"ณวัฒน์" ฟิวส์ขาด! จวกทีมจัดมิสแกรนด์กัมพูชา

เมื่อวานวันที่ 8 ต.ค. 2567 เวลา 18.30 น. ณ บนเรือเมอริเดียน ครูซ กลางแม่น้ำเจ้าพระยา นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานและผู้ก่อตั้งเวทีมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล ได้แถลงข่าวด่วนถึงเหตุการณ์ที่ ยกเลิกกิจกรรมการประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2024 ที่กัมพูชา หลังพบความไม่พร้อม จนทำให้นางงามจาก 74 ประเทศต้องบินกลับมาไทยเพื่อเริ่มต้นการประกวดใหม่

ซึ่ง ณวัฒน์ ขอชี้แจงไว้ประมาณว่า “รู้สึกผิดหวังมากและเสียเวลา ทีมงานกัมพูชาไม่ได้เตรียมพร้อมอย่างที่ตกลงไว้ ทั้งเรื่องแบ็กดรอป ไวนิล หรือแม้กระทั่งระบบรักษาความปลอดภัยที่ไม่เป็นไปตามสัญญา สิ่งที่ทำให้ฟิวส์ขาดที่สุดคือปัญหาเรื่องเรือที่ปักหมุดกลางแม่น้ำโดยไม่มีใครอยู่ ทีมงานไม่รับสาย จนต้องแก้ปัญหาเอง นอกจากนี้ ทีมงานยังอ้างว่ามีแขกและสื่อมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก แต่ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น แขกที่มาร่วมงานมีเพียงไม่กี่คน สุดท้ายยังไม่มีรัฐมนตรีมาร่วมงานตามที่สัญญาไว้ ทำให้นายณวัฒน์ต้องเรียกทีมงานมาตำหนิและแก้ปัญหาหน้างานทั้งหมดด้วยตัวเอง

เขาชอบทำตัวอวดรวย ตนถามผู้จัดงานว่า รมต.อยู่ไหนงานจะเริ่มแล้ว เขาบอกไม่มา บอกว่าเขาใจผิดจะมากาลาแทน ตนไม่เชื่อเขาเขาไม่อายแต่ตนอายที่ไม่มีอะไรเลย เมื่อถึงเวลางานกาลาทำเวทีไม่ทัน พวกตนไปทำเวทีกันเองจนเกือบนาทีสุดท้ายก่อนเริ่มงาน เขาบอกคนจะมาเยอะมาก สรุปมาไม่ถึง 10 คน มีแต่ครอบครัวเขามา ตนต้องไปตามทีมงานมานั่งเติม ถึงจะเริ่มงาน ตนเว้นที่ให้ รมต. เขาบอกว่าไม่มาแล้ว เข้าสิ้นคิด เขาโง่มาก จะฟ้องก็ฟ้องเลย ไร้ความรับผิดชอบ ระหว่างงานนางงามโป๊ให้สลับกล้องเขาก็ไม่สลับ

และที่ทนไม่ไหวจริง ๆ คือตอนล่องเรือ เราต้องไปดูก่อน เพราะไม่ไว้ใจ เขาบอกว่าใกล้ แต่ที่จริงไกลมาก เขาบอกว่าบอกนางงามไม่ต้องลงเรือดีกว่าฝนตก ลื่น สกปรก ทีมงานเราบอกว่าไม่ได้ยังไงก็ต้องลงเรือ เขาบอกว่าเราเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เขานั้นแหละที่เปลี่ยนไปมา ระหว่างไปดูเรือตนจะไปดูให้ได้ ต้องไปดูไม่งั้นคน 70 ประเทศจะดูถูกเรา เราจะดูไม่โปร เราโทรตามเขา เขาบอกว่าอยู่กลางแม่น้ำ เราก็ถามไปทำไม เอาเรือกลับมา ออกเรือไปทำไม สัญญาณโทรศัพท์หาย เขาไม่รับสายใครเลย พวกเรากระหน่ำโทร เขาส่งเทเลแกรมมาว่าอยู่กลางแม่น้ำ แต่พวกเราทุกคนอยู่บนฝั่ง เธอจะอยู่แต่กลางแม่น้ำ คนบ้าหรือคนดี เราหาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไมเป็นแบบนั้น

