คำต่อคำ “ดิว อริสรา vs เมย์ วาสนา” ปมยืมของ 62 ล้าน ร่ำไห้สาบานไม่ตั้งใจโกง

คำต่อคำ “ดิว อริสรา vs เมย์ วาสนา” ปมยืมของ 62 ล้าน ร่ำไห้สาบานไม่ตั้งใจโกง อย่าไปลงที่ลูก ขาลงที่สุดในชีวิตแล้ว

กรณีดราม่าที่เกิดขึ้นระหว่าง “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” และ “เมย์ วาสนา อินทะแสง” นักธุรกิจชื่อดัง ปมเมย์ให้ดิวยืมของรัก มูลค่า 62 ล้าน เพื่อไปแก้ไขปัญหาชีวิตส่วนตัว แต่ดิวกลับไม่คืนตามกำหนดเวลา มีการยืดระยะเวลาออกไปให้ก็แล้ว ทุกอย่างก็ยังเงียบ จนเป็นที่มา เมย์ วาสนา โพสต์ตามหาของรักผ่านโซเชียล กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์สนั่นโซเชียล

 รายการ โหนกระแส วันที่19 มี.ค.68 ดำเนินรายการแทน “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 สัมภาษณ์ เมย์ วาสนา มาพร้อม ทนายตั้ม เกรียงไกร อินทจันทร์ และ อรรถชัย แจ้งอรุณ ที่ปรึกษากฎหมาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นักธุรกิจพันล้าน โพสต์ตามหาทรัพย์สิน ที่เพื่อนยืมไป มูลค่ากว่า 62 ล้าน
เพจดังแฉ! เปิดแชตลับ “ดิว อริสรา” 
ส่องชีวิต “เซบาสเตียน” หลัง “ดิว อริสรา” ถูกโยงประเด็นร้อน!!

ยืนยันว่าของให้คุณดิวไปจริงๆ ?

เมย์ : ยืนยันให้ไปจริงๆ ค่ะ

คุณทำอาชีพอะไร?

เมย์ : เราทำธุรกิจ เป็นโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางและอาหารเสริม ชื่อ รีโว่เมด กรุ๊ป รับสร้างแบรนด์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีบริษัทรีเทล และทำเอนเตอร์เทนต์ หลากหลายค่ะ

ล่าสุดงานคอนเสิร์ตเพิ่งจัดไปด้วยที่พัทยา?

เมย์ : ใช่ค่ะ Rolling Loud

ในแวดวงรู้จักคุณเป็นอย่างดี รู้จักดิวได้ยังไง?

เมย์ : รู้จักจากน้องที่เป็นลูกค้ากัน น้องอยากผลิตสินค้า จริงๆ ดิว อริสราใครก็รู้จักเนอะ แต่น้องอยากทำสินค้า เลยได้รู้จักกันประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา รู้จักในฐานะลูกค้า

เป็นลูกค้ายังไง?

เมย์ : มีวัตถุประสงค์สั่งผลิตสินค้าที่โรงงาน

เขาทำคนเดียวเหรอ?

เมย์ : ไม่ค่ะ เขาติดต่อเราคนเดียว แต่ภายหลังทราบว่าเขามีพาร์ตเนอร์ มีผู้ลงทุน เพิ่งทราบเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมานี่เอง ก่อนหน้านั้นทราบว่าเป็นของดิวคนเดียว

การลงทุน เขาลงทุนกับคุณมั้ย?

เมย์ : ไม่ได้ลงทุนค่ะ เป็นลูกค้า มัดจำโรงงานในการรับจ้างผลิตปกติ

เขาจ้างให้บริษัทผลิตสินค้าให้?

เมย์ : ถูกต้องค่ะ ภายใต้แบรนด์ของเขานะคะ

เขาจ่ายเงินคุณไปเท่าไหร่?

เมย์ : มัดจำมา 22 ล้านค่ะ 20xxx โอนมา 2 ครั้ง 10 ล้านกับ 11 ล้านกว่าๆ

คนโอนมาเป็นใคร?

เมย์ : บริษัทเขาที่ทำร่วมกับพาร์ตเนอร์เขาค่ะ ซึ่งภายหลังเมย์มาทราบว่าบริษัทนี้พาร์ตเนอร์คนนี้เป็นคนลงทุนร้อยเปอร์เซ็นต์ เมย์เพิ่งมาทราบ

แล้วคุณดิวไม่ได้ลงทุนเหรอ?

เมย์ : เขาบอกหนูแบบนั้นนะคะ พาร์ตเนอร์บอกแบบนั้นค่ะ

เงิน 22 ล้านเป็นเงินพาร์ตเนอร์ ไม่ใช่เงินดิว?

เมย์ : ใช่ค่ะ

จุดเริ่มต้น ทำไมคุณเอาของให้เขาเยอะขนาดนั้น?

เมย์ : จุดเริ่มต้นมันเกิดขึ้นในวันที่ 6 ส.ค. 67 เกิดจากการโทรไลน์ ดิวโทรมาเพื่อบอกว่าเขาเดือดร้อนจากการเป็นหนี้คุณซุง 20 ล้าน แล้วบอกว่าถ้าไม่ได้คืนน้องเดือดร้อนจะโดนแฉ เพราะเขาไม่ยอมเลย มีสัญญาการกู้เงิน พูดเยอะมากๆ ค่ะ จนเมย์บอกว่าเฮ้ย ทำไมไม่เอากับสามีล่ะ เงินดิวไม่มีเหรอ ของไม่มีเหรอ เขาอยากขอเงินยืมเงินมัดจำโรงงานออกมาก่อนได้มั้ย

22 ล้านที่จะจ่ายเป็นค่าสินค้า?

เมย์ : ใช่ ยืมแค่ 20 วันพี่เมย์ นั่นคือจุดเริ่มต้น ในทางปฏิบัติเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะว่าบริษัทนี้ยังติดหนี้รีโว่เมดอยู่แล้ว เพราะผลิตไปแล้ว ยังรับสินค้ากันไม่หมด ยังชำระหนี้อีก 50 เปอร์เซ็นต์ไม่ครบ จึงบอกได้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ มันเป็นระบบบริษัทที่ถูกต้องทั้งหมด มันไม่ได้อยู่แล้ว

เพราะเงินจ่ายเป็นบริษัทต่อบริษัท อยู่ดีๆ จะให้บริษัทไปดึงเงิน 22 ล้านเพื่อเอามาให้กรรมการ มันเป็นไปไม่ได้?

เมย์ : ใช่ค่ะ นั่นคือจุดเริ่มต้น ซึ่งเขาบอกว่าพี่เมย์พอมีให้หนูยืมมั้ย ยืมเงินก่อน หนูยืมแค่ 20 วัน

คุณไม่กลัวเขาฟ้องเหรอ?

เมย์ : มันถึงจุดนี้แล้วพี่ หนูไม่พูดอะไรเลย ตอนที่เป็นข่าวพี่มด (มดดำ) ก็เป็นห่วง พี่มดเตือนหลายอย่าง  ทุกคนพูดออกมาแล้ว หนูไม่เคยพูดอะไรเลย ไม่เคยโพสต์ ไม่เคยกล่าวถึง และอยากให้ทุกอย่างจบแค่ได้ของคืน

ผมติดต่อคุณไปสองสามเดือน?

เมย์ : ใช่ หนูก็ไม่ออก นักข่าวโทรมาทุกสำนักหนูก็ไม่เคยคิดทำให้มันเกิดขึ้น

เรื่องเกิดในช่วงม.ค.เพราะมดดำ?

เมย์ : เอาจริงๆ เกิดขึ้นจากเลขาฯ มีประเด็น แล้วพี่มดดำเองก็น่าจะได้เห็นข่าว เริ่มเห็นสร้อยในวงการ

เขาเองเริ่มยืมเงิน แล้วยังไงต่อ?

เมย์ : พอเขาเริ่มยืมเงินปุ๊บ เอาจริงๆ ตอนนั้นตั้งปณิธานจะไม่ให้มใครยืมเงิน เพราะโดนมาเยอะพูดตรงๆ เขาบอกพี่เมย์มีอย่างอื่นมั้ย เราก็ถามว่าแล้วกระเป๋า รถ ดิวล่ะ ทำไมไม่เอากับสามี หนูถามทั้งหมด พูดทั้งหมด ว่าทำไมไม่เอาจากคนนี้เพราะอะไร เขาบอกว่าสามีเขารู้ไม่ได้ เดี๋ยวมีปัญหาครอบครัว ตอนนั้นน้องท้องคนที่สอง เขาเป็นโควิด เขาเครียดมาก เขาจะแท้ง มีหลายปัจจัยมากๆ เลยคิดว่าถ้าเป็นของก็น่าจะได้คืน น่าจะดีกว่า ของในมูลค่าที่เขาสามารถไปแก้ปัญหา 20 ล้าน

คุณใจดีมากเลยนะ?

เมย์ : ดิว อริสรา เรารู้จักกันมาระดับนึง 2 ปี ทำงานมาด้วยกัน เคยไปบ้านเขา เพ้นส์เฮ้าส์มูลค่าหลัก 100 ล้าน การใช้ชีวิต เขาบอกแค่ว่าช็อตเงิน 20 วัน เดี๋ยวเงินเขาก็มานะ ถ้าแย่ๆ สามีเขาก็ต้องให้คืนสิ พูดตรงๆ นะ ดิว อริสราที่ทุกคนเห็น รู้จักมานานมาก ไม่มีความรู้สึกว่าเราจะไม่ได้คืน จากใจเลยค่ะ และมีความรู้สึกสงสาร เห็นใจเขา

จะบอกว่า ต้นทุนทางสังคมเขาสูงมาก?

เมย์ : แน่นอนมั้ยพี่หนุ่ม อย่างพี่หนุ่มเปิดไอจีดิว เห็นน้องใช้ชีวิตมาแบบนี้ หนูจะบอกว่าสมการที่เขาจะไม่คืน หนูไม่มี และมั่นใจว่าเขาไม่กล้าเสี่ยงชื่อเสียง ของเป็นของเมย์ เมย์ไม่เคยอนุญาตให้เอาไปจำนำ และขายตั้งแต่ต้น

เขาถามว่าคุณมีของมั้ย คุณได้ถามมั้ยเขาจะเอาของไปทำไม?

เมย์ : เขาบอกกับเมย์ว่าจะเอาของไปให้พี่คนนึงที่น่าเชื่อถือมากๆ ที่เป็นคนที่ให้เขารู้จักกับซุงและดิวก็เชื่อถือพี่คนนี้มากๆ เป็นคนที่น่าเชื่อถือมากๆ เป็นคนที่น่าเชื่อถือมากๆ ในสังคม เป็นผู้ใหญ่ ของพี่เมย์จะถูกเก็บไว้อย่างดีกับพี่คนนี้ ถ้าเอาไปให้ซุงอาจโดนยึดของนะ หนูรักของหนูห้ามเอาของพี่ไปทำอะไรนะ หนูซีเรียสมาก จะเอาไปไว้ที่พี่คนนี้ พี่คนนี้จะเก็บของไว้ให้อย่างดี พี่เมย์มาดูของได้เลยค่ะ

การันตีให้ซุงเห็นว่าของอยู่กับพี่คนนี้ ซุงไม่ต้องห่วง ที่ติด 20 ล้าน เรามีของวางค้ำประกันกับพี่คนนี้ ที๋ซุงนับถือ?

