“ตู่ นันทิดา” คัมแบ็ก “เพลง” เล่า “อนุทิน” ขับเครื่องบินพาเยี่ยมพ่อเอ๋–เผยเหตุผลเก็บร่าง 2 ปี

ตู่นันทิดาเพลง คุยแซ่บ ปก

ตู่ นันทิดา คัมแบ็กวงการบันเทิง เพลง ชนม์ทิดา เล่านาที นายกฯ อนุทิน ขับเครื่องบินพาไปหา พ่อเอ๋ ที่บุรีรัมย์ พร้อมเผยเหตุผลทำไมเก็บร่างคุณพ่อไว้นานกว่า 2 ปี

ออกมาเปิดใจที่แรก! สำหรับ ตู่ นันทิดา แก้วบัวสาย ที่ล่าสุดควงลูกสาวคนสวย เพลง ชนม์ทิดา อัศวเหม มาพูดถึงสาเหตุการจากไปของ เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ และตัดสินใจยังเก็บร่างไว้นานกว่า 2 ปี และตอนนี้กลับมาทำงานในวงการบันเทิงแล้ว หลังผันตัวไปรับใช้พี่น้องประชาชนในฐานะนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ โดยทั้งคู่จะมาเปิดใจทุกเรื่องราว ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne 31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา และ ดีเจพุฒ พุฒิชัย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

วันแม่ที่ผ่านมา น้องเพลง ได้รับรางวัลลูกกตัญญู?

ตู่ : ความรู้สึกของคุณพ่อคุณแม่ เราไม่ได้คาดหวัง แต่เราก็มีความหวัง เลี้ยงลูกก็ต้องได้ดี ให้ลูกชนะใจตัวเองในการทำความดีนั้นแล้ว พี่ถือว่านั่นคือสิ่งสมบูรณ์ในความเป็นแม่แล้ว เราหมดห่วงแล้ว เพราะลูกมีต้นทุนของความดี

จริง ๆ คนที่จะภูมิใจในตัวเองมาก ๆ ก็คือลูก?

เพลง : เพลงพูดเสมอว่ามีทุกวันนี้ได้เพราะคุณแม่ คุณแม่เป็นแบบอย่างให้กับเพลงด้วยการที่คุณแม่เป็นลูกกตัญญูด้วยเช่นกัน เพลงรู้สึกว่าทุกสิ่ง ทุกอย่าง มันเกิดจากที่เพลงได้เห็นคุณแม่ ว่าคุณแม่ปฏิบัติ และทำยังไง ไม่ได้ถูกสอนอย่างเดียว แต่คุณแม่เป็นตัวอย่างให้กับเพลง ดังนั้นทุกสิ่ง ทุกอย่างในวันนี้กลับไปหาคุณแม่กับคุณยาย

ทราบมาว่าตอนนี้ไม่ได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว ?

ตู่ : ใช่

เพราะอะไรทำไมถึงตัดสินใจยุติบทบาททางด้านการเมือง ?

ตู่ : ทำงานด้านนี้มันมีเทอม เทอมของพี่คือ 4 ปี ก็หมดเทอมพอดี เราเลยกลับมาทำหน้าที่ตรงนี้ งานร้องเพลงเป็นอะไรที่เราทำมาตลอดชีวิตอยู่แล้ว แต่การทำงานตรงนั้นมันก็มีความสุข ทำงานเต็มที่ในช่วงที่ทำงานตรงนั้นเช่นกัน

อันนี้คือครบเทอม ?

ตู่ : ก็ครบเทอม หมดวาระของเราแล้ว 4 ปี ทำตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย

มีเหตุการณ์แปลก ๆ หรือเหตุการณ์ตลกที่สามารถแชร์ได้ มีไหม?

ตู่ : ทักผิด ทักถูก สลับตำแหน่งให้ด้วย ก็เป็นที่ฮือฮาของชาวบ้านไป แต่ก็ให้อภัย ทุกคนน่ารักกับเรา

ตอนนี้กลับมารับคอนเสิร์ต  หรือรับงานในวงการหรือยัง?

ตู่ : หลายคนยังไม่ทราบ อยู่แล้ว กลับมาแล้ว

มี๋บอกว่าจะกลับมาร้องเพลง แต่น้องเพลงทำธุรกิจเกี่ยวกับเสื้อผ้า?

