีความหวัง เห็นแสงสว่างว่าจะจบเรื่องนี้สักทีอย่างยุติธรรม เพราะเรื่องนี้มีศาลเป็นคนกลางแล้ว สุดท้ายคุณมายื่นกับศาล ต้นก.ย. ว่าปิดบริษัทนี้แล้ว เมก็โกรธอีกเหมือนกัน ทำไมตลอดระยะเวลาที่เราเจอในศาล เรามีความหวังจะจบเรื่องนี้อย่างยุติธรรมที่สุด 30 ล้านก็ไม่จ่าย 50 ล้านก็ไม่จ่าย เท่าไหร่คุณก็ไม่จ่าย สุดท้ายคุณปิดบริษัทโดยไม่เชิญเราเข้าไปดูข้อมูลในบริษัทอีก มันยุติธรรมตรงไหนสำหรับเม

การที่คุณมานั่งตรงนี้ แสดงว่าคุณคุยกันไม่รู้เรือ่งแล้ว?

เม : คุยกันไม่รู้เรื่องแล้วจริงๆ ค่ะ ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไร สิ่งที่เมขอมันมากไปเหรอ หรือคุณเองไม่อยากจะจ่ายอะไรเลยให้กับหุ้นของเมจริงๆ เหรอ ธุรกิจนี้กำลังเติบโตด้วยซ้ำ คุณได้ทุกอย่างไป คุณได้ธุรกิจที่เติบโตไปมากๆ มันมีราคาที่ต้องจ่ายนะ เราเองทำธุรกิจไม่ได้มาเล่นขายของ วันที่เราก่อร่างสร้างตัวเติบโตมามากมาย วันที่ฉันดังที่สุด ฉันเอาแสงไปสาดคุณ กำไรรายได้ฉันหาร 4 ฉันไม่เคยบ่น มันเป็นธุรกิจที่เราเลือกที่จะมีพาร์ตเนอร์แล้วไง แต่พอวันนี้คุณดัง คุณรู้สึกว่าทำไมฉันต้องไปหารคนนี้ด้วย มันไม่มีประโยชน์แล้ว คุณอยากเก็บเอาไว้เองทั้งหมดเพราะคุณดังมากอย่างนั้นเหรอ อย่างนี้คุณก็ไม่ควรมีพาร์ตเนอร์ตั้งแต่ทีแรกหรือเปล่า

เป็นคำถามที่คุณเมถาม จริง ๆ จะไปเจอกันที่ไหนก็ได้ ทุกเวที จะได้มานั่งเห็นหน้าแล้วคุยกันว่าจะเอายังไง ตามสโลแกนที่คุณบอก ทองแท้ไม่กลัวไฟ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย เธอบอกว่ามาคุยกัน?

เม : เมคิดว่าเราทั้งสี่คนรู้ดีที่สุด เมก็ยังยืนยันว่าอยากคุย แต่คำว่าคุยของเม คือไม่ใช่ราคาที่กดเม ไม่ใช่ราคาที่ไม่ยุติธรรม ถ้าเป็นพี่พี่เลือกอะไรในเรื่องนี้ 30 ล้าน 50 ล้าน 100 ล้านคุณก็ไม่จ่าย แต่ตอนคุณไปเสนอขายที่อื่น คุณขายตั้ง 200-300 ล้าน ทำไมวันนี้ไม่ยอมจ่ายหุ้นของฉันแค่นี้เอง เมเอาคนกลางมาประเมินหุ้นเมเรียบร้อยแล้ว กับรายได้บริษัท

ประเมินแล้วได้เท่าไหร่?

แซค : ที่เอฟเอประเมิน 25 เปอร์เซ็นต์

600 ล้านคืออะไร?

