แนวโน้มการรับสมัครงานในยุคดิจิทัล ที่ผู้สมัครควรรู้

“คุณมั่นใจหรือไม่ว่าประวัติการทำงานของคุณ ‘พร้อม’ สำหรับสายตาของ AI ที่คัดกรองเรซูเม่ก่อนถึงมือ HR?” หลายคนอาจสงสัยว่า AI เกี่ยวข้องกับการคัดกรองเรซูเม่จริงหรือ? ในยุคดิจิทัลที่เข้ามามีบทบาทในทุกภาคส่วน ทั้งเศรษฐกิจ ธุรกิจ แรงงาน การศึกษา คมนาคม และสาธารณสุข จึงไม่แปลกที่ AI จะกลายเป็น ด่านแรกในการคัดกรองเรซูเม่ของคุณ แล้วจะทำอย่างไรให้ Resume หรือ CV ของคุณโดดเด่นพอผ่าน ATS (Applicant Tracking System) ที่อ่านเรซูเม่แทนมนุษย์ หรือแม้แต่ สัมภาษณ์ออนไลน์ที่วิเคราะห์น้ำเสียงและภาษากาย นี่คือแนวโน้มที่กำลังเปลี่ยนกติกาตลาดแรงงาน ผู้สมัครยุคใหม่ต้องรู้และปรับตัวให้ทัน เพื่อไม่พลาดโอกาสงานที่ใช่
💻สมัครงานยุคใหม่ถ้าคุณไม่อยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ = หายไปจากตลาดงาน?

ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันว่า แพลตฟอร์มออนไลน์จำเป็นต่อการสมัครงานมากแค่ไหน?
โควิด-19 ทำให้โลกเรียนรู้ว่าถึงเวลาเปลี่ยนจาก เผชิญหน้ากันในห้องประชุม เป็น เชื่อมต่อผ่านโลกดิจิทัล หมดยุคเดินหางานหรือสอบถามตามหน้าร้าน เพราะวันนี้ แพลตฟอร์มออนไลน์ช่วยให้ใบสมัครของคุณคลิกเดียวถึงมือ HR ทั่วประเทศ
จากสถิติการใช้งานแพลตฟอร์มหางานออนไลน์ของไทย พบว่า 98.55% ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการหางาน พบว่า 64.27% ใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน เทียบกับ 35.73% ผ่านเดสก์ท็อป (Positioning Magazine)
จากข้อมูลของ LinkedIn พบว่า 75% ของผู้หางาน ใช้ LinkedIn ในการค้นหางาน และ 72–87% ของฝ่ายสรรหา ใช้ LinkedIn ในการค้นหาหรือประเมินผู้สมัคร โดยระบุว่า มีการส่งใบสมัครงานผ่านแพลตฟอร์มมากกว่า 9,000 ครั้งต่อ 1 นาที หรือราว 12 ล้านครั้งต่อวันมีผู้ค้นหางานบน LinkedIn มากกว่า 65 ล้านคนต่อสัปดาห์และมีผู้ถูกจ้างงานผ่าน LinkedIn มากกว่า 3 ล้านคนต่อปี
จากข้อมูลข้างต้นสามารถสรุปได้ว่าคนเกือบทั้งหมดใช้แพลตฟอร์มหางานออนไลน์เพื่อเริ่มค้นหางาน แพลตฟอร์มรับสมัครงานยอดนิยมอย่าง Thaijob มีผู้ใช้งานจำนวนมาก หากคุณไม่ปรากฏบนแพลตฟอร์ม คุณอาจไม่ได้มีโอกาสเข้าสู่ระบบการคัดเลือกงานหรือเห็นโอกาสงานที่เปิดรับเลย
👀 HR อาจไม่เห็นคุณ: เมื่อระบบคัดกรองดิจิทัลตัดสินอนาคตงาน
ภาพรวมธุรกิจทั่วไประบุว่า 75% ของฝ่ายสรรหาบุคลากร ใช้ระบบ ATS หรือเทคโนโลยีช่วยในการคัดกรองผู้สมัคร แบ่งเป็น 70% ของบริษัทใหญ่ และ 20% ของธุรกิจขนาดกลาง–เล็ก (SelectSoftware Reviews)
นอกจากนี้ผลด้านประสิทธิภาพพบว่า 86–94% ของผู้ใช้งาน (HR) ระบุว่า ATS นำไปสู่กระบวนการสรรหาที่ดีขึ้น, เร็วขึ้น และมีคุณภาพขึ้น (Oorwin)
70% ของเรซูเม่ที่ไม่ตรงกับเกณฑ์ ATS ถูกลบทิ้งทันที และ 88% ของนายจ้างเชื่อว่าเสียโอกาสผู้สมัครคุณภาพเพราะไม่ปรับเรซูเม่ให้ ATS อ่านได้
1. ATS จะสแกนคีย์เวิร์ดจากเรซูเม่ 🔍

- ATS (Applicant Tracking System) เป็นระบบอัตโนมัติที่บริษัทส่วนใหญ่ใช้คัดกรองเรซูเม่ก่อนถึงมือ HR
- ระบบจะ สแกนคีย์เวิร์ดและคุณสมบัติเช่น ชื่อทักษะ (Skills), ประสบการณ์งาน, วุฒิการศึกษา และตำแหน่งที่เคยทำ
- สถิติสำคัญ: Harvard Business School พบว่า 88% ของนายจ้างกล่าวว่าระบบคัดกรองจะกรองผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมออกไปหากไม่ตรงกับคำอธิบายในประกาศรับสมัครงาน
- ข้อแนะนำ: การปรับเรซูเม่ให้มีคำสำคัญตรงกับตำแหน่งงานที่สมัครเป็นสิ่งจำเป็น หากไม่ปรับ = ไม่มีโอกาสเข้าสู่ขั้นต่อไป
2. HR ตรวจโซเชียลมีเดียเพื่อดูบุคลิกและความเหมาะสม 🕵️♀️
- หลังจาก ATS เลือกใบสมัครที่ตรงเกณฑ์ HR จะเข้าไปตรวจ โซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, TikTok เพื่อประเมินบุคลิก ความน่าเชื่อถือ และความเหมาะสมกับองค์กร
- สถิติสำคัญ: 70% ของฝ่ายสรรหาใช้โซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินผู้สมัคร (careerbuilder)
- ข้อสังเกต: ภาพลักษณ์ออนไลน์ที่ไม่เหมาะสม เช่น คอนเทนต์ไม่เหมาะสม หรือโปรไฟล์ไม่สมบูรณ์ อาจทำให้ถูกคัดออก แม้ว่าคุณสมบัติในเรซูเม่ตรงตามเกณฑ์
3. โปรไฟล์ออนไลน์ = “เรซูเม่เสริม” 📄
- โปรไฟล์ออนไลน์ในการรับสมัครงาน เช่น Thaijob Profile หรือ LinkedIn ทำหน้าที่เป็น เรซูเม่เสริม ที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้ HR เห็นคุณ
- สถิติสำคัญ: ผู้ที่มีโปรไฟล์ LinkedIn สมบูรณ์และมีเครือข่ายกว้าง มักได้รับคำเชิญสัมภาษณ์มากกว่า 71% (LinkedIn)
- Thaijob ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงเรซูเม่ผู้สมัครได้มากกว่า 1.7 ล้านรายการ และสามารถค้นหาผู้สมัครตามทักษะและตำแหน่งงาน ช่วยให้ผู้สมัครงานมีโอกาสถูกพบและติดต่อได้เร็วขึ้น (Thaijob Rate Card)
- ข้อแนะนำ: ควรสร้างโปรไฟล์ให้ครบทั้งประวัติการทำงาน, ทักษะ, และตัวอย่างผลงาน รวมถึงปรับให้เหมาะกับคีย์เวิร์ดที่ ATS จะสแกน
🌟ยุคดิจิทัลต้องรอด: ทำไมทักษะดิจิทัลถึงเป็นตั๋วทองของผู้สมัคร
ทักษะดิจิทัลไม่ได้เป็นเพียงทางเลือก แต่กลายเป็น ทักษะพื้นฐานที่จำเป็น ของผู้สมัคร ความสามารถเหล่านี้เปรียบเสมือน “ตั๋วทอง” ที่ช่วยให้ผู้สมัครโดดเด่นเหนือคู่แข่งและเพิ่มโอกาสในการถูกเรียกสัมภาษณ์หรือได้รับข้อเสนอการทำงาน

- ทักษะการใช้เครื่องมือสำนักงานและการสื่อสารออนไลน์🖥️💬
ข้อมูลจากProject.coรายงานว่า 56% ของบริษัท ใช้แพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันออนไลน์ (Slack, Trello, Notion) และโซเชียลมีเดียในการสื่อสารกับพนักงาน เช่น การประชุมออนไลน์ผ่าน Zoom, Microsoft Teams และ Google Meet
67% ของบริษัท ได้นำเครื่องมือสื่อสารใหม่ๆ มาใช้ในปีนี้ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการสื่อสารภายในองค์กร ดังนั้นการมีทักษะการใช้โปรแกรมพื้นฐาน อย่าง Microsoft Office (Word, Excel, PowerPoint) หรือ Google Workspace จึงเป็นสิ่งสำคัญในการรับสมัครงาน