เพลง : เป็นเสื้อผ้ารักษ์โลก ตอนที่เริ่มต้นทำธุรกิจนี้ อยากทำอะไรที่มันสะท้อนความเป็นตัวเอง คือเราอยากจะทำอะไรให้กับสังคม หนีไม่พ้นในเรื่องของสิ่งแวดล้อม เพลงตระหนักถึงปัญหาของสิ่งแวดล้อมมาก ๆ ก็เลยเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ ที่คิดว่าตัวเองทำได้ เริ่มทำเสื้อผ้าที่ใช้วัตถุดิบที่ทำได้ในประเทศไทย เส้นใยธรรมชาติ ที่ไม่ใช้สารเคมีเลย เอาเสื้อผ้าเก่าฉีกเส้นใยแล้วทอขึ้นมาใหม่ โดยไม่ต้องฟอกย้อม คือทำเพื่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลดขยะที่จะไปอยู่ในกองขยะอีกที

อีกอันคือธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ ?

เพลง : มันเกิดจากความคิดถึงพ่อเอ๋ เป็นการดูแลรถแบบครบวงจร ตั้งแต่ขายไปจนถึงเซอร์วิส ทุกวันนี้จะเซ็นเตอร์ใหม่ คือจะทำเป็น car Hotel เพลงรู้ว่าพ่อรักรถแบบไหน ดูแลรถยังไง รู้สึกว่าทำยังไงดีคิดถึงพ่อมาก ก็เลยเอาคุณพ่อมาเป็นแรงบันดาลใจ แล้วทำธุรกิจนี้ขึ้นมา

แล้วงานในวงการบันเทิงล่ะ นี่มี๊เค้ากลับมารันวงการแล้วนะ?

เพลง : ละครเรื่องสุดท้ายคือเล่นกับ พี่พุฒ ประมาณ 7 ปีที่แล้ว จริง ๆ คิดถึงงานวงการบันเทิง ไม่ได้ปิดโอกาสตัวเอง ถ้ามีมีบทบาทที่เหมาะสม ก็มีแต่ความคิดถึง ยิ่งละครเวทีเป็นสิ่งที่ฝังลึกมาก ๆ ถ้าพูดก็คือรักที่สุด

ถ้าพูดถึงการร้องเพลง  ถ้าต้องร้องเพลงกับคุณแม่น้องเพลงคือเครียดมาก?

เพลง : ทำตัวไม่ถูก ด้วยความเป็นละครเวที เราหายใจเป็นตัวละคร เมื่อเราสวมบทเป็นตัวละครนั้น เราแทบละลายพฤติกรรมของตัวเอง แต่ถ้าเราไปร้องเพลง เราเป็นเพลงลูกแม่ตู่ มันจะมีความเกร็ง แต่ถ้าเป็นละครเวทีมันไม่ต้องคิด เพราะมันไม่ใช่เรา มันแค่นั้นเลย

ตู่ : อยากเห็นลูกอยู่บนเวที ร้องเพลงบ้าง ลูกทำให้แม่หน่อย

เห็นแบบนี้เคยตีลูกตั้งหนึ่งครั้ง  ตีเรื่องอะไร?

ตู่ : พูดจาไม่สมควรจะพูด

เพลง : สมัยก่อนตอนประถม มันยังไม่มีบัตร เค้าใช้เป็นชิป แล้วเพลงทำชิปที่มีมูลค่าเยอะหาย ก็เลยเอาสองคำนั้นมารวมกัน ก็เลยกลายเป็น ชิป หาย มันคือหายไป คือแม่ชิปมันหายไป แต่เราพูดว่า ชิป หาย โดนเลย ซึ่งเพลงไม่เคยโดนแม่ตี 

เหตุการณ์นี้จบยังไง ?

ตู่ : กอด ซึ่งเขาไม่เคยโดนตี ก็บอกเค้าว่าซอรี่ลูก

ความสะอาดของพี่ตู่เกือบทำให้เสียชีวิต  เพราะไปดื่มน้ำยารีดผ้า?