เมย์ : ถูกต้องค่ะ จากนั้นก็ให้น้องไป 3 เวลา ใน 2 วัน

ชิ้นแรกเป็นอะไร?

เมย์ : เป็นกระเป๋า 2 ใบกับสร้อย BVLGARI กระเป๋าแอร์เมส รุ่น EMERALD 1 ใบ รุ่น CROC สีเหลือง 1 ใบ ที่เอาไปเป็นราคาซื้อนะคะ

สร้อย 15 ล้าน เป็นสร้อยเฉพาะเลยใช่มั้ย น้อยมากที่จะมีคนได้ครอบครอง?

เมย์ : ในประเทศไทยเมย์มีเป็นคนที่ 2 แต่จริงๆ ปัจจุบันอาจมีหลายเส้น แต่ BVLGARI มีซีเรียลนัมเบอร์อยู่แล้ว สามารถตรวจสอบได้ว่าเส้นนี้เป็นของใคร มันเป็น BVLGARI ที่ออกมาจากปารีส จะมีซีเรียลนัมเบอร์ของช็อปอยู่แล้ว จะระบุได้เลยว่าชิ้นนี้เป็นของใคร

สามชิ้นนี้ที่ไปก่อน จากนั้นเป็นอะไร?

เมย์ : สร้อย LOTUS ARTS DE VIVRE

22 ล้าน 4 แสน 4 หมื่น สร้อยอะไรนักหนา?

เมย์ : เป็นสร้อยมรกตค่ะ มันเป็นแบรนด์ ถ้าคนเล่นไฮจิวเวลรี่จะรู้ว่ามันไฮคอนนิก เส้นนี้เมย์ประมูลมา มันมีแค่ชิ้นเดียวในโลก

ฉะนั้นชิ้นนี้บอกเลยว่าเอาไปไหนก็รู้ว่าเป็นของเมย์ วาสนา?

เมย์ : ใช่ เมย์ประมูลมา

คุณก็ให้เขา?

เมย์ : ใช่ค่ะ

แล้วก็นาฬิกา คุณบอกว่าคุณรักมาก ริชาร์ด มิลล์ ราคา 13 ล้าน คุณก็ให้เขายืมเหมือนกัน?

เมย์ : ใช่ เพราะตอนนั้นเขาบอกว่าทางซุงไม่ยอม มูลค่ามันไม่พอ เราก็เลยได้เพิ่มของไปให้ตอนแรกเอานาฬิกาปาเต๊ะ 3 ล้าน เขาบอกว่ามันไม่พอ คนเราจะช่วยก็ช่วยให้เขาพ้น เวลามันลำบากมันก็ลำบาก เราก็เคยอยู่ในจุดที่ลำบาก เคยอยู่ในจุดที่ไปโรงรับจำนำ  แล้วเขาบอกว่าเขาลำบาก เดี๋ยวสูญเสียชื่อเสียง น้องลำบาก หนูคิดว่าถ้าช่วยก็ต้องช่วยให้เขาพ้น เลยได้มีการเพิ่มของให้เขาในระยะเวลา 2 วัน

เขาต้องการเอาของไปวางที่พี่คนนี้เพื่อให้คุณซุงสบายใจ สุดท้ายไม่ได้เป็นแบบนั้น เขาหลงเชื่อมาหลายเดือน จนความลับแตก ม.ค.ปีนี้ คุณตัดสินใจให้คุณดิวยืมของไป ยืนยันอีกครั้งให้ยืมเพื่ออะไร?

เมย์ : ยืมเพื่อให้น้องไปแก้ปัญหา และเอาไปประกันไว้กับอีกบุคคลนึงที่น่าเชื่อถือได้ โดยมีข้อกำหนดว่าห้ามจำนำ ห้ามขายตั้งแต่แรก เพราะหนูรู้อยู่แล้วพี่หนุ่ม สร้อยหนูมันเด่นมาก ศักดิ์ศรีหนูให้ค่าความสำคัญที่สุด สร้อยหนูเด่นมาก ถ้าหลุดไปรู้เลยว่าเป็นของเมย์ และอาจเกิดคำครหาที่ผิดเพี้ยนไป เมย์ซีเรียส เลยย้ำกับน้องว่าห้ามเอาของพี่ไปจำนำและขายเด็ดขาดนะ พี่รักของของพี่

จะกลายเป็นว่าคุณเอาสร้อยไปจำนำ ถังแตก?

เมย์ : ซึ่งเป็นแบบนั้น หนูเพิ่งรู้ไม่กี่วันนี้เอง และมีผลเสียไปถึงบริษัท เป็นหนี้ ซัพพลายเออร์ไม่มีเงินจ่าย เยอะ หนูโดนเรียกสอบหมดเลย

คุณให้ของเขาไป คุณไม่ได้เฉลียวใจเลยว่าเขาจะเอาไปทำอย่างอื่น?

เมย์ : เราทำธุรกิจ คำพูดเมย์บอกว่าช่วยเมย์ก็ช่วย เมย์ยึดถือคำนี้มาตลอดชีวิตเลย รับปากคือรับปาก เครดิตทางคำพูด ในการทำงาน การคบคน ความจริงใจ มันเป็นพื้นฐานปกติของการทำธุรกิจและการคบใครด้วยความจริงใจสักคน สำหรับหนู หนูเป็นแบบนั้นจริงๆ คนที่รู้จักหนูจะไม่แปลกใจหรอก ถ้าคนรู้จักเมย์ วาสนาจริงๆ เป็นเพื่อนกันจริงๆ เขาจะรู้เลยว่าเราเป็นแบบนี้ และหนูซีเรียสมากๆ สำหรับเครดิตเรื่องคำพูด

คุณให้เขาไป คุณแค่รู้สึกว่าเขาคือน้อง?

เมย์ : ประโยคที่บอก เขาบอกว่ากราบอก เอาแชตขึ้นมาดูได้ กราบอก ขอบคุณแม่ เขาเรียกหนูแม่ ขอบคุณแม่มากๆ จะไม่ลืมบุญคุณทุกอย่าง รอดมาได้เพราะแม่ จะไม่ลืม จะดูแลแม่ไปตลอดชีวิต หนูก็เข้าใจเขา ประโยคที่หนูตอบไปสั้นๆ ดิว แกคือน้อง

6 ส.ค. 67 ดิวบอกว่ารบกวนจริงๆ ไม่งั้นเดือดร้อนแน่ๆ ดิวรีบใช้เงินจริงๆ เครียดเลย ไม่งั้นดิวมีปัญหาแน่นอน อยากรบกวนเงินมัดจำไปก่อน 20 กว่าล้าน เอากลับมาก่อนได้มั้ย แต่ดิวไม่ได้หนีไปไหน สิ้นเดือนมีเงินเข้าจะฝากกลับเข้าไปเหมือนเดิม ขอรบกวนเรื่องนาฬิกา ลองดูให้หน่อย ว่าถ้าเป็นสองเรือน เป็นเรือนไหนได้บ้างที่รวมแล้วน่าจะถึง 10 ล้าน หรือมีอาร์เอ็มเรือนไหนไม่ใช้ ดิวขอยืมไปวางกับเขาก่อนได้มั้ย จะได้จบ ดิวจะได้เงินประมาณสิ้นเดือน อันนี้คือก่อนคุณจะยอม เขาบอกว่าที่พึ่งเดียวความหวังเดียวคือเมย์นี่แหละ ตอนแรกมันจะไม่ยอม จะเอาคืนเลย และเป็นเงินสดอย่างเดียว ดิวขอโทษจริงๆ เร่งด่วนมากๆ สุดท้ายต้องมารบกวนพี่เมย์แบบนี้ หลังคุณให้เขาไป คุณมีระยะเวลา 15-20 วัน จากนั้นเขาไม่เอามาคืนคุณเหรอ?

เมย์ : ไม่คืนค่ะ ก็เริ่มตามของว่าดิวพี่จะใช้ของ ได้ของคืนพี่หรือยัง เขาบอกว่าเงินไม่ได้ตามกำหนดสิ้นเดือน หนูเลยไม่ได้ไปเอาของให้พี่เมย์ ก็ตามมาเรื่อยๆ ก.ย. คิดได้ก็ตาม ไม่ได้ตามเป็นกิจจะลักษณะ พอจะไปออกงานหนูนึกได้ก็ตาม ตามมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ก.ย. ต.ค. พ.ย. 67 จนถึงเดือน ม.ค. 68

คำว่าตามเงิน คือตามเงินเอาไปให้ซุง?

เมย์ : ไม่แน่ใจ ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นนะคะ เอาเงินให้ซุงเมื่อไหร่จะได้เอาของออกมา

เลื่อนไปเรื่อยๆ แล้วคุณทำยังไง?

เมย์ : จนมาเอะใจตอนน้องเลขาฯ ที่มีเรื่องคดีการโกงเงินกันเกิดขึ้น ก็รู้สึกเอะใจว่าน้องมีปัญหาการเงินรุนแรง ไปติดเงินคนอื่นด้วยหรือ ตอนนั้นหนูเตรียมข้อมูลทั้งหมดแล้ว จะแจ้งความตั้งแต่เดือนม.ค. กะว่าจะไปลงบันทึกประจำวันไว้ เพราะเรารู้สึกว่าเราเอะใจ และเลือกถามน้องตรงๆ เลยว่าเฮ้ย เริ่มมีผู้เสียหายเป็นยังไง ของพี่จะได้คืนมั้ย เดือนม.ค.วันที่ 24 เขาจึงเริ่มมาสารภาพว่าเขาเอาของไปจำนำในหลายๆ ร้าน

นั่นหมายความว่าคุณจะบอกพวกเราว่าตั้งแต่เดย์แรก ช่วงส.ค.ปี 67 ไล่มาจนถึงเดือนม.ค.68 เข้าเดือนที่ 5 แล้วคุณถึงได้รู้ว่าของไม่ได้อยู่ที่ผู้ใหญ่คนนั้นจริงๆ เพิ่งรู้ว่าเขาเอาไปจำนำในเดือนม.ค.?

เมย์ : ใช่ค่ะ เขาบอก ตอนแรกหนูได้ยินมาจากรุ่นน้อง บอกว่าพี่เมย์ ของพี่เมย์ไม่ได้อยู่ที่เขาแล้วนะ ของพี่เมย์ถูกเอาไปจำนำ หนูก็คิดว่าใช่เหรอ ไม่ใช่มั้ง หนูไปถามเขาตรงๆ เขาก็บอกตรงๆ ว่าเขาเอาไปจำนำไว้กี่แห่งบ้าง แต่ไม่บอกว่าที่ไหน บอกว่าเอาไว้ที่ร้านนาฬิกา ซึ่งหนูทราบมาว่าร้านนี้ใช่มั้ย เขาก็บอกว่าใช่ นาฬิการิชาร์ด มิลล์ 1 เอาไปไว้ที่ร้านนึง อีกอันนึงก็เป็นร้านแบรนด์เนมเหมือนกัน อีกสองอันเขาบอกเอาไว้กับผู้ใหญ่แต่เขาไม่ยอมบอก ถึงวันนี้ก็ไม่บอกว่าของอยู่ที่ไหน แต่เขาบอกประมาณวันที่ 24 ว่าเอาไปจริงๆ เพื่อร้องขอให้เมย์ไปเอาของจ่ายเงิน 20 ล้านเอาของออกมาก่อนได้มั้ย แล้วจะเคลียร์หนูเอง

ฉะนั้นในทางกฎหมาย ถ้ามองว่าวันนั้นคุณเมย์ตกลงทำสัญญาประนีประนอม รับสภาพหนี้ เรื่องจะเข้าแพ่งทันที เรื่องคุกไม่มี จะมีเรื่องการใช้หนี้ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่ายก็ได้ นั่นคือการทำสัญญารับสภาพหนี้ แต่ฝั่งคุณเมย์เองไม่ได้มองแบบนั้น ทีมทนายมองว่าทั้งหมดเกิดจากการฉ้อโกง ยักยอกต่างๆ นานา มันคืออาญา?

