“โอปอล สุชาตา” เคลียร์กระแสดรามา หลังประกวด Miss universe 2024 เปิดใจเหตุชวดมง3!!

โอปอล สุชาตา ช่วงศรี รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ที่วันนี้ขอมาเปิดใจหลังจากทำภารกิจจักรวาล เผยเหตุผลที่ทำไมพลาดมง 3 ตอบประเด็นที่สื่อต่างชาติประโคมข่าวมิสไทยแลนด์โดนปล้นมง เปิดของดีติดตัวที่เชื่อว่ามีแล้วเจ้าที่เม็กซิโกเขารักฉัน ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา และ ดีเจพุฒ พุฒิชัย เป็นพิธีกร 

มีแฟนนางงาม 1 คน ขอเป็นติ่งมานั่งข้าง ๆ ?

หนิง : ตื่นเต้น อาการของคนเป็นติ่งเป็นอย่างนี้นี่เอง

โอปอล : โอปอลเห็นรูปแต่ไม่แน่ใจ พี่หนิง ปณิตา จริงๆหรอ จนพี่ๆทีมงานมาบอก

พี่หนิงเป็นติ่งน้องตั้งแต่ตอนไหน ?

หนิง : จริง ๆ ดูมาตลอด จนพี่ ๆ มาชวนว่าพี่หนิงไปชียร์กันมั้ยที่พารากอน ก็แต่งหน้าตั้งแต่ตี 2 ตี3 ต้องให้ให้สมเกียรติเขา

ทำไมถึงรักในต้วน้องขนาดนี้ตามเชียร์มทุกเม็ด ?

หนิง : ก่อนหน้านี้ก็ไม่กล้าแสดงตัวเยอะ เดี๋ยวคนจะหาว่าเราอะไรหรือเปล่า น้องเป็นคนเก่ง มีความพยายามมีเลือดนักสู้ แอตติจูดน้องดีมาก 

โอปอล อยากบอกอะไรกับแฟนคลับตัวน้อย ๆ คนนี้ ?

โอปอล : ขอบคุณพี่หนิงมาก ๆ ตอนแรกโอปอลไม่คิดว่าจะเป็นพี่หนิงที่ไปดูโอปอลที่โรงหนัง รู้สึกว่าดีใจมากที่มีแรงซัพพอร์ตอีกแรงที่สำคัญมากไจากพี่หนิง โอปอลก็ติดตามพี่หนิงมาตลอด ทั้งพี่หนิงและน้องณิรินทั้งครอบครัวเลย ดีใจที่อยู่ๆวันนึงมีคนที่เราติดตามเป็นแฟนคลับเรา ขอบคุณพี่หนิงที่เห็นศักยภาพในตัวโอปอล 

ขอแสดงความยินดีที่ได้รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024  บางคนยังไม่มูฟออนกับตำแหน่งที่เราได้ โอปอลเองตอนนี้รู้สึกยังไงบ้างกับตำแหน่งที่เราได้ ?

โอปอล : ตอนนี้รู้สึกภูมิใจความจริงมูฟออนตั้งแต่วันที่ได้แล้วเพราะเรารู้สึกว่าไม่มีอะไรที่เราเสียดายเลย ทุกอย่างเราทำเต็มที่หมดแล้วจริงๆ สิ่งที่เราได้รับมันมากกว่าสิ่งที่เราคาดการณ์ไว้ด้วยซ้ำ โอปอลไม่ได้มงกฎแต่ฟีดแบ็คที่เราได้รับจากแฟนนางงามไม่ใช่แค่ในไทยแต่ทั่วโลกรวมถึงคนที่เขาได้รับแรงบันดาลใจจากคำพูดของเรา เลยรู้สึกว่าไม่มีอะไรที่ต้องเสียใจเลย ตั้งแต่วันนั้นคุยกับแม่ปุ้ย คุยกับคุณแม่ตัวเอง กับพี่ๆทีมงานทุกคนว่า ไม่มีอะไรต้องเสียใจ ทุกอย่างเราเต็มที่แล้ว 

ถ้ามองย้อนกลับไป โอปอลคิดว่าเราขาดอะไรในสิ่งที่มันเกิดขึ้น เราถึงไปไม่ถึงมง 3 ?