ตู่ : ชอบตรวจความสะอาดตอนดึก ๆ ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่คนสงบนิ่งและนอนกันหมดแล้ว วันนั้นเลยไปเปิดดูชั้นวางของ ที่มันเก็บของต่าง ๆ ซึ่งมันจะมีขวดที่พี่ทานน้ำมองเฟอร์ ซึ่งชั้นตรงนั้นเค้าก็จะชอบวางน้ำ ซึ่งเราก็คิดว่าทำไมทานแล้วไม่เก็บเข้าที่ เราก็เอาออกมาจะทิ้งโมโห แต่แม่บ้านหลับไปแล้ว ก็เลยเอาไปวางไว้ที่อ่างล้างจาน แล้วมานั่งดูข่าว ก็หยิบมาเพราะลืมไปแล้วว่าจะทิ้ง ก็กินเข้าไปมันกินไปแล้วรู้เลยว่ารสมันไม่ใช่ สิ่งแรกเลยคือวิ่งไปที่ห้องน้องเพลง

เพลง : คือไม่มาเคาะประตูเสร็จแล้วทำหน้าแบบเหมือนคนทำอะไรผิด แล้วบอกว่าแม่ดื่มน้ำยารีดผ้า แล้วถือขวดขึ้นมา อารมณ์แบบไม่กล้าบอก เพลงก็เลยถามว่าแล้วแม่ไปทำอะไรในตู้ในเวลานั้น

น้องเพลงบอกเสมอว่าคุณแม่คุยได้ทุกเรื่อง  ไม่มีความลับกันเลย?

เพลง : เป็นความโชคดีของเพลง ที่เพลงมีคุณแม่ที่สามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องสุข เรื่องทุกข์ และทุกอย่างที่ปรึกษา คือเป็นผู้ฟัง เพลงจะพูดกับคุณแม่เลย วันนี้เพลงมาเล่าให้แม่ฟัง เพลงไม่ได้อยากได้คำแนะนำอะไร เพลงอยากให้แม่ฟังความรู้สึก หรือบางวันเราอยากจะขอคำแนะนำ เพลงมีตรงนี้ ที่เป็นที่สบายใจ คุยกับคุณแม่ได้ทุกเรื่อง โดยที่คุณแม่จะไม่ตัดสินเรา ว่าอันนี้ได้ อันนี้ไม่ได้ คือสามารถให้เราได้คิดและปรึกษาคุณแม่ได้

ส่วนใหญ่คนจะชอบคิดลูกสาวชอบคุยกับคุณแม่ แต่จริง ๆ น้องเพลงก็คุย ปรึกษากับคุณพ่อ?

เพลง : มันเป็นการคุยปรึกษาในทุกเรื่อง ที่คิดว่าคุณพ่อน่าจะให้ข้อคิดในเรื่องเหล่านั้นกับเราได้

มันต่างกันไหมเวลาเราไปปรึกษา ?

เพลง : คุณพ่อจะสั้นกว่า แต่คุณแม่จะปล่อยต่อได้เป็นชั่วโมง แต่ว่าก็ปรึกษาได้

ลูกสาวสวยขนาดนี้ ห่วงลูกขนาดไหน?

ตู่ : เพลง 15 เอ๋ ไม่อยากให้ลูกแต่งงาน พอ 18 แม่ เพลงมัน 18 แล้ว พอ 19-20 เอ๋ไม่ให้ลูกแต่งงานนะ ซีเรียส  เอ้าาา..ห้ามได้ยังไงอะพ่อ

หวงแบบไหน มีคนมาจีบได้ไหม?

เพลง : ประเภทที่ว่าบอกลูกไม่ต้องแต่งงาน เดี๋ยวพ่อเลี้ยงเอง

พ่อเอ๋ หลับไป 2 ปีกว่า สภาพจิตใจตอนนี้เป็นยังไงกันบ้าง?

ตู่ : ยังคิดถึง คิดถึงมากขึ้น มากขึ้น มาก ๆ ตอนนั้นมันช็อค ตอนนั้นเรายังไม่รู้คำตอบว่าคุณพ่อหลับไปแล้ว นั่งเครื่องบินไปหาที่บุรีรัมย์

