“ลูกเฮียตุ้ง” ยันพ่อเสพยา ไม่ใช่จิตเวช
ตกใจ “รองหรั่ง” บุกชาร์ตเลยยิงสวน ร่ำไห้สังคมตราหน้า ตร.โวยเสื้อเกราะไม้อัด ไม่มีจริง!
กรณี “เฮียตุ้ง” อายุ 49 ปี ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับคนในครอบครัว บริเวณหมู่บ้าน ซอย 2 แขวงและเขตบางบอน จับลูกเป็นตัวประกัน ก่อนที่ต่อมาจะยิงปืนใส่ “พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์” หรือ “รองหรั่ง” รองผู้กำกับป้องกันและปราบปราม สน.ท่าข้าม ที่เข้าระงับเหตุบาดเจ็บสาหัสก่อนเสียชีวิต ก่อนปลิดชีวิตตัวเอง สร้างรู้สึกช็อกแก่คนในพื้นที่เป็นอย่างมาก
รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 22 ก.ค. 67 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 สัมภาษณ์เปิ้ล – เหมียว (นามสมมติ) , ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ รองโฆษกกระทรวงสาธารณสุข และ โฆษกกรมสุขภาพจิต มาพร้อม พ.ต.ท.วชิระ อัมฤทธิ์ รองผู้กำกับการสนับสนุนกองบังคับการปราบปราม , คุณสุรนิตย์ สกิจขวา หรือ ตี๋ ผู้ผลิตอุปกรณ์ยุทธวิธีทางทหารและตร.Bogie 1, รองแต้ม พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
คุณเปิ้ลเป็นเพื่อนบ้าน?
เปิ้ล : ไม่เชิงเพื่อนบ้านนะคะ วันนั้นเข้าไปอยู่ในนั้นเพราะเสาร์-อาทิตย์จะเข้าไปทำอาหารกินในบ้านเพื่อนที่อยู่ข้างๆ ตลอด อยู่ติดกันเลยค่ะ
วันนั้นเหตุการณ์เป็นยังไง?
เปิ้ล : เข้าไปก็นั่งทานข้าวกันอยู่ในครัว น้องที่เป็นลูกสาวเพื่อนบอกมีตร.มา แล้วได้ยินเสียงลูกสาวผู้เสียชีวิตเคาะประตูเสียงดัง เลยวิ่งออกมาดูกัน แต่ไม่ได้เปิดประตูออกไป สักทุ่มกว่าๆ คืนวันเสาร์ค่ะ เขาเคาะประตูเรียกพ่อเขา มีเสียงโต้ตอบกัน มีรองเข้าไปคุย แล้วก็เงียบไป
เป็นเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุ แต่ตร.มาแล้ว รองหรั่งมาแล้ว ก่อนหน้านั้นรู้มั้ยเกิดอะไรขึ้นในบ้านหลังนั้น?
เปิ้ล : ก่อนหน้านั้นมีเสียงทะเลาะกันค่ะ มีเรื่องกับลูก ไม่ได้ยินเสียง แต่มีตร.อยู่ข้างบ้านฝั่งทางโน้น เขาจะคุยกับผู้เสียชีวิตอยู่ฝั่งโน้น เราก็ไม่ได้สนใจอะไร เราทานข้าวกันปกติ ได้ยินเสียงลูกเขาเคาะประตูเรียกให้พ่อมาเปิดประตูถึงออกมาดูกันเพราะมันเสียงดัง เหตุการณ์ผ่านไปได้แป๊บนึง เห็นตร.แอบอยู่ฝั่งรถที่จอดไว้หน้าบ้าน เขาแอบอยู่ตรงนั้น 4 คน ได้ยินเสียงภรรยาเขาเรียกให้ลงมาเปิดประตู สักพักเฮียตุ้งก็มาเปิดประตูค่ะ
เฮียตุ้งเหมือนจับลูกเป็นตัวประกันเอาไว้ในบ้าน แล้วให้มีการไปเรียกภรรยามา ตอนแรกไม่มา จนไม่ไหวจริงๆ ภรรยามาแต่อยู่นอกบ้าน?
เปิ้ล : พอเฮียตุ้งเปิดประตู ทางรองก็วิ่งสวนเข้าไป ได้ยินเสียงปืนออกมาทีแรก 3-4 นัด พอเห็นคนล้มลม ทางเราก็วิ่งเหมือนกัน วิ่งเข้าในบ้านเพราะกลัว เราก็ส่องดูอยู่ในบ้าน เพราะมันเห็น บ้านอยู่ติดกันเลย พอล้มเราวิ่งเลย ได้ยินเสียงปืนก็รัวเลย
คุณเหมียวล่ะ?
เหมียว : เป็นเพื่อนบ้านใกล้ๆ กันค่ะ ห้องนอนของเขาจะอยู่ตรงข้ามบ้านเรา เปิดหน้าต่างไปก็เห็นประจำ ห้องที่เขาออกข่าว มีคลิปตบตีลูก
เขามีลูกกี่คน?
เหมียว : 5 คนค่ะ พี่เห็นเหตุการณ์ ได้ยินเสียง แต่ไม่ทราบลูกอยู่ในบ้านกันกี่คน ก็เห็นเหมือนเขาจับลูกเป็นตัวประกันไว้ พฤติกรรมเขาเราได้ยินบ่อย ปกติลูกเมียเขาไม่ได้อยู่บ้าน เขาจะยิงปืนในห้องค่ะ เขาชอบยิงปืนในห้อง เขาอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว กลางคืนดึกๆ ตีหนึ่ง ตีสอง ตีสามก็มี พฤติกรรมเขายิงปืน ยิงปั้งทีนึงก่อนแล้วจะรัวติดกัน ปั้งๆๆ ได้ยินบ่อยมาก บางทีเรานอนสะดุ้งตื่น เรานอนไม่หลับ กลัวว่าสักวันนึงกระสุนจะลอยมาบ้านเรามั้ย เพราะเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก
ตร.มามั้ย?
เหมียว : ไม่มีใครกล้าแจ้งค่ะ ตร.ไม่ทราบมาก่อน แต่ชาวบ้านแถวนั้นรู้กันหมดแต่ไม่มีใครกล้าแจ้ง เพราะรู้ว่าคนๆ นี้ลักษณะอารมณ์ร้าย มีปืน ทุกคนก็เลยกลัวกัน
กลัวว่าถ้าแจ้งตร. แล้วเขารู้ว่าเป็นคนแจ้ง เขาจะมาเล่นงานเรา?
เหมียว : ใช่ค่ะ ไม่มีใครกล้าแจ้ง แต่พฤติกรรมเขาจะยิงปืนตลอด บางทีก็ไปยิงบนดาดฟ้า จากนั้นอารมณ์เขาบางทีอาจขาดความอบอุ่น ลูกเมียไม่ได้อยู่ด้วย อาจจะเครียด ก็เลยต้องทำแบบนี้
เขายิงมานานแค่ไหน?
เหมียว : บ่อยมากค่ะ เป็นปี แต่ไม่ได้ติดต่อกัน บางทีเดือนนึง 2-3 ครั้ง แล้วแต่อารมณ์เขา เขายิงแต่ในบ้านเขาเอง กลางคืนได้ยินทุกครั้ง จังหวะยิงปืน เขาจะยิงแบบที่เขายิงเลย ปั้งๆๆๆ ยิงออกนัดแรกแล้วเว้นนิดนึง แล้วรัว 4-5 นัดติดกัน แล้วหยุดไป
ลูก ๆ กับภรรยาทำไมออกไปอยู่ข้างนอก?
เหมียว : ทราบจากเพื่อนบ้านด้วยกัน เขาบอกว่าอารมณ์เป็นแบบนี้ เขาตีเมียเขาบ่อย ลูกเขาได้รับผลกระทบจากพ่อทำร้าย เหตุคือเขาไปตีเมียเขาก่อน ลูกจะไปปกป้องแม่ เลยโดนลูกหลงจากพ่อ เขาเสียงดัง บางทีอารมณ์ไม่ดี เขาก็เปิดหน้าต่างโผล่หน้าออกมาด่าคนทั้งซอย แต่ไม่ได้เจาะจงด่าใคร ด่าลอยๆ เหมือนอารมณ์เขารุนแรงมาก
ลูก ๆ กับเมียเขาอยู่ไม่ได้ เพราะเขาอารมณ์รุนแรงแบบนี้?
