20 Startup จากโครงการ Growth Program 2024 อนาคตของนวัตกรรมไทยสู่เวทีโลก 

20 Startup จากโครงการ Growth Program 2024 อนาคตของนวัตกรรมไทยสู่เวทีโลก จากความฝัน สู่ความสำเร็จ

5 พฤศจิกายน 2567 ห้องประชุมพูนทรัพย์ นพวงศ์ ณ อยุธยา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพฯ – สำเร็จไปอย่างงดงามกับโครงการยกระดับวิสาหกิจนวัตกรรมให้สามารถแข่งขันเชิงพาณิชย์ และเติบโตอย่างก้าวกระโดด และต่อยอดการลงทุน (Growth Program for Startups) โครงการเพื่อการยกระดับวิสาหกิจนวัตกรรมให้สามารถแข่งขันเชิงพาณิชย์ และเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด โดยฝ่ายนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงาน Demo Day ในครั้งนี้

​ตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการ จนเข้าสู่กระบวนการคัดเลือก และนำเสนอนวัตกรรม สู่งาน Demo Day นำเสนอธุรกิจจาก 20 Startup ที่ได้รับการคัดเลือกจากโครงการ Growth Program 2024  ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าชม องค์กรธุรกิจ นักลงทุน และสื่อมวลชน เป็นอย่างมาก 

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)กล่าวว่า “โครงการ Growth Program 2024 ครั้งนี้ถือเป็นรุ่นที่ 5 ซึ่งที่ผ่านมาเรามีการเก็บรวบรวมข้อมูลว่า Startup (สตาร์ทอัพ) แต่ละรุ่นว่ามีการเติบโตไปทางด้านใดบ้าง ซึ่งเราหวังว่าการจัดกิจกรรมเช่นนี้จะเป็นการส่งเสริมนวัตกรรม และในทุกๆปีจะเห็นได้ว่ากิจกรรมต่างๆมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และได้รับความสนใจจากนักลงทุนซึ่งไม่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ยังได้รับความสนใจไกลไปยังต่างประเทศ ครั้งนี้เราจึงได้ตัดสินใจถ่ายทอดทาง Facebook Live เพื่อให้นักลงทุนในต่างประเทศที่สนใจได้รับชมการนำเสนอธุรกิจ และผลิตภัณฑ์ของ Startup ไทยในโครงการ พิจารณาให้การสนับสนุนธุรกิจต่อไปตามValuation ที่มากกว่า 1000 ล้าน ซึ่งตอนนี้ได้ระดมทุนแล้ว 80 ล้านบาท และอยู่ระหว่างระดมทุนอีก 50 ล้านบาท

​โครงการนี้เรามีการเชื่อมโอกาสทั้งในเรื่องของพาร์ทเนอร์การจัดงาน และผู้สนใจสนับสนุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งเรามองว่า Startup กลุ่มนี้ควรได้รับการสนับสนุนที่มากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันนี้เราพยายามขยายตลาดไปยังตลาดต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เกาหลี ญี่ปุ่น แม้กระทั่งโซนยุโรป ซึ่งนอกจากจะเป็นการขยายโอกาสของนักลงทุนแล้ว ยังเป็นการขยายตลาดไปยังต่างประเทศด้วย 

​จากการเก็บข้อมูล ทำให้เราเห็นว่ามีแนวโน้มที่ดีสำหรับเม็ดเงินในการลงทุนที่จะตามมา และบริษัทที่มาร่วมโครงการนี้จะเติบโตก้าวหน้าไป ยกตัวอย่างในวันนี้ เรามองว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า กลุ่ม Startup ในโครงการ เกินกว่า 50% เราจะสามารถผลักดันให้เติบโตเกินไปกว่าการเป็น Startup อาจก้าวไปสู่ซีรีส์ A  ซึ่งจะมีเม็ดเงินลงทุนเกิน 1,000 ล้านได้ในที่สุด 

​ในแง่ของเม็ดเงินลงทุน เมื่อเราพูดว่า 1,000 ล้านบาท ในบ้านเราอาจจะมองว่าเป็นเม็ดเงินจำนวนมาก แต่เมื่อไปสู่ตลาดต่างประเทศ 1,000 ล้าน เป็นตัวเลขที่ไม่ได้มาก Startup ในต่างประเทศมูลค่าการลงทุนมีการกล่าวถึงในระดับพันล้านบาทเป็นเรื่องปกติ  และในประเทศไทยเรายังมี Startup ระดับยูนิคอร์นไม่มาก ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เรากำลังพยายามให้มี Startup ที่โตมากจากรั้วมหาวิทยาลัยบ้าง จากบริษัทขนาดเล็กๆบ้าง เราจึงอยากจะผลักดันให้น้อง ๆที่ร่วมโครงการนี้ ในอีก 5-6 ปีข้างหน้า ให้เค้าเติบโตขึ้นไป อาจจะไม่ถึงขั้นยูนิคอร์น แต่มีการลงทุนหรือมีเม็ดเงินในระดับซีรีส์ A B C  ให้เติบโตได้ 