เพลง : มันเป็นความรู้สึกตอนที่เพลงได้รับสายโทรศัพท์ บอกว่าคุณพ่อ ฮีทสโตรก ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลแล้ว อันนั้นคือข้อมูลที่เพลงได้รับ เพลงก็คิดในหัวว่าก็แค่เป็นลม เราไม่ได้คิดว่ามันร้ายแรงถึงขนาดนั้น แล้วเพลงก็เลยโทรกลับไปใหม่ คือยังไงนะ แต่ในขณะเดียวกัน เพลงเพิ่งคุยกับคุณพ่อ ประมาณ 20 นาทีถึงครึ่งชั่วโมง ก็พ่อเพิ่งพิมพ์มาเมื่อกี้แล้วจะบอกว่าตอนนี้ปั๊มหัวใจคุณพ่ออยู่ แปลว่าอะไร  ไทม์ไลน์มันแบบเพิ่งชั่วโมงที่แล้วพ่อเพิ่งพิมพ์มา เพลงเพิ่งพิมพ์ตอบคุณพ่อ แล้วมันคืออะไร

เราย้อนเหตุการณ์นี้ให้ฟังหน่อย?

เพลง : พ่อไปซ้อมขับรถ ในวันที่คุณพ่ออยากไปขับรถเล่นในสนาม เพราะอีก 1-2 อาทิตย์จะมีการแข่งขัน ในวันนั้นคุณพ่อพูดกับทีมว่า จะไปขับรถแป๊บเดียว ไม่ต้องใส่คลูสูท คือชุดที่ใส่ข้างในชุดแข่งรถ ที่จะมีน้ำวิ่ง เพื่อระบายความร้อนในร่างกาย คุณพ่อบอกผมลง 2-3 รอบเอง เพื่อไปเทสต์รถที่จูนเครื่องมา เดี๋ยวผมก็ออกมาแล้ว เพลงว่าอุณหภูมิที่คุณพ่ออยู่มันคงจะร้อนมาก ๆ คุณพ่อไม่ได้สลบในรถ แต่คุณพ่อบอกผมเริ่มมองไม่เห็น ผมรู้สึกไม่ค่อยโอเคแล้ว คุณพ่อถึงออกมาจากรถแล้วเดินออกไปห้องพัก แล้วจะไปโรงพยาบาลด้วยซ้ำ แต่ช่วงที่กำลังจะไปมันหมดสติ

แล้วพอได้รับโทรศัพท์เราทำยังไง?

เพลง : เพลงโชคดีคุณพ่อหนู เป๊กเอง บินพาเพลงไปเลย การเดินทางครั้งนั้นต่อให้เราไปเร็วที่สุด เพราะคุณพ่อหนูขับเครื่องบินไปให้เพลงเองเลย เพื่อไปหาพ่อเอ๋ให้เร็วที่สุด แต่การเดินทางครั้งนั้นเป็นการเดินทางที่รู้สึกว่าไกลที่สุด คือทราบปุ๊บ รถมารอข้างล่างไปสนามบิน ต่อรถ ไปให้ถึงเร็วที่สุด มันเป็นการเดินทางที่ไกลที่สุด แล้วเพลงนั่งหลับตาตั้งแต่ออกมาจากบ้าน เพราะภาวนาตลอดทางว่ารอเพลงก่อน

คืนก่อนเกิดเหตุคุณพ่อก็ยังคุยกับน้องเพลงอยู่?

เพลง : ใช่ เช้าวันนั้นที่เพลงไปยื่นเอกสารเกี่ยวกับงาน บอกพ่อว่าเรียบร้อยแล้วนะ แล้วคุณพ่อก็พิมพ์มาบอกเพลงว่า แมสเสจสุดท้ายคือ เพลงกับคุณแม่คือความภาคภูมิใจของพ่อ นั่นคือคำสุดท้ายที่คุณพ่อพูดไว้กับเพลงกับคุณแม่ เพลงพิมพ์ตอบคุณพ่อแต่คุณพ่อไม่ได้อ่านเพราะกำลังลงไปขับรถ คือมันแป๊บเดียวก่อนคุณพ่อขับรถจริง ๆ ทุกครั้งที่เพลงท้อ เพลงก็จะย้อนกลับไปดูคำพูดสุดท้ายของพ่อ วันนี้เราเดินไปโดยไม่มีคุณพ่อ เค้ามองจากฟ้า เค้าก็ต้องภูมิใจ

วันที่ไปเจอคุณพ่อเราพูดอะไรกับคุณพ่อบ้าง?