เหมียว : แต่ลูกๆ เขาน่ารักทุกคน นิสัยดีมากค่ะ ส่วนมากเมียเขาจะโดนทำร้ายตอนกลางคืน เที่ยงคืนไปเขาจะทะเลาะกัน เรานอนอยู่ก็ได้ยินตลอด
ตอนออกไป ฝั่งพี่เหมียวมีโอกาสพูดคุยกับคนในบ้านมั้ยว่าออกไปทำไม เฮียตุ้งมีปัญหาทางไหน?
เหมียว : ไม่ทราบเลยค่ะ เพราะเมียเขาออกไปไม่มีใครรู้ เขาไปไม่ได้บอกใคร ส่วนมากคนในนั้นไม่ค่อยได้คุยกับครอบครัวเขา เพราะบ้านเขาปิดประตูตลอด คนแถวนั้นกลัวมากกว่า ไม่อยากยุ่ง
วันเกิดเหตุ พี่เห็นอะไรบ้าง?
เหมียว : พี่เห็นเขาขังลูกเขาไว้เป็นตัวประกัน ได้ยินเขาด่าลูกรุนแรง ได้ยินแค่เสียงเด็กร้องกรี๊ดพร้อมกันหลายๆ คน มองไปก็เห็นบ้างเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ
ตร.มา?
เหมียว : ท่านรองยังเดินอยู่ตรงหน้าต่างไปคุยกับเขาอยู่ ตอนแรกไม่มีเหตุ ท่านรองยังไม่ได้เสียชีวิต ไปคุยตรงหน้าต่างก่อน เรามองลงไปก็เห็น
จากนั้นเกิดอะไรขึ้น ทำไมท่านรองถูกยิง?
เหมียว : ตอนนี้พี่ไม่รู้ เพราะพี่อยู่ในบ้านแล้ว และท่านรองเดินไปหน้าบ้านเขาแล้วค่ะ ท่านรองโดนยิงที่หน้าบ้าน พี่ไม่เห็นตรงนั้น
ตอนตร.มา มีการยิงปืนหรือยัง?
เปิ้ล : มีช่วงนึง
“เอ” พยานอยู่ในเหตุการณ์ บอกว่ามีการยิงออกมาก่อน 3 นัด ตร.ถึงมา?
เอ : ลูกคนโตมาก่อน ตร.มาทีหลัง 2 นาย ท่านรองยังไม่มา แล้วมีการประสานท่านรอง ท่านรองถึงมา
ท่านรองซุ่มอยู่อีกมุมนึง จนท่านรองพุ่งตัวเข้าไป?
เปิ้ล : ท่านรองพุ่งไปเพราะเฮียตุ้งเปิดประตู เพราะเมียเรียกให้เปิดเพื่อช่วยเด็ก 2 คนออกมา พอเฮียตุ้งเปิดปุ๊บ ท่านรองก็วิ่งเข้าไปคนแรก ได้ยินเสียงปืนก่อน 3-4 นัด และได้ยินเสียงปืนดังต่อเนื่องอีก
ห้องนอนคุณเอ หัวนอนชนกับเฮียตุ้งเลยนะ วันนั้นได้ยินอะไรมั้ย?
เอ : ได้ยินค่ะ ก่อนหน้าประมาณ 6 โมงครึ่งได้ยินเสียงดังปั้งๆ ประมาณ 3 นัดได้ หนูก็ดูกล้องวงจรปิดที่บ้าน สักพักเห็นเหมือนลูกสาวเขามาเรียกที่หน้าบ้าน เหมือนตะโกนให้เปิดประตู แต่เขาไม่ได้เปิด มีการแจ้งตร.อยู่แล้ว มีตร.มา 2 นาย พยายามเรียกเขาก็ไม่เปิด หนูเลยแอบลงไปดูหน้าบ้าน เห็นลูกสาวกับตร. 2 นายไปข้างบ้าน หน้าต่างที่เขาเปิดอยู่ข้างบ้าน จากนั้นก็เป็นเสียงตะโกนด่าออกมา
พี่แต้ม ในฐานะเป็นตร.ที่โชกโชนเรื่องเข้าไปเจรจา กรณีแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมั้ยในยุคพี่แต้ม?
รองแต้ม : ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวนี้ และขอชมเชยตร. ใช้ความกล้าหาญในการทำงาน แม้จะเสียชีวิตก็ตาม สมัยก่อนผมเป็นหัวหน้าเจรจาเรื่องการจับช่วยคลี่คลายสถานการณ์หลายเรื่องแม้จะเอาตัวประกัน ปืนจี้ มีดจี้ เราไม่ได้ว่าน้องเขาอาจจะประมาท แต่อยากให้ถอดบทเรียน เวลาตร.ได้รับแจ้งเหตุต่างๆ ตร.ต้องไปที่เกิดเหตุ ระหว่างไปที่เกิดเหตุตร.ต้องหาข้อมูลให้มากที่สุดว่าเกิดเหตุในนั้น มีตัวประกันมั้ย มีอาวุธปืนหรือไม่ คนก่อเหตุกลายเป็นก่อการร้ายหรือไม่ ต้องหาข้อมูลไป เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เราจะได้ประเมินสถานการณ์ ว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นอย่างไร อย่างรับแจ้งมีปืน สิ่งแรกต้องมีชุดป้องกัน เสื้อเกราะ มีวิธีการแจ้งผู้บังคับบัญชา เวลามีเหตุการณ์ใหญ่ ผู้บังคับบัญชาต้องบัญชาเหตุการณ์ ต้องสามารถสั่งการขอกำลังปราบจราจล หนุมาน หรืออะไรก็แล้วแต่ เพื่อมาดูแลสถานการณ์ และต้องประเมินว่าอาวุธที่เขาใช้เป็นอะไรบ้าง ดูยังไง ก็จากคนข้างบ้าน ในภาพมีลูกก็ถามลูกเขามา มีปืนกี่กระบอก ปืนอะไรบ้าง ต้องเก็บข้อมูล ภาพที่เห็นเห็นเลยว่าน้องเขาใจอยากไปช่วยคนที่บาดเจ็บ แต่วิธีการอาจไม่รัดกุม อย่างเช่นตอนไปเจรจา ไปอยู่ติดกับกำแพง เขายิงปืนมาได้เลย จริงๆ ต้องถอยออกมา ต้องใช้โมโครไฟน ใช้เครื่องขยายเสียงในการเจรจา และต้องรู้เหตุว่าเหตุคืออะไร พอรู้เหตุว่าพ่อแม่ ผัวเมียทะเลาะกัน ต้องหาวิธีการเจรจาในหัวข้อตรงนั้น ต้องเจรจา เอาตัวเราไปอยู่ข้างผู้ก่อเหตุให้ได้ ให้เขาไว้ใจให้ได้ นี่หลักการ ต้องทำแบบนี้ วิธีเจรจาและไประงับเหตุ ที่สำคัญที่สุดผู้บังคับบัญชาต้องมาสั่งการ บริหาร เอาล่ะ วันนั้นรองก็ถือว่าเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ เพราะยศใหญ่ที่สุด แต่การตัดสินใจ อย่างเปิดประตูคุณพรวดไป คุณก็รู้ว่ามีปืน ปืนสามารถยิงตลอดเวลา ปืนมีดวางไว้ไม่สามารถทำให้คนตายได้ แต่ปืนกับมีดอยู่ในมือคนสามารถทำให้คนตายได้ อันนี้เองเราถือว่าอาจเป็นการถอดบทเรียนให้ฟัง ที่สำคัญที่สุดอย่าไว้ใจผู้ต้องหา อย่าไว้ใจคนร้าย โดยเฉพาะคนเป็นโรคจิตเวช
มองว่าเขาจิตเวชหรือขาดยา?
รองแต้ม : เท่าที่สืบมา อดีตเคยติดยา ไปเช็กดูแล้วกัน ต่อมาพัฒนาเป็นจิตเวช
อาการใช้อาวุธปืนยิงมาก่อนหน้าเป็นปี แต่ชาวบ้านไม่ได้แจ้งตร.เพราะเขากลัว เป็นสาเหตุด้วยมั้ยทำให้ตร.ไม่ได้รู้ประวัติชายคนนี้?
รองแต้ม : ถูกต้อง อย่างที่น้องพูด สองมุมนะ อาจไม่มีใครแจ้ง หรืออาจแจ้งบ่อย รองคนนี้ไปเจรจาบ่อย อาจมีการพูดคุยกันรู้เรื่อง ก็เลยไม่ได้ใส่เสื้อเกราะ แบบนี้ก็ได้
คุณเอ เคยแจ้งตร.มั้ยที่เขายิงปืนบ่อย ๆ ?