เราหาเรือไม่ได้อายมาก เราวิ่งไปถามชาวบ้าน ว่า มีเรือลำไหนว่า เราหาเรือลำนั้นได้ เรือลำนั้นตนหามา เราแก้ผ้าเราหน้ารอด แก้ปัญหาถ่วงเวลาไปก่อน ไม่มีทีมงานเขาอยู่เลย เรานัดเขามาคุยกันที่โรงแรม มาถึงก็เปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือ พวกทีมเขามาหมด พร้อมบอดี้การ์ด ตนบอกว่าบอดี้การ์ดไม่ควรอยู่ พอเราพูดข้อเท็จจริง เขาชี้หน้าด่า ทุกคนอารมณ์ขึ้น เราไม่แน่ใจว่าบอดี้การ์ดมีอาวุธหรือไม่ แต่ตนคิดว่ามี เขาด่าผู้ช่วยตน ตนคิดว่ามันอันตรายมากอยู่ไม่ได้แล้ว ถ้าเราถามอะไรแล้วทีมงานเขาอยู่เขาจะไม่ให้เราพูดจะกวนเรา เขาไม่ยอมเอาออกไป เราจึงหยุดการพูดคุยทันที

เราเห็นเขาถ่ายคลิป เราบอกให้หยุดถ่าย เขาอ้างว่าไม่ได้ถ่าย ตนกระโจนไปจับมือถือภาพนั้นที่ออกมา ที่ชี้หน้าคือจับได้ว่ากำลังถ่าย เขาโพสต์ว่ายุติสัญญา ใครกันแน่เป็นเจ้าของ ปีหน้าจ่ายเงินมาแล้ว เรายึดเงินเลยดี ยกเลิกก็บาย เราเก็บตังค์ไปแล้ว 3 ปี จัดไปแล้ว 2 ปี

เขาเอานางงามเราไป 2-3 คนเป็นตัวท็อป ไปใช้งาน ส่งคนมาตามอัดคลิป หลังจากที่โพสต์ว่าจะยกเลิกก็มาตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ ต้องสวย เสียใจก็ต้องจัดไฟ พอเขาไลฟ์เราไลฟ์ตาม หลังจากคืนนั้นไม่มีอะไรเหลือให้เราเลย เราช่วยกันขนของเอง รีบกลับมาไทยมาเคลียร์งานทั้งหมด เขาทำให้เสียชื่อประเทศตัวเอง เราทอดทิ้งคน 70 กว่าประเทศ คนแบบนี้ใครอยากทำงานด้วยคิดดูนะครับ ส่วนนางงามเขาน่าจะรู้ตัวตั้งแต่วันแรก ๆ ว่ามันไม่โอเค

ก่อนที่ ณวัฒน์ จะเปิดคลิปมิสแกรนด์แคมโบเดียปีก่อน เพื่อยืนยันว่าทางฝั่งโน้นพูดกับทีมไทยอีกอย่าง พูดกับคนอื่นอีกอย่าง

