“อั้ม” เมียถูกแดนเซอร์ตบ 3 รุม 1 ยันไม่ได้หึง ยังขำผัวถูกดึงหน้าไปจกเป้าแดนเซอร์ ให้ทิปเอง 4 พัน

“อั้ม” เมียถูกแดนเซอร์ตบ 3 รุม 1 ยันไม่ได้หึง ยังขำผัวถูกดึงหน้าไปจกเป้าแดนเซอร์ ให้ทิปเอง 4 พัน

กรณีโซเชียลแชร์คลิปหญิงรายหนึ่งถูกแดนเซอร์รุมทำร้ายร่างกาย ตบ 3 รุม 1 อ้างอีกฝ่ายหึงมาตามผัว ก่อนปาแก้วใส่ตนเองก่อน ขณะที่ฝ่ายสามีได้เข้าทำร้ายร่างกายแดนเซอร์เพื่อปกป้องภรรยา โดยเมียยืนยันว่าตนไม่ได้หึง แต่เป็นเพราะฝ่ายแดนเซอร์พูดแทรกตลอด ทำให้รำคาญ จึงปาแก้วลงพื้น ซึ่งเรื่องดังกล่าว โซเชียลเสียงแตกเป็นสองมุม

รายการ โหนกระแส วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 สัมภาษณ์ทั้งสองฝ่าย เฟิร์น, ปาล์ม, เตย, ฝน ฝั่งแดนเซอร์ และอีกมุม อั้ม ภรรยาที่ถูกทำร้ายร่างกาย , ไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายคนกลาง  

เรื่องราววันนั้นเป็นยังไง?

เฟิร์น : วันนั้นเป็นงานจัดเลี้ยงบริษัทแห่งหนึ่ง กับสถานที่แห่งนึง จัดที่โรงแรมในพัทยา เป็นงานเลี้ยงพนักงาน แดนเซอร์ 4 คน พนักงานไม่ทราบกี่คน ประมาณ 50-60 คน วันนั้นทำงานเต้นกันปกติ ได้รับเงินจากผู้ว่าจ้างมาแล้ว แต่ผู้ว่าจ้างทางหนูเป็นวงดนตรีที่บริษัทจ้างไปอีกที พอจบงานก็มีพี่ๆ พนักงาน เขาอยากกินเหล้าต่อ ไม่ต้องเต้นแล้ว ให้เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมานั่งกินเหล้ากับเขา หนูเลยบอกว่าโอเค ได้ค่ะ เขาบอกขอต่อเป็นชม.ได้มั้ย หนูบอกงั้นขอเริ่มงานเป็นสี่ทุ่มครึ่งถึงห้าทุ่มครึ่งนะคะ ไปนั่งกินเหล้ากับเขา

งานเริ่มสี่ทุ่ม?

เฟิร์น : งานแดนเซอร์หกโมงครึ่งถึงสีทุ่มค่ะ

ลักษณะโคโยตี้หรือเปล่า?

เฟิร์น : แดนเซอร์ค่ะ เป็นวงดนตรี   

ปาล์ม : เป็นแดนเซอร์ที่เต้นตามงานบวช งานแต่ง งานจัดเลี้ยง

เฟิร์น : โคโยตี้เขาจะเลื้อย ๆ

พอเต้นจบสี่ทุ่มครึ่งก็โดนเรียกตัว?

เฟิร์น : ก็เปลี่ยนเสื้อผ้ากลับแล้ว มีการคุยกันหลังเวที เขาถามว่าน้องจะอยู่ต่อได้มั้ย พี่ขอจ้างต่อ คุยเรื่อราคากันเรียบร้อย ก็เลยเป็นการเริ่มงานที่สี่ทุ่มครึ่งถึงห้าทุ่มครึ่ง เป็นการไปนั่งกินเหล้ากับเขาแล้ว ไม่ได้ใส่ชุดแดนเซอร์แล้ว ก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น ทำงานเกือบครบ 1 ชม.ก็เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นค่ะ

มีผู้ชายนั่งอยู่กี่คน?

เฟิร์น : 10 คนค่ะ แต่มีรูปภาพให้ดู ว่านั่งกันแบบไหน ในวงนั้น สามีพี่เขาไม่ได้อยู่ในวงนั้นเลย เขาแยกไปประมาณ 2 เมตร เพราะที่นั่ง 2 ระดับ

ผัวเขาไม่ได้นั่งใกล้ ๆ คุณ?

เฟิร์น : ใช่ค่ะ ก็คุยกัน ดื่มแอลกอฮอล์ปกติ พี่เขาก็เดินลงมา พูดว่ามึงจะกลับไม่กลับ ถ้ามึงไม่กลับก็อยู่ตรงนี้แหละ หนูก็ตกใจ หันไปดู แต่ ณ ตรงนั้น เวลาไปก็จะมีแบบนี้อยู่แล้ว ที่แฟนมาตาม ก็ไม่ได้สนใจอะไร ก็ก้มหน้าต่อ ไม่ได้คุยอะไรกัน จากนั้นพี่เขาก็เดินกลับไป ไม่มีการพูดแทรกเลยนะคะ แล้วพี่เขาก็เดินกลับมา

พูดจริงมั้ย?

อั้ม : หนูไม่เคยพูดกูมึงกับแฟนเลย

เฟิร์น : หนูได้ยินค่ะ

คุณได้ยินมั้ย?

ปาล์ม : หนูไม่รู้เหตุการณ์ เพราะหนูหันหลังรับประทานอาหารอยู่ หนูรู้เหตุการณ์ตอนปามาแล้ว เพราะน้ำมันโดนหนู หนูเลยงงว่าปาแก้วมาทำไม

เตย : ไม่ได้ยินค่ะ แต่รู้ว่ามาตามแฟน  

คุณได้ยินมั้ย?

ฝน : หนูได้ยิน เขาพูดว่ามึงจะกลับหรือไม่กลับ พี่เฟิร์นเลยพูดว่า แฟนใครมาตาม ให้พี่ผู้ชายขึ้นห้องไปก่อนมั้ย เขาพูดแบบนี้

แต่คุณยืนยันว่าคุณไม่ได้พูด?

อั้ม : ไม่ได้พูดกูมึง แต่พูดว่าพี่จะกลับตอนไหน ไม่มีมึงจะกลับหรือไม่กลับ ไม่เคยพูดเลยกับแฟน คำว่ากูมึงไม่มีเด็ดขาด

ตอนคุณเดินมา ผัวคุณนั่งอยู่กับเขามั้ย?

อั้ม : ไม่ได้นั่งเลยค่ะ ห่างกันมาก

พอเขาเดินมาอีกครั้ง?

เฟิร์น : ครั้งแรกเขาพูด พวกหนูก็เงียบกัน ไม่ได้พูดอะไร พอเขาเดินกลับมา เหมือนพูดกับคนในวงที่เป็นเพื่อนแฟนเขาว่าหนูโทรหามันหลายสาย ทำไมไม่รับ หนูเลยพูดเหมือนแซวว่าพี่เมียใครมาตามกลับห้องเหอะ เดี๋ยวมีปัญหากัน ตอนนั้นหนูยังไม่รู้เลยว่าสามีพี่เขาคือคนไหน

จากนั้นยังไงต่อ?