โอปอล : ตอนนี้ก็คงนึกได้แค่ว่าเราอาจจะไม่ได้ตรงบริบทที่เขาต้องการเป๊ะ ๆ หรือว่าอาจจะไม่ได้ตรงกับความต้องการของทางองค์กรหรือทางคณะกรรมการ เพราะสุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเก็บตัวหรือบนเวทีเราทำเต็มที่แล้วจริง ๆ  สิ่งที่สำคัญคือเราโชว์ความเป็นตัวเองออกไป ทุกคำถามที่ตอบตอบจากใจของโอปอล ทุกอย่างที่โอปอลอยากให้โลกได้ยิน สุดท้ายแล้วเราแฮปปี้แล้วกับทุกอย่างที่เราทำไปเพราะมันมาจากใจเราจริงๆ อาจจะไม่ได้ถูกใจบางคนหรือว่าอาจจะไม่ตรงตามบริบทที่องค์กรกำลังมองหาเป๊ะ ๆ แต่ว่าก็ไม่เป็นไร 

ช่วงที่ประกาศผลแล้วประกาศว่าได้รองอันดับ 3 ในใจคิดอะไรอยู่ ?

โอปอล : แอบตกใจค่ะ เพราะว่าการตอบคำเป็นอีก 1 ด่านที่โอปอลรู้สึกตื่นเต้นแล้วก็กลัวในการประกวดนางงาม แต่พอตอบคำถามเสร็จแล้วรู้สึกดีใจแล้วก็แฮปปี้กับคำตอบของตัวเอง เพราะฉะนั้นเราก็มั่นใจระดับหนึ่งว่าเราน่าจะมีโอกาสเข้าไปได้ลึก อาจจะมีโอกาสถึงจับมือ อาจจะมีโอกาสได้รับมงกุฎ ก็ลุ้นกันเพราะว่าเราก็ไม่ได้ยินที่เพื่อนตอบในคำถามที่ 2 แต่เราก็มีความหวังว่าเราน่าจะได้เข้าไปลึก ก็แอบตกใจนิดหนึ่งแต่ก็ดึงตัวเองกลับมา ยอบรับผลการตัดสิน

จบการประกวดแล้วมี 1 คณะกรรมการเดินมาหาโอปอลด้วย เขามาพูดอะไรกับเรา ?

โอปอล : วันนั้นมีคนที่เดินเข้ามาหาเยอะมาก มีทั้งคณะกรรมการมีทั้งทีมงานแล้วก็เพื่อน ๆ ส่วนใหญ่เขาจะบอกว่าเขาภูมิใจในตัวโอปอลมากๆ และทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำบนเวทีมีคนเดินมาบอกเหมือนกันว่าฉันคิดว่าเธอจะได้ ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ แต่เราก็บอกว่าไม่เป็นไร เพราะว่าโลกนี้ก็เป็นแบบนี้สุดท้ายแล้ววมันอาจะมีปัจจัยอื่นที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่ยูพูดมาแล้วว่ายูภูมิใจในตัวฉันแค่นี้ฉันภูมิใจแล้ว 

หลังจบการประกวดได้มีโอกาสเจอกับคุณแอนมั้ย ?

โอปอล : ไม่ได้เจอกันค่ะ เพราะว่าวุ่นวายมาก เหมือนเกือบจะเดินสวนกันแต่ว่าคุณแอนเขาต้องไปห้องรับรองสำหรับผู้บริหารแล้วก็คนมงเลยยังไม่ทันได้คุยกันเลย ส่วนโอปอลก็เหมือนผีบ้าเลยหลังเวทีทุกคนโกยของแล้วก็เก็บของกันวุ่นวายมาก 

มีอะไรอยากบอกคุณแอน ?