เอ : มีค่ะ แต่ส่วนใหญ่เป็นสายตรวจขับมอเตอร์ไซค์มาสองนาย บางครั้งเขาทะเลาะกันเสร็จ เขาชอบขับรถไปข้างนอกค่ะพอมาก็สวนกัน ตร.ก็ไม่เจอ เคาะบ้านเขาก็ไปแล้ว ตร.ก็เลยกลับค่ะ
ตร.มาค้นที่บ้านมีมั้ย?
เอ : ไม่เคยเข้าไปในบ้านค่ะ อยู่แค่หน้าบ้าน และไม่ได้เจอกันโดยตรงด้วย เวลาเขาทะเลาะกันเสร็จ ผู้ก่อเหตุจะขับรถออกไปเลย ช่วงนั้นสายตรวจสวนทางมาพอดี ไม่เจอกันเลย
รองแต้ม : ถ้ามีการแจ้ง ตร.ต้องมีมาตรการ เช่น ปิดล้อมตรวจค้น ปราม ป้องปรามได้ แต่หากไม่มีการแจ้งความ ตร.ก็ไม่รู้พฤติกรรม ถ้าแจ้งเขาอาจเอากำลังไปตรวจค้นป้องปรามได้
เขาเคยประกาศว่าเขาไม่กลัวตร. เพราะเขาเป็นจิตเวช?
รองแต้ม : คนเราก็พูดไปแบบนั้น เวลาเจอตร. เวลาจัดการก็ต้องกลัว ถ้าเป็นจิตเวช หรือป่วย นายทะเบียนสามารถเรียกใบครอบครองปืนกลับมาได้นะ แล้วสามารถยึดปืนเขาได้ เพราะคุณป่วยจิตเวช มีอาวุธร้ายแรง จะเป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชน
กรณีนี้ เขาอ้างเป็นจิตเวช เหมือนเคสที่ผ่านๆ มาที่เคยพูดคุยกันมั้ย?
นพ.วรตม์ : เคสนี้บอกได้ยากเหมือนกัน แต่ประวัติที่เรารู้แน่ๆ มีการทำร้ายร่างกายสักระยะนึงแล้ว มีการใช้ความรุนแรง รวมถึงการใช้อาวุธปืนอยู่เนืองๆ ตรงนี้ก็เป็นสัญญาณว่าเขาอาจไม่ใช่ผู้ป่วยจิตเวชทั่วๆ ไป อาจเป็นผู้ป่วยจิตเวชที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือเปล่า เพราะมีพฤติกรรมค่อนข้างรุนแรงมาก และความรุนแรงก็ค่อยๆ ขยับตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าบอกว่ามีการ์ดผู้ป่วยจิตเวช ตร.ทำอะไรไม่ได้หรือเปล่า จริงๆ ตร.ทำได้แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าเป็นผู้ป่วย พกอาวุธ มีประวัติเรื่องการใช้อาวุธรุนแรงอยู่ในชุมชน การยึดใบอนุญาตก็เป็นการช่วยป้องปราม รวมถึงมีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 65 66 อยู่แล้ว ว่าผู้ป่วยศาลอาจไม่ได้ลงโทษว่ามีความผิด แต่ต้องพิสูจน์ไห้ได้ก่อนว่ารุนแรงหรือทำร้ายร่างกายคนอื่นเกิดจากโรคจิตเวชอย่างเดียว ไม่รับรู้อะไรเลย ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดมากๆ ไม่ใช่มีประวัติการรักษาจิตเวช แล้วสามารถเอาปืนไปไล่ยิงใครก็ได้ อันนี้ไม่ได้ครับ อันนี้ผิดแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์
มีข่าวเยอะพอสมควร ว่าท่านรองตอนแรกใส่เสื้อเกราะ แต่ไปถอด?
เปิ้ล : ใส่ค่ะ
ตอนไปแอบอยู่ข้างรถ ท่านรองไม่ได้ใส่แล้ว ห้วงเวลาต่างกัน ตอนมาใหม่ๆ ท่านใส่?
เอ : ในกล้องเวลาไม่ตรงกันค่ะ ประมาณ 50 นาที
ท่านน่าจะถอดออก เฮียตุ้งให้ลูกสาวตามภรรยามา เหตุเกิดช่วงกลางวันด้วยซ้ำ ภรรยาไม่มา จนสุดท้ายยอมมา มาเสร็จก็เรียกให้เปิดประตู เฮียตุ้งลงมาเปิดประตู ท่านรองหลบอยู่เพื่อชาร์ต พอเฮียตุ้งเปิดประตู ท่านรองก็พุ่งไปชาร์ตล็อกตัว ปรากฏว่าเขายิงสวนออกมา สุดท้ายโดนท่านรอง
เสื้อที่ตร.ใส่กันทุกคน?
วชิระ : อันนี้สำนักงานตร.แห่งชาติแจกจ่ายครับ
กรณีแบบนี้ พี่แต้มห่วงอะไรมั้ย?
รองแต้ม : ห่วงตร. ผมไปดูงานต่างประเทศ ตร.ต่างประเทศเขาจะรักษาชีวิตเจ้าหน้าที่มากที่สุด ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ปลอดภัย คนที่เราจะไปช่วยเหลือก็ไม่ปลอดภัย ดังนั้นเขาต้องดูแลเจ้าหน้าที่ สิ่งที่ดูแลเจ้าหน้าที่มากที่สุดเมื่อไปจับ หนึ่งคือเรื่องอุปกรณ์ป้องกันตัว จะไปกู้ระเบิดก็ต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือ แล้วต้องไปพิจารณาว่าเหตุการณ์ที่เกิดเป็นอะไร ถ้าเป็นครอบครัวก็อาจเจรจาได้ง่าย ถ้าเป็นคนร้ายที่ปล้นทอง ไปจี้ การเจรจาก็อีกแบบนึง ถ้าเป็นการก่อการร้ายก็อีกแบบนึง เรื่องนี้ต้องศึกษาและมีวิธีการพอสมควร เราก็เป็นห่วงว่าต่อไปผู้หลักผู้ใหญ่ต้องฝึกอบรมให้ความรู้มากที่สุด ผมเคยเจอประสบการณ์งี้ ต้องตัดสินใจเอง มีคนเอาปืนจี้ผู้หญิงเป็นแฟน ขึ้นไปบนรถเมล์ พอคนขับรถเมล์รู้ก็เอารถไปจอดหน้าโรงพักแล้ววิ่งหนี คนแตกตื่นออกมากันหมด เหลือคนร้ายกับผู้หญิง ผมตอนนั้นไม่มีเสื้อเกราะ ตอนหลังน้องๆ บอกว่าได้เสื้อเกราะมาแล้วแต่เราก็ อย่าให้คนร้ายรู้ว่ามีเสื้อเกราะ เพราะไม่งั้นคนร้ายจะจัดการเหยื่อเพราะรู้ว่าผมจะไปจัดการ ผมเจรจาพักนึง ปรากฏว่าเสียงเครื่องดังมาก ก็บอกน้องว่าขออนุญาตขึ้นไปปิดได้มั้ย ผมก็ขึ้นไปบนรถเมล์ ไม่มีเสื้อเกราะ ปืนก็ไม่เอาไป เพราะต้องแสดงตัวให้เห็นว่าเราไม่ไปจัดการเขา ก็ปิดไม่ได้ ขออนุญาตมือปืนอีก น้องขอเข้าเกียร์ได้มั้ย เพื่อให้กระตุก มันดับ ไอ้นั่นบอกว่าได้ครับ ผมก็กระตุกดับ ก็เจรจาจนคืนปืนให้ผม เขาหึงหวงกัน ผมก็เอาหัวใจของผมไปอยู่ข้างเขา เขาก็ไว้ใจผม เขาก็ส่งปืนให้ผม
แต่กรณีแบบนี้ต้องใส่มั้ยเสื้อเกราะ?
รองแต้ม : ต้องใส่ ถ้ามีปืน มีด อย่าไว้ใจผู้ต้องหา แต่วันนั้นที่ไม่ใส่เพราะลูกน้องเปลี่ยนรถ มันก็ไม่มี ตอนนั้นเป็นเรื่องจิตวิทยาแล้ว ถ้าผมเอาเสื้อเกราะตอนนั้นคนร้ายจะต้องรู้ว่าผมจะจัดการเขา เขาก็ต้องจัดการเหยื่อทันที หรือยิงผมทันที
ท่านรองหรั่งอาจคิดแบบนี้ก็ได้?