เฟิร์น : ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที มารอบสาม แก้วมาเลย ปาใส่หนู เพราะแก้วจากสามีเขา เขาหยิบแก้วจากผัวเขาเขวี้ยง แล้วไม่ได้เขวี้ยงลงพื้น ระยะห่างจากผัวเขาที่ยืนอยู่กับฝั่งหนู เขาหยิบแก้วแล้วขว้างมาเลย พวกเราก็นั่งกันอยู่ แล้วก็ตามคลิปเลยค่ะ ลุกเลย มันบันดาลโทสะ มันขาดสติด้วยค่ะ เขาถามก่อนว่ามึงพูดว่าอะไร หนูก็ยังงงว่าเขาโกรธหนูเรื่องอะไร หนูยังถามกลับไปว่าแล้วกูพูดอะไร เขาก็ไม่ได้ตอบหนู หนูถามเขาด้วยว่าแล้วทำแบบนี้ทำไม ปามาทำไม แล้วก็นั่นแหละค่ะ หนูทำเขาก่อน ยอมรับตรงๆ”

ใครเปิด?

เฟิร์น : หนูผลักเขาก่อนค่ะ

เตย : หนูดึงหัวค่ะ

ปาล์ม : หนูเข้าไปทีหลัง เพราะแฟนเขาตีพี่เขาที่หลัง หนูก็เขาไปคว้าผู้หญิง เข้าไปเย่อผู้หญิง

ทำไมไม่เย่อแฟนเขาล่ะ?

ปาล์ม : เขาผู้ชายค่ะ พอหนูเย่อปุ๊บ แฟนเขาหันมาต่อยหนูเลย หนูร่วง

เฟิร์น : หนูโดนตบหน้าค่ะ

ผัวมามั้ย?

อั้ม : มาค่ะ

มุมหนูเป็นยังไง?

อั้ม : ในเหตุการณ์เรากับแฟน แยกกันกินที่งาน อันนี้เป็นงานเลี้ยงบริษัท เราก็กินเลี้ยงแล้วขึ้นไปนอนกับแฟน กำลังจะนอนก็มีเพื่อนๆ แฟนโทรตามให้ลงมากินหน่อย อีกวันเราจะกลับกันแล้ว แฟนบอกเดี๋ยวพี่มา เราก็โอเค พี่ไปเถอะ เราไม่ซีเรียสอยู่แล้วในการที่เขาจะไปสังสรรค์ต่อ ก่อนแฟนลงไปน่าจะสี่ทุ่มครึ่งได้ หนูก็อาบน้ำเสร็จก็กินยานอนหลับ หนูเผลอหลับไปแป๊บนึง ก็สะดุ้งตื่น หันมามองดูกระเป๋า แฟนเอากุญแจไปหรือเปล่า แฟนไม่ได้เอากุญแจไป หนูก็ลืมล็อกห้องด้วย ก็ตัดสินใจโทรหาแฟนว่าพี่จะกลับกี่โมง ณ ตอนนั้นเราได้ยินเสียงผู้หญิงเข้ามา หนูตกใจจริงๆ หนูได้ยินคำว่าถ้ามีปัญหามากนัก มาเอาผัวกลับไป หนูก็ตัดสินใจกดวางสาย แล้วกดโทรอีกรอบ ระหว่างตัดสินใจวางสาย เราแค่รู้สึกว่าเฮ้ย กูเบลอหรือเปล่า กินยาไป ได้ยินเสียงแว่วหรือเปล่า ก็ตัดสินใจโทรไปอีก ก็ได้ยินประโยคเดิม หนูถึงได้ลุกขึ้นจากที่นอน หูไม่ได้แว่ว หนูลุกไปหาผ้าคลุมแล้วเดินไปจุดที่เกิดเหตุ หนูเดินไปถามแฟนดีๆ ว่าพี่จะกลับกี่โมง ซึ่งเขาบอกแก้วนี้เดี๋ยวจะกลับแล้ว แอลกอฮอล์ในแก้วเหลือน้อยมากๆ หนูก็โอเค งั้นหมดแล้วกลับนะ ไม่มีโวยวาย พอหลังจากเราเดินไปแล้ว เดินกลับมาได้ครึ่งทางจังหวะนั้นก็ได้ยินประโยค ถ้ามึงหึงผัวมากนักก็เอาผัวกลับไป ระหว่างที่หนูจะเดินกลับ แฟนก็กำลังจะลุกแล้ว หนูเลยเดินไปหาแฟนหนูอีกรอบ ถามพี่จะเอายังไง มันดึกแล้ว จะกลับกี่โมง เขาก็ลุกเลย เราก็งอแงทะเลาะกันอยู่สองคน ว่าพี่ทำแบบนี้ไม่ถูกนะ เราคุยกันแล้วใช่มั้ยว่าไม่ดึก ระหว่างคุยกันก็มีคนพูดว่ามึงมีปัญหาก็เอาผัวกลับไป

เห็นมั้ยใครพูด?

อั้ม : (ชี้ไปที่เฟิร์น)

คุณพูดมั้ย?

เฟิร์น : ไม่ได้พูดคำนี้ พยานตรงนั้นก็มีนะคะ คนอยู่เยอะด้วยค่ะ หนูพูดว่าพี่กลับขึ้นห้องเถอะ เดี๋ยวมีปัญหากับแฟนเปล่า ๆ ไม่ได้มีมึงกู เพราะในฐานะที่หนูทำงาน หนูไม่กล้าพูดมึงกูกับลูกค้าแน่นอน

คุณเห็นเลย?

เฟิร์น : หนูเห็นว่าเขาพูดออกมา เรามีสติเพราะเราไม่ได้เมา เรามีสติอยู่แล้ว ถ้าพูดตรง ๆ มันหลายรอบ ตั้งแต่เราได้ยินในสาย ถ้าในสายและเหตุการณ์ก็ 4 รอบ หนูเลยตัดสินใจดึงแก้วจากมือแฟนปาไป แต่พูดก่อนไม่ได้มีเจตนาจะปาให้โดนหน้าใครหรืออะไร ถ้าอยู่ในเหตุการณ์จะเห็นว่าปาลงพื้นจริงๆ แต่น้ำอาจกระเด็น พอเข้าใจได้ ตรงนี้เราก็ผิดที่ปาแก้ว แต่อยากให้เข้าใจว่าเฮ้ย มึงพูดอะไรนักหนา พูดอีกแล้วเหรอ แค่รู้สึกแค่นั้นจริง ๆ

เตย : ตอนพี่ปามาเสร็จเขาก็พูดว่ามึงจะพูดอะไรนักหนา พวกเราก็เลยลุก

เฟิร์น : แต่หนูก็ยังงงอยู่ ยังถามเขาว่าพูดอะไร เขาก็ไม่ตอบ

อั้ม : จากนั้นก็มีเหตุการณ์ หนูสงสัยนิดนึง เราไม่รู้ว่าก่อนตั้งกล้องเขาตั้งใจมีปัญหาอยู่แล้วหรือเปล่า ถ้ามุมหลายๆ มุมที่ได้ดูคลิป มันเป็นการตั้งกล้องก่อนมีการรุมกันเข้ามา พอตั้งกล้องปุ๊บทุกคนก็กรูกันเข้ามาเลย

เราอาจกินยานอนหลับแล้วหูแว่วมั้ย?