เพลง : เพลงพูดกับคุณพ่อว่า ไม่ต้องรีบ ถ้าร่างกายพอไหว พ่อค่อย ๆ กลับมา เพราะมอนิเตอร์มันยังมีชีพจรที่มันยังขึ้น-ลง เราก็แค่เพ่งอยู่กับมอนิเตอร์นั้นรอปาฏิหาริย์ ตอนนั้นเพลงเชื่อใน energy และพลังงาน ขอแค่ได้พูดกับพ่อ แต่ถ้าพ่อไม่กลับมา แล้วเราได้มีเวลาช่วงสุดท้าย มีช่วงที่เราต้องถอดเครื่องปั๊มออก มันเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุด เราต้องเป็นคนเซ็นว่าเราจะปล่อยเครื่องนั้น มันต้องเป็นเพลง เพราะเพลงเป็นลูก ได้แต่พูดกับพ่อว่า พ่อไม่ต้องห่วง พี่จะทำทุกอย่างที่พ่อทำให้ดีที่สุดเท่าที่เพลงจะทำได้ แล้วเพลงก็เอามือพ่อไว้ที่ศีรษะ เหมือนพ่อจะให้สติปัญญา และพ่อจะอยู่กับเพลงตรงนี้ นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่เพลงพูดกับคุณพ่อ

วันที่รับคุณพ่อมากรุงเทพฯ น้องเพลงบอกว่าเข้าใจคำว่าช็อกจนมือไม้สั่น?

เพลง : วันนั้นหลังจากกลับจากโรงพยาบาล เพลงตัวสั่น มันไม่ได้หนาวแต่ทำไมเป็นแบบนี้ มันสั่นมันเหมือนตกใจสุดขีด เพิ่งเข้าใจคำว่าช็อก กรามก็คือเกร็ง เพลงไม่รู้ว่าเพลงเป็นอะไร ตื่นมาตอนเช้าก็สั่น จนพาคุณพ่อกลับบ้าน

พี่ตู่เป็นยังไงบ้างตอนนั้น?

ตู่ : จำวันนั้นได้เลย เพลงก็ประคองแม่ ต่างคนต่างประคองกัน

คุณพ่อจากไป 2 ปี 5 เดือนแล้ว ทางครอบครัวตัดสินใจเก็บร่างของพ่อเอ๋ยังนอนหลับอยู่ที่บ้าน?

เพลง : อันนี้เป็นความเชื่อ ใช้วิจารณญาณของแต่ละท่าน มันเป็นแค่ความเชื่อสำหรับเพลง อย่างที่เพลงบอกว่าคุณพ่อคือแหล่งรวมความรักและทุกอย่างของเราในบ้าน ณ วันนี้ เพลงเชื่อว่าถ้าคุณพ่อเป็นดวงจิต ถ้าคุณพ่อจะไปคุณพ่อไปได้ทุกที่ หรือแม้แต่จะไปอยู่ในภพภูมิที่ดีขึ้น หรือจะไปเกิดใหม่ ร่างที่นอนอยู่ เป็นร่างให้หัวใจของเพลงตรงนี้ เพราะฉะนั้นถ้าในวันนี้เรายังดูแลร่างของคุณพ่อได้ อย่างที่บอกบางทีการดูแลร่าง ก็ต้องนอนอยู่ในอุณหภูมิที่ควบคุม ไม่เช่นนั้นร่างกายก็จะสลายตามสภาพ หลายท่านอาจจะดูแลไม่ได้เพราะไม่มีเวลา และไม่มีคนที่จะช่วยดูแลตรงนั้น แต่เพลงทำได้ ครอบครัวของเราดูแลคุณพ่อได้ แล้วมันไม่ได้ยากเกินไปสำหรับเรา ถ้าเพลงท้อในวันนี้ เพลงก็ยังอยากได้พลังจากคุณพ่อ ว่าเพลงควรตัดสินใจยังไง เพลงควรเดินหน้ายังไงต่อ เป็นกำลังใจให้กับเพลงเท่านั้นเอง ไม่ใช่ว่ายึดติด ไม่ปล่อยคุณพ่อไปนะคะ แค่อยากจะขอเวลาสักนิดนึง เราก็มีกันอยู่แค่นี้ ถ้าสิ่งนี้มันทำให้เรามีพลังกาย พลังใจ ให้เรามาชาร์จแบตได้ มีพลังในการเดินต่อ มันไม่มีผิด ไม่มีถูก ที่จะให้คนที่เรารักยังอยู่ตรงนี้ พร้อมเมื่อไหร่ วันไหน ที่มันถึงวาระและเวลา เพลงเชื่อว่าการตัดสินใจนั้นจะเกิดขึ้นเอง เรายึดติดกับอะไรตลอดไปไม่ได้หรอก แต่ว่าอย่างน้อยที่สุดสำหรับเราไม่ใช่วันนี้

ความเชื่อของคนไทยถ้าไม่ฌาปนกิจวิญญาณก็จะไม่ไปในที่ที่ควรจะไป พี่ตู่บอกว่ายังไง?