รองแต้ม : ก็เป็นไปได้ ถึงบอกว่ารองหรั่งพยายามไปเจรจา อาจไปเจรจาบ่อยหรือตรวจจนรู้แล้ว ก็แสดงความบริสุทธิ์ว่าผมไม่มีอะไรนะ
เคยเห็นเสื้อเกราะมีไม้อัดมั้ย?
รองแต้ม : ไม่มีหรอก บ้า เฟกนิวส์ ดูรูปก็รู้เอามาตัดแปะ ตราที่พิมพ์ๆ ก็ไม่ใช่แล้ว เสื้อเกราะมีสองอย่าง แผ่นเหล็ก สองใยแก้ว สองอย่างนี้เท่านั้น เสื้อเกราะมีหลายชนิด กันเอ็ม16 ก็ได้ หรืออาวุธปืนสั้น ไม่มีไม้หรอก
คนจะบอกว่าไม่ยอมรับหรือเปล่า?
รองแต้ม : ไม่มี บ้า ใครจะเอาแบบนี้มาใช้ ถ้าผู้บังคับบัญชาเอามาให้ลูกน้องใส่แบบนี้ แสดงว่าผู้บังคับบัญชาคนนั้นชั่ว มึงจะให้ลูกน้องตายหรือไง ไม่มีหรอก ถ้าเอามาให้ก็ชั่วเลยสิ ไม่รักลูกน้องหรือไง บ้าแล้ว ไม่มี
เสื้อเกราะในรายการเหมือนกับอันที่มีไม้อัดมั้ย?
วชิระ : ไม่เหมือนครับ
คุณตี๋ทำเสื้อเกราะส่งสำนักงานตร.?
ตี๋ : หน่วยงานแล้วแต่ครับ ตร.ซื้อส่วนตัวก็มี ส่วนใหญ่ซื้อเสื้อแล้วมีแผ่นของเขาเอง ซื้อจากบริษัทผม บริษัทผมทำอยู่แล้ว
เอาไม้จากไหนมาใส่?
ตี๋ : ไม้ไม่มีอยู่แล้ว (หัวเราะ) 30 ปีไม่เคยมี ประสบการณ์ที่ทำเรื่องนี้ ถ้าทำแบบนี้รวยแล้ว
ยิงไม่เข้าแน่เหรอเสื้อเกราะ?
วชิระ : กระสุนไม่ผ่าน แต่การยุบของกระสุนจะมีครับ เสื้อเกราะจะยุบตัว การยุบตัวของเสื้อเกราะอาจทำให้กระดูกเกิดการหักได้ หรือฟกช้ำ
ถ้าจ่อเข้ามั้ย?
ตี๋ : ถ้า 9 มม.ไม่เข้า 11 มม.ไม่เข้า 357 ไม่เข้า ยกเว้นไรเฟิล ปืนสั้นไม่เข้าแน่นอน กระสุนเจาะเกราะเข้าครับ ลักษณะเสื้อเกราะแผ่นมันอ่อน เลยทำเสื้อเกราะแบบแผ่นแข็งขึ้นมาอีก อย่างเช่นตัวนี้ ซึ่งมันหนัก แผ่นเสื้อเกราะกันกระสุนไรเฟิล แผ่นเลเวล 4 เกราะอ่อนจะเป็นเลเวล 2
ไม่มีเสื้อเกราะแขนยาว?
วชิระ : อนาคตมีครับ
บริษัทพี่เปล่า?
ตี๋ : อันนี้ไม่ เป็นชุดหนุมาน เลเวลสูง ต้องกันปืนไรเฟิลได้ ระยะยิงไกล แต่ส่วนใหญ่ที่เราจำหน่ายกันเป็นปืนสั้นมากกว่าเพราะเจ้าหน้าที่ใช้ในเมือง แต่ถ้าทางใต้หรือภารกิจต้องเลเวลนี้เท่านั้น
ความคล่องตัวจะมีเหรอ?
วชิระ : มันต้องแลกกัน กับระดับการป้องกันที่สูงขึ้น กับความคล่องตัว หมายความว่าอุปกรณ์ที่เราใส่กับยุทธวิธีที่เราใช้ต้องกำหนดแผนให้สอดคล้องกัน เสื้อเกราะที่พี่หนุ่มใส่เหมาะกับตำรวจสายตรวจ เคลื่อนตัวด้วยความเร็ว ที่พี่หนุ่มใส่เลเวล 2 ป้องกันปืนสั้น แต่ถ้าเลเวล 4 จะมีเขียนอยู่ที่แผ่น
ตี๋ : ทุกคนต้องรู้ครับ
ข้าง ๆ ล่ะ?
วชิระ : จะเป็นเกราะอ่อน ถ้าไรเฟิลยิงข้างๆ ก็ตาย แต่ป้องกันมีด กันปืนสั้นได้
ไม่คิดว่าคนร้ายจะยิงที่หัวเหรอ?
ตี๋ : ถ้าใส่เสื้ออย่างน้อยก็เซฟ ดีกว่าไม่ใส่ ไม่ใส่นัดเดียวจบเลย แล้วก็จะมีเสื้อที่บริษัทเราผลิต มีหลายรุ่น รุ่นสำหรับคนตัวไม่ใหญ่ ก็ทำไซซ์เอ็ม ไซซ์แอล ตัวนี้นิยมในสายตรวจและหน่วยปราบปราม เพราะมีความคล่องตัวสูง แผ่นจะรองรับแบบเดียวกัน ได้ทุกรุ่น เกราะอ่อน เกราะแข็งได้หมด อยู่ที่เราใส่แผ่นอะไรเข้าไปข้างใน ถ้าเป็นของตร.จะเป็นรุ่นเก่า ยังไม่หมดอายุ ก็ไม่สามารถจัดซื้อจัดจ้างได้
ไปขิงใส่เขาหรือเปล่า?
ตี๋ : ไม่ใช่ครับ ของหนุมานเขาเป็นรุ่นนี้หมดแล้ว แต่ถ้าเป็นงานตร.ที่ใช้ทั่วประเทศจะเป็นรุ่นเก่า ก็ถือว่ายังใหม่ แต่อายุการใช้งาน 10-20 ปี อันนี้พัฒนามาใหม่ก็จะคล่องตัวสูง ร้านผมขายดีอยู่แล้วถึงไม่พูด นี่พูดในทฤษฎี การป้องกันได้ดี อย่างพี่หนุ่มป้องกันได้ดี เพราะปิดทุกมุม แต่บ้านเราอากาศมันร้อน พอใส่มากๆ เหงื่อออกครับ เสื้อก็เปียก แต่อย่างนี้จะระบายอากาศได้ดี รุ่นใหม่กับเครื่องแบบใหม่จะปลดได้ 4 มุม
อายุการใช้งานควรกี่ปี?
ตี๋ : อยู่ที่สเปก ของราชการบางทีสเปกถ้าทั่วไปที่ขายกัน ไม่เกิน 5 ปี แต่ก็เผื่อไว้อยู่แล้ว ส่วนใหญ่ 5 ปีให้ยิงทดสอบไปเลย ไม่ต้องเสียดาย ข้าราชการเขายึดจากวันเดือนปีที่ผลิต แต่จริงๆ ควรยิงทดลอง บริษัทประมูลของภาครัฐก่อนมาขายให้เจ้าหน้าที่ตร. ต้องผ่านคิวซีทุกอย่าง ต้องผ่านการเทสหลายขั้นตอน การที่บอกว่าป้องกันไม่ได้ไม่มีทาง เราต้องดูว่าอายุ 5 ปี ต้องยิงเลยนะ
5 ปียังใส่อยู่มั้ย?
วชิระ : ยังใส่อยู่ครับ เพราะยังไม่หมดอายุครับ (หัวเราะ)
คนทำขายแนะนำให้ทดลองยิง จะบอกทางไหนได้บ้าง?
วชิระ : อย่าไปลองเลยครับ (หัวเราะ)
ตี๋ : ของราชการส่วนใหญ่ไม่ค่อยกล้าเพราะต้องคืนหลวง ยกเว้นหาซื้อเองจากบริษัทที่ผลิต ถ้าซื้อข้างนอกก็สบายใจตรงที่เขาต้องทดสอบก่อน และมีความมั่นใจ แต่ของราชการถ้าทำหายหรือยิงชำรุดต้องแจ้ง ขั้นตอนเยอะแยะ คนเลือกซื้อส่วนตัวมากกว่า อีกอย่างของหน่วย เขาคิดว่ามีความปลอดภัยสูง พอ 5 ปี สินค้าก็เปลี่ยนให้ทันสมัยขึ้นให้คล่องกับการตอบรับ
คิดว่าควรเปลี่ยนทุก 5 ปีเพื่อความปลอดภัย?