เกรียงไกร : ถูกต้องครับ การที่เขาแจ้งกับคุณเมย์ว่าจะเอาไปเป็นหลักทรัพย์ประกันกับผู้ใหญ่ท่านนึง สุดท้ายเขาเอาไปจำนำ  ซึ่งจริงๆ เราไม่รู้ว่าเอาไปจำนำหรือขาย เพราะตอนนี้เราหาทรัพย์ไม่เจอ ถ้าจำนำ แล้วไม่ได้จำนำกับผู้ใหญ่คนนั้น หรือเอาไปขายกับใครก็แล้วแต่เป็นการเบียดบัง หรือฉ้อโกงอยู่แล้วครับ  

เขาไปตามทรัพย์กัน ปรากฏว่าทรัพย์กระจายไปอยู่ที่โน่นที่นี่ที่นั่น ที่น่าตกใจคือสร้อยสีเขียวๆ มีหนึ่งเดียวในโลก ล่าสุดสร้อยเส้นนี้ไปอยู่ที่ไหน?

เกรียงไกร : อยู่กับนักการเมืองท่านนึง ตำแหน่งระดับไม่ยืนยัน แต่ระดับ รมต.

คุณไม่เคยระแคะระคายว่าทรัพย์คุณไม่ได้อยู่ที่พี่คนนั้น พี่คนที่คุณซุงเขานับถือ คุณพยายามหาทางเอาของคุณกลับมา คุณเสนออะไรเขาไปบ้าง?

เมย์ : ให้รีบเคลียร์ ยืดระยะเวลาให้เนอะ พอเป็นข่าวดังก็ยืดระยะเวลาให้เขามีทางเดิน ไม่เคยมีเจตนาจะให้เขาเสียชื่อเสียง  อยากให้น้องไม่มีทางเดินในการทำมาหากิน ถ้ามีเจตนาแบบนั้น ออกมาตั้งนานแล้ว แต่นี่มีเจตนาช่วย ไปเคลียร์ของมาให้พี่ แต่เมื่อรู้แล้วเป็นสภาพไม่ยอม แล้วต้องทำยังไง ก็ต้องมีเรื่อง ถูกมั้ยคะ เรายืดระยะเวลาให้น้องแก้ปัญหาอีก 1 เดือน กำหนดมาเลยดิว ชัวร์ๆ พี่จะได้ของคืนเมื่อไหร่ นี่คือสิ่งที่ติดตามมาตลอดระยะเวลา 1 เดือน จนเดือนกว่า ล่าสุด 28 ก.พ. วันศุกร์ยังจำขึ้นใจเลย พี่เมย์ นาฬิกา กระเป๋า จะออกมาก่อนนะ พี่เมย์จะได้ของพี่แน่ๆ เลย มันเหมือนการประวิงเวลา ทุกครั้งที่คุยกับดิวหนูก็จะเชื่อน้อง และประวิงเวลา ยืดเวลาเมย์ไปเรื่อยๆ สุดท้าย 28 ก.พ.เมย์ก็ไม่ได้ของ แล้วเขาก็บอกว่าพี่เมย์ไปรวบเอาของคืนมาแล้วหนูติดหนี้พี่เมย์ได้มั้ย นี่คือข้อที่เขาพยายามเจรจากับเมย์มาตลอด

ให้เมย์เอาเงินก้อนนึงมา เขาไปเอาของออกมาให้ แล้วรับสภาพหนี้กันไป เขายอมเป็นลูกหนี้ คุณตอบว่า?

เมย์ : วันนั้นเรามีการเรียกทางฝั่งทนายพี่อรรถ มีเมย์ และเพื่อนอีกคน เรียกมาคุยกันหลังเป็นข่าว เพื่อหาทางร่วมกันให้ได้ของคืน เจตนาไม่มีอะไร หนูแค่อยากได้ของคืน ไม่ได้อยากให้ใครมีปัญหา ไม่ได้ต้องการดอกเบี้ยสักสลึงเดียว ไม่เคยขอเลย แค่อยากได้ของหนูคืน ดังนั้นก็มีการมาเจรจากัน มีข้อบันทึกการเจรจาทั้งหมดไว้ แต่เขาก็ยังหาทางออกไม่ได้ การที่เขายื่นข้อเสนอเหล่านี้มา ทนายเราก็ชัดเจนว่ามันเป็นไปไม่ได้ ให้ยืมต้องเอาเงินออกอีก 20 ล้านเหรอพี่หนุ่ม พี่หนุ่มยอมมั้ย มันเรียกว่าโง่ซ้ำโง่ซ้อนมั้ย

สำหรับพี่ของไม่ไปตั้งแต่แรกแล้วล่ะน้องเอ้ย อย่าถามพี่เลย?

เมย์ : นั่นแหละพี่ (หัวเราะ) นี่เป็นสิ่งที่น้องพยายามให้เป็นแบบนี้ อันนี้คือสิ่งที่น้องพยายามจะให้เป็นแบบนี้ เมย์ก็บอกว่าน้องก็ไปตามกับคนที่มีปัญหา ไปจัดการของน้อง เอาของพี่คืนมา เมย์เคยบอกว่าถ้าพี่ไม่ได้คืนจริงๆ แล้วพี่ต้องสู้ให้ถึงที่สุด พี่ก็จะสู้ เพื่อเอาของ ของพี่คืน น้องต้องเลือกนะ แต่เขาเลือกที่จะพยายามดึงให้เมย์ไกล่เกลี่ย จนพี่เมย์ต้องจ่ายดอกแล้ว ของจะหลุดแล้ว จนเกือบถึงวันที่ 11 วันที่ 8-9 เขาพยายามบี้เมย์ให้เอาเงินไปออกเอง เมย์เลยขอคุยกับทีมทนายก่อน เวย์นี้ดิวเสนอใช่มั้ย โอเค พี่จะไปคุยกับทนายให้ ไม่มีใครเห็นด้วยกับเมย์สักคน พูดตรงๆ แต่หนูไม่เคยรับปากว่าเวย์นี้ที่คุณเสนอมา จะมาให้คำตอบ แล้วมันก็มาพบจุดไคล์แม็กซ์ที่หนูรู้สึกว่าที่ผ่านมาหนูโดนหลอกตั้งแต่วันแรกเลยเหรอ นี่คือจุดที่หนูพูดตรงๆ ว่าหนูรับไม่ได้

โดนหลอกอะไร?

เมย์ : หนูโพสต์วันที่ 15 มี.ค. หนูทราบข้อเท็จจริงเรื่องนี้วันที่ 14  หนูเห็นแชตที่เขาแชตกันประมาณวันที่ 8 ทนายตั้มอยู่ในเหตุการณ์ เป็นแชตน้องคนนึงกับดิว อริสรา เอาสร้อย BVLGARI ไปขอวางกับน้องคนนี้ มูลค่า 20 ล้านบาท บอกว่าเป็นของของผู้ใหญ่ที่เขาเคารพท่านนึง เปิดมาของชิ้นนี้ก็รู้อยู่แล้วว่าใคร พี่เขาลำบากมาก ด้วยความเป็นเขาอะเนาะ เขาไม่มีเงิน เขาลำบาก ไม่มีเงินจ่ายซัพพลายเออร์ จะให้ใครรู้ไม่ได้เลยว่าเป็นของๆ พี่คนนี้ น้องเอาไปใส่เล่นๆ ขำๆ สวยๆ นะ มันดิสเครดิตหนูพี่ เขาไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่คนก็รู้ว่าเป็นหนู

ในนั้นเขียนว่าพี่เมย์นะ?

เมย์ : นั่นอีกเรื่องนึง มีลักษณะแบบนี้เป็น 10 คน นี่คือจุดเริ่มต้น ไคลแม็กซ์แรก อยู่ๆ ผู้หญิงคนนี้ก็ทักมาหาหนู มาเจอ มันเป็นโชคชะตา ฟ้าคงลิขิตให้หนูได้เจอเรื่องนี้ หนูเห็นแชตด้วยตาตัวเอง พี่รู้มั้ยหนูนั่งร้องไห้ หนูเศร้า หนูรู้สึกว่าหนูโง่ เราทำงาน ทำธุรกิจมาขนาดนี้ เราก็รักและไว้ใจแหละ แต่รู้สึกว่า..(เหมือนจะร้องไห้) เฮ้ย ทำได้ไงวะ กับคนที่ช่วยยูนะ แล้วดิวทำตั้งแต่วันแรกเลยทำกับคนที่ช่วยเหลือดิวได้ไง อันนี้คือสิ่งที่หนูรู้สึกว่าคนเป็นมนุษย์ปกติ เป็นมนุษย์แม่เหมือนกัน มันไม่ได้ดิพี่ นี่คือสิ่งที่หนูรู้สึกว่ากระทบหนูที่สุด แล้วหลังจากนั้นหนูก็มาเจอใบแจ้งความใบนี้ เป็นข้อมูลคนที่สอง (ใช้ทิชชู่เข็ดน้ำตา)

นี่คือฟางเส้นสุดท้ายกับคุณดิว ว่าพอแล้ว เพราะมีคำพูดบางอย่างเอาไปอ้างกับคนอื่น จนคนอื่นเอาไปแจ้งความ แล้วเกี่ยวข้องกับคุณ เดี๋ยวจะพยายามติดต่อคุณดิว แนะนำให้ได้พูด เพราะสังคมกำลังเคลือบแคลง เขาเปิดหน้ากับคุณแล้ว จำได้ตอนมดดำรู้ โลกรู้?

