“ชลาชล” เปิดโปรเจกต์ใหม่ “รถโมบายซาลอน” เพื่อเข้าถึงการบริการ และสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

“ชลาชล” เปิดโปรเจกต์ใหญ่ของปี “รถโมบายซาลอน” พร้อมเข้าถึงงานบริการที่จริงใจ และสร้างรายได้ในวิชาชีพที่ยั่งยืน

เมื่อนึกถึงร้านซาลอนสักร้านที่อยู่คู่เมืองไทยมายาวนาน เชื่อว่าหนึ่งในนั้นที่ร้านคนนึกถึงต้องมี “ชลาชล” อยู่ในลิสต์แน่นอน ในวันนี้ “ชลาชล (Chalachol)” เปิดมาครบ 36 ปี และยังคงรักษา มาตรฐานผ่านงานบริการความงามที่จริงใจ และเดินหน้าพัฒนาไม่หยุด และโปรเจกต์ใหญ่ของปีนี้ “ชลาชล (Chalachol)” เปิดตัว “รถโมบายซาลอน” โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้งานบริการเข้าถึงทุกคนได้ง่ายขึ้น และเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการสร้างรายได้ในวิชาชีพของช่างผม โดย “คุณต้า กิตติณัฏฐ ชลาชล” Managing directer ของบริษัท ชลาชล ได้เปิดเผยถึงโปรเจกต์นี้แบบน่าสนใจเลยทีเดียว

“โปรเจกต์นี้ชลาชลเราคิดไว้ตั้งแต่ช่วงโควิดแล้วครับ ได้คุยกับทาง Mr.Bic (Mobile Retail Business Incubation Center) เดิมทีเขาเป็นบริษัทที่หาที่ให้รถฟู้ดทรัคไปจอง เป็นคาราวาน เป็นแหล่งรวมของผู้ประกอบการฟู้ดทรัค เขามีโปรเจ็คท์ที่ว่าอยากทำธุรกิจรถโมบาย เริ่มจากอาหารก่อน ต่อมาก็เขาอยากได้ในส่วนของบริการงานเซอร์วิส เขามองว่าเซอร์วิสมีอะไรที่จะเข้าถึงคนได้ง่าย ก็เป็นเรื่องของทำผม ตัดผม พอเป็นด้านนี้ แน่นอนว่าเขาก็นึกถึงชลาชลอันดับแรก ประกอบกับทาง Toyota Motor Thailand เองก็มีโปรเจกต์เหมือนกันที่เขาทำรถโมบายสำหรับประกอบธุรกิจเคลื่อนที่อย่างฟู้ดทรัค เพื่อออกมาแข่งขันในท้องตลาด ทางโตโยต้าเลยออกรุ่น Hilux Champ รุ่นที่เอาไปดัดแปลงได้ และดีไซน์มาเพื่อธุรกิจโมบาย ประจวบเหมาะ Toyota อยากหาพาร์ทเนอร์ธุรกิจที่จะมาอยู่บนรถ สรุปพาร์ทเนอร์ก็จะมี 3 ส่วน คือ Toyota, Mr.Bic และผู้ประกอบการ มีชลาชล หรือมีแบรนด์อื่น ๆ หรือร้านอาหารใด ๆ

ที่นี้ Toyota ก็รีเควสท์แบรนด์ที่อยากให้อยู่บนรถเขา อยากได้เซอร์วิส และเซอร์วิสนั้นก็คือซาลอน คราวนี้พอตรงว่าเป็นซาลอนก็นึกถึงชลาชล เขาก็เลยคุยกับ  Mr.Bic ว่าจะพอหาบริการตรงนี้มาได้ไหม ซึ่งก่อนหน้านี้ Toyota ก็เคยติดต่อทางชลาชลมาเหมือนกัน อยากให้ไปอยู่ในส่วนคอมมูนิตี้มอลล์ เพราะตอนนี้ Toyota ก็ปรับกลยุทธ์เหมือนกัน ศูนย์บริการบางศูนย์มีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ พื้นที่ในนั้นก็อยากเซอร์วิสลูกค้าที่มาใช้บริการ เพื่อให้ครบวงจรในระหว่างที่นั่งรอรับบริการครับ”

