พชรกฤษฏิ์ พร็อพเพอร์ตี้ พร้อมส่งมอบโอกาส....ในวันที่เผชิญวิกฤต

“ถามว่าวันนี้เราสำเร็จแล้วหรือยัง? เราอาจจะสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่เราเชื่อว่าเราสำเร็จได้มากกว่านี้ และเติบโตได้อีกเรื่อย ๆ จริง ๆ แล้ว ความสำเร็จมันอยู่ระหว่างทางและไม่มีที่สิ้นสุด สามารถสำเร็จได้ต่อไปอีก”

เราทุกคนต่างก็มีความฝัน และความหวัง เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงจิตใจให้ดำรงชีวิตอยู่ แต่เมื่อต้องเจอกับวิกฤต เราต่างก็มีความเชื่อว่าจะฝ่าฟันปัญหาให้ยืนหยัดและเติบโตได้ จะดีกว่าไหมถ้ามีโอกาสดี ๆ ที่มาสนับสนุนความเชื่อให้ฝ่าฟันปัญหาอย่างเข้มแข็งและประสบความสำเร็จในอนาคต จุดเริ่มต้นของการสร้าง พชรกฤษฏิ์ พร็อพเพอร์ตี้ ที่ให้บริการสินเชื่อ จำนอง ขายฝาก อสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท จึงเกิดขึ้นมาจากความหวัง ความฝัน ความเชื่อ และ โอกาส

ในวงการธุรกิจชื่อของ คุณพชรกฤษฏิ์ ชื่นชม หรือ ณัฐ อาจจะเป็นชื่อใหม่ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่มีดีกรีนั่งแท่นประธานบริหาร (CEO) บริษัท พชรกฤษฏิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด CEO หนุ่มอายุน้อย ที่มากด้วยประสบการณ์และมุมมองที่หลากหลาย

“พชรกฤษฏิ์ พร็อพเพอร์ตี้ เกิดขึ้นมาท่ามกลางความฝัน ความหวัง ความเชื่อ และโอกาส เพราะเรารู้สึกว่ามี Passion ในการประกอบธุรกิจและส่งมอบโอกาสให้กับผู้คนที่เจอวิกฤต จริง ๆ แล้ว วิกฤตเป็นเรื่องที่ดี เพราะเมื่อเราเจอวิกฤต เราจะได้เรียนรู้ เติบโตและพัฒนา ทำให้เราเก่งขึ้น และรับมือกับวิกฤตใหม่ ๆ ได้มากขึ้นกว่าเดิม”

มุมมองในการสร้าง พชรกฤษฏิ์ พร็อพเพอร์ตี้ ท่ามกลางวิกฤต

ช่วงที่ประเทศประสบกับวิกฤตโควิดเป็นโอกาสของเราเช่นกันที่จะได้ส่งมอบโอกาสดี ๆ ให้กับผู้คนที่เจอสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจ อย่างที่เรารู้กันว่าผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว ฯลฯ ต้องปิดตัวลง ซึ่งเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ๆ ที่จะฟื้นคืนกลับมา แต่เราได้มีโอกาสพบผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ ที่อาจจะไม่สามารถใช้วงเงินจากสถาบันการเงินหรือจากธนาคารได้ และต้องการเงินทุนในการกอบกู้ธุรกิจให้กลับฟื้นคืนมาดีขึ้น จึงเป็นโอกาสของบริษัท ที่ได้ส่งมอบโอกาสให้กับผู้ประกอบการที่ต้องการโอกาสต่อยอดธุรกิจ “เหมือนเรายิ่งให้ เรายิ่งได้”

เรียนรู้ประสบการณ์ผ่านเส้นทางพชรกฤษฏิ์ พร็อพเพอร์ตี้

เราได้รับบทเรียนมหาศาล เริ่มต้นจากตัวเรา และรู้สึกว่าเราสามารถที่จะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ จึงเกิดเป็น พชรกฤษฏิ์ พร็อพเพอร์ตี้ สำหรับประสบการณ์ที่ได้รับมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการประกอบธุรกิจ หรือความน่าเชื่อถือ เราประสบปัญหาถูกดิสเครดิตในช่วง ปี 2565 ถือว่าเป็นมรสุมชีวิตที่หนักหนาสาหัส ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าจริง ๆ แล้ว วิธีการบริหารธุรกิจมีอะไรมากกว่าที่เราควรจะเข้าใจ และก็ศึกษาได้ หรือการที่ต้องทำธุรกิจท่ามกลางคนที่ไม่เข้าใจ หรือไม่รู้จักเรา มันก็เป็นสิ่งที่ยาก แต่สุดท้ายแก่นของมัน หรือว่าหัวใจของมัน เรายังคงทำดีต่อไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพราะเรารู้สึกว่าสิ่งที่เราทำ มันเป็นการส่งมอบโอกาสดี ๆ จริง ๆ เราเชื่อมั่นว่าเราทำดี และเราไม่หยุด