เมย์ : พี่มดดำพยายามไม่เอ่ยชื่อ ไม่พูดถึง ให้โอกาส เราให้ทรัพย์เขาด้วยมิตรภาพ แต่สิ่งที่เมย์ได้กลับมาคือคำหลอกลวง คำโกหก และการเสียศักดิ์ศรีจาหลักฐานชิ้นนี้ และจากคำให้การ การบอกของท่านนี้ เลยเป็นจุดที่หนูต้องโพสต์ตามหาของเอง ร้านนี้เป็นคนรับนาฬิการิชาร์ด มิลล์ รู้จักเมย์และรู้จักดิว เรียกว่ารักทั้งคู่ ในคนที่รู้จักกันในสังคม เมย์รู้ว่าของอยู่กับน้องคนนี้ตั้งแต่ม.ค.แล้ว แต่ไม่คิดที่จะก้าวไปถามเขาส่วนตัว เพราะให้เกียรติดิวเสมอในการแก้ปัญหานี้ เพราะรับปากว่าจะคืน 28 ก.พ.อยู่แล้ว จะเอามาก่อนนะกับร้านนี้ เลยไม่คิดจะไปหาน้องคนนี้เลยในร้านแรก จนวันที่ 14 ที่บอกว่ารู้ความจริงจากแชตว่าโดนหลอกแล้ว ก็เลยทักไปในอินสตาแกรม ดีเอ็มหาน้องคนนี้ ถึงทำให้หนูถึงบางอ้อไปใหญ่เลย เพราะคนๆ นี้รอการติดต่อหนูมาตลอด แล้วเขาก็ถูกอ้าง และกล่าวหาว่าเมย์ไม่มีเงิน เมย์ลำบาก อยู่คนเดียว ต้องออกมาเอง น่าสงสารมาก มีปัญหาทางธุรกิจ ไม่มีเงินจ่ายซัพพลายเออร์ เรือนนี้ต้องรู้ว่าเป็นของพี่เมย์ คนนี้รู้อยู่แล้ว คนนี้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ พอเห็นข่าวเขากลัว ก็เลยไปแจ้ง ลงบันทึกประจำวันไว้ ว่าเขาไม่ได้รับของโจรนะ เขาช่วยเพราะคิดว่าช่วยเมย์ เมย์ลำบาก เขาเลยไม่กล้ามาถามตรงๆ เขากลัวลำลากแล้วพอมาถามจะเป็นการซ้ำเติม

เลยเป็นที่มาที่ไปของใบลงบันทึกประจำวัน คุณเมย์ได้รับข้อมูล 14 มี.ค. แต่เขาไปลงบันทึกประจำวันไว้ 20 ม.ค.68 ที่ไปลงวันนี้เพราะตอนนี้เป็นประเด็นข่าวมาแล้ว มดดำพูดแล้ว เขารู้ว่าเรื่องนี้ต้องถึงตัวเขาแน่ เขาเลยไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้บอกว่าวันที่ 7 ส.ค. 67 ดิวใช้ไลน์ชื่อว่าดิว อริสรา ทักมาหา และโทรผ่านไลน์ว่าเมย์ขอความช่วยเหลือ กู้ยืมเงินจำนวน 5.5 ล้าน จะฝากนาฬิกาไว้เป็นหลักประกัน คือนาฬิการิชาร์ด มิลล์ รุ่น 03 ราคา 3 ล้าน มีกระเป๋าแอร์แมส 2 ใบ 2.5 ล้าน ตกลงจะขอยืมเป็นเวลา 2 เดือน ปัจจุบันผ่านไป 5 เดือน ยังไม่ได้รับเงิน 3 ล้านในส่วนนาฬิกาคืนมา อีกทั้งกล่องและใบรับประกันที่จะเอามามอบให้ส.ค.67 ก็ไม่มีการเอามามอบให้ด้วย โดยดิวให้การว่าเมย์ขอยืดระยะเวลาออกไปอีก หากได้เงินแล้วจะรีบมาชำระคืน?

เมย์ : สิ่งที่เกิดขึ้นคือ 7 ส.ค. แสดงว่าเขาได้รับของจากเมย์ เขาทำสิ่งนั้นทันที นี่คือคีย์สำคัญ

เทียบไทม์ไลน์ เมย์โพสต์ กับใบลงบันทึกประจำวัน วันที่ 7 เดือน 8 รับของไป รับปุ๊บแล้วไปเลย?

เมย์ : พี่หนุ่มว่ามันคืออะไร แสดงว่ามันก็ชัดเจน

แสดงว่าไม่ได้เอาไปวางที่ผู้ชายคนนั้นที่เขาบอกว่าจะเอาไปวางเพื่อการันตี?

เกรียงไกร : ถูกต้องครับ เป็นหลักประกัน

แต่มันไม่ใช่ กลายเป็นว่าพอให้วันที่ 7 เขาเอาไปวางเลย มันเปลี่ยนวัตถุประสงค์คุณทันที จากไปวางการันตีไว้ กลายเป็นว่าเอาไปจำนำเพื่อเอาเงินออกมา มันเข้าอะไรบ้าง?

เกรียงไกร : เราไม่ได้รู้ทุกทรัพย์สินว่าเขาเอาไปทำอะไรบ้าง เรารู้แค่บางอย่าง การไปจำนำ เอาของไปวางไว้ แล้วได้เงินมาบางส่วน ก็แค่ทรัพย์สินบางส่วน บางส่วนเรายังหาไม่เจอ นี่เจอเฉพาะส่วนที่มาแจ้งเรา เราก็ขอบคุณมากๆ ที่ให้ความร่วมมือ อยากบอกคนอื่นที่ถือทรัพย์สินเอาไว้ อยากให้ความร่วมมือกับเรา เราไม่ได้อยากดำเนินคดีกับคนที่ถือทรัพย์สินเอาไว้หรอกครับ แค่อยากได้ของคืน แต่ถ้าเผื่อไม่คืนหรือกำลังหาข้อต่อสู้ว่ารับมาโดยสุจริตอะไรก็แล้วแต่ รับรองการสอบสวน กองปราบหรือเจ้าพนักงานสอบสวน เขาต้องดำเนินคดีถึงอยู่แล้ว เพราะทรัพย์สินอยู่ปลายทางตรงนั้น เขาจะทำยังไงได้ เขาก็ต้องเรียกมาสอบสวน โอเคมาแก้ตัวแก้ต่างก็เรื่องของเขา แต่ถ้าตอนนี้มาให้ความร่วมมือกับเรา บอกเราว่าอยู่ตรงไหน เราโอเค เราจะไม่ดำเนินคดีต่อ

เข้าข่ายอาญาฉ้อโกงได้ เพราะเป้าประสงค์ให้เอาไปประกันการันตี ไม่ได้จะให้เอาทรัพย์ไปขาย หรือจำนำ กรณีแบบนี้ถ้าเกิดว่าคนอื่นๆ ที่มีการรับของ สมมติ ดิวเอาไปให้คนที่ 1 คนที่ 1 เอาไปให้คนที่ 2 คนที่ 2 เอาไปให้คนที่ 3 และคนที่ 4 1-4 ถือว่ารับของโจรหมดมั้ยถ้าดิวผิดอาญา?

เกรียงไกร : ในทางคดีอาญามีองค์ประกอบภายนอกภายใน แต่เขามีสิทธิ์สู้เรื่องเจตนาได้ ว่าเขาไม่รู้ แต่จะรู้หรือไม่รู้ยังไงของเขาก็ต้องคืน

ความผิดเกิดแน่ๆ สำหรับคนที่รับไป คุณจะสู้เรื่องไม่รู้ ขาดเจตนาก็เรื่องของคุณ แต่เขาจะสู้ว่าคุณเอาไป คุณไม่เช็กเลยเหรอ ทรัพย์สิน 10 ล้าน เอาไปวาง 2 ล้านแปลกไปหรือเปล่า?

อรรถชัย : ประเด็นคือของมีแค่ชิ้นเดียวด้วยบางอย่าง มันรู้อยู่แล้วว่าเป็นของ ของใคร ฉะนั้นถ้าจะสู้กลับมาก็ลำบากหน่อยนะครับ มาให้ความร่วมมือดีกว่า

ผมบอกเลย ผมรู้ว่าอยู่ที่ไหน ในบางอย่าง ตอนนี้คุณรู้ว่านาฬิกาอยู่ที่ไหน แต่ผมรู้ว่าบางอย่างอยู่ที่ไหน ฉะนั้นคุณติดต่อมา บอกเขาก็ได้ หรือจะติดต่อทางผมให้ผมประสานก็ได้ เรื่องจะได้จบ ทางนี้จะได้มีทางออกให้คุณ คนรับนาฬิกาไป คุณให้ทางออกเขายังไง?

เมย์ : บอกกับน้องว่าขอเคลียร์ให้จบ แล้วเดี๋ยวเรามาคุยกันในข้อสุดท้ายว่าจะเป็นยังไง แต่สุดท้ายห้ามเอาของพี่ไปไหนนะ พี่ต้องการเอาของพี่คืน เขาก็รับปากว่าโอเค น้องรู้แล้วว่าเป็นของพี่เมย์ เข้าใจแล้วทุกเรื่อง ตกใจมาก จะเก็บไว้ให้ เดี๋ยวมาคุยกันว่าเป็นยังไง นี่เป็นข้อสุดท้ายที่คุยกับน้องไว้

กระเป๋าสองใบ สร้อยสองเส้นอยู่ที่ใคร กรุณาประสานกลับมาเลย จะได้หาทางออก คุณได้คุยกับคุณดิวมั้ย?

เมย์ : คุยมาตลอด จนหยุดคุยเมื่อเห็นสิ่งเหล่านี้ เพราะทุกๆ ครั้งที่เมย์คุย เมย์ก็เห็นใจน้องทุกครั้ง จนมารู้ตัว บางอ้อพี่ นั่นคือคำพูดที่โพสต์เลย นี่ฉันโดนหลอกตั้งแต่แรกเหรอ นี่เขาหลอกเราจริงๆ เหรอ จนรู้สึกว่าไม่คุยแล้วดีกว่า เพราะการคุยก็จะโดนแบบนี้อีก พี่ทนายอัจจะแจ้งความตั้งแต่ก.พ. ขอบันทึกไว้ก่อนได้มั้ย เตือนตลอด เมย์บอกเขาจะมาคืนวันที่ 28 ก็ให้เวลาเขาหน่อย หนูไม่อยากมีเรื่อง ไม่อยากมีประเด็น แค่อยากได้ของคืน จนสุดท้ายสายเที่ยงคืนเมื่อคืน เมย์ยังได้รับจากพี่เซเลบท่านนึง ที่ไปท็อปสเปนเดอร์ด้วยกัน เขามาเล่าให้ฟัง จนในวงการ วงการห้าง เขามีข้อกังขาเรื่องนี้มาตั้งแต่ปลายปี ว่าเมย์ไม่มีเงิน เมย์ลำบาก ฝากของมาขาย ฝากดิวมาขาย ดิวไปคุยกับเขาแบบนี้ สร้อยเส้นนี้ยังบอกเลยว่าเป็นของพี่เมย์ เขายังดีเอ็มมาขอโทษว่า ขอโทษที่ไม่กล้าถามตั้งแต่แรก อย่างน้อยๆ วันนี้เมย์รู้สึกว่าเมย์ได้กอบกู้ศักดิ์ศรีเมย์บ้าง มันไม่ใช่เมย์ วาสนาที่เร่เอาขายไปขายให้ดิว อริสรา เอาของไปเร่ขายเอาเงินมาให้ตน วัตถุประสงค์คือการช่วยเหลือคุณ แต่คุณมาทำแบบนี้ มันไม่ได้สิพี่

คุณมีหลักฐานในการต่อสู้ว่าจริงๆ ไม่ได้ให้คุณเอาไปจำนำ แต่คุณไปเปลี่ยนวัตถุประสงค์ของฉัน?

เมย์ : มีทุกอย่างชัดเจน มีบันทึก กล้อง คลิปเสียง ภาพ มีทุกอย่าง

ไม่ได้ให้ไปจำนำ ให้ไปเพื่อวางการันตี วัตถุประสงค์เปลี่ยน?

เมย์ : แต่ต้องบอกไปว่าตั้งแต่มีข่าว พี่หนุ่มได้พูด พี่มดดำได้พูด เราได้หลักฐานมาเยอะมาก  ขอบคุณทุกคนจริงๆ ที่ให้ความร่วมมือ แต่ ณ เวลานี้เราก็ยังไม่ทราบทั้งหมดว่าของชิ้นสำคัญอยู่ที่ไหน ที่มานั่งโหนกระแส ที่ยอมมา หนูแค่อยากได้ของคืน แล้วหนูคิดว่าพี่หนุ่มทำได้ (หัวเราะ) ไม่รู้ พี่ต้องไปตามมาให้เมย์ด้วย (หัวเราะ)

อย่าทำแบบนี้กับพี่ มันลำบาก คีย์หลักคือคุณดิว ถ้าวันนี้คุณดิวยอมบอกว่าของอยู่ที่ไหน เชื่อว่าทางนี้ก็พร้อมคุยด้วย?

