ทำความรู้จัก ยาอัลปราโซแลม “ยาเสียหนุ่ม เสียสาว”

จากกรณีนายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายวิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองประธานคณะทำงานปราบปรามยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจค้นภายในอาคารที่พักข้าราชการตำรวจแห่งหนึ่ง ย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพฯ หลังพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยา “อัลปราโซแลม” หรือยานอนหลับที่รู้จักกันในชื่อยาเสียสาว
ทั้งนี้แนวทางการสืบสวนสอบสวนพบว่า พ.ต.อ.พญ.อัญชุลี เพ็ชรรัตน์ หรือหมอแอร์ หมอคนดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ ได้สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 จำนวน 15 ล้านบาท ต่อมาทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงมีการพูดคุยกับทางตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยาพบเงินหมุนเวียนสูงถึง 80 ล้านบาท โดยแพทย์หญิงคนดังกล่าวเป็นคนสั่งซื้อและจ่ายเงินเพียงคนเดียว
สำหรับยาอัลปราโซแลม ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ถ้าใช้ไปในทางที่ผิด เช่น นำไปใช้เป็นยานอนหลับอย่างแรงเพื่อล่วงละเมิดทางเพศ หรือนำไปผสมในสารเสพติด แต่ในทางการแพทย์ การใช้ยาในทางที่ถูกต้องก็มีประโยชน์ ยาชนิดนี้แพทย์จะนำมาใช้เพื่อการรักษาโดยมีข้อบ่งชี้หลายอย่าง ยาอัลปราโซแลมมีชื่อทางการค้าหลายชื่อเช่น “ซาแน็กซ์โซแลม” ในทางการแพทย์ใช้ยาอัลปราโซแลมเพื่อบรรเทาหรือรักษาอาการวิตกกังวลและอาการตื่นตระหนก หรือใช้เป็นยานอนหลับในกรณีที่จำเป็นที่มีประสิทธิภาพดีในทางรักษา
โดยยาอัลปราโซแลมที่แพทย์ใช้มีอยู่ 3 ขนาด คือ 0.25 มิลลิกรัม 0.5 มิลิกรัม และขนาด 1 มิลลิกรัม โดยมีรูปร่างเม็ดรี สีที่เฉพาะตามขนาด คือสีขาว สีชมพู และสีม่วง แพทย์จะพิจารณาเลือกขนาดยาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยเป็นรายๆไป ยานี้ออกฤทธิ์เร็วหลังจากรับประทานไปประมาณ 20 นาที ดาบย่อมมีสองคมเช่นเดียวกันกับยาอัลปราโซแลมพบว่า ผู้ที่ใช้ยาอาจมีอาการหลงลืม โดยจะจำเหตุการณ์ต่างๆไม่ได้หลังจากที่รับประทานยาไป ทำให้เป็นที่มาในการใช้ยานี้เพื่อล่วงละเมิดทางเพศ เพราะเหยื่อจะจำเหตุการณ์ไม่ได้ แต่ฤทธิ์ของยาจะคงอยู่ไม่เกิน 1 วัน และถ้าดื่มน้ำมากๆ ยาจะถูกขับออกมาทางปัสสาวะจนหมด นอกจากนี้การใช้ยาติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดการติดยาได้ทั้งร่างกายและจิตใจ และหากหยุดยากระทันหันจะเกิดอาการขาดยา มีอาการคลื่นไส้ นอนไม่หลับ หัวใจเต้นเร็ว กระสับกระส่าย ซึมเศร้า เป็นโรคจิต หรืออาจถึงกับชักได้
ที่น่าเป็นห่วงคือ หากต้องรับประทานร่วมกับยาตัวอื่น เช่น ยากดหรือกระตุ้นประสาท ต้องปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะมียาหลายชนิดที่มีปฏิกิริยาต่อระดับอัลปราโซแลมในกระแสเลือดจนทำให้เกิดอันตรายอย่างรุนแรงได้ และหากรับประทานยาพร้อมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาจะออกฤทธิ์ทำให้กดประสาทมากขึ้นและอาจกดการหายใจ ส่งผลให้หยุดหายใจได้
ปัจจุบัน มีการควบคุมการใช้ยาอัลปราโซแลมอย่างเข้มงวด ทั้งนี้เพื่อป้องกันการใช้ยาในทางที่ผิด ซึ่งหากอยู่ในมือของแพทย์ก็จะเป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อชีวิตมนุษย์ แต่หากอยู่ในมือของผู้ที่แสวงหาประโยชน์จากผู้อื่นในทางมิชอบ จะกลายเป็นอันตรายต่อชีวิตได้เช่นกัน เนื่องจากยาอัลปราโซแลม เป็นสารประกอบที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า ถ้านำไปผสมในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะทำให้ผู้ที่ดื่มมีอาการง่วงซึม มึนงง สูญเสียการทรงตัวและสูญเสียความทรงจำ ดังนั้นการดื่มเครื่องดื่มต้องระมัดระวังกันมากขึ้น
การป้องกันและหลีกเลี่ยง
- 1.การป้องกันทำได้ยาก เพราะเราจะสังเกตยากว่ามีส่วนผสมของยาหรือไม่ในเครื่องดื่ม
- 2.ไม่ไปสถานบันเทิงคนเดียว ควรมีเพื่อนที่ไว้ใจได้ไปด้วย
- 3.ดื่มแอลกอฮอล์ให้พอดี เพื่อให้มีสติ ไม่เกิดอาการมึนเมา
- 4.ไม่รับเครื่องดื่มจากคนที่เราไม่รู้จัก
- 5.ไม่ดื่มเครื่องดื่มอย่างรวดเร็ว หากเราดื่มทีละน้อยจะสังเกตตัวเองได้ว่าเกิดอะไรผิดปกติหรือไม่
- 6.ไม่ดื่มเครื่องดื่มแก้วเดียวกันกับผู้อื่น
- 7.ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่อยู่ในภาชนะที่มีปากกว้าง เพราะภาชนะแบบนี้สามารถใส่ส่วนผสมเช่น ยาอันตราย ลงไป ได้ง่าย
- 8.ไม่ควรละสายตาจากเครื่องดื่มของตัวเอง
-ขอขอบคุณข้อมูล ผศ.นพ.สุวิทย์ เจริญศักดิ์ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ Faculty of Medicine Siriraj Hospital คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล