“นิ้ง กุลสตรี” เปิดความจริง! หลังป่วยเป็นมะเร็งมา5ปี

ส่งกำลังใจกันอย่างล้นหลาม เมื่ออดีตนักแสดงสาวชื่อดัง นิ้ง-ณิชชยาณัฐ ศิริพงศ์ปรีดา หรือ นิ้ง กุลสตรี ออกมาเผยความจริงเกี่ยวกับอาการป่วยที่รักษาตัวมานานถึง 5 ปี โดยเจ้าตัวบอกทุกคนว่าเป็น โรคไขกระดูกบกพร่องไม่สร้างเกล็ดเลือดและต้องให้คีโม

ล่าสุด นิ้ง กุลสตรี ได้โพสต์ภาพพร้อมร่ายยาวไว้ว่า “…เก็บไว้เป็นความทรงจำอีก 1 ปี ไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ เท่าไหร่ เท่านั้น!!  (ใครไม่อยากอ่านก็เลื่อนออกไปได้นะคะ)

เมื่อ… 11 July 2019
เป็นวันแรกที่ไปตรวจร่างกาย พบว่าเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (ลูคีเมีย) ขอโทษที่พี่ใหญ่บอกทุกคนว่าเป็นโรคอื่น เพราะกลัวนิ้งทำใจไม่ได้


ต้องได้รับเคมีบำบัดทางเส้นเลือดด่วนทันที 8 คอรส์ (ไม่สามารถเปลี่ยนถ่ายไขกระดูกได้ เพราะร่างกายตอนนั้นไม่พร้อม) ต้องทำ PICC line แค่ฉีดยาชา อาจารย์หมอสอดกล้องและท่อ โดยดูผ่านทางจอ (สายสวนภายในหลอดเลือดดำส่วนกลาง เพื่อให้ยา โดยเจาะทางท้องแขนด้านซ้าย เข้าไปถึงปลายเส้นเลือดดำใกล้หัวใจ และต่อท่อออกมาเป็น 2 ท่อ เพื่อให้ยา ยังไม่นับเส้นเลือดใหญ่เส้นอื่นตอนเข้า ICU ถึงขั้นเจาะเส้นเลือดที่คอ (เส้นเลือดสุดท้าย ถ้าติดเชื้ออีก ก็ไม่รอด โรงพยาบาลโทรหาตอนตี 1 เพื่อให้มาเซนต์ชื่อ ยอมให้เจาะคอ) PICC line นี้จะไม่เอาออก ถึงแม้ไม่ได้ใช้ จะพันเก็บที่แขน ห้ามโดนน้ำ แต่ความจริงติดเชื้อ ให้เลือด ให้เกล็ดเลือด ให้พลาสม่า ให้ยาฆ่าเชื้อตลอด) และเจาะข้างลำตัว 2 ท่อเพื่อเดรน หนอง และน้ำ ออก เพราะว่าข้างปอดมีหนอง ถึงขั้นใส่ท่อลงไปล้างโดยได้แค่ยาชาเท่านั้น เจ็บ และหวาดเสียวแค่ไหน

ความโชคร้ายของนิ้งคือ เข้า ICU เกือบเดือน (ให้เคมีบำบัดคอรส์ที่ 1 เท่านั้น ต้องนอนติดเตียงประมาณ 7 เดือน) เพราะเลือดออกไม่หยุด หลับไป 6 วัน (อาจารย์หมอให้ญาติทำใจแล้ว)
ทุกครั้งที่ให้เคมีบำบัดจะแพ้ จึงได้รับแค่ 4 ครั้งเท่านั้น ให้ไม่ครบ!
ทุกวันนี้ต้องทานยาเคมีบำบัด (ถ้าลิ้นโดนน้ำและยาพร้อมกัน ขม เหม็นเคมีมาก บางครั้งจะอาเจียน ต้องพกถุงตลอด แอบอาเจียนที่ร้านอาหารบ่อยมาก) ทานวันละ 5 เม็ด ตรวจเลือดทุก 2 เดือน ตลอดชีวิต


แต่ใจสู้ มาก เมื่อวานนี้ วันที่ 11 July 2024 ครบรอบ 5 ปี ที่เป็นโรคลูคีเมีย
**ตรวจเลือดครั้งล่าสุด อาจารย์หมอยังบอกว่า… จะครบ 5 ปีแล้วนะ คุณนิ้งอึดมาก 


**ส่วนตัว… ขอให้อึดให้นานที่สุด สดใสทั้งกายและใจ ไม่เครียด ขอบคุณประเทศไทยจ่ายยาแบบเบิกตรง (อยู่ได้เพราะยา) เสียค่าส่วนต่างแค่ประมาณ 1,000 บาท (รับยาทุก 2 เดือน) จากยาเม็ดละ 1,500 ทานวันละ 5 เม็ด (ตอน 11:00 )ไม่รวมยาโรคซึมเศร้าอีกประมาณ 7 เม็ด (ก่อนนอน) แต่ก็จ่ายส่วนตัวอีกประมาณ 13 ล้าน (ประกันประมาณ 5 ล้าน) (ดีมากที่พี่ใหญ่เคยเป็นทหารอากาศเก่า) 

**ขอบคุณสามี อาจารย์หมอทุกท่าน ทุกกำลังใจ ทำสมุดของที่ระลึกต่างๆ มาเยี่ยมที่โรงพยาบาล เยี่ยมได้บ้าง งดเยี่ยมบ้าง และมาเยี่ยมที่บ้าน นิ้งไม่เคยลืมนะคะ เป็นความทรงจำที่ดีมากของนิ้ง

และที่สำคัญสุดคือ… อดทนอ่านจนจบ และเข้าใจอารมณ์ของนิ้ง**” 

Cr_ig: nink_nichayanaht

About Author