เมย์ : ทนายคุยกันตลอด ถามตลอดว่าของอยู่ที่ไหน ก็ไม่บอก บอกว่าจะบอกก็ต่อเมื่อพี่เมย์เอาเงินไปเอาออกมา มันทำได้ด้วยเหรอพี่

ทำไม่ได้ จริงๆ มองว่าการรับสภาพหนี้ ดิวต้องไปรับสภาพหนี้ทางคนที่ดิวเอาของไปวาง ไม่ใช่รับสภาพหนี้จากเมย์ สร้อยอยู่กับใคร คุณก็ต้องรับสภาพหนี้กับเขา แล้วเอาของมาคืนเขา แต่เป็นไปได้ ถ้าวงแรกดิวผิดจริง วงที่สองคนรับไปผิดจริง ของต้องเอามาคืนเขาโดยสมบูรณ์ โดยเขาไม่เอาเงินไปจ่าย เพราะเขาไม่ใช่โรงรับจำนำ คุณไม่มีสิทธิ์รับของเหล่านี้ไป เหมือนที่คุณแอน ทองประสมโดน แล้วมีการเอาไปวางที่โรงรับจำนำ โรงรับจำนำอ้างว่า เฮ้ย ฉันมีใบการันตี จากภาครัฐว่าฉันสามารถรับซื้อของเก่าได้ มันไม่ใช่ คนละเรื่องนะ คุณไม่ใช่โรงรับจำนำ ฉะนั้นคุณเข้าข้อเต็มๆ เหมือนกัน ติดต่อมา เอาของมาคืนเขา แล้วคุณไปรับสภาพหนี้กับทางคุณดิว มันต้องเป็นแบบนี้ แต่เชื่อว่ากระเป๋าตามไม่ยาก สร้อยเส้นนึง ผมว่าผมรู้ แต่สร้อยสีเขียวนี่ไม่รู้?

เกรียงไกร : พอทราบบ้าง หลังพี่หนุ่มและพี่มดดำออกรายการไปก็ได้แหล่งข่าวมาเยอะ และทีมที่ไปสืบด้วย เราพอรู้เส้นทางไปตรงไหนๆ มันไม่เป็นไปตามเรื่องนี้เลย เขาไม่ได้ไปวางกับผู้ใหญ่คนนี้เลย เขาเร่ไปจำนำโน่นนี่นั่น แต่จะไม่พูดตรงนี้เพราะเป็นรายละเอียดคดี แต่ผมรู้เส้นทางถ้าจะดำเนินคดีเพื่อไปเอาทรัพย์สินตรงปลายทาง ก็สามารถทำได้แต่ก็จะง่ายกว่าถ้าสองส่วนคือหนึ่งคนรับของมาให้ความร่วมมือ ทำรับสภาพหนี้กับคุณดิวอะไรก็แล้วแต่ หรือคนให้ความช่วยเหลือให้ความร่วมมือในการไปวางทรัพย์แต่ละที่ ถ้าเปลี่ยนใจแล้วมาเป็นพยานให้เรา เราก็จะพูดคุยได้ และเป็นประโยชน์ต่อคุณแน่นอน

ซุงอยู่ต่างประเทศ ล่าสุดตีสี่ เขาโพสต์คลิปเขา คุณซุงไม่ได้พูดถึงตัวเงิน ก็เลยไม่รู้ว่าเงินมัน 20 ล้านจริงหรือเปล่า หรือจะน้อยกว่านั้นตอบไม่ได้ ต้องรอคุณซุงพูดเอง แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่คุณซุงพูดก็เป็นเรื่องเดียวกันกับคุณดิว สอดคล้องกัน ถึงไม่เอ่ยชื่อก็เป็นทิศทางเดียวกัน?

เมย์ : จริงๆ พยายามติดต่อน้องมาตั้งแต่วันที่ 14-15 หลายวันแล้ว ให้น้องติดต่อไปผ่านทีมงาน แต่ทีมงานตอบกลับมาว่าโนคอมเมนต์ คงไม่อยากให้ข้อมูลมากเท่าไหร่ และอาจยังไม่รู้ข้อเท็จจริงอื่นๆ ก็เลยได้แจ้งเรื่องนี้ไว้ เพราะมันเป็นต้นเรื่องจริงๆ ก็ให้ข้อเท็จจริงกับตร.ไป อยากบอกว่ามันมีชื่อน้องนะ ไม่ได้กล่าวหาอะไรน้องนะ มันมีชื่อน้องในเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น เพราะจุดเริ่มต้นคือซุง จริงๆ อยากถามเขาก่อน อยากรู้มาก เราเป็นผู้ใหญ่ ก็อยากคุย แต่พอเขาตอบว่าโนคอมเมนต์ งั้นเราก็แจ้งไปตามข้อเท็จจริงนั่นแหละ เพราะจริงๆ ไม่อยากไปยุ่งกับเขา ไม่อยากให้ใครเกี่ยวข้องสักเท่าไหร่

คิดว่าของไปไกลหรือยัง หรืออยู่ในวงสอง?

เกรียงไกร : วงสองก็ไม่เกินวงสามครับ อยู่ในนี้ ไม่เกินไปกว่านี้

คุณดิวอาจเอาไปวาง แล้วอีกคนมารับไป กระเป๋ารู้มั้ยอยู่ที่ไหน?

เมย์ : กระเป๋าเคยอยู่กับร้านนี้ แล้วถูกขายไป

ใครขาย?

เมย์ : ดิวนี่แหละค่ะ ขายไป เอาไปไหนยังไม่รู้ อาจไปเอาให้ได้ราคามากขึ้นหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่มันไม่ได้กลับมาหาเมย์ มันมีตัวละครเยอะมากค่ะ ชื่อหลายชื่อมากกับเรื่องนี้ หนูใช้คำว่าทรัพย์สินเหล่านี้ได้ถูกเร่ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว จำนวนมากกว่า 10-20 ล้าน หนูรู้สึกว่าโอ้โห ของรักเรา กระเป๋าหนูไม่เคยใช้สักครั้งเดียว สีเหลือง ไม่เคยเอามาใช้เลย แต่ก็ยังให้เขาไป แต่มันถูกไปเร่เป็นของไม่มีค่าไปเลย

ของคุณ 62 ล้าน เขาเอาไปวางเท่าไหร่?

เมย์ : 21 ล้าน นาฬิกา 3 ล้าน กระเป๋าถ้าจำไม่ผิดนะคะ สองใบ 3 ล้าน สร้อยบูการี 8 ล้าน สร้อยอีกเส้นน่าจะ 8 ล้านเหมือนกัน ประมาณ 21 ล้าน

พูดง่ายๆ ถ้าคุณเอาเงินก้อนนี้ไปให้เขา เดี๋ยวเขาไปเอาของมาให้ เขาก็จะมารับสภาพหนี้กับคุณ?

เมย์ : ใช่ แล้วบอกว่าให้ทนายไปเอากับร้านก็ได้ แต่ต้องได้หลังจากที่ทำยินยอม ในระหว่างหนึ่งเดือนที่ผ่านมา สิ่งที่ดิวพิมพ์ในแชตทั้งหมด สะท้อนให้เห็นว่าดิวพยายามทำให้ตัวเองถูกทั้งหมด จนหนูเริ่มงงๆ เริ่มรู้สึกไม่ปกติ ตั้งแต่ทุกอย่างที่เขาพิมพ์ เช่นพิมพ์ว่าเมย์ก็รู้ทุกอย่างนี่ พยายามโน้มน้าวให้เมย์ยอมรับในสิ่งที่เขาอยากให้เป็นแบบนั้น เมย์เลยรู้สึกว่าเราไม่คุยกันดีกว่า หนูคุยทีไรก็เสียท่าเขาทุกที คุยทีไรก็เห็นใจเขาทุกครั้ง

คุยอีกครั้งได้มั้ย?

เมย์ : ได้ค่ะ เมย์ไม่ติดเลย

เชื่อว่าคุณดิวดูอยู่ตลอด มีอะไรที่รู้สึกว่าคุณเมย์พูดไม่ใช่ข้อเท็จจริงก็ชี้แจงได้เลย ไม่อยากให้ฟังมุมเดียว เมื่อกี้ต่อสายไปหาแล้วตอนพักเบรก แกก็บอกว่ายินดีนะ ดิวอยู่ในสาย ดูอยู่ตลอดใช่มั้ย?

ดิว : ดูอยู่ค่ะพี่หนุ่ม ดิวว่าก่อนอื่นดิวต้องขอโทษพี่เมย์ ทำให้พี่เมย์ต้องมานั่งออกรายการอะไรแบบนี้ จากที่คุยกันตลอด ดิวรู้อยู่แล้วว่านี่เป็นสิ่งเดียวที่พี่เมย์ไม่อยากทำ ดิวต้องขอโทษเรื่องนี้เลย และขอบคุณพี่หนุ่มที่ให้โอกาสดิวชี้แจง ต้องพูดว่าทั้งหมดที่พี่เมย์พูด ดิวก็ไม่ได้ขอตอบโต้อะไร ขอยอมรับว่าทั้งหมดเกิดขึ้นจากดิวเองและดิวต้องขอโทษพี่เมย์และทุกๆ คนด้วย ที่ทำให้ต้องมาเดือดร้อนอะไรกันแบบนี้ ก็ยอมรับผิดทุกอย่าง ไม่ได้มีเจตนาจะหลอกลวงอะไรเลยนะคะพี่เมย์ พี่เมย์เป็นคนเดียวที่ช่วยดิวในเวลานั้นจริงๆ รายละเอียดหลายๆ อย่างที่พี่เมย์พูด ก็เป็นเรื่องจริงที่ที่ตอนแรกดิวเป็นคนไปขอความช่วยเหลือ แต่ดิวต้องขอชี้แจงก่อนว่าตอนแรกที่ดิวขอไปทางหุ้นส่วนดิวเขาเป็นคน…

เมย์ : (ร้องไห้)

ดิว : พอเห็นพี่ร้องหนูก็จะร้องแล้วเนี่ย (เสียงสั่นเครือ)  ทางหุ้นส่วนเขาเป็นคนออกความคิดเห็นให้ดิวไปคุยในแบบนั้น ในการไปขอตรงนั้น ไม่ใช่หุ้นส่วนไม่รู้นะคะ หุ้นส่วนรู้ แล้วหุ้นส่วนเป็นคนบอกให้หนูไปลองคุยแบบนั้น (ร้องไห้) และหนูก็รู้ว่าหลังจากที่หนูคุยแบบนั้น พี่เมย์ก็คือพยายามช่วยจริงๆ เพราะจากที่ย้อนไปดู พี่เมย์บอกว่าโอเค ขอไปลองคุยก่อน ว่าเป็นไปได้มั้ย พอสุดท้ายพอเป็นไปไม่ได้ ในคอนเวอร์เซชั่นทั้งหมด มันคือการที่พี่ช่วยน้องจริงๆ เป็นคำพูดเขาจริงๆ ที่เขาพูดว่าโอเคแกคือน้องฉัน ซึ่งพอสุดท้ายเขาช่วย มันก็คือจริงแหละค่ะ มันอาจไม่ได้เป็นตามนั้น ของมีการถูกวางไว้บางที่ก่อนตตอนแรก แต่ท้ายที่สุดแล้ว ตัวซุงเองก็ต้องการเป็นเงินจริงๆ ดังนั้น ณ เวลานั้นที่ดิวไม่ได้บอกพี่เมย์ มันเป็นวัตถุประสงค์คล้ายๆ กันคือพี่เมย์พูดว่าพี่ให้น้อง พี่ช่วยน้อง เอาไปแก้ไขปัญหาตัวเองนะ เขาก็ช่วยหนูจริงๆ ตอนนั้นหนูก็เลยต้องทำแบบนั้น หนูไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรไปมากกว่าหนูขอโทษจริงๆ ที่หนูเอาไปทำแบบนั้น

เมย์เขาอยากรู้ว่าของเขา อยู่ที่ไหน?

