ห่วงใย!! กรมชลฯ เปิดโรงครัว-ที่พักพิง ช่วยชาวศรีสะเกษหนีภัยปะทะชายแดน

จากสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชายังคงตึงเครียด หลังเกิดการปะทะกันหลายระลอกระหว่างกำลังทหารทั้งสองฝ่าย ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน จึงได้เร่งอพยพประชาชนออกจากเขตอันตรายนั้น

ล่าสุด วันที่ 25 ก.ค.68 นายจำรัส สวนจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานศรีสะเกษ เปิดเผยว่า โครงการชลประทานศรีสะเกษ ได้รับมอบหมายจาก นายสุริยพล นุชอนงค์ อธิบดีกรมชลประทาน จัดตั้งโรงครัวและที่พักพิงชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา


โดยกรมชลประทานได้เปิดอาคารเรือนรับรอง ของโครงการชลประทานศรีสะเกษ ซึ่งสามารถรองรับผู้พักได้ ประมาณ 50 คน เพื่อเป็นที่พักพิงชั่วคราวให้กับประชาชนในพื้นที่
ข้อมูลจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ (ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 18.30 น.) ระบุว่า มีประชาชนอพยพเข้าศูนย์พักพิงแล้วกว่า 12,871 คน ส่วนใหญ่มาจากพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ ซึ่งอยู่ติดชายแดนไทย-กัมพูชา


ในวันเดียวกันนี้ กรมชลประทาน ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดตั้งโรงครัวภายในโครงการชลประทานศรีสะเกษ เพื่อจัดเตรียมอาหารปรุงสุก น้ำดื่ม อาหารกระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยากันยุง และยาสามัญประจำบ้าน รวมทั้งสิ้น 500 ชุด เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ 5 จุดสำคัญ ได้แก่
- 1. วัดบ้านโคก (ตำบลตระกาจ)
- 2. วิทยาลัยเทคนิคกันทรลักษ์ (ตำบลจานใหญ่)
- 3. วัดบ้านโพนทอง (ตำบลจานใหญ่)
- 4. ศาลาวัดบ้านไพรงาม (ตำบลภูเงิน)
- 5. ศาลาวัดบ้านภูเงิน (ตำบลภูเงิน)
โดยจะมีการปรุงอาหารสดและมอบน้ำดื่ม วันละ 500 ชุด อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย


ในส่วนของ อ่างเก็บน้ำขนาดกลางบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 12 แห่ง จากทั้งหมด 16 แห่ง ขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะแต่อย่างใด โครงการชลประทานศรีสะเกษจะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยของตัวเขื่อนและประชาชนในพื้นที่ต่อไป