น้ำล้นตลิ่งหลายจุด! กรมชลฯ เร่งระบายน้ำ-ส่งทีมช่วยเหลือประชาชนเต็มกำลัง

วันที่ 29 ก.ค.568 ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักหลายสายเพิ่มสูงขึ้นจนเอ่อล้นตลิ่ง โดยเฉพาะในลุ่มน้ำโขงเหนือ ลุ่มน้ำน่าน ลุ่มน้ำยม และลุ่มน้ำเจ้าพระยา รวมทั้งสิ้น 6 สถานีที่พบภาวะน้ำล้นตลิ่ง
ลุ่มน้ำโขงเหนือ ที่สถานี I.14 บ้านน้ำอิง อำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย ระดับน้ำอยู่ที่ 8.70 เมตร สูงกว่าตลิ่ง 1.90 เมตร โดยมีแนวโน้มทรงตัว
ลุ่มน้ำน่าน ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสถานี N.1 หน้า สำนักงานป่าไม้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน วัดระดับได้ 7.62 เมตร สูงกว่าตลิ่ง 0.62 เมตร และสถานี N.13A บ้านบุญนาค อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน วัดได้ 9.97 เมตร สูงกว่าตลิ่งถึง 3.47 เมตร


ลุ่มน้ำยม ที่สถานี Y.1C บ้านน้ำโค้ง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ระดับน้ำอยู่ที่ 8.49 เมตร สูงกว่าตลิ่ง 0.29 เมตร มีแนวโน้มลดลง ส่วนที่สถานี Y.16 บางระกำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ระดับน้ำอยู่ที่ 7.33 เมตร สูงกว่าตลิ่งเล็กน้อยที่ 0.03 เมตร และแนวโน้มทรงตัว
ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่สถานี C.67 บริเวณสะพานหัวเวียง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบระดับน้ำที่ 3.20 เมตร สูงกว่าตลิ่ง 0.45 เมตร โดยที่สถานี C.2 จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,367 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ยังคงควบคุมการระบายอยู่ที่ 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที


ทั้งนี้ กรมชลประทาน ยังคงเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำสำคัญอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในภาคเหนือ ได้แก่ ลุ่มน้ำโขงเหนือ ปิง วัง ยม และน่าน, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ ชี และมูล รวมถึงภาคกลางที่มีลุ่มน้ำเจ้าพระยาเป็นสายหลัก พร้อมกันนี้ได้เร่งระดมเครื่องจักรกล อุปกรณ์ และเจ้าหน้าที่ในสังกัดเข้าพื้นที่เพื่อสนับสนุนการระบายน้ำและให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเร่งฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ สามารถติดต่อโครงการชลประทานในพื้นที่ใกล้บ้าน หรือสายด่วนกรมชลประทาน โทร. 1460 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง