สสว. จัด “THAI SME-GP DAY 2024” มหกรรมสินค้า SME และความรู้สู่ตลาดรัฐ-เอกชน 26-28 ก.ย. นี้
สสว. จัด “THAI SME-GP DAY 2024” มหกรรมสินค้า SME และความรู้สู่ตลาดรัฐ-เอกชน 26-28 ก.ย. นี้ ที่ฮอลล์ 5 อิมแพ็ค เมืองทองธานี 26 กันยายน 2567 – ฮอลล์ 5 อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น เซ็นเตอร์ เมืองทองธานี /
สสว. จัดงาน THAI SME-GP DAY 2024 งานมหกรรมยิ่งใหญ่ประจำปี รวมสินค้า/บริการของ SME ถึง 160 บูธ เพื่อขยายโอกาสเข้าสู่ตลาดภาครัฐ/เอกชน พร้อมติดอาวุธความรู้การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และแนวปฏิบัติที่ถูกต้อง รวมถึงกลยุทธ์การทำธุรกิจยุคใหม่ให้เป็นแนวทางสำหรับผู้สนใจต่อยอดธุรกิจ ภายในงานยังรวมบริการต่างๆ เพื่อ SME แบบเบ็ดเสร็จครบวงจร ตั้งแต่การตรวจสุขภาพธุรกิจ การขึ้นทะเบียนรับสิทธ์ประโยชน์ บริการปรึกษาแนะนำทางธุรกิจ เงินอุดหนุนจากมาตรการ SME ปัง ตังได้คืน พร้อมแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินชั้นนำ ด้วยเป้าหมายให้งานนี้สร้างโอกาสให้ SME เพื่อการเติบโตที่เข้มแข็ง ยั่งยืน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประธานกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เป็นประธานเปิดงาน THAI SME-GP DAY 2024 กล่าวว่า งานเชื่อมโยงคู่ค้าเพื่อสร้างโอกาส SME เข้าสู่ตลาดภาครัฐ/ภาคเอกชน หรือ THAI SME-GP DAY 2024 ถือเป็นงานที่ขยายผล และต่อยอดมาตรการสนับสนุนให้ SME เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เนื่องด้วยตลาดภาครัฐมีมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างสูงกว่า 1.3-1.5 ล้านล้านบาทต่อปี มีกำลังซื้อจำนวนมากและต่อเนื่อง มีความแน่นอนเรื่องการชำระเงิน ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายสำคัญที่มุ่งส่งเสริมปกป้องผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะ SME จากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม และเห็นว่าการดำเนินงานของกรมบัญชีกลางและ สสว. มีส่วนในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นการถอดบทเรียนการดำเนินงาน และทบทวน ปรับปรุงมาตรการฯ และแนวทางปฏิบัติโดยเฉพาะในส่วนของสิทธิประโยชน์ของผู้ประกอบการ SME ให้มีความเหมาะสม ยืดหยุ่น และลดความยุ่งยากซับซ้อนในการปฏิบัติ จึงเป็นสิ่งที่ขอให้กรมบัญชีกลางและ สสว. ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
ด้านนางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า จากการที่ สสว. ได้ร่วมกับกรมบัญชีกลาง ดำเนินมาตรการสนับสนุนให้ SME เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ภายใต้กฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 นับตั้งแต่ปลายปี 2563 เป็นต้นมา เพื่อสร้างโอกาสให้ SME เข้าสู่ตลาดภาครัฐ ด้วยการให้สิทธิประโยชน์กับ SME ที่ขึ้นทะเบียน THAI SME-GP ไว้กับ สสว. ในรูปแบบของแต้มต่อในการแข่งขันไม่เกินร้อยละ 10 และหากผู้ประกอบการ THAI SME-GP ขายสินค้าที่ได้รับการรับรอง Made in Thailand จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จะได้รับแต้มต่อไม่เกินร้อยละ 15 ส่วนการจัดซื้อจัดจ้างที่มีวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท ให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาจัดซื้อจัดจ้างกับผู้ประกอบการ SME เป็นลำดับแรกก่อน ซึ่งสิทธิประโยชน์ดังกล่าวช่วยสร้างโอกาสให้กับ SME มาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน (ตัวเลข ณ วันที่ 13 ก.ย.) มีผู้ประกอบการ SME ขึ้นทะเบียน THAI SME-GP ทั่วประเทศจำนวนรวม 164,327 ราย มีจำนวนสินค้าและบริการรวม 1,217,146 รายการ