อั้ม : ไม่ค่ะ มีพี่ที่นั่งใกล้ๆ น้อง ก็ได้ยินคำนี้เหมือนกัน ถ้ามึงหึงผัวมึงมากก็เอาผัวกลับไป รอบสุดท้ายเป็นการพูดกระแทกเสียงแล้ว มึงมีปัญหาก็เอาผัวมึงกลับไป หนูเลยพูดว่ามึงพูดอะไร

เตย :   เราพูดแซวพี่ผู้ชายมากกว่าตอนนั้น ว่าเมียมาตาม หนูสงสัยตั้งแต่รอบแรกแล้วว่าพี่เขาเป็นเมียใคร เพราะตอนพี่เขามารอบแรก เขาไม่ได้ยืนใกล้ผัวเขา เราก็คิดว่าเขาคือเมียใคร หน้าไม่ดีเลย หน้าไม่โอเคเลย เลยบอกปาล์มว่าปาล์มดูดิ เมียใคร หน้าไม่จอยแล้ว หนูก็คิดว่าเป็นคนที่นั่งข้างปาล์มหรือเปล่า พอถามก็ไม่มีใครกล้าตอบว่าเป็นเมียใคร แต่มีพี่คนนึงพูดว่า นั่นไง ส่งน้องสาวมาตามแล้ว หนูเลยถามว่าสรุปเมียหรือน้อง รอบสองพี่เขามายืนข้างๆ ไหล่สามีพี่เขาเลย หนูก็อ๋อ เมียคนนี้นี่เอง พอสามีเขากำลังจะลุก พี่เฟิร์นเลยพูดขึ้นไปว่ากลับเหอะ เมียมาตามขนาดนี้ ทำไมยังไม่กลับ เป็นฟีลแซวผัว

แต่ทางนี้ไม่ได้ยินอย่างนั้น?

เตย : พี่เฟิร์นไม่ได้พูดคำนั้นแน่นอน เพราะตอนนั้นหนูไม่ได้โฟกัสเรื่องเขามาตามผัว หนูโฟกัสว่าคนนี้เมียใครมากกว่า  

จากนั้นยังไงต่อ?

อั้ม : ก็ปาแก้วเสร็จ ทางเขาก็ลุกมา แต่จำไม่ได้ว่าใครเริ่มลุกมาก่อน ที่เข้ามาก่อนคือพี่เฟิร์น แฟนก็กันไม่ให้มีการรุมทำร้ายเกิดขึ้น เหมือนคุยๆ อยู่ มีช็อตดึงผมหนูเลย

ทำไมคุณไปดึงเขา?

เตย : น่าจะด้วยอารมณ์ว่าปามาทำไม ถึงไม่ปาโดนหน้าเรา ไม่ใช่แก้วกระเบื้องแต่เราทำงานตรงนั้น ไม่สมควรโดนลูกค้าปาใส่เลย หนูก็ลุกไปด้วยความโมโหด้วย

จากนั้นคุณไปหยุมหัวเลย?

เตย : ใช่

อั้ม : พอเขาดึงเสร็จก็มะรุมมะตุ้ม เราไม่รู้เลยว่าตอนนั้นเหตุการณ์มีใครบ้าง เพิ่งมารู้ตอนเงยหน้าว่าอ๋อ มีสามคนที่กำลังรุมเราอยู่ พอรุมเสร็จ อย่างในคลิปที่เห็น มีการจับแยก ก็มีการด่าทอ จังหวะพวกเขาไม่แน่ใจว่าใครปาแก้ว อย่างหนูปาแก้วพลาสติก แต่ทางเขาปาแก้วและขวดเหล้า

เตย : ไม่ใช่แก้วค่ะ อันนั้นเป็นไฟฉาย

อั้ม : มันแตกใส่เท้าหนูค่ะ

เตย : ที่แตกคือไฟฉาย ขวดเหล้าไม่ได้แตก

อั้ม : หนูคิดว่าถ้าไม่มีพี่ที่คอยห้าม น่าจะโดนหน้าหนู 100 เปอร์เซ็นต์ในสิ่งที่เขาปามา พอเขาปาทุกคนเห็นท่าไม่ดี ก็จับแยก ระหว่างเราจะเดินไป หนูไม่แน่ใจว่าในสี่คนนี้ใครไปตามเรียกพวกขึ้นมาอีก

เฟิร์น : เขาไม่ใช่พวกค่ะ เขาคือคนขับรถไปส่งหนู

เตย : เขาอยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว

อั้ม : ทุกคนในนั้นพอได้ยินว่าเขาโทรตามพวกก็รีบเอาหนูกลับ เดี๋ยวจะกลายเป็นเหตุใหญ่ไปมากกว่าเดิม ก็ดันขึ้นไป หนูกับแฟนก็เดินกลับไป แล้วมีการคุยว่าแฟนทำร้ายร่างกายเขา มีการตบ มีการต่อย ทำจริง เราก็คิดว่าต้องลงไปขอโทษนะ เราไม่ได้สนับสนุนการใช้ความรุนแรงอยู่แล้ว แฟนก็ลงมาขอโทษ ระหว่างที่แฟนลงมาขอโทษหนูก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์

คุณก็ด่าแฟนเขาอยู่?

เฟิร์น : ไม่ได้พูดไม่ดีแล้วค่ะ แค่ถามว่าพี่ต่อยหนูทำไม ถ้าพี่รักเมียพี่ทำไมไม่แยกออกไปดีๆ จะมาต่อยพวกหนูทำไม เขาก็เลยพูดว่ามัน 4 รุม 1 ก็อยากเข้ามา

เตย : หนูเลยเถียงเขาไปว่า 3 ค่ะพี่ เบาลงมาหน่อย

เฟิร์น : พอจบแล้ว พวกหนูบอกว่ากับพี่ผู้หญิงพวกหนูไม่ติดใจ เพราะมันต่างคนต่างเจ็บ ยื้อยุดฉุดตีกัน แต่อยากให้พี่ผู้ชายลงมาขอโทษพวกหนู

เตย : ตอนตีกันเสร็จ พวกหนูไม่ยอม ทะเลาะวิวาทก์ทะเลาะวิวาท จะโทรเรียกตร.ตรงนั้นเลย แต่พนักงานคนอื่นบอกว่าขอได้มั้ย ให้จบแค่นี้ ไม่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล หนูเลยบอกว่ากับพี่ผู้หญิงหนูไม่ติดใจอะไร เขาไม่ต้องขอโทษหนู หนูก็ไม่ขอโทษเขา เพราะผู้หญิงตีกันเป็นเรื่องปกติ หนูมีน้ำโห เขาก็หึงผัว หนูขอแค่ให้พี่ผู้ชายมาขอโทษได้มั้ยที่มาตีเพื่อนหนู ไม่ได้จะเอาค่าเสียหายอะไรด้วย หนูแค่ไม่โอเคที่ผู้ชายมาตีผู้หญิง แค่ตรงนี้ เขาก็บอกว่างั้นจะลองคุยให้นะ ไม่รู้เขาจะมาหรือเปล่า

มีคลิปตอนเคลียร์ เป็นอีกช่วงเวลานึง ยืนยันว่าไม่ใช่ 4-1 แต่ 3-1 ผัวเขาก็ต้องมาช่วย นี่เมียเขา ถ้าเขาดึงเมียเขาออกไป คุณก็ตามลุยต่ออยู่ดีมั้ย?