จากนั้นนายณวัฒน์กล่าวต่อว่า ตนถูกลูกน้องเขาด่า พวกเขาไม่ห้ามลูกน้องเลย เขาชอบพูดว่าเอาหลักฐานมาดู คำพูดเขาไม่ศักดิ์สิทธิ์เลย ใครจะทำงานทำเขา เขาบอกว่าเราเปลี่ยน ตนไปเปลี่ยน รมต.เขาหรือ เราไม่ได้เปลี่ยน ไม่มีการเตรียมการใด ๆ ทีมงานบอกว่าจะมีก็ไม่มี รถตำรวจนำไม่มี ขนมสักชิ้นก็ไม่มี อยากกินอะไรต้องซื้อเอง เราเครียดมาก ไม่มีใครเคยทำกับเราแบบนี้เลย และเราก็ไม่เคยทำกับใคร เรื่องไข่ข้าวเราไม่อยากให้พูดถึง เป็นเรื่องวัฒนธรรม เป็นประเด็นเล็ก แต่ประเด็นใหญ่คือถ้าคุณเป็นนักธุรกิจ คุณจะไม่ทำกับเราแบบนี้ น้ำอาหารเราซื้อเองหมด เราไม่ได้ตัดสิทธิเขา เขาประกาศตัดสิทธิเรา เขาโกหกว่าเราแจ้งเรื่องเรือกะทันหัน ไม่จริง 18 ก.ย. เราคอนเฟิร์มทุกอย่างเตรียมงาน เขาโกหกจนชิน

นางงามมิสแกรนด์กัมพูชาที่ถอนตัว น้องอยากมา แต่ผู้ใหญ่ไม่ให้มา เราเข้าใจเขา เขามีตั๋วเครื่องบิน เราซื้อให้เขา นอกจากนี้เราซื้อตั๋วกะทันหันกลับมาไทย หมดไปเกือบล้าน นางงามกดดันกับการจัดการของพวกเขามาก ร้องไห้เมื่อมาถึงไทย มิสแกรนด์คอสตาริกา พ่อแม่เขามาด้วย ตามมาดูแล เพราะน้องมีอาการซึมเศร้า แต่มาเจอสถานการณ์นี้จากการดูแลของทีมงานที่กัมพูชา เขาไม่ไหว เราให้คุณเทเรซ่าเช็กเขาตลอด อยากให้จิตใจเขาดีขึ้น เราอยากดูแลเขาตนยังไม่ออกจากประเทศเขาก็มีคนมาขอซื้อลิขสิทธิ์ ขอบคุณเขาด้วย เขายืนยันจะทำให้ดีที่สุด ขอจัดปีหน้า เรามีคนมาขอซื้อแล้ว เขาถามว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ก็บอก เขาจะส่งมาประกวดปีนี้เลย สุดท้ายมาไม่ได้เพราะสังคมกดดัน นายณวัฒน์กล่าว

ปีหน้าถ้าตนจะให้ใครจะมาเป็นเจ้าภาพคิดหนัก เราต้องเก็บเงินการันตี เป็นบทเรียน ที่ไทยเรากลับมาจัดเสียเงินไม่ว่าเงินหน้าไม่ได้ ชื่อเสียงเสียไม่ได้ เงินเสียได้ เราจะจัดงานที่นี่ก่อน วันที่ 11-16 ไปพัทยา วันนี้ที่เราจัดฟรีทั้งหมด เพราะสปอนเซอร์ช่วยทั้งหมด นางงามอยากไปดูหมูเด้ง ได้ไปแน่ อาจจะวันที่ 12 ต.ค. แล้วเดี๋ยวเรากลับไปเสียมเรียบกันอีก

ซึ่งหลังจบการแถลงข่าว นายณวัฒน์ ได้นำนางงามทั้งหมดล่องเรือชมความงามของแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืน โดยภายในเรือจัดเต็มอาหารและเครื่องดื่มไว้ให้นางงามกินดื่มกันอย่างไม่อั้น หลังรับประทานอาหารเหล่าสาวงามได้ปาร์ตี้ทั้งร้องทั้งเต้นกันอย่างสนุกสนาน เป็นการผ่อนคลายหลังเจอเรื่องราวต่าง ๆ มา

โดยหลังจากนี้จะมีกิจกรรมการเก็บตัว และการประกวดรอบชุดว่ายน้ำ ชุดประจำชาติ พรีลิมมินารี และจะมีการประกวดรอบตัดสินที่ เอ็มจีไอฮอลล์ บราโว่ บีเคเค ในวันที่ 25 ต.ค.ต่อไป