- ทักษะด้านการตลาดดิจิทัล📊
WordStream รายงานว่า 72% ของงบประมาณการตลาด ถูกจัดสรรให้กับช่องทางการตลาดดิจิทัล เช่น โซเชียลมีเดีย อีเมล และการโฆษณาออนไลน์
เพราะฉะนั้นการจัดการโซเชียลมีเดีย อย่าง Facebook, Instagram, Thaijob, LinkedIn และ TikTok จึงเป็นหนึ่งใน Skill สำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งาน
SEO และ SEM: ปัจจัยสำคัญในการเพิ่มการมองเห็นของแบรนด์🔍
91% ของนักการตลาด รายงานว่า SEO ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์และช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางการตลาดในปี 2024 (SeoProfy)
Google ประมวลผลการค้นหามากกว่า 8.5 พันล้านครั้ง ต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับ 6.3 ล้านครั้ง ต่อวัน และ 81% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ใช้เครื่องมือค้นหาเพื่อหาข้อมูล ซึ่งสูงกว่าการช็อปปิ้งออนไลน์ที่ 74% (Smart Insights)
การสร้างและวางกลยุทธ์เนื้อหา: การดึงดูดและรักษาลูกค้า✍️
92% ของแบรนด์ วางแผนที่จะเพิ่มการลงทุนในผู้สร้างเนื้อหาในปี 2024 (Digital Silk) และ 62.8% ของนักการตลาดเนื้อหา รายงานว่าเห็นการเติบโตของการเข้าชมเว็บไซต์ระหว่างปี 2024 และ 2025 (Siege Media)
- ความสามารถในการใช้เครื่องมือ AI 🤖✨
74% ของพนักงานเต็มเวลา รายงานว่าใช้เครื่องมือ AI อย่าง ChatGPT และ Gemini ในการทำงานประจำวัน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม IT, การออกแบบ และการตลาด (Lifewire)และ 65% ของผู้ใช้ AI ยอมรับว่าเครื่องมือเหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
อย่างไรก็ตาม เพียง 33% ของผู้ใช้ ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการใช้ AI อย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจส่งผลต่อความสามารถในการใช้เครื่องมืออย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ National University ยังรายงานอีกว่า 77% ของบริษัท กำลังใช้หรือสำรวจการใช้ AI ในธุรกิจของตน โดยมี 83% ของบริษัท ที่ระบุว่า AI เป็นหนึ่งในลำดับความสำคัญสูงสุดในแผนธุรกิจของพวกเขาและ 78% ขององค์กร ใช้ AI ในฟังก์ชันธุรกิจอย่างน้อยหนึ่งอย่าง เพิ่มขึ้นจาก 72% ในต้นปี 2024 (McKinsey & Company)
💡 Lifelong Learning: กุญแจทองสู่ความสำเร็จในยุคที่เปลี่ยนแปลงเร็ว
รายงาน Future of Jobs Report 2025 จาก World Economic Forum ระบุว่าในปี 2025 มี 50% ของแรงงานทั่วโลก ที่ได้เข้ารับการฝึกอบรมผ่านโครงการพัฒนาเรียนรู้ต่าง ๆ (learning and development) เพิ่มจาก 41% ในปี 2023
แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มองค์กรเริ่มมองเห็นคุณค่าในการพัฒนาทักษะแรงงานอย่างต่อเนื่อง (World Economic Forum) LinkedIn เผยว่า 94% ของแรงงานในปี 2025 ยังขาดทักษะที่จำเป็น สำหรับทำงานได้เต็มประสิทธิภาพภายในปี 2030 นอกจากนี้ 74% ของคนทำงานต้องการพัฒนาทักษะ (upskill) เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดแรงงาน (Intuition) Nikhil Kamath ผู้ร่วมก่อตั้ง Zerodha กล่าวอ้างข้อมูลจาก WEF โดยระบุว่า ภายในปี 2030 จะมีตำแหน่งงานหายไป 92 ล้านตำแหน่งแต่จะเกิดงานใหม่ขึ้น 170 ล้านตำแหน่ง
ผู้ที่ไม่ได้เรียนรู้ต่อเนื่องจะเสี่ยงตกงาน เพราะตลาดแรงงานจะเน้น “ทักษะที่สามารถพัฒนาต่อเนื่อง” มากกว่าความสำเร็จในอดีต (The Times of India)
🎬คลิกเดียวคว้างาน: พิชิตด้วย Online Interview & Video Resume

การรับสมัครงานให้ได้งาน ไม่จำเป็นต้องยื่นแค่ Resume เสมอไป อีกหนึ่งไอเท็ม (ไม่ลับ) ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ได้งาน นั่นก็คือ Online Interview & Video Resume
หลังยุคโควิด-19 องค์กรจำนวนมากยังคงใช้ Video Interview 🎥 แทนการนัดพบตัวจริงเพื่อลดเวลาและค่าใช้จ่าย บริษัทมักขอให้ส่ง วิดีโอแนะนำตัว (Self-introduction Video) ก่อน เพื่อดูบุคลิก ความมั่นใจ และทักษะการสื่อสาร
ข้อมูลจาก Truffle รายงานว่า 81% ของผู้สรรหางาน ใช้วิดีโอสัมภาษณ์เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจ้างงานในปี 2025 และ 93% ขององค์กรที่ใช้การสัมภาษณ์ออนไลน์ มีแผนจะใช้ต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ 69% ของนายจ้าง บูรณาการการสัมภาษณ์ออนไลน์เข้าไว้ในกระบวนการสรรหาอย่างเป็นระบบ
79% ของผู้สรรหางาน เห็นว่า วิดีโอมีบทบาทสำคัญมากขึ้น ในการคัดกรองผู้สมัคร และ 61% ของผู้หางาน (โดยเฉพาะ Gen Z) เชื่อว่า วิดีโอสามารถแทนที่จดหมายแนะนำตัว (cover letter) ได้ (Resume Maker)
รูปแบบ Online Interview & Video Resume ที่พบมากในปี 2025:
- Live Video Interview – สัมภาษณ์แบบเรียลไทม์ผ่าน Zoom, Microsoft Teams, หรือ Google Meet
- Pre-recorded Video – ผู้สมัครอัดคลิปตอบคำถามที่กำหนดไว้ภายในเวลาจำกัด
- Video Pitch / Self-introduction – วิดีโอสั้น 1–2 นาที แนะนำตัวและเล่าจุดเด่นของตน
✨เทคนิคที่จะช่วยเตรียมตัวให้โดดเด่น:
การเซ็ต ฉากแสงและเสียง ให้ชัดเจน ใช้ไฟส่องหน้าและไมโครโฟนคุณภาพ แต่งกายสุภาพแม้สัมภาษณ์จากบ้าน ซ้อมพูดและจับเวลา ให้คำตอบกระชับ 1–2 นาที ตั้งชื่อไฟล์และอัปโหลดอย่างถูกต้อง เพื่อสร้าง First Impression เชิงบวก ทำให้ HR จดจำได้ง่ายกว่าแค่
การอ่านเรซูเม่และสะท้อนความพร้อมใช้เทคโนโลยีและการปรับตัวในยุคดิจิทัล
ในยุคดิจิทัล การสมัครงานไม่ได้จำกัดอยู่แค่การส่งเรซูเม่อีกต่อไป ผู้สมัครต้องพร้อมปรับตัวให้เข้ากับ เทคโนโลยีการสรรหาใหม่ๆ ตั้งแต่ ATS, การสัมภาษณ์ออนไลน์, วิดีโอแนะนำตัว ไปจนถึงการสร้างโปรไฟล์ออนไลน์ที่โดดเด่น การพัฒนาทักษะดิจิทัลและการเรียนรู้ตลอดชีวิตกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ผู้สมัคร อยู่รอดและโดดเด่นในตลาดงาน ผู้ที่เตรียมตัวและปรับตัวได้เร็วจะเป็นผู้ที่คว้าโอกาสงานที่ใช่ได้ก่อนใคร