เฟิร์น : ตรงนั้นผู้ชายประมาณสิบคน ไม่มีใครเข้ามาเลย เข้ามาห้ามแค่สองคน ที่เหลือก็เป็นแฟนเขา

ไม่เหมือนกันอยู่นิดเดียว อาจไม่ใช่สาระสำคัญแต่เป็นที่มาที่ไป การสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญ ทางนี้ได้ยินว่าถ้าหึงผัวก็เอากลับไปเลย แต่ฝั่งแดนเซอร์บอกว่าไม่ได้พูดแบบนั้น การสื่อสารสวนทางกันอยู่ แต่ที่แน่ๆ ประเด็นคือเราไปรุมตบเขา 3 คน แต่ทางผัวเขาก็มาตบคุณเหมือนกัน เหมือนผู้ชายรังแกผู้หญิง หลังเกิดเหตุแยกย้ายกันยังไง?

อั้ม : ต่างคนต่างแยกย้าย ทุกคนก็กลับ พี่แดนเซอร์ก็กลับ หนูเองก็กลับมาที่พัก ไม่ได้รู้ด้วยว่าเขามี 4 คน หนูเห็นแค่ 3 คน มารู้ตอนเห็นคลิปแล้ว ก็ถามแฟนว่าสรุปมีกี่คน แฟนบอกมี 4 คน ตกใจตรงที่มีการอัดคลิป ลงโซเชียล หนูรู้ตอนพี่ๆ เพื่อนๆ ส่งคลิปมาให้ ทุกคนสงสัยว่าใช่เราหรือเปล่า มีการเรียกชื่อเราในคลิปด้วยถึงได้รู้ว่าเป็นข่าวใหญ่ไปแล้ว

ใครเอาคลิปไปล่อย?

ฝน : หนูค่ะ ปล่อยในเฟซตัวเองค่ะ

ไม่คิดว่าคลิปจะเป็นประเด็นสองมุม?

ฝน : ถูกค่ะ

เราก็เหมือนเปิดก่อนได้ปูด?

ฝน : ช่วงนั้นหนูกรึ่มๆ ก็ลงเดี๋ยวนั้นเลย หนูดื่มกับลูกค้า

เปิดก่อนได้ปูด ทัวร์มาลงเราด้วย วันนี้เลยกลายเป็นสองมุม มุมนึงทางนี้ปาน้ำใส่เขาทำไม ทำไมไม่ห้ามผัวเราเอง ให้ผัวมานั่งทำไม ไปหาเรื่องเขาก่อนทำให้เขามารุม ทางนี้อ้าว สาว ไม่เดี่ยวๆ ไปเลย มารุมเขาทำไม อีกมุมบอกว่าผัวทำดีแล้ว ผัวที่ดีต้องปกป้องเมีย ผัวมีสิทธิ์ตบเพราะไปยุ่งเมียเขา?

ไพศาล : เอาเป็นเรื่องๆ มุมผัวเมีย หน้าที่เรา เราเป็นแดนเซอร์ นั่นคือหน้าที่ หน้าที่อยู่ในบริบทผัวเมีย การรับแรงกระแทกมันมีอยู่แล้ว มีการยั่วยุ เขวี้ยงแก้ว สุดท้ายวิวาทกัน น้องรุม โพสต์ แล้วแรงด้วย สังคมไม่ชอบ อาชีพนี้เสี่ยง ผัวเมียหึงหวง เมียบางคนไม่เก็ตเรื่องนี้ บางทีผัวเกเร เมียมาโวยวาย ที่พลาดคือเริ่มจากความรุนแรงหมดเลย จริงๆ ผู้ชายต่อมันไม่ดีอยู่แล้ว แต่สังคมเทไปปกป้องผัวเพราะเราไปรุมเขาไง ฝนโพสต์ไปผิดพรบ.คอมพ์ฯ ด้วย โทษจำคุก 3 ปี ปรับเป็นแสนเลยนะ ผิดที่โพสต์ภาพทะเลาะวิวาท เหตุชุลมุนถ่ายแล้วโพสต์ผิดพรบ.คอมพ์ฯ เลย ตรงนี้ไม่มีใครเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัยเลย เพราะสมัครใจวิวาท ถ้าเกมนี้ถ้าจะผิดจริงๆ ในทางกฎหมายคือคนโพสต์ มันกลายเป็นประเด็นจุดไฟ

คุณดำเนินคดีมั้ย?

อั้ม : เดี๋ยวปรึกษาทางครอบครัวอีกที มีเรื่องรุมทำร้ายร่างกาย เรื่องพรบ.คอมพ์ฯ มีทั้งหน้าหนูและหน้าแฟน ที่เผยแพร่ออกไป เพราะคลิปเป็นไวรัล คนจำเราได้ อาจต้องไปปรึกษาครอบครัวอีกทีว่าจะเอายังไง

แฟนเขาไม่ได้นั่งกับคุณ คุณจะไปอำแฟนเขาทำไมเอาเมียพี่กลับไปเหอะ?

เฟิร์น : ตรงนั้นยังไม่รู้เลยว่าเป็นสามีภรรยาใคร หนูพูดออกไปเพราะตรงนั้นมีผู้ชายนั่งอยู่ ก็พูดว่าพี่ เมียมาตามกลับแล้ว ขึ้นห้องไปเลยเถอะ เดี๋ยวมีปัญหากันเปล่าๆ ตอนนั้นไม่รู้ว่าสามีใคร

ผัวเขาไม่ได้มานั่งกับพวกนี้ นั่งแยกต่างหาก แต่เราได้ยินคำนั้น?

อั้ม : ใช่ค่ะ

ทางนี้พูดจริง แต่ไม่ได้พูดแรง?

เตย : ใช่

เป็นไปได้มั้ย เมียโทรมาหาผู้ชาย คุณตะโกนแซวมาในโทรศัพท์?

เตย : เป็นไปไม่ได้เลย เขานั่งอยู่ข้างนอกเลย พวกหนูไม่ได้โฟกัสเขาเลย เขาไม่ใช่ลูกค้าพวกหนู เหมือนเขาถือแก้วเหล้าเดินไปเดินมา ชมบรรยากาศ เหมือนพอเห็นว่ามีกลุ่มนี้อยู่เขาก็มานั่งทีหลัง ก็มองอีกมุมว่าเป็นไปได้มั้ย ตอนพี่อั้มโทรหาแฟน เขานั่งอยู่กลุ่มอื่นก่อน เสียงที่พูดไปตอนนั้นไม่ใช่เสียงพวกหนูหรือเปล่า

อั้ม : ไม่มีค่ะ ตอนเสร็จงานเลี้ยงแล้ว กลุ่มเดียวที่มีอยู่คือกลุ่มนี้

 ยืนยันว่าเราไม่ได้คุยกับแฟนเขา?

เฟิร์น : ไม่มีค่ะ ไม่มีนั่งด้วย หรือสนทนาอะไรที่เยอะเกินไป

มีมุมนึง บรรยากาศในงาน เห็นน้องบอกว่าไม่ได้หึงแฟนเลย?

อั้ม : ไม่ได้หึงค่ะ ปกติเวลามีงานสังสรรค์ หนูมีการเอาน้องๆ มาเอนเตอร์เทน เราก็ยินดีให้แฟนไปร่วมสนุก เอ็นจอย ชนแก้วได้ เขามาในอาชีพนี้ ไม่มีทางไปดูถูก ไปหึงไปหวง ยืนยันว่าไม่มี ก็รู้สึกไม่ดีที่เขามีการไลฟ์ว่าเราหึงหวงแฟน ยืนด่าแฟน หนูแค่อยากออกมาอธิบายว่าเราไม่จำเป็นต้องมานั่งหึงหวงอะไรตรงนี้ เพราะเขามาเพื่อเอนเตอร์เทนลูกค้าทุกคน หนูเองไม่เคยรู้สึกหึงเลย อย่างวันงาน หนูยังเอาทิป 4 พันยื่นให้เขาเลย ตอนเต้นแดนเซอร์ หนูทิปอยู่ตลอดเวลา แทบเดินอยู่ตลอดเวลา

ทิปเขาทำไม?

อั้ม : เราก็เอ็นดู เราคิดว่ามันเป็นอาชีพเขา อยากให้เขาค่ะ

เห็นว่าไปดึงหน้ามาซุกคืออะไร?

อั้ม : วันแรกที่มีการจัดเลี้ยง แฟนเอาทิปไปให้น้อง ๆ แต่จำไม่ได้ว่าคนไหน น่าจะชุดนี้แหละค่ะ

เฟิร์น : หนูไม่ได้ไปค่ะวันแรก

อั้ม : มีงานสองวันค่ะ วันแรกมีจังหวะที่หนูให้เงินแฟนไป แฟนไปทิปน้องหน่อย ปกติเขาก็ชอบเปย์ มีช็อตนึงแฟนจะเอาเงินไปเปย์ ไม่แน่ใจว่าคนไหนเอาศีรษะแฟนหนูกดไปที่น้องสาว ไม่ได้กดแล้วออกเลยนะ

ฝน : กูเองค่ะ หนูเอง หนูทำ เขาให้หลายครั้งแล้ว เขาขึ้นมาให้ทิป แล้วนั่งขอบเวที เวลาทำงานหนูก็เต็มที่อยู่แล้ว

ทรงมันได้เหรอ เวทีสูงมั้ย?

ฝน : หนูค่อนข้างแรงอยู่แล้ว เวลาเอนเตอร์เทนลูกค้า เวลาลูกค้าเล่นด้วย หนูจะค่อนข้างกล้าเล่น

ปาล์ม :  ชอบเต้นเด้า

ฝน : หนูเอาของหนูไปโขกหัวลูกค้า หนูเล่นแรงอยู่แล้ว แล้วเขากลับมาให้อีก เขาน่าจะชอบ  

อั้มเห็นแล้วทำไง?

อั้ม : ก็ขำ ก็ตลก มันไม่รู้จะโกรธอะไร มันทำไปแล้ว ไม่ได้หึง ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องกิจกรรมที่เกิดขึ้นระหว่างงานสัมมนา ปล่อยๆ ไป ยืนยันตรงนี้ว่าไม่ได้หึง แต่ตลกที่แฟนเราโดนทำแบบนั้น (หัวเราะ) แล้วเขาก็หันมาทำหน้าเสียใส่เรา

ฝน : เพื่อนเขาด้วยค่ะ หนูทำหมดเลย ไม่ใช่แค่แฟนเขาคนเดียว

อั้ม : แฟนส่ายหน้าค่ะ (หัวเราะ) แฟนหนูไม่ชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้ว หลังจากนั้นก็ไม่เดินไปอีกเลย

หนูไม่ได้หึง?

อั้ม : ไม่หึงค่ะ ไม่มีอะไรให้หึง

แล้วพอเดินมาหอมแก้มแฟนมั้ย?

อั้ม : ไม่ค่ะ ต้องไปล้างหน้ากันหน่อย ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรสำหรับวันแรก ทุกอย่างจบไป แต่เหตุการณ์มาเกิดวันที่ 2 เท่านั้นเองค่ะ ที่เล่าเพราะจะยืนยันว่าไม่ได้หึงแฟน หนูมาเพื่อเอากุญแจมาให้แฟน

เฟิร์น : เหตุการณ์วันแรกหนูไม่ได้ไป แต่หนูอยากแจ้งนิดนึงที่บอกว่าพี่เขาหึง หนูรู้ว่าเขาไม่ได้หึง แต่อยากให้แยกประเด็นว่างานแดนเซอร์มันจบไปแล้ว เรื่องจ้างพวกหนูกินต่อ คนจ้างไม่ใช่สามีพี่เขาแล้ว แต่เป็นลูกน้องเขา อันนั้นแฟนเขาไปนั่งตรงนั้นเองค่ะ สลิปการโอนเงินก็ไม่ใช่สามีเขาค่ะ

ไพศาล : ดูทรงไม่ได้หึงนะ เป็นคนให้ทิป 4 พัน แต่ที่เกิดเรื่องมีการท้าทายที่เขาอ้างว่าเขาได้ยิน

 โฟนอิน “คุณเอ” แฟนคุณอั้ม เหตุการณ์เป็นยังไง?

เอ : หลังจบงานเลี้ยง ผมก็เดินกลับที่พัก น้องคนนึงโทรมาตาม ไม่ลงมากินเหล้าหน่อยเหรอ ผมก็ลงมากินเหล้า น่าจะมาได้ครึ่งชม. เห็นโทรศัพท์ดังว่ายังไม่กลับอีกเหรอ ไหนบอกจะมาแป๊บเดียว ก็บอกเดี๋ยวกลับ เสียงที่น้องเขาพูดก็มีเสียวแว่วๆ แต่ไม่ได้สนใจ ไม่ได้คิดว่าจะมีอะไร น้องเขาพูดอะไรก็ไม่ได้ใส่ใจ ก็วางโทรศัพท์ไป แล้วก็โทรมาอีกรอบนึง พักนึงก็ลงมา ตอนผมลงไป ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีน้อง 4 คนนี้อยู่ ผมไม่รู้ว่าเขาไปดีลกันมาทำงานต่อ น้องโทรมาสองรอบ และลงมาเถียงๆ กันว่าเมื่อไหร่จะกลับ มีเสียงอะไรแว่วมาอีก ไม่รู้อารมณ์เขาขนาดไหน เขาก็คว้าแก้วผมเขวี้ยงออกไป

สรุปคุณได้ยินฝั่งผู้หญิงกลุ่มนี้ตะโกนถ้าหึงผัวมากก็เอากลับไปเถอะมั้ย?