แม้กระทั่งต้องประกอบธุรกิจท่ามกลางวิกฤต ท่ามกลางปัญหาหรือการกล่าวหาใด ๆ เราก็พร้อมจะฝ่าฟัน เพราะเรารู้สึกว่ายังมีโอกาสดี ๆ ที่รอให้เราส่งมอบเรื่องดี ๆ ในทุก ๆ วัน มันเป็น Passion ที่แข็งแกร่งมาก เมื่อเรามั่นใจว่าเราทำดี ไม่ว่าจะสิ่งใด มันไม่สามารถทำให้เรายอมแพ้ไปได้

มีประโยคหนึ่งที่ผมใช้เป็นแรงบันดาลใจ “จงทำดีต่อไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น” ของอาจารย์บันฑิต อึ้งรังสี ผมว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องจริง เพราะถ้าเราตั้งใจและเรามีความเชื่อมั่นว่าเราทำดีแล้ว ทำให้เราพัฒนาเรียนรู้จากปัญหาต่าง ๆ ทำให้เรามีวันนี้ได้ นั่นก็คือการต่อสู้ และบทเรียนมากมายที่เราเจอมา

“จริง ๆ ต้องขอบคุณทุกปัญหา ทุกอุปสรรค ทุกเหตุการณ์ เพราะว่าสิ่งเหล่านั้นทำให้เราได้เรียนรู้ และทำให้เราเติบโตมามีวันนี้ ทำให้เราอยากจะส่งมอบโอกาสดี ๆ หรือผลักดันธุรกิจให้เติบโตและดีขึ้นไป”

ความสำเร็จระหว่างทางหล่อหลอมเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่

นิยามความสำเร็จสำหรับผม ๆ มองว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างทาง คือวันนี้เราอาจจะสำเร็จเรื่องหนึ่ง แต่มันก็ยังมีเรื่องบางเรื่องที่เราต้องเรียนรู้เพื่อที่จะสำเร็จมันต่อ แต่คนส่วนใหญ่มักจะมองเรื่องของความสำเร็จ เป็นเรื่องของปลายทาง พอเรามองปลายทาง เราจะเหนื่อย แต่จริง ๆ เรามีเรื่องให้ทำและสำเร็จในทุก ๆ วัน ในแต่ละวันเราสามารถสำเร็จในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ มันก็คือความสำเร็จ

วันนี้การที่เราทำสิ่งที่สำเร็จแล้ว มันก็คือความสำเร็จอยู่ดี พอเรามีความรู้สึกว่าเราสำเร็จในระหว่างทางไปเรื่อย ๆ มันก็จะมีความสำเร็จที่สะสมและหล่อหลอม สุดท้ายปลายทางอาจจะกลายเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่

“ถามว่าวันนี้เราสำเร็จแล้วหรือยัง ? เราอาจจะสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่เราเชื่อว่าเราสำเร็จได้มากกว่านี้ และเติบโตได้อีกเรื่อย ๆ จริง ๆ แล้ว ความสำเร็จมันอยู่ระหว่างทางและไม่มีที่สิ้นสุด สามารถสำเร็จได้ต่อไปอีก”

ก้าวต่อไป พชรกฤษฏิ์ พร็อพเพอร์ตี้

ปัจจุบันหนี้สินครัวเรือนยังคงเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บางคนก็ไม่มีความรู้ในการบริหารจัดการการเงินที่เพียงพอ สุดท้ายต้องไปแก้ไขเรื่องหนี้สินด้วยหนี้นอกระบบ เป็นปัญหาเรื้อรังและยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ดังนั้นเป้าหมายของเรายังคงมุ่งเน้นเข้าถึงผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจ, ผู้ประกอบการรายย่อยจนถึงขนาดกลาง (SMEs-SMBs) และกลุ่มนักลงทุนซึ่งรวมถึงบุคคลธรรมดาทั่วไป ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนที่จะช่วยต่อยอดธุรกิจ หรือกิจการของตนเอง ให้มีสภาพคล่องทางการเงิน หรือพลิกฟื้นกลับขึ้นมาได้

“อยากให้มองว่าเราคือ อีกหนึ่งทางเลือกและเป็นทางออกของปัญหาที่กำลังมองหาเงินทุนหมุนเวียนที่ถูกต้องตามกฎหมาย และพร้อมที่จะสนับสนุนทุกภาคส่วนให้กลับมาฟื้นฟูกิจการและเติบโตไปได้ เพราะทุกอุตสาหกรรมล้วนผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ”