ตี๋ : ต้องดูว่าตร.ใช้แบบไหน
หนุมานใช้แบบ 5 ปี แต่หมด 68 กลัวเสื่อมมั้ย?
วชิระ : ไม่กลัวครับ ก่อนหน้าแจกจ่ายไปหน่วยต่างๆ ทางฝ่ายสรรพาวุธของตร. มีการทดลองผลิตภัณฑ์ผู้มาเสนอขาย พอผ่านเรียบร้อยเขาถึงแจกจ่าย
ตี๋ : มีการเทส มีการกลั่นกรอง หนุมานเขามี 2 แบบ ทำไมใช้ตัวนี้เพราะคล่องตัวสูง แต่ต้องดูหน้างานด้วยนะครับ
หนุมานเคยถูกยิงแล้วยิงเข้ามีมั้ย?
วชิระ : ยังไม่เคยครับ
เคยเอาไปลองยิงมั้ย?
วชิระ : เราไม่เคยเอาของที่เรามีไปใช้ในการทดสอบ แต่มีของที่เทียบเคียงใช้ในการทดสอบ
มีแผ่นเหล็กที่โดนยิง?
ตี๋ : เอามาทดสอบข้างนอก หน่วยงานเอาไปทดสอบเอง ที่ไม่อยากเบิกคลัง
มีบอกขนาดกระสุน 9 มม. 357 เอ็ม 16?
ตี๋ : ถ้ากรณีบางคนเบิกในคลัง บางครั้งเขาไม่อยากไปเบิก เพราะถ้าหายเขารับผิดชอบเองยาก เขาเลือกหาซื้อตามทั่วไปที่มีขายแล้วไปทดสอบเองแล้วเลือกเสื้อที่ทันสมัยเพื่อใส่กับตัวนี้ให้มีความคล่องตัว ถ้าใหญ่เกินไปคนก็อาจไม่ชอบเพราะบ้านเราอากาศร้อน
เสื้อเกราะที่เป็นไม้มีมั้ย?
ตี๋ : ทำส่งของหนุมาน ภาครัฐ ไม่เคยเจอ ผมว่าตัวนี้มีอยู่ทางเดียว คือผมคิดเองนะ เบิกคลังแล้วทำหาย ทำหายแล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ก็เอาตัวนี้ไปยัด มันจะมีความแตกต่าง หยิบเสื้อเกราะเลเวล 4 น้ำหนักต่างจากไม้อัดแน่นอน เราดูอาจไม่รู้ แต่เช็กสต็อก ตรวจนับ คนตรวจนับไม่ใช่คนในสน. ทำไมเบากว่าแผ่นอื่น อาจมีการตัดหรือเปล่า
จะบอกว่าอันนี้ของปลอมเหรอ?
ตี๋ : ของปลอมครับ อย่างนี้ขายได้ผมรวยไปแล้ว
มีการยัดใส่หรือเปล่า?
ตี๋ : ผมว่าไม่ใช่ของแท้ ถ้าประสบการณ์ที่ทำมา
เขาบอกมีคนส่งไปให้เพจ?
ตี๋ : มันกันไม่ได้ มันเบา แผ่นไฟเบอร์ความเบาแผ่นไม้อัดกับตัวนี้ไม่ต่างกัน หยิบของท่านรองมันคล้ายกัน ถ้าดูผิวเผินจะดูไม่ออก ถ้าสกรีนโลโก้นะ
ถ้าใส่ไว้เพื่อเล่นบีบีกันได้มั้ย แผ่นไม้อัด?
ตี๋ : เป็นผม ผมก็ไม่ใส่ มันหนัก แล้วใส่แบบนี้ดีกว่า บีบีกันยิงก็ไม่เจ็บอยู่แล้ว ใส่เพื่อความเท่ครับ
ยืนยันว่าแบบนี้ไม่มีจริง ๆ ?
ตี๋ : จากประสบการณ์ไม่มีนะ ที่ดูการตัดมุมเป็นแผ่นลักษณะนี้ สกรีนลงไป ใส่ผ้าลักษณะคล้ายกัน มีการตัดขึ้นมา ถ้าเป็นของจริง ตัดยาก เอาเลื่อยมาตัดยังไม่ขาดเลย มีความเหนียว ความทน
พี่ยืนยันว่าเสื้อเกราะเป็นไม้อัดไม่มี?
วชิระ : ไม่มี
เสื้อเกราะจะหนักมีน้ำหนักเลย ยิ่งตัวเลเวล 4 โคตรหนัก กี่กิโล?
วชิระ : ประมาณ 10 กิโล
ถ้าเป็นไม้อัดยกมาก็รู้เลยว่าไม่ใช่เสื้อเกราะ ยกเว้นคนไม่เคยสัมผัสเสื้อเกราะจริงๆ อาจเข้าใจว่านั่นคือเสื้อเกราะ แต่ตร.ต้องรู้อยู่แล้วว่าน้ำหนักเสื้อเกราะเป็นแบบไหน?
ตี๋ : อยากให้พี่หนุ่มใส่รุ่นใหม่เทียบกับรุ่นเก่า
แต่มันไม่ยาว?
ตี๋ : มันทันสมัย ที่เขาไว้เหลือเพราะจุดสำคัญคือจุดตาย ยิงตรงอื่นมีโอกาสรอด
ไม้ไม่มี?
ตี๋ : ไม่มีจริง ๆ จำหน่ายมายาวนานพอสมควร ไม่มี ทุกอย่างก็อปปี้ทำได้ แต่ต้องดูลักษณะการยกน้ำหนักต่างกัน ไม้อัดเบามาก ใครก็ไม่กล้าเบิก กลัว มีอยู่สองประเด็น ของพวกนี้ทำหายแล้วไม่รู้จะหาคืนหลวงยังไง มีทางเดียวคือทำขึ้นมาแล้วคืน พอไปตรวจนับ น้ำหนักต่างกัน คนอาจเข้าใจว่าตร.เป็นคนจัดซื้อจัดจ้าง ใครก็ต้องคิด แต่ยืนยันว่าไม่มี
ตอนนี้มีเหตุแบบนี้เกิดขึ้น กรณีที่มีคนร้ายผู้ก่อเหตุมีลักษณะใช้ความรุนแรงแบบนี้ ถ้าเจอเราควรทำยังไง?
นพ.วรตม์ : ความรุนแรงแบบนี้มักมีสัญญาณมาก่อน ผมบอกเลยว่าถ้าเราสามารถระงับเหตุได้ ตร.จะชอบระงับเหตุที่เบามากกว่า ในฐานะประสบการณ์จิตแพทย์ เราอยากรักษาคนตอนอาการน้อยๆ มากกว่าที่เขาโวยวายอาละวาดแล้ว เหมือนกันตร.อยากระงับเหตุตอนเบาๆ มากกว่าเขาเริ่มมีอาวุธปืน แต่อย่างน้อยเขามีอาวุธปืนก็อยากระงับเหตุก่อนเขายิงปืนขึ้นฟ้าแล้ว สุดท้ายตอนเขายิงปืนขึ้นฟ้าเราระงับเหตุได้ก็ดีกว่าเขาเอาไปยิงคนอื่น ฉะนั้นถ้าเราเห็นคนมีอาการ แม้น้อยๆ ก็ตาม สื่อสารกับเจ้าหน้าที่ สื่อสารบ่อยๆ หน่อย เมื่อมีอาการแล้วมาเจอกัน เจ้าหน้าที่เขาจะได้รู้จักครอบครัวนั้นไว้ ตร.เขาไม่ได้มาระงับเหตุอย่างเดียว เขายังมาแนะนำ เช่นครอบครัวต้องพาไปรักษา หยุดยาหรือเปล่า มียาเสพติดมาเกี่ยวข้องด้วย เขาจะได้รู้ว่าการจัดการจัดการยังไง จะได้ไม่ไต่ระดับไปสู่ความรุนแรงที่มีการสูญเสีย
ชาวบ้านที่อยู่ละแวกนั้น มีพฤติกรรมคนชอบยิงปืน ควรแจ้งตร.มั้ย?