​ใน 4-5 ปีที่ผ่านมา Startup ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรขนาดใหญ่ ที่คาดหวังการลงทุนเพื่อการสร้างการเติบโตในแง่ของภาคธุรกิจซึ่งคาดหวังการเติบโตในอนาคต ดังนั้นพาร์ทเนอร์เหล่านี้ก็มีความสำคัญสำหรับการสร้างการเติบโตให้กับ Startup ไทย ซึ่งเป็นการสร้าง Ecosystem (ระบบนิเวศทางธุรกิจ) วงจรการสร้างการเติบโตสำหรับกลุ่ม Startup ได้ ในแง่ของการสร้าง Ecosystem เราเปรียบเสมือนโซ่กลางในการร้อยเรียงเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นตัว Startup จากมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นตัวเม็ดเงินจากสถาบันการเงินในมิติด้านการลงทุนรวมถึงการเชื่อมโยงตลาด ซึ่งนับว่าเวลานี้ทั้งเรื่อง Intellectual Property Management(การบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา) ซึ่งเราคุยตรงกับ IDTP (กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์) เรื่องการส่งเสริมการตลาด  และประสานกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสิ่งแวดล้อม (Department of Climate Change and Environment) เป็นตัวเชื่อมให้กับกลุ่ม Startup และมีการพูดคุยกับบริษัทใหญ่ในการที่จะลงทุนกับบริษัท Startupเหล่านี้ สถานการณ์การเติบโตของ Startup ได้ผ่านจุดที่ตกต่ำที่สุดในช่วงโควิดที่ผ่านมา และจากนี้คือ ยุคที่กำลังเติบโตมีเม็ดเงินจากการสนับสนุนทำให้ภาพรวมของStartup ดีขึ้น”

​การนำเสนองานในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนการจัดกิจกรรมจาก จุฬาลงกกรณ์มหาวิทยาลัย รองศาสตราจารย์ ดร.ศิริเดช สุชีวะ  รองอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “ในแง่สถาบันการศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีความเห็นว่า นอกจากเราจะเป็นสถาบันการศึกษา เรายังพร้อมที่จะส่งต่อผู้สำเร็จการศึกษาจากหลากหลายแขนง ซึ่งทุกวันนี้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเราใช้หลักสูตรที่เป็นบูรณาการที่ทำให้บัณฑิตเรานั้นรู้กว้างนอกจากศาสตร์ด้านองค์ความรู้ เรายังต้องรู้ศาสตร์ด้านการทำ R&D  (การวิจัย และพัฒนา) และการตลาด ทำให้บัณฑิตเรามีความรอบรู้มากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากจะผลิตบัณฑิตเพื่อออกมาช่วยพัฒนาประเทศแล้วยังพร้อมที่จะเป็น Startup ให้กับสังคมไทย ดังนั้นเราก็ส่งต่อไปยังสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ช่วยบ่มเพาะต่อเพื่อทำให้เข้มแข็งขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็น Startup แนวหน้าของประเทศไทย”

ผศ.ดร.ดวงกมล บางชวด หัวหน้าโครงการฯ กล่าวเสริมว่า “ในฐานะหัวหน้าโครงการ ขอขยายความต่อว่าในฐานะที่เราเป็นสถาบันการศึกษาเราพยายามบ่มเพาะให้กลุ่ม Startupเติบโตขึ้น และพยายามหาทางส่งเสริม ซึ่งในครั้งนี้ผู้ที่เข้าอบรม 20 ทีม ก็จะมีความหลากหลายของเทคโนโลยี ซึ่งผู้ร่วมอบรมต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมี Mentor (ผู้ให้คำแนะนำ) หรือที่ปรึกษาที่จะช่วยให้ Startup ให้เติบโตขึ้น

ในทุกวันนี้เทรนด์การเรียนรู้ของคนเราจะเน้นการเป็นพื้นที่การเรียนรู้ของคนทุกช่วงวัย ซึ่งทางจุฬาฯ ให้ความสำคัญกับเทรนด์การเรียนรู้ในอนาคต โครงการนี้เป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ ของน้อง ๆนิสิต เพราะได้เห็นว่าเป็นกลุ่มการทำงานผสมกันหลายช่วงอายุ ทั้งเด็กจบใหม่ ทั้งมีผู้ที่เรียนจบไปนานแล้วต่างมาร่วมทำงานด้วยกัน ทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างกว้าง และเกิดแรงบันดาลใจที่ดี ที่จะเติบโตไปในอนาคต”

​โครงการ Growth program คือโครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนาเพื่อต่อยอดศักยภาพของStartup ธุรกิจนวัตกรรมไทยที่เป็นวิสาหกิจเริ่มต้น ในด้านการจัดการธุรกิจ การขยายธุรกิจ การนำเสนอธุรกิจรวมถึงการระดมทุน การต่อยอดสู่แหล่งทุนอื่นและกลไกสนับสนุนด้านการเงินที่เกี่ยวข้อง ผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้ และแลกเปลี่ยนแนวคิด และประสบการณ์จากผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ Startup ได้หารือ หรือนำเสนอธุรกิจต่อนักลงทุน แหล่งทุน คู่ค้า ทางธุรกิจ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสการเติบโตให้ธุรกิจ และเพื่อพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือ และความสัมพันธ์ระหว่าง Startup และภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้องในระบบนิเวศธุรกิจ

สำหรับผู้สนใจสามารถเข้าชมพิธีปิดโครงการ Growth Program 2024  และงาน Demo Day ย้อนหลังได้ที่ Facebook Fanpage: Growth Program 2024  

About Author