เม : คนกลางประเมิน แต่หนูไม่ได้ขายราคานี้อยู่แล้ว (หัวเราะ) วันนี้ราคาที่เราให้ไป เราอยากจบ เราอยากกลับไปมีชีวิตของเรา เราไม่มีเวลามาเล่นซ่อนแอบกับคุณ เราเหนื่อยมากๆ ราคาที่เราอยากจบ มันยังถูก ยังน้อยกว่าราคาที่คุณไปเสนอขายคลินิกชื่อดังเสียด้วยซ้ำ 40 เปอร์เซ็นต์เกือบ 200 ล้าน หนูขอขอบคุณคุณหมอท่านนี้และคลินิกมากที่ทักมาหาหนู แล้วทำให้หนูได้รู้ข้อเท็จจริงหลายๆ อย่าง การที่คุณจะตราหน้าฉัน คุณแถลงการณ์อะไรออกมา คุณก็ต้องรู้ความจริงสิ ว่ามันคืออะไรที่คุณทำมา วันที่คุณเสนอขายเขา รายได้แค่ 15-20 ล้าน คุณยังเสนอขายเขา 40 เปอร์เซ็นต์ 200 ล้าน แต่วันนี้รายได้บริษัทเรา 40-50 ล้าน ไม่รวมสาขาใหม่ 100 ล้านของฉันคุณไม่จ่าย คุณบอกว่ามากไป คุณไม่มีเงินจ่าย  

แซค : ไทม์ไลน์จะมีก่อนเรากลับไปถือหุ้น มีดีลนักลงทุนคลินิกใหญ่ จะมาซื้อหุ้น 40 เปอร์เซ็นต์ สุดท้ายดีลนั้นล่ม พอเราเปิดตัวมีปัญหา ฝั่งคุณหมอท่านนึงก็ติดต่อมาหาเม เล่าให้ฟัง

เม : คุณหมอบอกว่าเราไปล่มดีลเขา แล้วเขาเสียหายมาก เพราะเขาใช้เวลาเกือบ 1 ปีในการทำการซื้อบริษัทเรา 40 เปอร์เซ็นต์ เมเพิ่งได้คุยกับคุณหมอท่านนี้ ก็ขอบคุณมากที่ทำให้เราได้ข้อมูลชุดนี้มา ตอนที่คุณไปขายเขา 40 เปอร์เซ็นต์ คุณขาย 180-200 ล้าน คุณต่อรองราคา จนมันจะเสร็จอยู่แล้ว สุดท้ายคุณไปล้มดีลเขา คุณไม่ยอมซื้อ 25 เปอร์เซ็นต์ ที่บริษัทเติบโตมันเพราะอะไร เมพร้อมมานั่งอีก พร้อมชี้แจงทุกรายการ เมมีแต่ไทม์ไลน์จริงทั้งหมด เมไม่ได้ประดิษฐ์หรือขยับไทม์ไลน์วันไหนเลย ฉะนั้นวันนี้ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งให้เราจริงๆ เมไม่รู้หรอกว่าสุดท้ายปลายทางเรื่องนี้จะจบตรงไหนในเรื่องกฎหมาย แต่ในทางข้อเท็จจริงวันนี้ เมก็มีเพียงเท่านี้ เอาเป็นว่าถ้าเรื่องนี้จะจบยังไง เดี๋ยวเมมาเล่าให้ฟัง แต่ว่าเมมีแค่เพียงสิ่งนี้จริงๆ ค่ะ

ทนายอยากพูดอะไร?

ทนายโรส : เราใช้สิทธิ์ทางกฎหมายมาโดยตลอด เราไม่ได้ทำอะไรโดยพลการ สิ่งที่คุณเมทำมีทนายความควบคุมตลอด ว่าต้องทำให้ถูกต้องนะ เราจะได้ไม่โดนอะไรผิดกฎหมายตีกลับ คุณเมก็ทำมาตลอด ตรงนี้ไม่น่าห่วง แต่ถ้าหลังจากนี้เขาไม่ยอมคุยดี ๆ ก็จะใช้กฎหมายเหมือนกัน คุณเมพร้อมไปทุกนัด ทุกรายการ

เม : หนูตอบได้หมดค่ะ

สบายใจหรือยัง?

เม : สบายใจ มือหายเย็นแล้วค่ะ

About Author