กินกระเจี๊ยบเขียวทุกวัน ดีจริงหรือเสี่ยงแฝง?

กระเจ๊ยบ

กระเจี๊ยบเขียว (Okra) เป็นผักที่คนไทยคุ้นเคย กินได้ทั้งแบบต้ม แกง หรือนำไปทำอาหารอื่น ๆ มีทั้งข้อดีและข้อควรระวัง

ประโยชน์ของกระเจี๊ยบเขียว

  1. ไฟเบอร์สูง – ช่วยระบบขับถ่าย ป้องกันท้องผูก และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  2. ลดคอเลสเตอรอล – เมือกลื่นในฝักช่วยดักจับไขมันและคอเลสเตอรอล
  3. บำรุงหัวใจ – มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ฟลาโวนอยด์ และโพลีฟีนอล ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
  4. ควบคุมน้ำหนัก – แคลอรีต่ำ อิ่มนาน เหมาะกับคนควบคุมอาหาร
  5. วิตามินและแร่ธาตุ – อุดมด้วยวิตามินซี วิตามินเค กรดโฟลิก และแมกนีเซียม ดีต่อภูมิคุ้มกันและกระดูก
  6. ช่วยควบคุมน้ำตาล – เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน (แต่ไม่ควรใช้แทนยาหลัก)

ข้อควรระวัง/ข้อเสีย

  1. อาจทำให้ท้องอืด/ท้องเสีย – ไฟเบอร์สูง ถ้ากินมากเกินไปอาจทำให้แน่นท้อง
  2. มีสารออกซาเลต – ผู้ที่เป็นนิ่วในไตควรเลี่ยงการกินมากเกินไป เพราะอาจเพิ่มการเกิดนิ่ว
  3. ผลต่อยาบางชนิด – เมือกของกระเจี๊ยบอาจรบกวนการดูดซึมยา เช่น เมตฟอร์มิน (ยาลดน้ำตาล) ควรเว้นระยะห่างเวลาในการทาน
  4. ผู้ที่แพ้พืชตระกูลชบา (Malvaceae) – เช่น กระเจี๊ยบแดง หรือฝ้าย อาจมีอาการแพ้ได้

สรุป: กระเจี๊ยบเขียวเป็นผักที่มีประโยชน์มาก แต่ควรกินในปริมาณที่พอดี โดยเฉพาะคนที่มีโรคนิ่วในไตหรือกินยาลดน้ำตาล ควรปรึกษาแพทย์ก่อน

About Author