ดิว : ยังอยู่ครบ หนูว่าจริงๆ แล้วทางพี่ทนายน่าจะเข้าใจความหมายของหนูผิด หนูไม่เคยมีเจตนาไม่บอกนะคะว่าของอยู่ที่ไหน เพราะไม่มีความจำเป็นที่ต้องเป็นแบบนั้น เพราะหนูเข้าใจตลอดมาว่าหนูกับพี่เมย์ เราจะพยายามช่วยหาทางออกว่าเราจะจัดการเรื่องนี้ยังไงดี พี่เมย์คุยกับหนูตลอดว่าโอเค แกมาช่วยกัน แล้วก่อนหน้านี้ดิวไม่เคยออกมาพูดอะไรเลย เพราะหนูคุยกับพี่เมย์ตลอด พี่เมย์บอกว่าเรามาหาทางลงด้วยกันนะ เรามาช่วยกันนะ ซึ่งตรงนั้นหนูยังขอบคุณเขาอยู่ในใจตลอด (ร้องไห้) ที่ทนายบอกว่าหนูไม่บอก หนูไม่มีความจำเป็นต้องปิด ข้อแรก ข้อสองคือในตอนนั้นที่คุยและพยายามหาทางออกกัน หนูพูดจากใจเลยนะ ว่าบางทีมองหนูว่าเลวร้ายหรืออะไร แต่สิ่งที่ดิวพยายามจะทำ ดิวไม่ได้พยายามทำให้ตัวเองถูกอะไร การเอาไปทำผิดวัตถุประสงค์ พี่พูดแบบนั้น ในมุมพี่ๆ พูดแบบนั้นไง แต่มุมดิวไม่ได้คิดแบบนั้น ดิวไม่ได้มีเจตนาว่าเอาไปทำผิดวัตถุประสงค์นะ เราเข้าใจว่ายังไงก็ต้องแก้ไขปัญหานี้จริงๆ มันคืออย่างนั้นค่ะ

มีอะไรอยากถามคุณดิวมั้ย?

เมย์ : ถ้าจะคุยกับดิว มีคำถามในสมองแค่เรื่องสองเรื่องเลย (ร้องไห้) พี่เคยคุยกับดิวว่าพี่มั่นใจว่าดิวจะเอาของมาคืนพี่แน่ๆ เพราะพี่มั่นใจว่าดิวจะไม่กล้าเสียพี่ไป เพราะพี่เชื่อว่าดิวไม่สามารถหาคนแบบพี่บนโลกใบนี้ได้แน่ๆ

ดิว : ใช่ ตอนพี่เมย์พูดแบบนั้น หนูก็จำได้ แล้วหนูก็ยืนยันจริงๆ ว่าหนูรู้

เมย์ : แต่พี่พูดตรงๆ เลยนะดิว พี่เสียใจมาก พี่ต้องจมอยู่กับมัน แล้วต้องมานั่งร้องไห้ แกทำได้ไงวะ แกเอาของไปครั้งแรก แกแม่xไม่เห็นค่าหัวใจพี่เลย แกดิสเครดิสพี่ ไปบอกคนอื่นว่าพี่ไม่มีเงิน พี่ออกมาอยู่คนเดียว ดิสเครดิตทุกอย่าง ว่าพี่ไม่มีเงินแม้แต่จ่ายค่าซัพพลายเออร์ มันทำได้ยังไง ไม่เข้าใจ นี่คือฟางเส้นสุดท้ายที่รู้สึกว่าทุกอย่งที่ช่วยดิวมาตลอด และทุกอย่างที่พี่ฟังดิวมาตลอด นี่พี่โดนหลอกใช่มั้ย นี่คือคำถามที่ยังลบออกไม่ได้ ว่าเฮ้ย เมย์ วาสนา ทำธุรกิจมาขนาดนี้ เธอโดนเขาหลอกมาขนาดนี้จริงๆ เหรอ

ดิว : คนเดียวที่เมย์พูดว่าเป็นของพี่เมย์ คือร้านนาฬิกา

เมย์ : ดิว พี่เห็นแชตจริงๆ

ดิว : พี่เมย์จำได้มั้ย ว่าพี่เมย์เคยพูดกับดิวแล้วเรื่องนี้ ดิวตอบพี่ไปว่า พี่เอาแชตมาให้ดิวดู เพราะยังไงก็ยืนยันว่ามันไม่ใช่

เมย์ : พี่เชื่อดิวในเดือนม.ค. พี่ไปทานข้าว และร้องไห้กับดิว และเลือกที่จะเชื่อดิวต่อ ว่าเฮ้ย น้องไม่ได้หลอกพี่ น้องพยายามบอกว่าเขาพยายามปั่นให้เรามีปัญหากัน นี่คือสิ่งที่พูดตรงๆ นะ ของก็อยากได้ แต่สิ่งที่อยากได้มากกว่าคือศักดิ์ศรีของพี่

ดิว : ดิวต้องบอกกับพี่เมย์ตรงๆ นะคะว่าเอาจริงๆ ดิวไม่ทราบว่าแชตนั้นคือแชตไหน ดิวเคยขอพี่เมย์ดูด้วยซ้ำว่าเป็นแชตอะไร เพราะดิวก็อยากเห็น

เมย์ : ทนายตั้มเห็นกับพี่เลย วันที่ 14 เดือน 3

ดิว : กับใครดิวก็ยังนึกไม่ออกเลยเอาจริงๆ กับสร้อยที่บอกว่าเอาไป ดิวพูดกับพี่เมย์จริงๆ นะ สร้อยนั้นไม่เคยส่งอะไรไปให้ใครที่เป็นผู้หญิงเลยนะ เคยไปกับรุ่นพี่ของดิวคนนึง หลังดิวดูพี่เมย์เมื่อกี้ ดิวโทรไปถามเขาเลยว่าดิวเคยพูดแบบนี้จริงๆ เหรอ เขาบอกว่าไม่ใช่นะ ไม่มีนะ นอกจากนั้นสร้อยนี้ไม่เคยหลุดไปที่ใครเลยนะ

เมย์ : พี่หนุ่มเข้าใจหรือยังคะ ว่าทำไมหนูถึงไม่อยากคุยกับน้อง เพราะถ้าหนูพูดกับน้องแบบนี้ สุดท้ายหนูก็รักเขา และเชื่อเขาอีก

ดิว : พี่เมย์ พี่ไม่ต้องเชื่อดิวก็ได้ (ร้องไห้) ดิวรู้ตัวว่าดิวคุยกับใครบ้าง ดิวยังงงเลยว่ามีเฮ้ย ดิวมีคนสิบคนที่ดิวกล้าไปคุยกับเขาขนาดนั้นเลยเหรอ หนูว่ามันไม่ใช่

ตอนนี้สรุปดิวจะยังไง?

ดิว : ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นยังไง ดิวก็ต้องยอมรับกับมันอยู่แล้วในสิ่งที่เป็น ดิวพยายามแก้ไขปัญหา และทำทุกอย่างอย่างดีที่สุด ทุกๆ ครั้งที่บอกว่าซื้อเวลา ไม่เคยซื้อเวลาเลย ทุกครั้งที่พูดว่าโอเคเดี๋ยวจะได้แล้วนะ มีคนมาช่วยแล้วนะ จะเอาของสองอย่างให้ หนูมีความหวังทุกครั้งที่มีคนมาพูดว่าจะช่วยหนู (ร้องไห้) แต่สุดท้ายมันไม่ได้เป็นแบบนั้น (ร้องไห้) ก็กลายเป็นว่าโอเค ดิวแถไปวันๆ ซื้อเวลาไปวันๆ ซึ่งไม่ใช่แบบนั้น หนูพยายามทำให้ดีที่สุด พยายามแก้ไขปัญหา แล้วหนูก็ไม่ได้มีเจตนาอะไรใดๆ เลยที่จะทำแบบนั้น

ขอย้อนถาม กับซุงเคลียร์จบหรือยัง?

ดิว : เคลียร์จบแล้วค่ะ ที่เขาบอกว่ายังค้างอยู่ คือส่วนดอกเบี้ย ของน้องซุงเป็นเงิน 12.5 ล้าน รุ่นพี่ดิวคนนั้นเป็นเงินอีก 7 ล้านกว่าบาท โดยรวมก็ 20 กว่าล้าน ของตัวซุงที่จ่ายไปทั้งหมด มีสลิปโอนเงินจ่ายไปครบแล้ว ที่เขามาตาม เขาตามในส่วนดอกเบี้ย ซึ่งตอนแรกคุยกันขอยืม 7 วันก่อน เพราะดิวรู้ว่าเงินดิวกำลังจะมา ดิวขอยืมซุงไปก่อน 7 วัน พอทำไม่ได้ก็ให้รุ่นพี่ช่วยคุยกลายเป็นหนึ่งเดือน แต่ดอกเบี้ยตอนนั้นที่คุยกันไว้ คือ12.5 ล้าน ดอก 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสุดท้ายแล้ว หนูก็พูดกับรุ่นพี่ไปตรงๆ ชีวิตหนูตอนนี้ ชีวิตคนเราต้องมีครั้งนึงที่เป็นแบบนี้ มันมีปัญหาไม่มีทางออกเรื่องเงิน (ร้องไห้) ถูกมั้ยคะ

ดิวเอาเงินไปทำอะไร?

ดิว :  ที่เห็นหนูก็ลงทุนทำธุรกิจหลายอย่าง ใช่ บางอันก็ไม่ได้มีเงินหนู บางอันเป็นการทำอีกอย่าง เอาเป็นว่าธุรกิจทั้งหมดที่ดิวทำไม่มีอะไรประสบความสำเร็จเลย (ร้องไห้) ข้อสองหนูยอมรับตรงๆ เลยว่าตัวหนูเองก็เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับสังคม ใช้เงินเกินตัวหรือเปล่า หรือไม่ประมาณตัวเองจนทำให้เกิดปัญหาแบบนี้

คุณยอมรับว่าคุณใช้เงินเกินตัว?

ดิว : มันถึงจุดที่ต้องยอมรับแล้วว่ามันเป็นแบบนั้นนะ หนูคงใช้เงินเกินตัว ไม่ประมาณตัวเอง บวกกับสิ่งต่างๆ ที่หนูทำในชีวิตและพยายามทำ มันไม่ประสบความสำเร็จ มันไม่ได้เงิน มันก็เลยทำให้เกิดปัญหาแบบนี้ ซึ่งทุกๆ คนไม่ว่าจะน้องซุง พี่คนนั้น หรือว่าใคร ทุกคนช่วยดิวหมด ช่วยดิวจริงๆ ค่ะ แต่…

เงินที่ดิวเป็นหนี้อยู่ กลมๆ ประมาณเท่าไหร่?

ดิว : คือยอดนี้ที่ดิวเป็นหนี้กับพี่เมย์ เหลือรุ่นพี่คนนั้นอีกคนนึงที่ดิวยังติดเขาอยู่ล้านกว่าบาท ที่ดิวยังไม่ได้คืนเขา แต่อื่นๆ ที่มีข่าวก่อนหน้านี้หรืออะไรใดๆ ดิวบอกได้เลยว่าเป็นการลงทุนร่วมกัน ดิวมีหลักฐานร่วมกัน แต่วันนี้เรามาคุยเรื่องพี่เมย์ ก็ให้เป็นเรื่องพี่เมย์ก็ได้

เรื่องทั้งหมดได้ปรึกษาสามีมั้ย?

ดิว : ไม่ได้ปรึกษาค่ะ

เพราะอะไร?

ดิว : เพราะเขาไม่ได้มานั่งรับรู้เรื่องนี้ด้วย ในมุมหนู หนูรู้สึกว่าหนูก็มีแค่ตัวหนู หนูเป็นคนก่อปัญหานี้ขึ้น หนูก็ต้องจัดการปัญหานี้ขึ้น สามีเขาไม่ได้รับรู้ ตอนนี้พอเขารับรู้แล้ว เขาก็มีครอบครัวเขาที่มันเป็นระบบของครอบครัวเขา ส่วนตัวหนูเองก็ต้องดิ้นรนต่อไปเอง ดังนั้นสิ่งที่หนูคาดหวังอย่างเดียวเลยจากสามี คือขอให้รักและดูแลลูกอย่างดี (ร้องไห้)

ไม่บอกให้เขารักและดูแลดิวอย่างดีด้วยเหรอ?

ดิว : ดิวจะไปขอให้ใครรักดิวแล้วดูแลดิวอย่างดียังไงอ่ะพี่หนุ่ม มันเป็นแบบนี้ เราก็ยอมรับในแบบนี้ หนูจะไม่พูดว่าเอาเงินมาให้หนูเหอะ ช่วยหนูเหอะ เขาทำได้ดีที่สุดในแบบนั้น ตอนนี้พอเรารู้แล้วว่าเขาทำได้ดีที่สุดแบบนั้น สิ่งที่เราคาดหวังจากเขาคือรักลูกเราให้มากๆ  ดูแลลูกเราให้อย่างดี

จากนาทีนี้จะเอายังไง ของที่จะเอามาคืนคุณเมย์จะทำยังไง?

ดิว : หนูก็พยายามแก้ไขอยู่ หนูก็มีพี่ๆ หลายๆ คนที่เขาพยายามช่วยกันอยู่ว่ามันจะทำยังไงได้บ้าง แต่ตอนแรกที่ดิวคุยกับพี่เมย์เรื่องที่ว่าโอเคให้ดิวยอมรับสภาพหนี้กับดิวไปมั้ย แล้วให้พี่เมย์ไปเอาของ ไม่ได้จะเปลี่ยนจากอาญาเป็นแพ่งหรืออะไรแบบนั้น เพราะหนูไม่ได้รู้เรื่องพวกนี้หรอก หนูแค่อยากให้เขาได้ของเขาคืน หนูกลัวของเขาจะหลุดไป เพราะสุดท้ายแล้วพี่เมย์อยากได้ของคืน ส่วนตัวดิว ดิวยอมรับสภาพหนี้กับพี่เมย์ ดิวก็พยายามจัดการให้แบบนั้น หนูยังพูดกับพี่เมย์อยู่เลยว่าหนูสาบานว่าหนูไม่โกงพี่ สาบานด้วยชีวิตหนู ครอบครัวหนู แม่หนู ลูกหนู หนูสาบาน เพราะเจตจำนงหนูไม่ได้มีความคิดว่าจะโกงจริงๆ

ณ วันนี้สมมติเมย์ดำเนินคดีกับดิว เพื่อบีบให้ดิวเป็นผู้ต้องหา เพื่อให้วงต่อไปเอาของมาคืนเขา ดิวไปรับสภาพหนี้กันเอง ดิวโอเคมั้ย?

ดิว : ร้านนาฬิกายังคุยกับหนูเมื่อคืนว่า พี่เมย์บอกว่าจะให้ยอมรับสภาพหนี้กับเขา แล้วเขาจะมาเอาของออกจากร้านนาฬิกา ตัวดิวยังไงก็ได้ ขอให้ทุกคนตกลงกันได้ เพราะดิวก็ต้องแก้ไขปัญหาอย่างนี้

สิ่งที่พูดไปต้องตั้งใจฟังดีๆ นะ ถ้าวันนี้จะถูกดำเนินคดี เพื่อคดีต้องไปตกถึงคนที่รับซื้อของไป ก็จะเข้ารับซื้อของโจร ของจะกลับมาอยู่กับฝั่งเมย์โดยร้อยเปอร์เซ็นต์ ขณะเดียวกันดิวเองต้องไปรับสภาพหนี้กับทางร้านเขาเอง ดิวโอเคมั้ย?

ดิว : ดิวโอเคนะคะ ถ้าร้านเขาโอเค

ร้านไม่โอเคไม่ได้ เพราะร้านจะผิดไปด้วยเหมือนกัน ถ้าวันนี้เขาแจ้งความดำเนินคดีกับดิวฉ้อโกงเขา คนผิดวงสองคือคนรับของดิวไป ของจะกลับมาสู่คุณเมย์ เรื่องการรับสภาพหนี้ ดิวต้องไปตกลงกับร้านเขาเอง ดิวโอเคตรงนี้มั้ย?

ดิว : ดิวโอเค แต่อันนั้นหมายถึงหนูมีความผิดจริงถูกมั้ยพี่หนุ่ม

ร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ?

ดิว : หมายถึงตอนนี้หนูมีความผิดจริงร้อยเปอร์เซ็นต์เหรอพี่หนุ่ม

ถ้าเกิดเขาแจ้งความ ก็ต้องเป็นแบบนั้น แต่มุมดิวจะสู้แบบไหนก็เป็นสิทธิ์ของดิว?

ดิว : ใช่ สุดท้ายจะตัดสินเป็นยังไง ก็เป็นอย่างนั้น นี่เป็นสิ่งที่หนูเคยพูดกับพี่เมย์ว่าถ้าสุดท้ายต้องเป็นแบบนั้นพี่ก็ต้องทำเต็มที่ หนูก็ต้องทำเต็มที่ มันก็ต้องเป็นแบบนั้นถูกมั้ยคะ

เมย์ : ใช่ค่ะ สำหรับพี่นะดิว ถ้าถึงจุดที่คุยกัน ถ้าเป็นไปตามสิ่งที่ดิวพูดมาทั้งหมดจริงๆ ก็เรียกทั้งหมดทุกคนมาให้ยอม ไม่ต้องไปดำเนินคดีก็ได้ ถ้าทั้ง 4 ท่านยอมให้ดิวเซ็นรับสภาพหนี้อาญาใดๆ ก็ตามแต่ พี่ก็จบ ถ้าพูดตามตรง ณ วันนี้ไม่มีใครอยากจะควักเงินตัวเองออกมาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะร้านหรือพี่เมย์ ถูกมั้ย แต่ก็คิดว่าสิ่งที่พี่ทำ ณ วันนี้มันดีที่สุดแล้ว แล้วการที่พี่ต้องควักเงินมาช่วยในก้อนสุดท้าย สมมตินะ เอาออกมาเอง มันเป็นทางเลือกที่พี่ทำไม่ได้จริงๆ

พูดไปถึงร้านค้าหรือคนรับของเขาไป วันนี้มีทางเลือกให้คุณสองทาง หนึ่งคุณเอาของมาคืนเขา แล้วเอาดิวมานั่งคุย เอาเมย์มานั่งคุย พวกคุณสามสี่เจ้ามานั่งคุยเลย คุณต้องทำรับสภาพหนี้กับทางฝั่งดิว ส่วนของต้องคืนเมย์ไป จบแบบนี้ ทางที่หนึ่ง ไม่ต้องมีคดีก็ได้ ทางที่สองเขาดำเนินคดีกับดิว คุณรับของโจร ร้านุคณเสีย เอาแบบไหน?

เมย์ : ชัดเจน

นี่คือสองทางเลือก?

ดิว : หนูถามหน่อย ตอนนี้คือหนูเป็นโจรคนนั้นแล้วเหรอพี่

ไม่ได้บอกว่าเป็นโจร หนูสามารถไปสู้ได้ตามกระบวนการตามกฎหมาย  อาญาเมืองไทยเป็นระบบกล่าวหา มุมเมย์เขามี่หลักฐานก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีหนูได้ ในทางที่เขาเป็นผู้เสียหาย ในทางหนู หนูก็สามารถไปชี้แจงว่าไม่ใช่ ไม่ได้เอาไปแบบนี้ ก็ไปต่อสู้ของหนูเอง แต่ที่แน่ๆ เป้าประสงค์ที่เขาต้องแจ้งความหนูก่อน เพราะเขาต้องจัดการคนฮุบเหยื่อของหนูรายต่อไป นั่นคือร้าน ไม่ได้บอกว่าเป็นโจรหรือคนไม่ดีนะ เพียงแต่ทางมีไม่กี่ทาง?

เกรียงไกร : ถ้าคุณดิวไม่มีเจตนาโกงคุณเมย์ คุณดิวบอกตอนนี้ได้มั้ย ว่าทรัพย์สินทั้งหมดทั้ง 5 ชิ้นอยู่ที่ไหนบ้าง

ดิว : บอกได้แต่ดิวไม่รู้ว่าการเอ่ยตรงนี้ต่อหน้าทุกคนจะเป็นยังไง

งั้นรับปากว่าหลังไมค์ดิวจะบอกนะ?

ดิว : ได้ เพราะตอนแรกดิวตั้งใจส่งคอนแทคให้พี่ทนายอยู่แล้ว ไปถามทุกร้านได้เลย ว่าดิวประสานทุกร้านว่าจะให้ทนายพี่เมย์มาคุยนะคะ

เกรียงไกร : โอเค งั้นส่งมาได้เลยครับ

ของชิ้นนึงอยู่กับ รมต. จริงมั้ย?

ดิว : ของชิ้นนึงผ่านผู้ใหญ่คนนึงไป แล้วผู้ใหญ่คนนั้นน่าจะไปฝากไว้กับ รมต. คนนึงค่ะ เป็นเรื่องจริงค่ะ

สามารถประสานได้ใช่มั้ย รมต.ก็สามารถเสียผู้เสียคนได้เหมือนกันนะ?

ดิว : ก็ประสานไปที่ผู้ใหญ่คนนั้นได้ เขาก็น่าจะพร้อมจัดการใดๆ

จริงๆ ไม่อยากให้เป็นประเด็นถึงจุดนี้ ตอนนี้อยู่ที่ไหน?

ดิว : อยู่ไต้หวันค่ะ

จะกลับมาตอนไหน?

