“นิ้ง โศภิดา” เคลียร์ดราม่า! ปมลูก-สามีจมน้ำ

3 (2)

กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากบนโลกโซเชียล สำหรับกรณีของ “นิ้ง” โศภิดา กาญจนรินทร์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 ที่ได้เปิดเผยเรื่องราวชวนคิดผ่านรายการ WOODY FM เกี่ยวกับคำถามที่เคยมีคนถามเธอว่า

“ถ้าลูกกับสามีจมน้ำพร้อมกัน แล้วคุณสามารถช่วยได้เพียงคนเดียว คุณจะเลือกใคร?”

โดย นิ้ง ได้ตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า

“เลือกช่วยสามี เพราะสามีคือคู่ชีวิตที่ต้องอยู่ดูแลกันไปจนแก่เฒ่า”

คำตอบนี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการถกเถียงบนโซเชียลอย่างกว้างขวาง

ล่าสุด เจ้าตัว โพสต์ชี้แจงประเด็นดังกล่าว ผ่านเฟซบุ๊ก Sophida Jiratritarn โดยระบุว่า..

ขอบคุณพี่วู้ดดี้ที่ให้โอกาสพวกเรามาแชร์และแบ่งปันชีวิตคู่

เราได้มีการทำ counseling ก่อนแต่งงาน และ วางแผนการใช้ชีวิตคู่ ในรายการได้มีการยกตัวอย่างคำถาม ซึ่งเป็นเรื่องของ priority การจัดลำดับความสำคัญของชีวิตคู่

เนื่องจากเราทั้งคู่เป็นคริสเตียน และ การสร้างชีวิตคู่นั้น สำคัญมาก เพราะชีวิตคู่ไม่ควรที่จะจบด้วยการหย่าร้าง

ในตอนวันแต่งงาน ข้อคัมภีร์ที่ใช้วันนั้นนิ้งจำขึ้นใจ

ปฐมกาล 2:24 “เพราะเหตุนั้นผู้ชายจึงจากบิดามารดาของตน ไปผูกพันอยู่กับภรรยา และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้อ เดียวกัน”

เมื่อเราตัดสินใจที่จะแต่งงานกันแล้วในฐานะคริสเตียน สามีภรรยาเป็น หนึ่งเดียวกัน ดังนั้นการจัดลำดับความสำคัญก็สำคัญ ในคำถามที่ต้องเลือก ทำไมนิ้งเลือกสามี เป็นคำถามเชิงจิตวิทยา ที่ตอนนั้น นิ้งคิดถึงความสำคัญของชีวิตคู่ ถ้าเราให้ฐานะพ่อแม่ ดูแลซึ่งกันและกัน แสดงความรักที่มีต่อหน้าลูก ใส่ใจสามีในวันที่สุขและทุกข์ และ เป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น จะสร้างfoundation (รากฐาน) ที่มั่นคงให้กับลูกในด้านอารมณ์ ความรัก และ self esteem และที่บอกว่าเพราะสามีจะอยู่ด้วยกันยามแก่ ในความคิดของนิ้งเมื่อลูกโตไปเค้าต้องมีชีวิต และ สร้างครอบครัว แต่เราเลือกสามีคนนี้คือคู่ชีวิตและ คู่พระพร ไม่ว่า วัน เวลา อนาคตจะเป็นอย่างไรแต่สัญญาที่ให้ไว้ในวันแต่งงาน คือ จะรักจนกว่าพระเยซูจะรับเราไป

สำหรับคนที่ไม่ได้รู้จักครอบครังนิ้ง ตีความไปต่างๆมากมาย ชีวิตคู่ของนิ้งคือ ทำงานด้วยกันทุกวัน จนวันที่มีลูกเรา2 คนตกลง เลี้ยงลูกกันเอง ลงเรียน Montessori การเลี้ยงลูก และ ช่วยกันดูแล พัฒนาการของลูกทุกย่างก้าวไปด้วยกัน เราเลือกที่จะใช้“เวลา“ ให้กับลูกไปด้วยกัน แต่ในความรักก็ไม่ได้มีความperfect ไปทุกเรื่อง แต่มันคือความเข้าใจ การสื่อสาร และ ให้อภัย และ จับมือกันด้วยกันฝ่าฝันอุปสรรคมากมาย ในหมวกเจ้าของธุรกิจ หมวกภรรยา และ หมวกแม่ของลูก ดังนั้นอย่าตัดสินคนแค่คำพูดสั้น ๆ มองที่การกระทำระยะยาว ชีวิตและประสบการณ์ที่แต่ล่ะคนเจอนั้นไม่เหมือนกัน

About Author