นพ.วรตม์ : ทุกคนกลัว แต่ก็ต้องสังวรไว้ว่าวันนึงปืนที่ยิงขึ้นฟ้า อาจมายิงบ้านเราก็ได้ ถ้าเป็นเคสยาเสพติดทั้งหลาย พอกินยาเข้าไป การรับรู้สติสัมปชัญญะเขาไม่รู้หรอกว่าเราเป็นใคร เขาอาจเอามายิงเราก็ได้ ถ้าเห็นเหตุต้องแจ้งเหตุ ตร.มีอำนาจ เขาถือกฎหมายที่เข้าไปช่วยได้ จริงๆ ถ้าไล่ดูพรบ.สุขภาพจิต ถ้าดูมีความรุนแรงเป็นอันตรายต่อชุมชน แม้เขากลับไปในที่นั้น ตร.ก็มีอำนาจเข้าไปขอตรวจสอบว่ามีเก็บอาวุธหรือเปล่า สะสมอาวุธหรือเปล่า ดูกรณีที่ก่อเหตุความรุนแรง หลายคนสะสมอาวุธไว้ในบ้าน มีกระสุนเป็นร้อยนัด มีอาวุธหลายรูปแบบ ถ้าเห็นตอนนั้นก็อาจระงับเหตุได้ไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้
แรกๆ เขาอาจไม่มีแบบนั้น เริ่มจากการด่าทอ?
นพ.วรตม์ : กรณีนี้ชัดเลยครับ เริ่มจากการด่าทอ โวยวายไม่มีเหตุผล เริ่มจากครอบครัวหนีออกไป ถ้าเราทราบว่าเขาเป็นคนไข้จิตเวชหรือคนไข้ยาเสพติด พอครอบครัวหนีไป สิ่งหนึ่งที่ต้องระลึกไว้เสมอว่าเขาไม่ได้ไปตรวจรักษาแล้ว เพราะครอบครัวไม่ได้พาเขาไปดูแล กินยา อาการเขาอาจจะมากขึ้น นี่เป็นอาการเตือนคนในชุมชน ถ้ามีสัญญาณแบบนี้ มีครอบครัวหนีไป มีอาวุธ โวยวายนอกบ้าน นี่เป็นสัญญาณที่ต้องเข้าไปจัดการแล้ว แรกๆ การพูดดีๆ ต่อเมื่อเขามีสติสัปชัญญะ
คำพูดแบบไหนไม่ควรคุยกับคนแบบนี้?
นพ.วรตม์ : ให้เขารู้สึกว่าแปลกแยกไปจากสังคม การที่คนๆ นึงไปรักษาอย่างต่อเนื่อ ยังยอมให้คนอื่นมาช่วยเหลือ เมื่อเขารู้สึกว่าเขามีจุดเชื่อมต่อกับคนรอบข้าง ยังมีคอนเนกชั่น ยังมีการพูดคุย บ้านนี้ยังเป็นห่วงเขานะ แต่วันนึงครอบครัวไม่เอา เพื่อนในชุมชนไม่มีใครคุยได้แล้ว ยิ่งถ้าคนไข้ยาเสพติด เขากลับใช้ยาเสพติด อาการเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พอใครพูดอะไรก็ไม่ฟัง กรณีนี้โวยวายอาละวาดก้าวร้าว มีปัญหาทางอารมณ์ มีความกลัว หวาดระแวง หลอน หูแว่วหรือเปล่า เรามองไปตรงนั้น การใช้เหตุผลทั่วไปอาจจะยากแล้ว เช่นเขาระแวงว่าเพื่อนบ้านจะมารุมทำร้าย การพูดคุยทั่วไปอาจไม่ได้ผล เคสติดกล้องวงจรปิดส่องบ้านเพื่อนบ้านถ้าเราไม่มีความรู้ด้านจิตเวช อาจรู้สึกว่าเขาแค่ระแวงเรา แต่การระแวงเป็นจุดเริ่มต้นทำร้ายร่างกายคนอื่น คนเหมือนจนตรอก
อย่างเอก สายเต๊าะ?
นพ.วรตม์ : อันนั้นเป็อีกกรณี ถ้ามีสัญญาณความรุนแรงอยู่เบื้องต้นก็ต้องระวัง ใครมีสัญญาณถ้าเมินเฉยก็พัฒนาได้
นายเอก สายเต๊าะเริ่มเอามีดดาบ เอาปืนมาโชว์ แบบนี้ถือว่าเริ่มหรือยัง?
นพ.วรตม์ : ถ้าเป็นเพื่อนบ้านผม ผมก็มองว่าเป็นสัญญาณเหมือนกัน อาการแบบนี้จะหายไปเองหรือเปล่าหรือจะพัฒนาขึ้น
ลักษณะคนแกล้งทำ ดูยังไง?
นพ.วรตม์ : อันนี้ดูยาก ผมเป็นคนนอก อาจใช้ครอบครัว ใช้ญาติช่วยดู
บางคนเรียกร้องความสนใจ อยากขายของให้ได้ กับคนเป็นจริงๆ ญาติไม่ให้ความร่วมมือทำยังไง?
นพ.วรตม์ : ส่งตรวจไว้ก่อน เราเองในฐานะประชาชนทั่วไป แม้แต่ตร.ก็ไม่ได้ฝึกมาหาข้อเท็จจริงว่าคนนี้ป่วยหรือไม่ป่วย
นายเอก ผกก.แจ้งเลยว่าพอจับตัวนายเอกส่งศรีธัญญาหรือบำบัด ไม่รับ เขาส่งกลับมาเพราะดูปกติ?
นพ.วรตม์ : แต่การที่ดูปกติ คนปกติก็ไม่ได้ต้องแสดงว่าตัวเองผิดปกติ เราต้องสงสัยไว้ก่อน ถ้าเขาแกล้งทำอะไรบางอย่าง แล้วมาตรวจรับการรักษา ก็ต้องไปดู อย่างวันนึงแกล้งเอาอาวุธมาโชว์เพื่ออะไร แสดงว่ามีปัญหาอะไรบางอย่าง คุณหมอก็จะเป็นคนเข้ามาช่วยแก้ไข เราเองถ้ารู้สึกไม่มีความรู้ แต่รู้อย่างเดียวว่าสิ่งนี้อันตรายเราแจ้งตร. ตร.บอกว่าปลดอาวุธเรียบร้อยพาส่งโรงพยาบาลได้ ที่เหลือปล่อยให้เป็นผู้เชี่ยชาญ ถ้าเขาออกมาเดือดร้อนอีกก็พากลับไปอีก ถ้ายาเสพติด เรามักมองว่าครั้งเดียวจบ หายเลิกยา ไม่ต้องทำอะไรอีก จริงๆ ไม่ใช่นะ ปัญหาจิตเวชยาเสพติดจะเป็นโรคเรื้อรัง เขาจะวนกลับไปใช้ยาเสพติ มีอาการป่วย เราถึงต้องทำเป็นกรมสุขภาพจิตและยาเสพติดเพราะผูกพันกัน ถ้ามีคนนึงเสพยาเสพติด เขาเป็นโรคซึมเศร้า โรคทางอารมณ์บางอย่างที่ใช้ยาเสพติด ถ้าเราไม่แก้ที่ต้นตอ วันนึงเขาจะวนไปใช้ยาเสพติดและรุนแรงเหมือนเดิม
ยุทธวิธีตร. ลักษณะพุ่งไปชาร์ตต้องทำยังไง?
วชิระ : คำว่ายุทธวิธีให้นึกถึงเรื่องการบวกเลข ต้องการคำตอบให้ได้ 9 จะใช้อะไรบ้าง ใช้ไม่เหมือนกัน แต่ผลเหมือนกัน ยุทธวิธีก็เหมือนการบวกเลข มันแปรเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ แต่สิ่งสำคัญคือหนึ่งความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ สองคือการสอดคล้องกับหลักกฎหมาย ต้องไม่ขัดกับหลักกฎหมาย หากพูดถึงยุทธวิธีเข้าไปจับเขา ก่อนเข้าไปจับ อย่างแรกเลย หลังตร.ได้รับแจ้ง ต้องรวบรวมข้อมูลข่าวสารก่อน เราจะใช้ข้อมูลพวกนี้มาประเมินว่าคนร้ายเป็นใคร มีอาการยังไง ใช้อาวุธยังไง คนร้ายมีปืน อาวุธสงครามควรเตรียมโล่ไปกี่อัน นี่คือความสำคัญของข้อมูลข่าวสาร เมื่อเตรียมการเรียบร้อย ตามขั้นตอนควรมีการเจรจา เพื่อให้เหตุการณ์สงบลง เหตุการณ์อาจสงบด้วยการเจรจาของเจ้าหน้าที่ หรืออีกวิธีคือเป็นการยื้อเวลาให้เจ้าหน้าที่อยู่หน้างานได้หาข้อมูลอื่นๆ อีก เช่น เราพยายามคุยกับเขาแล้ว เขาคุยไม่รู้เรื่อง ไม่สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ เราหาช่องทางในการจับตัวเขา มีช่องทางอื่นเข้าได้มั้ย สุดท้ายถ้าการเจรจาไม่เป็นผล ผู้บัญชาการเหตุการณ์อาจใช้กำลังเข้าไป ก็เป็นเรื่องอุปกรณ์แล้ว
โล่ป้องกันกระสุนปืนได้จริง ๆ ?