โอปอล : อยากขอบคุณแม่แอนก่อนเพราะว่าตลอดระยะเวลาในการประกวดแม่แอนก็เป็นอีกหนึ่งกำลังใจสำคัญ ทุกครั้งที่เจอกันจะเป็นกำลังใจให้โอปอลตลอด ขอบคุณที่จัดสรรการประกวดกิจกรรมต่างๆให้เราได้มีประสบการณ์ในครั้งนี้เยอะมากๆเป็นประสบการณืที่ดีในชีวิต เดี๋ยวรอต้อนรับแม่แอนและคนมงนะคะ มิสเดนมาร์ค วิคตอเรีย แล้วก็ทีมมิสยูนิเวิร์สที่ประเทศไทย เดี๋ยวจะรอต้อนรับค่ะ 

ควีนทวีปเอเชียน่าจะเป็นสาวไทยแต่ไปตกที่ฟิลิปปินส์ โอปอลว่ายังไงเรื่องนี้ ? 

โอปอล : อันนี้ขึ้นอยู่กับกติกาของทางกองว่าเขามีกติกาอย่างไรในการเลือกควีนทวีป ส่วนตัวโอปอลไม่ได้ทราบลึกขนาดนั้น แต่เท่าที่โอปอลรู้มิสฟิลลิปปินส์เป็นคนที่น่ารักมากๆ เป็นคนที่มีเรื่องราวเป็นแรงบันดาลใจ เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งอีกคนนึง เพราะฉะนั้นโอปอลมองว่าเชลซีเหมาะสมที่จะได้ตำแหน่งนี้เหมือนกัน เราแฮปปี้กับเขา ส่วนโอปอลได้รางวัลรองอันดับ 3 แล้ว แฮปปี้แล้ว 

โอปอลบอกกับแม่ปุ้ยว่ามงกุฎอยู่ที่ใจ ?

โอปอล : ตอนแรกเราไปถึงที่โรงแรมทีมไทยไปรออยู่ โอปอลโทรหาแม่ตั้งแต่หลังเวทีแล้วเพราะว่าเรารู้สึกว่าทุกอย่างผ่านไปเร็วแล้วเราเองก็อยากเช็คด้วยว่าทุกคนเป็นยังไงเพราะเราก็คิดว่าเขาก็คงเสียใจเหมือนกัน แต่ว่าพอไปถึงที่โรงแรมเราได้เจอทุกคนเราบอกกับแม่ก่อนเลยว่าแม่ไม่ต้องเสียใจหนูทำเต็มที่แล้ว แล้วเราพูดกับเขาไปว่ามงกุฎมันอยู่ที่ใจ เราไม่อยากให้เขารู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นว่าไม่ได้มงกุฎแล้วโลกจะจบ ไม่ใช่ หนูสัมผัสได้ตั้งแต่ที่อยู่ที่อารีน่าแล้วว่ามันมีหลายคนมากที่เขาฟังคำพูดของเราแล้วเขารู้สึกว่ามีความหวังในการใช้ชีวิตต่อ เราก็เลยรู้สึกว่าเราประสบความสำเร็จแล้วมันอยู่ที่ใจเราจริงๆ คนที่ได้รับชัยชนะเขาอาจจะไม่ได้พูดคำนี้มันอาจจะมาจากปากของคนที่ไม่ได้รับชับชนะแต่ว่าสุดท้ายแล้วมันไม่ใช่แค่มงกุฎอย่างเดียวที่เป็นตัวกำหนดว่าตัวเราเองเป็นยังไง มันอยู่ที่ว่าเราเอาให้มันอยู่ในตัวเราหรือเปล่า ความเป็นจักรวาล ความเป็นยูนิเวิร์ส ความเป็นคุณค่าของสังคม โอปอลมองว่าคุณค่าของสังคมก็คือมงกุฎเรือนนึงเหมือนกันแล้วมันอยู่ในใจเรา คือไม่อยากให้เขารู้สึกเศร้ามันอยู่ในนี้ 

พอบอกแม่ปุ้ยไปว่ามงกุฎอยู่ที่ใจแม่ปุ้ยเขาบอกอะไรกับเรามาบ้าง ? 

