“เอเจ-เจเจ” ถ่ายทอดบทดราม่า “โศกาภิวัฒน์” ตรงชีวิตจริง

ฝาแฝด “เอเจ – เจเจ” ยอมจำนน “โศกาภิวัฒน์” เหมือนถูกจัดสรรมาแล้ว ดึงภาพจำวัยเด็กรับบทพิการ “ลิ้นขาด – ขาขาด” ตรงกับชีวิตจริงที่เคยเจอ
นอกจากนอกจอจะเป็นฝาแฝด พอได้มาแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกด้วยกันใน “โศกาภิวัฒน์” ภาพยนตร์แนวระทึกขวัญหนีตาย (Survival Horror) ที่จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ วันที่ 21 สิงหาคมนี้ พี่น้องฝาแฝด “เอเจ – ชยกร จุฑามาศ” และ “เจเจ – ชยพล จุฑามาศ” ก็ดั๊นนน มารับบทฝาแฝดกันอีก แต่ครั้งนี้สองพี่น้องบอกว่ายอมเลย เพราะบทบาทแฝดที่ได้รับ ต้องเผชิญกับเจอแม่สุดโหด ที่ในชีวิตจริงไม่เคยพบเจอมาก่อนเพราะพวกเขาโดนบทลงโทษแสนสาหัสด้วยการตัดลิ้น และตัดขา จนต้องกลายเป็นคนพิการ เพียงเพราะฝ่าฝืนกฎเหล็กของบ้านที่แม่วางไว้

ซึ่ง “เอเจ – ชยกร” ขอเล่าก่อนว่า… “ในเรื่องผมเล่นเป็นแฝดคนพี่ชื่อว่า “เนรมิต” ครับ คนนี้เขาพิการแบบไม่มีลิ้น พูดได้ แต่ค่อนข้างลำบาก เพราะไม่ใช่ว่าไม่มีมาตั้งแต่เกิด แต่เป็นเพราะถูกแม่ทำโทษด้วยการตัดลิ้น ซึ่งตัวเนรมิตเองก็เป็นชอบพูด เพราะตอนที่เขาถูกทำโทษคือตอนโตแล้ว เรื่องภาษามือก็เลยจะใช้ไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่ ตรงนี้มันเลยเป็นความลำบากที่เราต้องทำการบ้านอย่างหนักเลยครับ และยากสำหรับพี่น้องคนอื่นในเรื่องด้วย ที่ต้องคอยเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจว่าผมพูดอะไร เบื้องหลังกองถ่ายผมเลยต้องรับหน้าที่เอ็นเตอร์เทน ช่วยเล่นมุกคลายเครียดให้กับพี่น้องคนอื่น ๆ ในเรื่องบ้างครับ”

ทางด้าน “เจเจ – ชยพล” ที่เป็นฝาแฝดคนน้อง ที่เกิดห่างกัน 4 นาที แฝดทั้งนอกจอ และในจอ ก็มาเล่าถึงบทบาทที่แสนหนักหนาสาหัสในเรื่องนี้ว่า… “ผมชื่อ “นเรศวร” ครับ เรื่องนี้ก็พิการเหมือนกับ “เนรมิต” บทที่ “เอเจ” เล่นเลย แต่ต่างกันตรงที่ผมขาขาด เหลือขาแค่ข้างเดียว เลยต้องใช้ไม้เท้าเพื่อช่วยพยุงตัวในการเดิน