วชิระ : กันได้ครับ เหมือนยกเวท ประมาณ 13 กิโล
ตี๋ : โล่ตัวนี้เหมือนป้องกันอาวุธสงคราม อย่างน้อยเขายิงก็อยู่หลังโล่ก็จะไม่โดน
มีข่าวว่าตะโกนออกมาว่าผู้ก่อเหตุไม่มีปืนแล้ว จริงมั้ย?
เอ : ไม่ได้ยินค่ะ ไม่แน่ใจเลย
เฮียตุ้งเสียชีวิตประมาณกี่โมง?
เอ : เงียบนานจริงๆ ประมาณตีสองกว่าๆ ค่ะ
ต่อสายหา “มิ้น” ลูกสาวผู้ก่อเหตุ วันนั้นอยู่ในเหตุการณ์มั้ย?
มิ้น : อยู่ในเหตุการณ์ แต่อยู่นอกบ้านค่ะ ไม่ได้อยู่ในบ้าน ต้องเล่าว่าเคยมีเหตุการณ์แบบนี้ครั้งนึง พาตัวไปส่งรพ. ให้บำบัดก่อนเดือนกว่าๆ ที่เขาอยู่รพ. แล้วเขาออกมา แต่ไม่ได้มีบัตรจิตเวชนะคะ บำบัดเรื่องสารเสพติดค่ะ
ตรงกับพี่แต้มบอกว่ามีสารเสพติด?
มิ้น : หนูไม่รู้ว่าเขาเริ่มใช้ตั้งแต่ตอนไหน แต่ช่วงหลังๆ ออกอาการ อารมณ์เสีย เหมือนคนติดยา ช่วงนั้นมีข่าวเสพยาออกมาเยอะ เราก็ดูข่าวกันเยอะด้วย แล้วสังเกตอาการพ่อตัวเอง
พ่อชอบเล่นปืนด้วย?
มิ้น : ตอนหนูอายุ 12 ขวบ เขาบอกว่าซื้อเก็บไว้ตอนโตแล้วจะให้นะ ประมาณนั้นมากกว่า ตั้งแต่ซื้อปืนมา ไปซ้อมยิงปืนแค่ 2 รอบ แล้วก็ไม่ได้ไปสนามยิงปืนอีกเลย
เหตุการณ์วันนั้นเกิดอะไรขึ้น?
มิ้น : น้องหนูอยู่ในบ้าน เขาทักมาบอกว่าพ่ออารมณ์เสียอีกแล้ว อาละวาดอีกแล้ว หนูทำงานอยู่ไม่ได้จับโทรศัพท์ มาจับอีกทีตอนถึงห้อง หนูก็กดโทรไปหาน้อง ว่าให้รีบกลับบ้าน ทำกับข้าวไว้รอแล้ว เขาน่าจะเปิดสปีกเกอร์โฟนแล้วทางพ่อได้ยินว่ามิ้วช่วยพ่อตัดอีกสักหน่อยได้มั้ยแล้วค่อยกลับ พี่หนูเลยอยู่ต่อ ประมาณสัก 6 โมงครึ่งค่อยกลับ หนูก็โอเค ก็วางสายไป แล้วลงไปซื้อของกินข้างล่าง สักพักมีโทรมาว่าพ่ออาละวาดหนักมาก เอาด้ามปืนทุบหัว หนูก็รีบขับมอเตอร์ไซค์ไปเลย ให้เปิดประตู ตอนแรกเขาจำเสียงหนูไม่ได้ก็ถามว่ามึงเป็นใคร หนูกลัวน้องกับพี่เป็นอะไร หนูยอมรับว่ามีบันดาลโทสะเพราะหงุดหงิด ก็บอกว่ากูเอง แต่เขาไม่เปิด เขาก็เงียบไป ก็โทรหาสน.ท่าข้ามว่าตร.มาหรือยัง เพราะให้น้องสาวอีกคนนึงที่อยู่รังสิต ให้โทรแจ้งให้ก่อน ตอนนั้นหนูถือสายกับน้องอยู่ สายโดนตัดไปตอนไหนไม่รู้ พอหนูคุยกับตร. สายตรวจก็มาพอดี เขาก็เรียกหนูไปคุยว่าเหตุเกิดอะไรขึ้นบ้าง หนูก็บอกตามเมื่อกี้เลย เขาถามว่ามีอาวุธมั้ย หนูก็บอกว่ามีปืน 4 กระบอก
มิ้นเป็นคนตะโกนเข้าไป?
มิ้น : ใช่ค่ะ
ตอนท่านรองถูกยิง มิ้นอยู่ตรงนั้นด้วยมั้ย?
มิ้น : อยู่ค่ะ
มีเสียงตะโกนออกมามั้ยว่าเข้ามาได้เลย พ่อไม่มีปืนแล้ว?
มิ้น : ไม่มีค่ะ ไม่มีเลย เขาพูดกับหนูว่าจะเปิดประตูกว้างทำอะไร แล้วเขาก็หันไปหยิบปืนพอดี รองเขาก็กระโดดมาพอดี เป็นจังหวะเขาไปกระโจนแล้ว อีกนิดเดียวผลักล้มแล้ว เขาก็ลั่นเลย
ตอนนั้นปืนไม่ได้อยู่ในมือพ่อ?
มิ้น : ใช่ค่ะ เขาวางไว้ข้างหลัง เขาหันไปหยิบปืนตอนหนูเปิดประตูกว้างๆ เป็นจังหวะท่านรองพุ่งเข้าไป เขาก็เลยเหนี่ยวไก หนูไปเอาน้องออกมาก่อนเพราะกลัวโดนลูกหลง น้องยังเด็กอยู่เลย น้องอายุ 10 ขวบค่ะ ที่ถูกจับมีพี่สาวหนูอายุ 23 น้องอายุ 15 คนเล็กสุดอายุ 10 ขวบค่ะ
เวลานั้นเราเองก็มีอารมณ์เหมือนกัน?
มิ้น : หนูได้คุยกับเขาทางวิดีโอคอลว่าให้เขาตัวแม่ไปแลกกับน้องนะ แต่เป็นการพูดแบบไม่มีอารมณ์หรืออะไรเลย เขาน่าจะหงุดหงิด ตอนหนูไปเคาะประตูดังๆ พร้อมตร. ตร.บอกให้ใจเย็นๆ ก่อน สักพักเขาโทรมาหาหนูว่าอยากให้แม่มาคุย หนูก็ติดต่อแม่ให้ แต่พอเจอหน้าแม่ก็ยังด่าทอแม่ แม่ก็กลัวเหมือนกัน เขาปิดหน้าต่างไป แม่คุยกับตร. แต่หนูไม่ได้ยิน สักพักเขาใช้เบอร์พี่สาวโทรมาเป็นวิดีโอคอลว่าเอาแม่มึงมาคุยสิ หนูก็ยื่นให้แม่ แต่ก่อนยื่นให้แม่ หนูปิดไมค์แล้วบอกตร.ว่าพ่อโทรมา เขาก็ฟังห่างๆ เปิดวิดีโอคอล แม่ก็พูดว่าเอาลูกลงมาสิ มาคุยกันข้างล่าง ตร.กลับไปหมดแล้ว ปรึกษาตร.ก่อนนะคะก่อนพูดคำนี้ คุยกันเสร็จ เขาก็บอกว่าไม่ อยากให้แม่เข้าไปก่อน ให้ไปคุยข้างบนไม่ให้คุยข้างล่าง ต่อรองกันไปก็โอเคคุยกันหน้าบ้านไม่ขึ้นไปข้างบน ตร.ก็รู้เรื่องแล้ว ก็เลยไปรอข้างๆ บ้านฝั่งซ้ายกับฝั่งขวา ก็คุยกันอยู่ว่าจะลงมาเปิดหรือยัง ระหว่างนั้นเขาบอกว่าไม่เชื่อหรอกว่าตร.กลับไปแล้ว แพนกล้องดูสิ ระหว่างที่แพนกล้องก็พูดดังๆ ว่าจะให้แพนไปทางไหนให้ตร.รู้แล้วหลบ หนูก็ทำตามที่เขาบอก เขาก็เดินลงมาข้างล่าง เปิดประตูบังตาก่อน แล้วบอกว่าน้องมึงอยู่ดีนะ แล้วเมียกูอยู่ไหน
อะไรเป็นสิ่งเร้าทำให้พ่อฟิวส์ขาด?