สำหรับงาน THAI SME-GP DAY 2024 มีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมโยงให้ผู้ประกอบการ SME ซึ่งเป็นผู้ขายสินค้า/บริการ ได้พบกับผู้ซื้อทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อสร้างโอกาสในการขยายตลาด ภายในงานประกอบไปด้วยโซนกิจกรรม 6 โซน ได้แก่ โซน THAI SME-GP พื้นที่แสดงผลงานของมาตรการฯ, โซน OSMEP Pavilion พื้นที่รวบรวมบริการของ สสว., โซนแสดงสินค้า/บริการของ SME รวม 160 บูธ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ได้รับความสนใจจากตลาดภาครัฐ ภาคเอกชน, โซนพื้นที่เครือข่ายส่งเสริม SME ที่แสดงผลงานของหน่วยงานพันธมิตรที่ร่วมสนับสนุน SME เข้าสู่ตลาดภาครัฐ รวมทั้งสถาบันการเงินทั้งภาครัฐ และเอกชน ที่มาร่วมให้บริการสินเชื่อสำหรับ SME, โซน Total Solution พื้นที่นำเสนอสินค้ากลุ่ม IT ทั้ง Hardware Software และบริการที่เกี่ยวข้อง และโซนเวทีกลาง เป็นพื้นที่นำเสนอกิจกรรมสัมมนา/บรรยายพิเศษ ในหัวข้อเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
นอกจากนี้ภายในงานยังจัดพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณเพื่อเชิดชูหน่วยงานภาครัฐ ทั้งหน่วยงานที่ร่วมขับเคลื่อนมาตรการต่างๆ รวมถึงหน่วยงานที่ร่วมสนับสนุนกลไก ข้อมูล และสถาบันการเงินที่ร่วมสนับสนุนเงินทุนที่จะเป็นประโยชน์สำหรับ SME ในการเข้าถึงตลาดภาครัฐ และที่สำคัญคือหน่วยงานภาครัฐทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคที่เป็นผู้ซื้อและมีการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการของ SME ในระดับสูงทั้งในพื้นที่ส่วนกลาง กรุงเทพและปริมณฑล รวมถึงพื้นที่ในส่วนภูมิภาค ครอบคลุมภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงสินค้าและบริการที่ SME ไทยที่มีความสามารถและเป็นส่วนที่ได้รับการมุ่งเน้นเพื่อขยายโอกาสทางการตลาด เช่น กลุ่มสินค้าเครื่องมือ อุปกรณ์และวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ กลุ่มงานบริการด้านการท่องเที่ยว อาหาร ห้องพักและความบันเทิง และกลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารและโทรคมนาคม
“สสว. เชื่อว่างาน THAI SME-GP 2024 นี้ จะเป็นประโยชน์กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น SME จะได้มีความรู้เกี่ยวกับการทำตลาดภาครัฐ ภาคเอกชน และมีโอกาสโชว์ศักยภาพให้กลุ่มเป้าหมายเพื่อสร้างโอกาสในการค้า ขณะที่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน จะได้มีทางเลือกใหม่ๆ หรือมีโอกาสเลือกคู่ค้าที่ตรงตามความต้องการ ส่วนผู้ที่สนใจจะได้เห็นแนวคิดการทำธุรกิจจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญเพื่อจุดประกายความเป็นผู้ประกอบการ ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การส่งเสริม SME ของ สสว. บรรลุเป้าหมายในการสร้างโอกาสทางการตลาดและพัฒนาศักยภาพให้ SME เข้มแข็ง เติบโต และเป็นกำลังสำคัญของเศรษฐกิจประเทศต่อไป” รักษาการ ผอ.สสว. กล่าว