ดิว : เดี๋ยวจัดการลูกเสร็จ คืออย่างนี้ค่ะ พรุ่งนี้ทนายดิวจะเข้าไปที่กองปราบ เข้าไปแสดงความบริสุทธิ์ใจก่อน เข้าไปก่อนแล้วเดี๋ยวดิวจัดการทุกอย่างเสร็จ ดิวถึงไทย เท้าดิวเหยียบไทยดิวก็จะเข้าไปชี้แจงหลายๆ อย่างที่กองปราบทันทีค่ะ

มีอะไรอยากพูดอีกมั้ย?

ดิว : ที่พี่เมย์ช่วยดิวทุกอย่าง ดิวต้องขอบคุณพี่เมย์มากๆ หนูยอมรับผิด หนูเป็นคนผิดคนเดียว หนูขอโทษพี่เมย์จริงๆ หนูก็จะรับผิดชอบ จัดการให้พี่เมย์ ให้ได้ดีที่สุด สุดท้ายแล้วอย่างที่หนูบอกพี่เมย์ (ร้องไห้) พอมันเกิดหตุการณ์แบบนี้จากพรีเซ็นเตอร์ที่หนูต้องได้เงินเขาก็เบรกหนูไปก่อน มันก็ไม่มีทางที่จะมาเคลียร์อะไรได้เลย หรือทำอะไรให้ดีได้เลย เพราะมันเสียไปแล้ว ดิวก็พยายามดิ้นรนอยู่ที่จะทำทุกอย่าง แต่แทบไม่มีอากาศแล้ว (ร้องไห้) หนูไม่รู้ว่าจะจบยังไง จะออกยังไง แต่หนูจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด  หนูขอโทษพี่เมย์จริงๆ และขอบคุณพี่ รักพี่เหมือนเดิมนะ

อยากพูดอะไรกับสังคมที่จับตามองอยู่?

ดิว : คนที่รักดิว ดิวต้องขอโทษที่ทำอะไรโดยไม่ได้คิดถี่ถ้วนอย่างดี มันทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนคนที่ซ้ำเติมหรืออะไรใดๆ สิ่งหนึ่งที่อยากจะขอคืออย่าไปพาดพิงถึงครอบครัวหนู ลูกหนู หรือสามีที่โดนข้อมูลไปอะไรกับเขา เพราะมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา สิ่งสำคัญคืออย่าไปอะไรกับลูกๆ เด็กๆ เขาไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลย จนตอนนี้เขาต้องมาอยู่ต่างประเทศ หนูขอจริงๆ ถ้าจะทำอะไร หรือพูดอะไรก็มาลงที่ดิว ดิวไม่ได้ปิดคอมเมนต์นะ ดังนั้นก็มาใส่ดิวไปเลย ไม่ต้องไปใส่ลูกดิว ส่วนสิ่งที่ดิวทำ สุดท้ายแล้วไม่ว่าผลจะเป็นยังไง ดิวก็ต้องต่อสู้ในมุมของดิวให้ดีที่สุด แต่หนูต้องพูดย้ำอีกครั้งว่าหนูไม่เคยอยากสู้กับพี่เมย์นะ เพราะพี่เมย์เป็นคนช่วยหนู แต่ถ้ามันต้องไปถึงกระบวนการนั้น หนูก็ต้องพยายามทำให้ดีที่สุด ดังนั้นสำหรับสังคมต้องขอโทษ และดูดิวเป็นแบบอย่างแล้วกันว่าในบางอย่างที่เราอาจทำอะไรเกินความสามารถของเราไป หรือไม่ประมาณตัวเองก็ทำให้เกิดผลแบบนี้ ก็อยากขอโทษทุกคน แต่อยากให้ทุกคนเห็นใจด้วยว่าชีวิตคนเรามันก็ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไปทุกอย่างว่ามันจะสวยหรู แล้วไม่ใช่ว่าคนเราจะขึ้นไปได้แล้วจะลงมาไม่ได้ ซึ่งหนูคิดว่าวันนี้หนูก็ลงมาถึงสุดแล้ว ดังนั้นก็ขอความเห็นใจ และขอให้ผู้ใหญ่หลายๆ คนให้โอกาสหนูด้วยค่ะ (เสียงสั่นเครือ)

ยืนยันว่าพร้อมเจรจา รับสภาพหนี้กับคนที่รับของไป?

ดิว : เรื่องนี้หนูไม่รู้สเต็ป พูดตรงๆ นะ หนูต้องปรึกษาทนายหนูว่าทำแบบไหนได้บ้าง หนูไม่รู้ร้านเขาจะยอมมั้ย สมมติดิวเจรจาได้ แต่ถ้าร้านเขาไม่ยอมล่ะคะ

ถ้าร้านไม่ยอมก็มีทางเลือกคือร้านต้องรับซื้อของมิจฉาชีพไป ไม่ได้บอกว่าหนูเป็นโจรหรือมิจฉาชีพนะ?

ดิว : มันก็ต้องมีคำตัดสินมาแล้วว่าหนูผิด ถูกต้องมั้ยคะ ร้านเขาถึงมีปัญหาตรงนั้น ทีนี้เป็นการเจรจาระหว่างดิวกับร้านว่าเขาจะโอเคในรูปแบบไหน ถ้าเขาไม่ยอมแต่หนูเจรจาแล้ว หนูก็ทำดีที่สุดแล้วดังนั้นอย่าคาดหวังว่าการที่หนูไปคุยให้มันจะได้คำตอบว่าใช่ ได้ เยส เพราะหนูก็ไม่รู้เขาเหมือนกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นดิวไม่อยากให้ร้านมีปัญหา เดือดร้อน ไม่ได้อยากให้พี่เมย์มีปัญหา เดือดร้อน ทั้งสิ้นทั้งหมดทั้งมวล ประเด็นอยู่ที่ดิวต้องไปหาเงินมาเอาของคืนให้พี่เมย์ ดังนั้นไม่ว่าจะสู้กันประเด็นไหน ดิวก็จะคืนพี่เมย์ค่ะ

เป็นไปได้มั้ย ให้ผู้ใหญ่สักคนไปเอาของออกมาก่อนแล้วรับสภาพหนี้?

ดิว : เป็นไปได้ค่ะ เพราะพี่ๆ เขาก็พยายามช่วยกันอยู่ค่ะ

โอเคมั้ย?

เมย์ : คำตอบเดียวคืออยากได้ของคืน ทุกอย่างหนูฟังมาหมดแล้ว

ตั้มอยากพูดอะไร?

เกรียงไกร : ผมพูดไปหมดแล้ว การดำเนินคดีอย่างที่บอกยังยืนยันคำเดิม สุดท้ายอาจคุยกันไม่ได้ ถ้าคนรับของไปแล้วอยากกลับมาคุยกับเราโดยตรงก็ได้ หรือคุยกับพี่หนุ่มก็ได้ หรือใครก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับคุณเมย์ ที่อยากเน้นย้ำคือคนที่เอาของไปวางแต่ละจุด ถ้าคุยกันไม่ได้ ก็อยากให้คนที่ไปร่วมมือ สนับสนุน หรือคนเอาของไปวาง ถ้าเปลี่ยนใจอยากมาร่วมมือกับเรา ก็ทักมาได้ ติดต่อมาได้

พี่อรรถอยากพูดอะไร?

อรรถชัย : เรื่องสั้นๆ ง่ายๆ เรื่องนี้คุยกันมาเยอะแล้ว คุณเมย์ให้ยืมของ คุณดิวเอาของมาคืน ทุกอย่างก็จบ หวังว่าคุณเมย์จะได้ของคืนโดยเร็วนะครับ

คุณเมย์?

เมย์ :  สำหรับเมย์สั้นๆ อยากได้ของคืนจริงๆ ใครที่ครอบครองตรงนี้อยู่ เมย์แค่อยากได้ของของเมย์คืนมันเป็นคุณค่าทางจิตใจ บางชิ้นมันหาไม่ได้แล้วจริงๆ ก็แค่อยากได้ของคืน ถ้าอยากจะฝากจริงๆ สำหรับเมย์ เมย์รู้สึกว่าครั้งนี้ก็เป็นบทเรียนราคาแพง มีความสัมพันธ์ที่ดีกันอยู่แล้ว ถ้าเมย์ไม่ช่วยไปก่อน เรื่องก็คงไม่บานปลาย ภาพลักษณ์ทางสังคมไม่ได้การันตีถึงความซื่อสัตย์หรือใดๆ ก็ตามแต่ เราก็ต้องระมัดระวัง ก็เป็นเกราะป้องกันให้เราแกร่งขึ้น ให้เราโตขึ้นในอีกบริบทนึงค่ะ

คุณโดนแบบนี้มาเรื่อยๆ จากคนอื่นๆ 400 ล้านก็เคยโดนมาแล้ว?

เมย์ :   ค่ะ อันนี้ก็ไม่ได้ปิด เพราะคุยกับน้องอยู่ 400 ล้านเป็นหนี้ทางการค้า เขามีการสั่งของจากโรงงานเดือนละ 40 ล้าน มันมีเครดิตเทอม พอมันเยอะขึ้นมันก็เป็นมูลค่าที่สูง เป็นหนี้บริษัทร้อยกว่าล้าน 400 เกิดเมื่อนานมาสักพักนึง มันเป็นการซื้อขายหุ้นส่วนนึงด้วย ปัจจุบันน้องก็พยายามขายของทำเพื่อการชำระหนี้เสมอมา ปัจจุบันเหลือ 100 กว่าล้านค่ะ

เป็นเพราะคุณเป็นคนใจนักเลงกับเพื่อนหรือคนที่อยู่รอบข้างหรือเปล่า?

เมย์ : ถ้าพูดตรงๆ หนูเป็นมนุษย์ที่ถ้าหนูรักใครมากๆ เพื่อนหนูรู้ดี ถ้าเขาลำบากหนูก็ให้ได้ (ร้องไห้) เราลำบากมาก่อน โรงรับจำนำหนูก็เคยไปมาอยู่แล้ว ในวันที่เรามีอะไรจะช่วยเหลือคนที่เรารัก ไว้ใจ วางใจ เป็นเพื่อน ชีวิตหนูไม่มีใครนอกจากเพื่อนในการเติบโตธุรกิจมา เพื่อนซัปพอร์ตกันอยู่แล้ว สำหรับหนูคำว่ามิตรภาพหรือเพื่อนมีค่ามากๆ เพราะหนูเติบโตมาได้ด้วยสิ่งเหล่านี้ หนูเลยเป็นคนแบบนี้แหละ เหตุการณ์นี้ก็ทำให้หนูทบทวนตัวเองมากๆ ว่าก็ต้องระมัดระวัง เหมือนที่เขาด่าๆ กันมา เปลี่ยนมายด์เซ็ตนี้ได้แล้ว ก็คงต้องเป็นแบบนั้น

อยากมีพี่ชายสนิทสักคนมั้ยล่ะ พี่ชายเป็นสื่อนะ?

เมย์ : ไม่เอาแล้ว (หัวเราะ) แฮชแท็กว่าเข็ดแล้ว

เหนื่อยเนอะ?

เมย์ : มากค่ะ แต่วันนี้ก็มีความหวังมากๆ ว่าจะได้คืน

จะพูดคุยกับคุณดิวอีกมั้ย?

เมย์ : ให้ทนายคุยค่ะ

ตอนนี้ทนายความเรียบร้อยหมด มีที่ไหนบ้าง?

อรรถชัย : มีที่กองปราบ 1 คดี มีที่สน.ทองหล่ออีก 1 คดี แจ้งดำเนินคดีครับ

About Author