เอ : คำพูดร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ชัด แต่ได้ยินคำว่าผัว คำว่าหึงนี่แหละ ผมไม่ได้ใส่ใจ ประโยคชัดขนาดนี้มั้ยก็ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์

เป็นไปได้มั้ย เมียพี่มาตาม กลับขึ้นไปเถอะ?

เอ : มีคำว่าผัว หึง มึง ประมาณนั้น

สามคนนี้บุกมารุมทำร้ายร่างกายเมียคุณ?

เอ : ครับ พอมีการเขวี้ยงแก้ว ผมก็เริ่มยืนขวาง พอน้องสามคนลุกมาผมก็ยืนกางแขน พยายามขวาง แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็ว ก็ชุลมุน ไม่รู้ท่าไหนแล้ว

พอคุณเห็นแฟนถูกทำร้ายร่างกาย คุณพยายามห้าม แล้วเริ่มลงมือ ขอเหตุผลตรงนี้?

เอ : ผมมองว่าห้ามไม่อยู่แล้ว ห้ามสุดฤทธิ์ ห้ามยังไงก็ไม่ฟัง จะหาวิธีมุดมาตีน้องให้ได้ ผมว่าช่วงระเบิดอารมณ์ส่วนนึง ก็ขอโทษน้องเขาด้วย

เราทำเพื่อปกป้องแฟน?

เอ : ใช่ครับ

ทำไมลงไปเคลียร์อีกรอบ?

เอ : คุยกับน้อง น้องบอกว่าเราควรลงไปขอโทษ จริงๆ ผมก็รู้สึกผิดแหละหลังลงมือไปแล้ว ด้วยความเป็นผู้ชายต่อยผู้หญิงยังไงก็ไม่เท่หรอก รู้สึกผิดอยู่แล้ว น้องเดินมาหาก็เลยชวนกันลงไปว่าขอโทษเขาดีกว่า ก็เลยลงไปขอโทษตามในคลิปครับ

เราบันดาลโทสะด้วย?

เอ : ส่วนนึงครับ หลังผมขอโทษ ก็มีการโต้เถียงอีกนิดนึง อาจยังมีอารมณ์คั่งค้างทั้งสองฝ่าย เขาบอกว่ามาตีหนูทำไม เราก็ถามว่าไปรุมน้องเขาทำไมล่ะ ผิดแค่ผมพูดว่า 4 แต่จริง ๆ รุม 3 ตรงนี้ผมก็พูดผิดเอง

เหตุการณ์ก่อนวันนั้น คุณยืนแจกทิปเขา?

เอ : น้องเขาเป็นคนเอาเงินให้ผม ยัดสิๆ เอาเงินใส่มือให้ผม ยืนอยู่ข้างกัน ปกติผมให้เขาเอาเงินไปจ่ายเองที่เป็นฟ่อนๆ แฟนผมยื่นเงินให้ผมบอกว่ายัดสิๆ แล้วผมก็ทำหน้าเจ๋อๆ จะให้ยัดทำไม

เขาจับหน้าคุณไปซุกจริงมั้ย?

เอ :   ดึงไปนิดนึงครับ น้องอาจจำวันผิด มันคือวันเดียวกันไม่ใช่วันแรก วันที่ยัดหน้า

ตกลงไม่ใช่เต้า?

เอ : ช่วงล่างครับ

ยืนยันว่าแฟนคุณไม่ได้หึง?

เอ : ผมว่าตอนนั้นไม่น่าจะหึง แต่ลมออกหูเรื่องอะไรสักอย่าง เพราะผมไม่ได้ไปนั่งใกล้ใครเลย

เฟิร์น : ยืนยันว่าไม่มีคำว่ามึง หนูทำงานก็ไม่กล้าพูดว่ามึงแน่นอน ถึงไม่มีเรื่องกัน ก็กลัวลูกค้าคอมเพลนอยู่ดี ว่าทำไมชุดนี้พูดคำหยาบใส่

มีคนส่งเข้ามาว่าติดเงินคนจริงมั้ย?

ปาล์ม : เดี๋ยวไปเคลียร์เองนะคะ ขอไม่ตอบ เคยไปที่โรงพักแล้วเขาไม่ยอมมา

คุณโดนบูลลี่อะไร?

เฟิร์น : โดนบูลลี่ว่าเป็นคนท้องเป็นอึ่งไข่ สถานการณ์ตอนนั้นใครจะไปแขม่วพุง หนูก็ไม่ได้เป็นคนผอมอยู่แล้ว เวลาภาพออกไป ใครจะไปแคปตอนเราดูดี

มีที่คุณไลฟ์แถลงด้วย คุณพูดว่าเขาหึงผัว?

เฟิร์น :   จังหวะนั้นค่ะ คิดว่าเขาหึง มาตามผัวกลับแต่ไม่กลับ

แต่ไปรุมตบเขาไม่ได้?

เฟิร์น :   อันนี้ยอมรับผิดค่ะ

ถ้ามีผู้หญิง 3-4 คน รุมตบเมียเอ๋ เอ๋ทำไง?

ไพศาล : เป็นคนปกติทั่วไปมีสองอย่าง แต่ถ้าเป็นผม ผมก็ทำแบบน้องผู้ชาย ความรู้สึกเขาเมียโดนรุม สมมติเมียพี่โดนจิกแบบนั้น มันดูแรง ถ้าคนดื่มมันเมา อารมณ์มีซัด แต่มองว่าเหตุการณ์นั้นเขาน่าจะบันดาลโทสะ แต่ที่เราโดนทัวร์ลง น้องเขาไม่ได้หึง

ถ้าจะเขวี้ยง เขาคงเขวี้ยงตั้งแต่เอาหน้าซุกเป้าแล้ว?

ไพศาล : ใช่ เพียงแต่เขาได้ฟังคำยั่วยุ มันพลาดตรงที่พอมีการรุม สังคมเขามอง ทำไมทัวร์ลงที่น้องทั้งที่โดนต่อย เพราะเขามองว่าพวกเรามั่นหน้ามั่นโหนก

มั่นโหนกคืออะไรเหรอ?