ตู่ : เช่นเดียวกันค่ะ เอาที่ความรู้สึกของเรา มันไม่ใช่คิดถึงอย่างเดียวนะ เป็นความเชื่อมั่นของเรา เป็นความรักที่มันรวมกันตรงนี้ มันก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับพวกเราในตอนนี้ไม่ใช่หรอ มีกำลังใจตรงนี้คอยซัพพอร์ต เราเคยถามเกจิอาจารย์เหมือนกัน ท่านบอกไม่เป็นไรเลยโยม น้องชายของอาตมาเอง เก็บไว้ 12 ปีแล้ว โยมแม่ไม่พร้อม

เพลง : เวลาทุกคนคิดถึงมาก ๆ เพื่อน ๆ ก็จะโทรมา ขอเข้าไปหาคุณพ่อ ไปนั่งเล่าเรื่องวันวาน กลายเป็นเพื่อนคุณพ่อมาคุยกับเราว่าตอนเด็ก ๆ ว่าคุณพ่อแสบยังไง มันเป็นความทรงจำ เพลงบอกว่าเรามีสิทธิ์ที่จะนึกยิ้ม นึกเสียใจ ร้องไห้และหัวเราะกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เห็นต้องรีบทำใจ ค่อย ๆ ทำใจยอมรับกับสิ่งนี้ว่ามันไม่มีอีกแล้ว 

พี่ตู่มีอะไรอยากจะบอกพี่เอ๋ไหม?

ตู่ : ขอบคุณที่รักแม่ตู่ มากกว่าคำว่าเพื่อนยูเป็นทุกอย่างให้พี่ตู่จริง ๆ แล้วก็ขอบคุณที่รักลูกสาวคนนี้ ทำหน้าที่พ่อได้สมบูรณ์แล้ว

น้องเพลงมีอะไรอยากจะบอกคุณพ่อ?

เพลง : เพลงรักคุณพ่อมาก เพลงจะพูดกับคุณแม่เสมอว่าพ่อเอ๋ไม่ได้ไปไหน เพราะว่าหัวใจที่เต้นอยู่ตรงนี้ ก็คือหัวใจของพ่อเอ๋เหมือนกัน ครึ่งหนึ่งของเพลงก็คือคุณพ่อ ถ้าคิดถึงพ่อก็กอดเพลงแล้วกัน เพลงจะบอกพ่อว่า ถึงแม้พ่อจะหลับไป แต่พ่อก็อยู่ใกล้ชิดเพลง ไม่ว่าเพลงจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร พ่อก็จะอยู่กับเพลงเสมอ ทุกที่

น้องเป็นห่วงคุณแม่มาก เพราะเฉียดความเป็นความตาย มาถึง 3 ครั้ง?

ตู่ : ตอนนั้นทำงานเยอะ เราก็คิดว่าเป็นลำไส้ พอไปตรวจก็ไม่มีอะไร ปรากฏว่าเป็นเนื้องอก ต้องผ่าตัดเอาออก วันที่ 10 ธันวาคม แล้วมีงานวันที่ 24 25 ธันวาคม ก็ถามคุณหมอว่า ถ้าผ่าตัดโอเคไหม คุณหมอบอกว่าสบายมาก ร้องเพลงได้ อยู่โรงบาลประมาณสามวัน  แล้วก็มีงานปีใหม่ ขอจอกกิ้ง พี่ก็จอกกิ้งวันนั้นต้องสแตนด์บายตอนสี่ทุ่ม เพราะเที่ยงคืนต้องเค้าดาว มันดันมาหมดเลย แผลปริ เลือดไหลออกมาหมดเลย ก็เปิดห้องโรงพยาบาลที่นั่น หมอบอกว่าคงไม่ต้องวางยาสลบ เพราะมันคงไม่ทันกับเวลาที่พี่ตู่ไปร้องเพลง

หมายความว่าจะทำแผลแล้วกลับไปร้องเพลง?

