ไขปริศนา “แมวสามสี” ความลับที่ถูกซุกซ่อนมานาน!

ทีมนักวิจัยจากญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ร่วมกันคลี่ความลับอันซับซ้อนของสีขน “แมวสามสี” ที่เก็บซ่อนมายาวนานกว่า 120 ปี ด้วยการระบุยีน ARHGAP36 บนโครโมโซม X ว่า เป็นกุญแจสำคัญของสีขนแมว Calico ที่มีทั้งดำ ขาว และส้ม และยังอธิบายได้ว่าทำไมแมวเหล่านี้เกือบทั้งหมดจึงเป็นเพศเมีย
“ศาสตราจารย์ ฮิโรยูกิ ซาซากิ” จากสถาบันวิจัยชั้นสูง มหาวิทยาลัยคิวชู ประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สหรัฐอเมริกา ได้วิเคราะห์ยีนของแมวสามสี และแมวประเภทอื่นๆ จนสามารถระบุยีน ARHGAP36 ที่อยู่บนโครโมโซม X ว่าเป็นตัวควบคุมสำคัญของสีขนดำและส้ม
ทีมวิจัยพบว่า เมื่อยีน ARHGAP36 มี “ส่วนขาดหายไป” จะทำให้เซลล์สร้างเม็ดสี (Melanocytes) ผลิตสีขนอ่อนลงจากดำเป็นส้ม หากแมวยังมียีนที่ควบคุมขนสีขาวอยู่ด้วย ก็จะเกิดลายปื้นผสมของดำ-ขาว-ส้มตามแบบฉบับแมวสามสี
การค้นพบนี้ยังไขความลับที่เคยเป็นข้อสงสัยในวงการวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่ 120 ปีก่อนว่า เหตุใดแมวสามสีจึงแทบจะเป็นเพศเมียทั้งหมด คำตอบอยู่ที่โครโมโซม X — เพศเมียมี XX ทำให้สามารถแสดงสีขนจากทั้งยีนปกติและกลายพันธุ์ได้ ในขณะที่แมวเพศผู้มีแค่โครโมโซม X เดียว (XY) หากมีการกลายพันธุ์ จะเห็นสีส้มเพียงสีเดียว
ทีมนักวิจัยทุกคนเป็น “ทาสแมว” ที่ให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพสัตว์อย่างมาก โดยเก็บตัวอย่างจากโรงพยาบาลสัตว์โดยไม่ทำอันตรายต่อแมว และโครงการนี้ยังระดมทุนผ่าน Crowdfunding ได้มากกว่า 10 ล้านเยน (ราว 68,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเดิมถึงสองเท่า
ผลการวิจัยตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ Current Biology โดย ศ.ซาซากิ ยังตั้งเป้าศึกษาต่อในประเด็นที่ว่าลักษณะขน อาจมีความสัมพันธ์กับ บุคลิกภาพของแมว รวมถึงผลต่อ การทำงานของสมอง ซึ่งเป็นที่มาของมุกในหมู่คนรักแมวว่า “แมวส้มทั่วโลกใช้เซลล์สมองร่วมกันแค่เซลล์เดียว”
นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาต่อยอดว่ายีน ARHGAP36 นี้อาจเกี่ยวข้องกับสุขภาพแมวด้านอื่น รวมถึงในมนุษย์ด้วย เช่น ความเสี่ยงต่อ ผมร่วงและมะเร็งผิวหนัง
การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่ไขความลับของแมวสามสี แต่ยังเปิดประตูสู่ความเข้าใจใหม่ในด้านพันธุศาสตร์ สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนหันมาสนใจอาชีพนักวิจัยมากยิ่งขึ้น