โอปอล : ตอนแรกคิดว่าทุกคนก็พยายามที่จะปลอบใจเรา สุดท้ายแล้วเขาคงคิดว่าเราเป็นคนที่เสียใจที่สุด ถามว่าเสียใจมั้ยก็เสียใจเพราะมันเป็นความหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของโอปอลแล้วในการเป็นนางงามจักรวาลแต่มันไม่ใช่จุดสิ้นสุด เพราะฉะนั้นโอปอลก็ตอบเขากลับไปว่าแม่ไม่ต้องเสียใจนะมันอยู่ในนี้ เขาก็บอกว่าดีแล้วลูก ทุกคนก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกันในช่วงเวลาที่มันไม่ได้มันไม่ได้สำเร็จ แต่ความจริงแล้วสำเร็จ

มีกระแสดราม่าจากชาวเน็ต วันรอบพรีลิมและรอบไฟนอลแฟนนางงามบอกว่าชุดเชยเกินไป วันพรีลิมเอเนอจี้ดรอปไป ดูแล้วถอดใจ มีอะไรอยากจะเคลียร์ ?

โอปอล : ตอนนั้นสำหรับโอปอลเองค่อนข้างวุ่นวายมากๆแล้วมันมีหลายปัจจัยที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราเองก็ช็อคกับการที่ทุกอย่างมันออกมาในภาพนี้ อย่างเดินชุดว่ายน้ำตอนประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เวทียาวเป้นมาราธอนเลย แต่ด้วยความเวทีเป็นรูปแบบอินฟินิตี้มันสั้นในช่วงหน้านิดนึงเลยทำให้เราไปรอเทคออฟเราไม่รีบเดินไปเลยมันก็เลยอาจจะทำให้ดูช้า แต่ว่าตอนที่เดินโอปอลไม่ค่อยได้ยินเสียงเพลงด้วยซ้ำเราเลยไม่รู้ว่าจะต้องจับจังหวะยังไงเราพยายามที่จะไปให้มันไวแล้วก็สับ แต่ว่าไม่ดูเหมือนคนไม่ฟังเพลงจนเกินไปเราพยายามฟังว่าจังหวะมันเป็นยังไงเพราะเสียงเชียร์ก็ดังแต่เสียงเพลงค่อนข้างที่จะเบา พยายามทำเต็มที่ข้อจำกัดอะไรต่างๆเราก็พยายามที่จะสู้มันไป ส่วนในเรื่องของชุดความจริงตัดไปหลายชุดแต่ว่าต้องดูสถานการณ์เพราะว่าตอนแรกเราคิดว่าจะได้เดินโชว์ชุด พอไม่ได้เดินเราก็ดูสถานการณ์แล้วว่าเพื่อนใส่ชุดอะไร เดินยังไง มีโอกาสโพสต์กี่วินาที เราก็เลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น 

 พอมีคอมเม้นท์แบบนี้ออกมาส่วนตัวท้อหรือน้อยใจบ้างมั้ย ?