เตย : ไม่สวยแต่คิดว่าสวย

ไพศาล : ยิ่งได้ยินคำพูดนึง ที่พูดว่าทำไมกูไม่มีแฟนแบบนี้บ้าง ถ้ามองมุมคนทั่วๆ ไปเขาจะพูดว่าก็มึงทำตัวแบบนี้จะมีผัวได้ไง เขาจะพูดแบบนี้ แต่พออั้มเขวี้ยงไป มันก็เลยเกิดเรื่อง มุมผู้ชาย ถ้าพี่อยู่ในเหตุการณ์นั้นถ้าพี่ไม่เมา จะดึงว่าอย่าตีผู้หญิง แต่เพราะดื่มไง อารมณ์มันรั่ว ซัดเมียกู กูก็ใส่ เรื่องมีเท่านี้ ตอนต้นที่พูดไปเรื่องพรบ. ถ้าน้องไม่ได้ตัดต่อก็ไม่เข้านะ ต่อไปทำอะไรให้ระวัง ทั้งหมดทั้งปวงที่เกิด เกิดจากคำพูด

หนูไม่ได้ตัดต่ออีกเรื่องนึง แต่ถ้าทางเจ้าทุกข์เขาปรึกษาญาติ แล้วคลิปที่หนูถ่ายเป็นหน้าเขา รุมตบเขา เป็นหมิ่นประมาทเขา ถ้าเขาแจ้งความก็อีกเรื่องนึงนะ?

ไพศาล : มันจะเป็นสองข้อหา มุมตีกันไม่มีใครเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัย ไม่สามารถร้องทุกข์ได้ และจะโดนปรับกันหมดด้วย มันอื้ออึง โดน 5 พัน ผู้ชายจะโดนอะไร ร่วมชุลมุนด้วยแต่ไม่มีใครสาหัส เอาผิดใครไม่ได้  สมัครใจวิวาท แต่มุมพี่ อยากพูดว่ามันติดเรื่องเดียวคือเขาติดแค่ว่าใครพูด เขาไม่ได้หึงนะ ดูทรงแล้ว

ฝน : พวกหนูนั่งเอนเตอร์เทนลูกค้าก็พูดเสียงดัง พูดไปเรื่อยค่ะ

พูดเป็นกลาง ไม่ได้เข้าข้าง จะพูดอะไรก็แล้วแต่ แต่ไม่มีสิทธิ์ไปรุมตบเขา 3 คน ประเด็นนี้สำคัญ?

เฟิร์น : นาทีนั้น เหตุการณ์มันเร็วจริง พวกหนูไม่ด้ตั้งตัวที่จะมีปัญหากับเขา ไม่ได้นัดกัน ไม่ได้เจตนา มาถึงเขาก็เขวี้ยงเลย หนูก็ลุกไปเลย มันเร็วจริงๆ ค่ะ

ไพศาล : แต่ก็แฟร์ทั้งสองฝ่ายนะ ลองคุยกันดู

คนถามว่าเมียมีสิทธิ์ปาแก้วมั้ย?

ไพศาล : อันนี้ก็อย่าไปเริ่มความรุนแรงไม่ได้แก้ปัญหา พอทางนี้จุด ทางนี้ก็ใส่

เฟิร์น : ถ้าพี่เขาลงมาแล้วถามว่าใครพูดอะไรไปในสาย เราอาจอธิบาย คุยกัน

ไพศาล : ทางนี้ผิดแค่เขวี้ยงแก้ว แต่ทางนี้ผิดตรงรุม

อั้ม : หนูไม่มีเจตนาปาแก้วเลย แต่เรารู้สึกรำคาญ มันได้ยินไม่หยุด ก็เลยตัดสินใจปาแก้ว แต่ไม่ได้ปาหาเขา ไม่ได้มีเจตนาปาให้ใครเจ็บ ในหัวไม่มีเลย แค่ปาเพื่อให้หยุดพูด ตอน ณ ตัดสินใจปา เรากับแฟนคุยกันอยู่แล้วมีเสียงแทรกขึ้นมา เราปาเพื่อให้เขาหยุดพูด

มีคนบอกว่าหึงแต่ละคนไม่เท่ากัน อย่าเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐาน?

เตย : พี่เขาไม่ได้ดูหึงจริงแหละ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ตอนแรกหนูคิดว่าเขาทะเลาะกับแฟน แล้วเราไปพูดกลางลำเขาพอดี

คุณอยากพูดอะไรกับเขา?

เฟิร์น : วันนี้ตั้งใจมาขอโทษด้วย หลังจบเหตุการณ์ไม่มีทักแชตไปหาพี่เขาเลย หลังจบกันไม่มีคอนแทค ไม่มีอะไรเลย ไม่รู้ว่าต้องอะไรทางไหน ถึงรู้ว่าตัวตนพี่เขาเป็นใคร ก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องทักไปขอโทษด้วยค่ะ อยากมาขอโทษด้วยความจริงใจที่ทำให้เกิดเหตุการณ์วันนั้น ทำให้เรื่องบานปลาย

ปาล์ม : วันนั้นตั้งใจมาขอโทษค่ะ วันนั้นทำไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ก็ขอโทษด้วยนะคะ (ยกมือไหว้)

เตย : หนูมาวันนี้ตั้งใจขอโทษ วันอาทิตย์หนูไปสถานีตำรวจแล้ว หนูคิดว่าเรื่องมันจะใหญ่โต ก็ให้เป็นเรื่องกฎหมาย แต่พอไปที่โน่น พี่เขายังไม่มาแจ้งนี่หน่า ถ้าเขาไม่มา งั้นเราก็มาเจอเขาตัวจริง เพื่อคุยเพื่อขอโทษดีกว่า สังคมจะได้เลิกโจมตี เพราะอันนี้ไม่มีใครตาย แค่ทะเลาะวิวาท

ฝน : หนูขอโทษเหมือนกันค่ะ หนูลงคลิปไป นาทีนั้นหนูดื่มกับลูกค้าได้ที่แล้ว ในสายตาหนู เวลาเราไปงานลูกค้าแล้วโดนแบบนี้แต่เราไม่ได้กรองให้ดีก่อน หนูก็ผิดจริง ๆ

อั้ม : วันนี้ก็ยังขอบคุณที่เขาเองยังมีความรู้สึกอยากขอโทษเรา แต่หลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่หนูไม่สบายใจคือมีการโพสต์และไลฟ์บอกว่าดีเลยจะได้มีเงินค่าทำขวัญแก้หน้าอกใหม่ และมีการพูดยั่วยุตามคอมเมนต์ต่างๆ นานา สุดท้ายแล้วที่มานั่งตรงนี้รู้สึกผิดจริงๆ ใช่มั้ย ถ้ารู้สึกผิดจริง ๆ ก็พร้อมรับคำขอโทษ

ฝน : พอหนูเริ่มโดนด่า หนูดื่มมาตั้งแต่แรก หนูเห็นโดนด่าปุ๊บก็โพสต์เลย หนูไม่ได้คิดอะไรเลยค่ะ หนูโพสต์จริง และหนูผิดจริง หนูเมาด้วย จังหวะนั้นที่โดนด่าแรกๆ ยังไม่เท่าไหร่ แต่พอคนเริ่มด่าพ่อ ด่าลูก ก็เริ่มแย่ ก็เลยลบโพสต์ออกไปแล้ว พอเช้ามาสร่างเมา ก็เห็นแล้วค่ะ เต็มๆ เต็มลำ หนูโพสต์ถึงคนมาด่า เพราะมีคำด่าว่ากะ…แรงมาก (ร้องไห้) เขาด่าแรงเกินไป หนูโดนไม่ใช่ประเด็น 3 -1 หนูแค่คนถ่าย แล้วเขาด่าหนูแรงจริง (ร้องไห้) มีผู้ชายทักมาเยอะ มาท้า 1 ต่อ 1 กับหนู มาท้าต่อย แล้วด่าไม่ตรงประเด็นเลยพี่ ด่าเอามันส์เลย มีเรื่องหนี้สิน หนูไม่เคยติดหนี้ ก็ทำให้เสียลงไปอีก เอาไปทำช่องติ๊กต๊อกขายเอ็มวีโน่นนี่ โดนโจมตีหนักเกินไป หนูรู้ว่าหนูผิด แต่หนูก็ได้รับแล้ว

คุณบอกกูไม่จำเป็นต้องสำนึกอะไรทั้งนั้น?

ฝน : วันนั้นวันเดียวกันเลยค่ะ หนูเมา หนูก็เต็มที่ทุกอย่างของหนู ตอนนั้นคือโดนด่าแรกๆ

คุณบอกให้เขาด่า เขาก็ยิ่งด่า?

ฝน : เขาด่าไม่ตรง ลามไปอาชีพ ไม่ได้ด่าแค่ประเด็นนี้ ไปด่าเรื่องอื่น ขุดรูปพวกหนูมาบูลลี่ มาด่าเสียๆ หายๆ

คุณเฟิร์นโดนด่า อีแก่ คลอดลูกก่อนค่อยร่xน ศัลยกรรมยังสู้เมียเขาไม่ได้สักคน หน้าเหียก สมองไม่มี หน้าด้านยิ่งกว่าถนนคอนกรีต สลัด เดรัจฉาน ทะลุถุงยาง ด่ายาวมากเลยนะ?

เฟิร์น : คนมาด่าก็เป็นพวกไม่มีตัวตน

มีคนบอกว่าโดนคุณเฟิร์นทำร้ายเหมือนกัน คุณไปตบเขาหน้าแหกเลยนะ เลือดไหลออกจากปากด้วยนะ?

เฟิร์น : เคยทำจริงค่ะ น้องคนนี้เป็นแดนเซอร์ในวง เมื่อสองปีที่แล้ว น้องคนนี้ออกไปแล้ว กระแสโซเชียลหาว่าหนูจับน้องขึ้นรถแล้วรุมตี ฝนอยู่ในเหตุการณ์ มีคนขับรถเหมือนเดิม ตอนนั้นไปทำงานกันสี่คน เรากำลังจะกลับจากงาน น้องดื่มหนักมกา และเถียงกันเรื่องทิป เริ่มกราดด่าคนในวง ทวงบุญคุณ หนูพยายามบอกให้หยุด พอจอดไฟแดงจะเปิดประตูรถลงไป หนูก็ห้าม ไม่หยุด หนูก็เปิดวิดีโอคอล มีคลิปด้วยนะคะ เพื่อให้เห็นว่าเป็นแบบนี้ แต่น้องไม่พอใจ หยิบโทรศัพท์หนูไปเขวี้ยง หนูตบไปที่หน้าทีเดียว ช่วงหนูทำเขา เขาร้องไห้มาก่อนแล้ว

แต่มีเลือดนะ?

เฟิร์น : หนูตบทีเดียว แต่โดนเหล็กดัดฟันเขา เขาร้องไห้ แล้วเปื้อนเปรอะไปหมด มีสเปรย์น้ำแร่ฉีดหน้า แล้วเช็ดหน้าให้เขาสร่าง เขาบอกพี่อย่ามาหลอกหนูเลย เราก็บอกว่าหลอกอะไร เป็นสเปรย์น้ำแร่ ตอนนี้ข่าวลงว่าหนูไปบังคับน้องขึ้นรถแล้วรุมตบ หนูเสียหายเลยค่ะ

ฝน อยู่ในเหตุการณ์ บอกว่าเมาแล้วเรื้อน โฟนอินคุณพิม จริงมั้ย?

พิม : เมาเรื้อนจริงค่ะ แต่เหมือนเป็นคำพูดระบายออกมา หนูไม่ได้เขวี้ยงโทรศัพท์เขา หนูปัดโทรศัพท์เขา พี่เฟิร์นเลยทุบมาที่หน้าหนู เลือดกำเดาแตก

เขาบอกเหล็กเกี่ยวปากเลือดออก?

พิม : เลือดกำเดาค่ะ เขาเอาอะไรไม่รู้มาตบหน้าหนู ไม่รู้โทรศัพท์มั้ย

เฟิร์น : ฉันไม่ใช้โทรศัพท์ฟาดใส่เธอเลย เรื่องเกิดมาสองปี มาขุดคุ้ยอะไรตอนนี้ ให้คนมารุมด่าฉันอีกทำไม

พิม :   พี่ทำร้ายร่างกายหนูจริงมั้ย

เฟิร์น : ก็ยอมรับว่าทำจริง

พิม : คลิปหลังกระบะ เปิดได้มั้ย

เขาตบหนูกี่ครั้ง?

พิม : น่าจะครั้งที่สามค่ะ ครั้งแรกที่ไปชงเหล้าที่ตาพงศ์ ไม่มีคลิปค่ะ

เฟิร์น : มีคลิปค่ะ เขาเมาแล้วแก้ผ้า เขาโดนลูกค้าบูลลี่เรื่องหน้าอก เขาลุกขึ้นมาบอกว่าไม่ทำแล้วงาน ถอดเสื้อผ้าวิ่งรอก พอเราจะวิ่งเข้าไปจับ เขาโวยวายว่าไม่อยากกลับเดี๋ยวโดนทุบที จนคนคิดว่าหนูเอาเด็กไปกักขังแล้วให้มาทำงาน จนต้องมีคนมาเคลียร์

ทำไมไม่ให้เขาออก?

เฟิร์น :   เขาบอกเขาจำอะไรไม่ได้เลย หนูเมา เราถึงมีการถ่ายคลิปทุกครั้ง มีสิ่งที่เขาพิมมาว่าเขาขอโทษ พี่เฟิร์นเจ็บมั้ย ทำไมหนูถึงไม่มีสติแบบนี้

ไพศาล : แต่เราก็ไม่มีสิทธิ์ใช้ความรุนแรง ให้เป็นอุทาหรณ์ ต่อไปไม่ใช้ความรุนแรง จริงๆ พวกเราก็แมนที่มาเคลียร์ แต่เรายังยิ้มหัวเราะ เขามองไม่สำนึก เราต้องมีความสลดในการทำผิด ไม่งั้นจะโดนขุดอดีต ลองสำนึกผิดจริงๆ แล้วจะดีขึ้น และลดการใช้ความรุนแรง

อยากบอกอะไร?

พิม : เขาบอกหนูเป็นน้องรักเขา แต่คนทำร้ายกันแบบนั้น มันคือคนที่รักกันเหรอคะ (ร้องไห้)

About Author