ตู่ : ใช่ วันนั้นก็ไปร้องเพลงแต่มีหมออยู่หลังเวที 

เสี่ยงเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต?

ตู่ : มันเป็นรอบกาล่าของละครเวที คือนักแสดงที่เล่นด้วยกันชนที่หน้า เราได้ยินเสียงก๊อก แล้วมันชาทั้งตัว ขามันเดินไม่ได้ แต่อีก 5 นาทีซีนนี้จะจบ ก็บอกตัวละครที่อยู่ข้าง ๆ ว่าเอาไปหน้าเวทีที

เพลง : เพลงเห็นทุกอย่างเพราะเพลงนั่งอยู่แถว 4 ทุกวันนี้ยังจำได้ แล้วเพลงก็หันไปสะกิดพี่ชายว่า แม่โดนชน ตู่ : ก็เข้าโรงพยาบาล มันคือกระดูกคอร้าวแล้วไปทับเส้นประสาท วันนั้นมันยังไม่เป็นอะไร พอไปได้ หมอกายภาพทุกวัน ละครเวทีมันมี 50 กว่ารอบ พี่เล่นไป 41 รอบ เล่นเสร็จไปนอนโรงพยาบาล พี่บอยมาขอที่โรงพยาบาล ขอให้หยุดเถอะ หมอบอกว่าพี่โชคดีมากนะที่ไม่เป็นอัมพฤกษ์

ผ่าตัดเรียบร้อยส่งผลถึงการใช้ชีวิตในวันนี้ไหม?

ตู่ : มันจะมีเหล็กอยู่ด้านหน้ากระเดือก ช่วงนั้นที่เราต้องกลับไปทำงานร้องเพลง เราต้องทำความเข้าใจกับร่างกายว่าฉันแหงนคอสูงไม่ได้ แล้วก้มเวลาที่คนอยากจะมอบของให้เรา เราก้มไม่ได้นะ สระผมในร้านทำผมไม่ได้ ต้องนั่งสระผมอย่างเดียว เพราะมันยังไม่ประสานกัน ต้องใช้เวลาสามปี แต่ล้มอีกไม่ได้แล้ว ครั้งที่3 ไม่มีถุงน้ำดี ก็ไปร้องเพลง ทำไมท้องอืด พอไปหาหมอ หมอบอกไม่น่ามีอะไร ลองเช็คอีกทีเพราะมันปวดมาก ปวดจนตัวเขียว คือปวดมาเป็นปีแต่ไม่รู้ ค่อย ๆ ท้องอืด เป็นแล้วกินยาหาย จนวันนั้นมันซีเรียส การปวดตรงนั้นมันทำให้เราเสียชีวิตได้ มันช็อคไปเลย อันนั้นนับหนึ่งถึงสามยังไม่ได้เลย เวลาคุณจะไปเป็นอย่างนี้นี่เอง

พี่ตู่อยากจะบอกอะไรน้องเพลง?

ตู่ : อยากบอกลูกว่าแม่ขอนอนกับลูกบ้างได้ไหม บางทีอยากนอนซุกเค้าบ้าง แต่ลูกก็ต้องมีความเป็นส่วนตัวของลูก เค้าน่ารักแต่แม่ไม่กล้ากวนใจลูกเท่านั้นเอง ลูกงานเยอะ

ลูกบอกคุณแม่บ้าง?

เพลง : เพลงบอกรักทุกวันอยู่แล้ว เพลงอยากให้หม่ามี้รักคนอื่นแล้วรักตัวเองด้วย แม่รักเพลงรักคุณยายมาก แต่แม่อยากลืมดูแลตัวเอง แม่เอาพวกเราขึ้นหน้าเสมอ แม่ห่วงคุณยาย ห่วงเพลง แต่แม่ลืมห่วงตัวเอง ลืมดูแลร่างกายตัวเอง หัวใจตัวเอง เราอยู่เพื่อซัพพอร์ตกันและกัน แม่ก็ต้องรักตัวเองด้วยถ้าแม่รักเพลงกับยาย

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow วันและเวลาใหม่ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.30-12.30 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์

About Author