โอปอล : ถ้าเป็นตอนพรีลิมยอมรับว่าตกใจแต่เราเข้าใจทางบ้านภาพที่ออกมาในไลฟ์จากทางบ้านกับภาพที่ออกมาจากคนที่ดูหน้างาน แสง สี เสียงไม่เหมือนกันเลย เราเลยเข้าใจเขาว่าทำไมมันมีฟีดแบ็คมาในแนวนี้ เพราะตอนแรกก็ตกใจนิดนึงว่ามันแย่ขนาดนั้นเลยหรอ พอเรามาดูความแตกต่างก็เข้าใจแล้วว่าทำไมมีคอมเม้นท์แนวนี้ออกมา ก็ไม่เป็นไรไฟนอลเอาใหม่

หลังการประกวดมีดราม่าระดับโลก  ?

โอปอล : ตอนแรกแอบตกใจ ถ้าเป็นประเทศไทยที่แฟนนางงาามที่เขาคุยกันเองที่เขารู้สึกอกหักหรือเสียใจเราเข้าใจเพราะมันคือการซัพพอร์ตนางงามประเทศตัวเอง พอเห็นสื่อต่างชาติลงแบบนี้ยอมรับว่าตกใจเหมือนกัน เราเคารพการตัดสินของคณะกรรมการ เราก็ยินดีกับคนมงอปอลกับวิคตอเรียก็คุยกัน ทานข้าวด้วยกันตอนอยู่กองเราก็เห็นมุมที่เขาเหมาะสมที่จะได้รับเหมือนกัน แต่ว่าก็ตกใจส่วนหนึ่งก็ดีใจนะที่คนเห็นศักยภาพของเรา แล้วก็มองว่าเราทำผลงานได้ดีในวันนั้นแต่ก็แอบตกใจ

รุ่นพี่มิสโดมินิกันก็ตกใจกับผลที่น้องได้รอง 3 เหมือนกัน ได้คุยกันมั้ย ?

โอปอล : ก็ไปคอมเม้นท์ขอบคุณในวีดีโอเขา คืนนั้นก็มีโอลิเวียกับแคทริโอน่ามาชมโอปอลก็ดีใจมาก ๆ เวลาเราได้รับคำชมจากรุ่นพี่ที่เขาไปอยู่ตรงนั้นมาก่อนแล้วเขาประสบความสำเร็จมาก่อนก็ดีใจ ก็ไปคอมเม้นท์ขอบคุณเขา

พอประกาศว่าเราเป็นรองอันดับ 3 เสียงตรงนั้นเป็นยังไง ?

โอปอล : เราตกใจเพราะว่าอย่างที่บอกว่าเราคิดว่าเราน่าจะไปได้ลึกกว่านี้ แต่ว่าตอนนั้นไม่ได้ยินเสียงโห่มันหูดับไปแล้ว ไม่ได้ทราบว่ามีเสียงโห่ รู้แค่ว่ามันเป็นเสียงดังแต่เราจิตหลุดแล้วเพิ่งมาเห็นในคลิปตอนหลัง

คุณอินดี้ลูกชายแม่ปุ้ยวันประกาศผลปุ๊ปไลฟ์สดเลย ประโยคที่ตราตรึงคือ เราโดนปล้นมง ได้มีโอกาสคุยกับคุณอินดี้หรือยัง ?

โอปอล : คุยค่ะ หลังจากวันไฟนอลก็กลับมาอยู่กับคุณแม่แล้วก็กับพี่ๆที่พัก เขาก็คงขึ้น ทุกคนตรงนั้นคงมีความผิดหวังแล้วก็มีความรู้สึกบอกไม่ถูกในใจเพราะว่าต้องยอมรับว่าทุกคนหวังมากจริงๆ ต้องเข้าใจว่าทั้งทีมมองว่าผลงานโอปอลมันดีมากๆ ณ หน้างานคงหวังสูงไว้มากๆก็คงผิดหวังมากๆ ด้วยจังหวะเวลาแล้วก็อารมณ์ด้วย ปกติก็ไม่เคยเห็นเขาพูดอะไรแบบนี้

ทำไมโอปอลให้ความสำคัญกับคำว่า Empathy ?

