เกิดอะไรขึ้น!? ที่ “เนปาล” เมื่อ Gen Z ไม่อดทนต่อการ “คอร์รัปชัน”

สถานการณ์การประท้วงที่เนปาลกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีกลุ่มคนรุ่นใหม่และ Gen Z เป็นแกนนำหลัก ซึ่งสาเหตุที่ทำให้พวกเขาลุกฮือขึ้นมาประท้วงอย่างดุเดือดนั้นไม่ได้มีแค่เรื่องเดียว แต่เป็นความอัดอั้นที่สะสมมานานจากหลายปัจจัย ได้แก่
1. ชนวนเหตุ: การสั่งแบนโซเชียลมีเดีย
- รัฐบาลสั่งปิดกั้นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, X (Twitter) และ YouTube โดยอ้างว่าบริษัทเหล่านี้ไม่ได้มาลงทะเบียนและปฏิบัติตามกฎหมายของเนปาล
- คนรุ่นใหม่มองว่าเป็นการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก และเป็นความพยายามของรัฐบาลที่จะปิดปากผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐ
2. ปัญหาที่สั่งสมมานาน: ความไม่พอใจต่อระบบการเมืองและเศรษฐกิจ
- ปัญหาคอร์รัปชันอย่างรุนแรง: กลุ่มคนรุ่นใหม่รู้สึกเบื่อหน่ายกับการที่นักการเมืองและครอบครัวใช้ชีวิตอย่างหรูหราในขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องดิ้นรน
- ความเหลื่อมล้ำทางสังคม: โลกออนไลน์ได้เผยให้เห็นไลฟ์สไตล์ที่ฟุ่มเฟือยของลูกหลานนักการเมือง ซึ่งสร้างความไม่พอใจอย่างมากในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจและความยากจน
- อัตราการว่างงานสูง: แม้ว่าเนปาลจะประกาศเป็นสาธารณรัฐมาตั้งแต่ปี 2008 แต่ระบบการเมืองกลับล้มเหลวในการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับคนรุ่นใหม่ โดยมีอัตราการว่างงานในกลุ่มเยาวชนสูงถึงกว่า 20% ทำให้คนหนุ่มสาวจำนวนมากต้องเดินทางไปหางานทำในต่างประเทศ
- ความไม่มั่นคงทางการเมือง: การเปลี่ยนรัฐบาลบ่อยครั้ง (มากกว่า 10 คนใน 17 ปี) ทำให้ปัญหาต่างๆ ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง และอำนาจยังคงอยู่ในมือของคนกลุ่มเดิม
การประท้วงเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 8 กันยายน และถึงแม้รัฐบาลจะยอมยกเลิกคำสั่งแบนโซเชียลมีเดีย และนายกรัฐมนตรี เค พี ศรรมะ โอลี ได้ประกาศลาออก แต่สถานการณ์ก็ยังไม่สงบลง เนื่องจากผู้ประท้วงต้องการการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางการเมืองที่แท้จริง ไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น เหตุการณ์ดังกล่าวทวีความรุนแรงขึ้น มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก และอาคารรัฐบาล รวมถึงบ้านพักของนักการเมืองหลายคนถูกเผาทำลาย