“เซฟ เดอะ ชิลเดรน” ชี้สถานสงเคราะห์ควรเป็นเพียงทางเลือกสุดท้าย ในระบบการดูแลเด็ก
เซฟ เดอะ ชิลเดรน (Save the Children) แสดงความกังวลต่อกรณีข่าวการทารุณกรรมเด็กในสถานสงเคราะห์เด็กเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเรียกร้องให้มีมาตรการตรวจสอบที่รวดเร็วและทบทวนมาตรการคุ้มครองเด็กในสถานสงเคราะห์ทั่วประเทศ โดยเน้นว่าเด็กควรเติบโตในสภาพแวดล้อมของครอบครัวเป็นทางเลือกหลัก และสถานสงเคราะห์ควรถูกใช้เป็นทางเลือกสุดท้ายเท่านั้น พร้อมเสนอแนวทางใหม่เพื่อสร้างระบบสวัสดิการเด็กที่แข็งแกร่ง มาตรฐานการดูแลเด็กที่เข้มงวด และกลไกการรายงานปัญหาที่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว
ข้อมูลจากรายการของ Better Care Network ชี้ให้เห็นว่าเด็กที่เติบโตในครอบครัวมีโอกาสพัฒนาทางอารมณ์และสังคมได้ดีกว่า ซึ่งจะช่วยสร้างรากฐานที่มั่นคงในการเจริญเติบโตและการใช้ชีวิตในอนาคต และเด็กเล็กที่อยู่ในสถานสงเคราะห์มีพัฒนาการที่ช้ากว่าเด็กเล็กที่อาศัยอยู่กับครอบครัวถึงสามเท่า
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่จำเป็นต้องให้เด็กอยู่ในสถานรองรับหรือสถานสงเคราะห์ เซฟ เดอะ ชิลเดรน เรียกร้องให้มีมาตรฐานขั้นต่ำในการดูแลเด็กที่เข้มงวด ซึ่งรวมถึงการพัฒนานโยบายคุ้มครองเด็กที่เน้นการปกป้องและคุ้มครองเด็กจากการละเมิดและการแสวงหาประโยชน์ นอกจากนี้ ต้องมีกลไกการรายงานปัญหาที่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว พร้อมด้วยมาตรการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ
เซฟ เดอะ ชิลเดรน ยังแนะนำให้มีการทบทวนนโยบายการดูแลทางเลือกในรูปแบบต่างๆ ที่สามารถทดแทนการส่งเด็กเข้ารับการดูแลในสถานสงเคราะห์หรือสถานรองรับเด็ก โดยส่งเสริมการดูแลในครอบครัวและชุมชนให้เป็นแนวทางหลักในการสนับสนุนการพัฒนาเด็กอย่างยั่งยืนและปลอดภัย ตัวอย่างเช่นการส่งเสริม การดูแลแบบครอบครัวทดแทน (Foster Care) โดยเน้นการจัดหาครอบครัวอุปถัมภ์ที่ผ่านการฝึกอบรมเพื่อดูแลเด็กอย่างมีคุณภาพ หรือการ การสนับสนุนครอบครัวเชิงป้องกัน (Family Support Programs) โดยให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและสังคมแก่ครอบครัวที่มีความเสี่ยง เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กต้องเข้าสู่สถานสงเคราะห์โดยไม่จำเป็น
อีกหนึ่งข้อเรียกร้องจาก เซฟ เดอะ ชิลเดรน คือการขอให้สภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์มีมาตรการในการประเมินและตรวจสอบมาตรฐานการจัดบริการตามวิชาชีพสังคมสงเคราะห์อันเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานของผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์อย่างเคร่งครัดครอบคลุมและรัดกุมมากยิ่งขึ้น
“นายกีโยม ราชู ผู้อำนวยการบริหาร ของเซฟ เดอะ ชิลเดรน ประเทศไทยกล่าวว่า “เราขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันพัฒนานโยบายคุ้มครองเด็ก เพื่อปกป้องคุ้มครองเด็ก และให้มีมาตรการในการป้องกันการละเมิดและแสวงประโยชน์จากเด็ก และมีกลไกการรายงานที่ตอบสนองต่อปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และ การทบทวนนโยบายการดูแลทางเลือกรูปแบบต่าง ๆ ทดแทนการส่งเด็กเข้ารับการดูแลในสถานสงเคราะห์หรือสถานรองรับ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับเด็ก ๆในประเทศไทยอีก”
เซฟ เดอะ ชิลเดรน พร้อมที่จะสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสร้างระบบสวัสดิการเด็กที่แข็งแกร่งและสามารถตอบสนองต่อปัญหาด้านการคุ้มครองเด็กอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐบาล องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และชุมชนในท้องถิ่น เพื่อให้ประเทศไทยมีอนาคตที่เด็กทุกคนได้เติบโตในสภาพแวดล้อมของครอบครัวที่ปลอดภัยและมีการสนับสนุนอย่างเหมาะสม องค์กรของเรายังมุ่งเน้นในการพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ดูแลเด็ก การจัดทำนโยบายที่ครอบคลุมเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิ์และการแสวงหาผลประโยชน์จากเด็ก รวมถึงการส่งเสริมการดูแลแบบครอบครัวและการพัฒนาระบบทางเลือกที่ให้ความสำคัญกับการอยู่ในชุมชน ทั้งนี้เพื่อให้เด็กในประเทศไทยได้รับการพัฒนาทางด้านร่างกาย จิตใจ และอารมณ์อย่างเต็มที่ และสามารถเติบโตขึ้นเป็นสมาชิกที่มีคุณภาพของสังคม
About Author