มิ้น : เขาน่าจะตกใจด้วย เพราะมันเร็วมากที่ตร.พุ่งเข้าไป โดยปกติเขากลัวตร.อยู่แล้วค่ะ ตร.มาเขาก็ไม่มีทีท่าจะมอบตัว เขาด่าตร.ว่าไม่เกี่ยว
พ่อใช้สารเสพติด และเข้าไปบำบัด ออกมาก็น่าจะยังไม่หาย?
มิ้น : ไม่แน่ใจว่ายังไม่หายหรืออะไร แต่ไม่ใช่จิตเวช เพราะเขาไม่ได้ใบเกี่ยวกับทางจิตมาเลย
นพ.วรตม์ : ตอนนี้ครอบครัวเป็นยังไงบ้างครับ
มิ้น : น้องหนูกับแม่หนูยังตกใจและกลัวอยู่ค่ะ
มีอะไรอยากฝากมั้ย?
มิ้น : ตามในเน็ตที่บอกว่าถ้ามึงไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ น่าจะยิงปากมึงไปด้วยนะ (เสียงสั่นเครือ) หนูก็เสียใจ หนูอยากขอโทษญาติตร.ด้วยที่เสียชีวิต หนูก็ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ อยากขอบคุณที่ช่วยน้องหนูออกมาจริงๆ (ร้องไห้) หนูไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากขอโทษและขอบคุณ
น้องโดนสังคมต่อว่าเหรอ?
มิ้น : ใช่ค่ะ ประมาณว่ามึงไปพูดอย่างนั้นไง ตะโกนด่าพ่อทำให้พ่อโมโห (เสียงสั่นเครือ) แต่จริงๆ มันมีเรื่องกันมาก่อนหน้านั้นแล้ว ก่อนตร.จะมาอีกค่ะ
รับร่างคุณพ่อหรือยัง?
มิ้น : ยังค่ะ พี่สาวกับน้องสาวน่าจะให้ปากคำที่สน.อยู่ค่ะ
นพ.วรตม์ : ครอบครัวเขาก็คงไม่อยากให้ท่านรองสูญเสียเหมือนกัน คงไม่มีใครคาดคิด แต่อย่างที่บอก ทางครอบครัวพูดเรื่องยาเสพติด เป็นปัญหาที่สำคัญจริงๆ ไม่ใช่แค่ครอบครัวเขาจัดการเป็นภาระของเขาอย่างเดียว พอมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้ง เขาก็กลัว เขาก็ออกมา ทางตร. และชุมชนจะมีบทบาทอย่างมาก ในการจัดการกับปัญหายาเสพติด ไม่ใช่ปัญหาเกิดวันนี้ ต่อว่ากันวันนี้ มันมีปัญหากันมานานแล้ว แต่รอบนี้เกิดเหตุใครสักคนสูญเสียไปก็เป็นเหตุการณ์ที่น่าเศร้า ก็อยากให้เรียนรู้ ไม่ได้อยากขยี้อะไรเรื่องนี้ แต่ถ้าเรียนรู้ปัญหาก็จะค่อยๆ เบาลง แล้วที่มองว่าทุกคนเป็นจิตเวชทั้งหมดถึงก่อความรุนแรง ก็ทำให้เขาเป็นจำเลยสังคม จริงๆ อยู่ร่วมกันได้ ถ้าเราจัดการแต่เนิ่นๆ เขาอาจมีปัญหาสุขภาพจิตตามมาหลังการเสพยาก็ได้ ซึ่งก็ตอบยากเหมือนกัน
ถ้าเจอแบบนี้ต้องใจเย็น ๆ ค่อย ๆ พูด?
นพ.วรตม์ : ถ้าเหตุรุนแรงแบบนี้ต้องแจ้งตร. แต่ถ้าเบาๆ เบื้องต้นลองถามความคิดเห็นเขาก่อนว่าเป็นยังไงบ้าง
น้องบอกว่ามีวิวาทะระหว่างคุณพ่อกำลังพีคอยู่เหมือนกัน จะเป็นเหตุไปกระตุ้นเขาหรือเปล่า?
นพ.วรตม์ : ตอบยากมากเลย ว่า ณ ตอนนั้นอะไรเป็นตัวกระตุ้น อาจมีปัจจัยหลายๆ ปัจจัย ทั้งมีวิวาทะกัน มียาเสพติดหรือเปล่า เราตอบไม่ได้ มีความเครียด ความกังวล หรือตกใจ มีหลายๆ ปัจจัย ไม่ใช่ปัจจัยเดียวแน่ๆ ถ้าปัจจัยเดียวแสดงว่าการวิวาทะก่อนหน้านี้ต้องมีเหตุการณ์ยิงกันแล้ว แต่เขาบอกตลอดว่ามีการถกเถียง ในชมชุนก็บอกว่ามีการตะโกนต่อว่ากันแบบนี้ตลอด ฉะนั้นรอบนี้ไม่ใช่ปัจจัยเดียว ไม่ใช่ปกป้องครอบครัวเขานะแต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรม อย่าไปโทษเขาอย่างเดียว เพราะไม่งั้นเราจะไม่ได้เรียนรู้เลยว่ามีปัจจัยมากมายที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้
เป็นยังไงตอนนี้?
เอ : นอนไม่ค่อยหลับค่ะ ตกใจด้วย ไม่ได้กลัวผีนะคะ หนูผวาอยู่ เพราะเวลาเขาทะเลาะกันหนูได้ยินชัดมาก เหมือนอยู่ห้องเดียวกันเลยค่ะ
เหมียว : เมื่อคืนก็คิดว่าจะได้ยินเสียงปืนอีกมั้ย ก็ขอแสดงความเสียใจกับน้องเขา เพราะเป็นเพื่อนบ้านกัน แต่เราก็คิดว่าความปลอดภัยกับเพื่อนบ้านก็จะเกิดขึ้นแล้ว เพราะที่ผ่านมาเราก็กลัว อยู่ด้วยความหวาดระแวงเวลากลางคืน
เอ : พอได้ยินเสียงปืนก็สะดุ้งตื่นตลอด ถ้าจำได้ตั้งแต่ปี 65 ไม่แน่ใจว่าช่วงแรกๆ มีปืนมั้ย แต่ได้ยินทำลายข้าวของ ด่าทอกัน ด่าลูก ด่าเมีย ส่วนมากเหตุการณ์ที่เขาด่าทำลายของจะเป็นตอนดึกๆ แต่ตอนกลางวันเขาจะเงียบ
นพ.วรตม์ : เป็นอาการที่ค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นเรื่อย ๆ
ลูกโดนตี โดนกระทืบ ถูกทารุณกรรมจากพ่อมาตลอด?
เอ : เหมือนสองเดือนที่แล้ว ที่ลูกเมียเขาย้ายไปอยู่คอนโด เขามีเหตุการณ์ใหญ่ทะเลาะกันเสียงดังมาก จนลูกเมียหนีออกมาอยู่หน้าบ้าน จากดูกล้องวงจรปิดบ้านหนู เหมือนเขาเอาหัวโขกรถ ไม่แน่ใจว่าเป็นลูกหรือเมียค่ะ เขาฉุดกระชากลาก ไม่รู้เป็นลูกหรือเมียเอาหัวโขกรถ ฉุดกระชากลากถูกันอยู่ตรงนั้นค่ะ
ลูกก็มีความฝังใจเหมือนกันไปทำเขาแบบนั้น ทำแม่แบบนั้น พอวันนึงมีเหตุการณ์เกิดอีก ก็เป็นเรื่องวิวาทะ เป็นเรื่องภายใน?
นพ.วรตม์ : เราอย่าสรุปว่ามีเรื่องเดียวที่ทำให้เขาเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น เข้าใจว่าเป็นคนข้างบ้านหลายครั้งก็กลัว การทำงานตร.กับชุมชนถ้าทำงานร่วมกัน ชาวบ้านก็จะกลัวน้อยลง ตร.ก็ไม่ต้องไประงับเหตุในวันที่มีความรุนแรงมากๆ
อยากบอกอะไรมั้ย?
เปิ้ล : ไม่ค่ะ หวาดกลัว ก่อนวันเกิดเหตุ เฮียตุ้งยิงใส่กำแพงบ้านตลอด 10 นาที ก็วิ่งหลบกัน จะหวาดกลัวมาก
เอ : ห้องหนูอยู่ชั้นสาม ได้ยินชัดมากเลยค่ะ