หลักเกณฑ์ในการให้สินเชื่อและอัตราดอกเบี้ย

ผมว่าเรื่องดอกเบี้ยเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ และมีส่วนช่วยได้อย่างมหาศาล ถ้าดอกเบี้ยแพงก็จะทำให้การขับเคลื่อนการบริหารหนี้สินค่อนข้างยาก เราเล็งเห็นเรื่องนี้มาตลอด ตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิดที่ผ่านมา ทางเราก็คิดผลิตภัณฑ์ ที่เน้นช่วยกลุ่มผู้ประกอบการ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เริ่มต้นที่ร้อยละ 6-8 ต่อปี เพื่อช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องเสียดอกเบี้ยมากจนเกินไป สนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจให้ฟื้นคืนกลับมาแข็งแรงขึ้นได้ และออกแบบการผ่อนชำระให้มีความยืดหยุ่น ลูกค้าสามารถออกแบบในการผ่อนชำระได้ด้วยตนเอง โดยไม่มีค่าติดตามทวงถาม ไม่มีค่าปรับ และไม่เร่งให้จ่ายเงินคืน

“คนส่วนใหญ่เมื่อได้สินเชื่อไปแล้ว จะต้องมีกำหนดส่งขั้นต่ำเท่านี้ ดอกเบี้ยเท่านี้ นั่นเป็นปัญหาที่บางเดือนเขาจ่ายไม่ไหว เราจะเห็นว่าเขาจะต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาเพื่อมาจ่าย สุดท้ายกลายเป็นปัญหาหนี้สินที่เพิ่มขึ้นและไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น แต่วันนี้เราพยายามคิด วิธีการผ่อนชำระ วิธีการจ่ายดอกเบี้ยที่ยืดหยุ่นและออกแบบได้ เพื่อให้ลูกค้าบริหารจัดการและสร้างกำไรให้ได้ก่อนและค่อยมาจ่ายคืนเรา”

สำหรับหลักเกณฑ์ในการพิจารณาสินเชื่อ เพียงนำสินทรัพย์มาประเมินหามูลค่าของวงเงินสินเชื่อ ก็จะสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ตามมูลค่าสินทรัพย์ที่ผ่านการประเมินตามหลักเกณฑ์จาก พชรกฤษฏิ์ พร็อพเพอร์ตี้ โดยไม่เช็คข้อมูลเครดิต หรือ เครดิตบูโร รวมถึงลูกค้า NPL หรือมีหนี้เสีย ลูกค้าที่ติดบริหารสินทรัพย์หรือติดบังคับคดี เราพร้อมให้บริการทั้งหมด เพียงแค่ถือโฉนด หรือหลักทรัพย์เข้ามาก็สามารถรับเงินกลับไปได้

บริษัทมีความเสี่ยงหรือไม่? ลูกค้าจะเชื่อมั่นได้อย่างไร?

เราเป็นสินเชื่อแบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ความเสี่ยงขึ้นอยู่กับว่าเรารับหลักทรัพย์นั้นมา นั่นหมายความว่าตัวหลักทรัพย์ที่รับมามีมูลค่าในตัวอยู่แล้วด้วยมูลค่าเหล่านี้ เราอาจจะไม่มีความเสี่ยงมากนัก และลูกค้าจะต้องสบายใจว่าสินเชื่อของเราปลอดภัย เพราะการทำสัญญาของเราไม่ได้เป็นการทำสัญญานอก แต่เราทำสัญญาผ่านสำนักงานที่ดินซึ่งเป็นตัวกลางในการทำสัญญา ทำให้ลูกค้าสบายใจได้ว่าเราปลอดภัยและเราก็สบายใจที่จะส่งมอบโอกาสให้กันและกัน หากลูกค้าส่งไม่ไหว เราจะมีการขยายระยะสัญญาในการกู้ให้ ซึ่งจะพิจารณาเป็นรายๆไป

ใช้เงินอย่างคุ้มค่า-เรียนรู้การบริหารจัดการการเงินให้ดี

บางคนกู้เงินไปแล้ว เอาไปซื้อของไม่จำเป็น ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ผมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะจริง ๆ แล้ว เงินกู้มีเรื่องของดอกเบี้ย และพอบริหารจัดการไม่ดี หนี้สินจะกลายเป็นปัญหาหลักระดับต้น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต แต่ถ้าเราสามารถบริหารจัดการมันได้ดี ผมว่ามันก็จะเป็นทางออกให้กับเราได้ เพราะอย่าลืมว่าสินเชื่อมักจะเป็นเรื่องที่จะสร้างสิ่งที่เราอยากจะทำได้ บางคนมีความฝัน ถ้าเราไม่ได้สินเชื่อเราก็ไม่สามารถทำความฝันได้ แต่พอได้สินเชื่อมาแล้ว เราจะต้องบริหารจัดการให้ดีและถูกต้อง

ใครที่กำลังประสบปัญหาด้านการเงินอยู่ ไม่ว่าจะเป็นด้านเงินทุนหมุนเวียนธุรกิจ หรือคนที่มีหนี้สินหลายทางและอยากจะรวมหนี้ หรือบางคนประสบปัญหาหนี้สินนอกระบบ ไม่ว่าปัญหาใดก็ตามที่เกี่ยวกับด้านหนี้สินและการเงิน อยากให้ลองมาปรึกษาเราให้บริการปรึกษาฟรี สุดท้ายเราจะเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ Call Center 02-0962962