ซึ่ง “เอเจ” ย้ำเพิ่มเติมว่า… “ซึ่งตอนที่พวกผมไปแคส “พี่แบงค์ – ณัฐชัย จิระอานนท์” ผู้กำกับฯ ให้เราสองคนลองเล่นให้ดูก่อนครับ ยังไม่ได้เลือกว่าจะให้ใครเล่นเป็นตัวละครตัวไหน แต่สุดท้ายก็มาลงเอยที่บท“เนรมิต” คนที่พูดไม่ชัดเพราะลิ้นขาด ส่วน เจเจ ก็เป็นบทของ “นเรศวร” คนที่ขาขาด ซึ่งผมว่ามันเป็นเรื่องตลกมากเลย ผมสองคนไม่เคยบอกทีมงานเลยนะว่า ตอนเด็ก ๆ ที่บ้านของพวกผมยังทำไม่เสร็จ ผมเคยขี่จักรยานเล่นแล้วเบรกไม่อยู่ เลยพุ่งไปชนกับเสาที่มีเหล็กโผล่ออกมา ทำให้ปากฉีกพูดไม่ชัดเหมือนกับ เนรมิต ในเรื่องนี่แหละ ส่วน เจเจ ก็เคยผ่าตัดขา เพราะโดนกระจกบาด ต้องใส่เฝือกใช้ไม้เท้าพยุงเดินเหมือนกับ นเรศวร เลย เราสองคนเลยดึงเอาภาพจำจากประสบการณ์ในวัยเด็กตรงนั้นมา แต่บทนี้ของพวกเราก็ยากอยู่ดีครับ เพราะหนังแนวนี้การแสดงค่อนข้างลึก ต่อให้เล่นแบบปกติไม่ต้องเป็นคนพิการก็ยากอยู่แล้ว ยิ่งต้องเล่นเป็นคนที่ไม่สมบูรณ์ทางร่างกายแบบนี้ มันเลยยิ่งท้าทาย แต่พอทำได้เราก็ภูมิใจมากนะครับ แปลกดีเหมือนกัน หนังเรื่องนี้เหมือนพวกเราถูกคัดสรรมาแล้ว เหมือนว่าโลกเหวี่ยงพวกเรามาเจอกัน และให้ได้รับบท ๆ นี้
ในส่วนที่ยากก็อย่างที่บอกคือการทำการบ้านหนัก ทั้งเรื่องของอารมณ์ความกลัว ต้องไปหาหนังแนวนี้มาศึกษาเยอะมาก ต้องรู้ให้ได้ว่าตัวละครรู้สึกยังไง สายตา ท่าทางจะต้องสื่อออกไปยังไง เข้าฉากแต่ละครั้ง ทุกคนจะเหนื่อยกันมาก ต้องแต่งเอฟเฟคกันเป็นชั่วโมง ๆ ทุกวัน ไม่ได้เรียงลำดับตามเหตุการณ์และเนื้อเรื่องอย่างที่เห็น วันนี้ถ่ายอารมณ์แบบนึง พรุ่งนี้ต้องเล่นอารมณ์อีกแบบนึง มันมีความเครียด และความกดดันสูงมาก เกี่ยวกับเรื่องของแม่และครอบครัว การลงโทษของแม่ในเรื่องนี้น่ากลัวจริง ๆ และด้วยคาแรคเตอร์ของพี่ “คลาวเดีย” ก็มีความน่ากลัวอยู่แล้ว เขาส่งอารมณ์ถึงทุกฉาก ที่น่าห่วงมากกว่าคือพวกเรา นี่แหละ ที่ก่อนเข้าซีนต้องบิ้วท์อารมณ์
ดังนั้นก็อยู่ที่เราแล้วว่าจะจัดการกับสภาวะอารมณ์ของตัวเองยังไง กดดันตัวเองจนรู้สึกเครียด พอต้องเข้าซีนเจอกับมวลบรรยากาศ แสง สี เลือดที่กระจายเต็มไปหมด มันทำให้เกิดความรู้สึกกลัวจริง แม่แบบนี้คือคนเป็นโรคจิตแล้ว แล้วเราจะเข้าใจเขาได้ไหม เขาไม่ปกติ แต่เราก็ทำใจไม่ได้นะที่จะอยู่แบบนี้ ไม่อย่างงั้นต้องตายกันหมดแน่ มันเลยทำให้เข้าใจว่าทำไมพวกเขาต้องหนีครับ ก็อยากให้ทุกคนไปดูนะครับ และเป็นกำลังใจให้พวกเราสองคนด้วย มันไม่ใช่สิ่งเดิม ๆ ที่ทุกคนเคยเห็นเลย ผมคิดว่าถ้าพวกเราทำตรงนี้ได้ และคนดูเชื่อว่าเราคือตัวละคร 2 ตัวนี้จริง ๆ ผมว่าบทบาทไหนก็เล่นได้แล้วครับ (หัวเราะ) ก็ถือเป็นโอกาสใหม่ ๆ ให้คนดูได้ดูพวกเราด้วยครับ ตอนนี้พวกเราภูมิใจในตัวเองกันมากเลย ขอบคุณครับ”
“โศกาภิวัฒน์” นำแสดงโดย คลาวเดีย จักรพันธุ์ ณ อยุธยา, ก้าวหน้า – กิตติภัทร, ทูเจ – ชลัช, เอเจ ชยกร, เจเจ – ชยพล, แปลน – ธนวัฒน์, ตัส – ทศวรรษ, บอส – ธนบัตร, ภูมิ – ธาวิน และ รัก – สุลักษณ์ กำกับการแสดงโดย ณัฐชัย จิระอานนท์ เดินเข้าบ้าน “โศกาภิวัฒน์” หาคำตอบไปพร้อมกัน วันที่ 21 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์