โอปอล : อธิบายเป็นคำก่อนนะคะโดยเข้าใจง่ายๆ Empathy จะคล้ายๆกับคำว่า Sympathy Sympathy คือการที่เราเห็นอกเห็นใจคนอื่นแต่ว่าอยู่บนความสงสารหรือว่าการที่เรารู้สึกว่าเขาอาจจะด้อยกว่าหรือขาดอะไรในชีวิต แต่ Empathy คือการเข้าอกเข้าใจในกันและกัน ก่อนหน้านี้ก่อนหน้านี้หลายๆคนอาจจะไม่เคยได้ยินคำนี้เท่าไหร่รวมถึงตัวปอลเองใช้ชีวิตมาซักพักถึงจะได้ยินคำนี้ แต่ที่เราตอบแบบนั้นไปเพราะว่าเรารู้สึกว่า ณ ปัจจุบันนี้โลกมันไปไวมากความรู้หาง่ายมากไม่ว่าการศึกษาที่ดีหรือว่าคุณมีแนวคิดอะไรซักอย่างเราสามารถที่จะลุกขึ้นมาเป็นผู้นำคนอื่นได้ เป็นผู้นำแม้กระทั่งในชั้นเรียนเป็นหัวหน้าห้องได้ หรือในสถานที่ทำงานหรือว่าไปในระดับผู้นำประเทศเพียงแค่เราอยากจะลุกที่จะมานำคนมันทำได้อยู่แล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เป็นผู้นำที่ดีปอลมองว่าการมี Empathy ความเข้าอกเข้าใจผู้คนโดยเฉพาะประชาชนของตัวเองหรือคนที่เรากำลังชักนำอยู่เหมือนเอาใจเขามาใส่ใจเรา

ในรอบตอบคำถามมีอีกเรื่องที่เกิดขึ้นกับชีวิตจริง ๆ ทำไมถึงเลือกเอาการผ่าตัดก้อนเนื้อเต้านมไปใช้ในการตอบคำถามในรอบนั้น ?

โอปอล : ต้องบอกว่าการตอบคำถามทั้งสองรอบเป็นสิ่งที่เราแว๊บเข้ามาในหัวแล้วเราตอบเลยเป็นสิ่งที่อยู่ในใจโอปอล เป็นสิ่งที่เรายึดมั่นอยู่ตลอดเพราะว่าเวลามันน้อยมาก อย่างเรื่อง empathy เป็นเรื่องที่โอปอลใช้กับชีวิตตัวเองมาตลอดในการทำความเข้าใจกับทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะดราม่าหรือปัญหาต่างๆในชีวิต Opal For Her หรือว่าเรื่องของมะเร็งเต้านมก็เหมือนกันเป็นเรื่องที่โอปอลเผชิญมาตั้งแต่อายุ 16  ผ่านมา 5 ปีแล้ว โอปอลทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้มา ทำงานเกี่ยวกับผู้ผ่วยมะเร็งเต้านม เกี่ยวกับคุณหมอ เกี่ยวกับการรีเสิร์ช เกี่ยวกับการรักษาครอบครัวของผู้ป่วยมะเร็งเต้านม เพราะฉะนั้นมันเป็นเรื่องแรกที่แว๊บเข้ามาในหัวจริงๆ เรื่องแรกที่เข้ามาในหัวมันคือเรื่องที่เราให้ความสำคัญมากที่สุดเพราะฉะนั้นเราต้องตอบอันนั้นไปเลย อย่าง Empathy ก็เป็นเรื่องแรกที่แว๊บมาในหัว

มันเกิดกับเราจริง ๆ ตอนอายุ 16 เราเป็นอะไร ?

โอปอล : ใช่ ตอนนั้นโอปอลเป็นก้อนเนื้อส่วนเกินที่เต้านมข้างละ 8 เซนกับ 10 เซน คอนนั้นเพิ่งย้านมากรุงเทพฯแล้วก็เพิ่งเข้าเรียน ม.ปลาย ต้องรีบผ่าตัดออกยอมรับว่าตกใจเหมือนกัน พอเริ่มประกวดนางงามตอนอายุ 18 ก็เลยเริ่มต้นทำโครงการนี้แล้วก็ทำมาถึงทุกัวนนี้ ตอนนี้หายดีแล้วโชคดีที่ผ่าตัดออกมาก้อนเนื้อไม่ได้มีอะไรร้ายแรงหรือผิดปกติแต่ก็เป็นเรื่องราวที่เป็นประสบกาารณ์สำคัญในชีวิต ก่อนบินไปเม็กซิโกเพิ่งไปตรวจกับคุณหมอมาก็ปกติ

แฟนนางงามต่างประเทศเดินเข้ามาหาโอปอลเขาพูดกับเราว่ายังไง ?

โอปอล : ตอนนั้นโอปอลกำลังจะขึ้นบัสกัลบไปที่โรงแรมมรแฟนนางงามคนหนึ่งเขาเดินมาหาเรา  เขาบอกว่าคุณแม่เขาเป็นมะเร็งเต้านมแล้วเพิ่งผ่าตัดไปรอบที่ 3 เมื่อ 2 วันที่แล้ว เขาพูดไปน้ำตาคลอไป เขาบอกว่าฟังโอปอลพูดแล้วเขารู้สึกมีความหวัง ก่อนหน้านี้เขารู้สึกว่ามันยากมากๆสำหรับเขา เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อ เราก็ให้กำลังใจเขาแล้วก็บอกเขาไปว่า รู้มัยว่าการที่เรามาดูแลม่มันแข็งแกร่งมากเลยนะเพราะว่าการที่ทำฉันทำงานตรงนี้คือฉันรู้ว่าอีกคนที่ต้องแข็งแรงไม่น้อยกว่าผู้ป่วยคือครอบครัวเพราะว่าเขาคือแหล่งกำลังใจสำคัญ สิ่งที่ยืนหยัดข้างแม่คือสิ่งที่กล้าหาญมาก ถ้าไม่รู้จะไปทางไหนให้มองมาที่ฉันจะอยู่ตรงนี้ตลอด

ไปเม็กซิโกมีของขลังไปด้วยเป็นอะไร ?

โอปอล : เป็นไพ่ทาโร่เดอะซัน ด้วยความที่เราดูหมอหลายสำนักก่อนที่จะไปก็จะมีไพ่นี้ขึ้นมาตลอดเชื่อว่าเป็นไพ่แห่งชัยชนะและความสำเร็จ เลยคุยกับพี่เลี้ยงว่างั้นเอาไปเลยมั้ยจะได้เป็นเครื่องรางสำหรับเรา แล้วพี่เลี้ยงก็ไปหามาใหม่แล้วก็ไปทำการเจิมตามที่ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ 

เอาดินประเทศไทยไป?

โอปอล : ใช่ค่ะ อยากที่จะเอาดินประเทศไทยไปรวมเป็นผืนแผ่นเดียวกันกับเม็กซิโก เป็นความเชื่อด้วยนับถือพระแม่ธรณี ก็คิดว่าไปถึงเม็กซิโกถ้าเราไปรวมเป็นผืนแผ่นดินเดียวกันก็อาจจะทำให้เราได้รับชัยชนะกัลบมา ให้เจ้าที่รักใ้ห้ชาวเม็กซิโกรัก

มีอะไรอยากจะแนะนำนางงามรุ่นต่อไปมั้ย ?

โอปอล : จริงๆอยากจะแนะนำให้ยึดมั่นในตัวเองแล้วก็ยึดมั่นสิ่งที่ตัวเองเชื่อถือ เราพัฒนาสิ่งใดก็พัฒนาไปแต่อย่าลืมหลงเหลือความเป็นตัวเองแล้วก็ความเป็นไทยที่สวยงามเอาไว้

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ 

About Author