แสดงว่าในอนาคตจะมี “ชลาชล” ไปอยู่ในศูนย์บริการ Toyota

“ใช่ครับ เพราะตอนแรกมี Toyota Buzz ที่ติดต่อมาเขาก็ให้เข้าไปดูที่ สาขาที่ไปดูคือเกษตร-นวมินทร์ มีพื้นที่มีห้องว่างอยู่ก็ปรึกษาว่าพื้นที่ตรงนี้จะแปลงเป็นซาลอนได้ไหม ลูกค้าเข้ามาจะได้ใช้บริการ เขามีแพลนถึงว่าถ้าลูกค้ามีจองคิวเข้ามารับบริการซ่อมบำรุงรถ ก็จะถามลูกค้าไปเลยว่าต้องการเซอร์วิสอื่น ๆ ไหม เช่นทำผม ทำเล็บ จองคิวเลยไหม อันนี้คือสิ่งที่เขาคิดไว้ก็เลยเชิญชลาชลไปดูพื้นที่ แต่ยังไม่ได้ตอบรับครับ เพราะทาง Toyota Motor Thailand ก็มีโปรเจกต์รถโมบายนี้เข้ามาเหมือนกัน”

ในส่วนรถโมบายซาลอน “ชลาชล” ตอบรับเรียบร้อย

“ตอบรับไปแล้วครับ มีงานลงนามเซ็นสัญญาความร่วมมือกัน MOU กัน ของ Toyota กับ Mr.Bic เขาเชิญ 5 แบรนด์ที่จะร่วมมือกัน โดยใน 5 แบรนด์มีเซอร์วิสเป็นชลาชลเจ้าเดียว นอกนั้นเป็นอาหารหมดครับ ชลาชลก็เป็นแบรนด์แรกและหนึ่งเดียวที่จะไปเบิกตลาดเซอร์วิสของรถโมบายก่อนเลย”

มาถึงตรงนี้แพลนที่ว่างไว้จะเริ่มโปรเจกต์ได้เลยหรือเปล่า

“แพลนคือทาง Toyota กับ Mr.Bic ก่อนจะออกให้บริการได้ ก็ต้องนำรถไปดัดแปลงก่อน ให้พร้อมให้เป็นชอปให้ได้ก่อน โดยลดปัญหาของการที่รถอาจจะไม่ได้มาตรฐานด้วยกันไปดีลกับสถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพื่อมาดีไซน์ตัวร้านให้รองรับฟังก์ชั่นต่าง ๆ และสวยงามด้วย ซึ่งเร็ว ๆ นี้ ทั้ง 5 แบรนด์จะไปให้ข้อมูล พูดคุยเขาจะได้รู้ว่าเราต้องการอะไร จะใช้งานแบบไหน เขาจะได้เอาไปออกแบบให้สวยงามและตอบโจทย์การใช้งานได้ดีด้วยครับ”

คาดว่าในปีนี้เราจะได้ใช้บริการรถโมบายซาลอน

“ตามไทม์ไลน์ของ Toyota คือให้ออกให้บริการภายในปีนี้ครับ เราจะได้เห็นรถโมบายซาลอนกันครับ และตรงจุดนี้ชลาชลเห็นว่าพอเป็นโมบายเคลื่อนที่เราอยากจะใช้เป็นอีกแบรนด์หนึ่งเข้าสู่ตลาด เพราะชลาชลเราอยากให้อยู่เทียร์ที่เป็นไฮเลเวลตามห้างสรรพสินค้า เราใช้ชื่อว่า “Q Cut by Chalachol” มาจากคำว่า Quick Cut ซึ่งจริง ๆ Q Cut เคยมีแล้วครับ เดิมที ดร.สมศักดิ์ ท่านคิดว่าอยากทำคอนเซ็ปต์ Quick Cut ตัดเร็วสะดวก จะเป็นแคปซูลอยู่ตาม BTS เมื่อสมัย 10 ปีที่แล้วเลยครับ ท่านคิดตั้งแต่ตอนนั้น”

ทาร์เกตของ Quick Cut จะปรับเปลี่ยนลดลงมาจาก “ชลาชล” ด้วยไหม

“ก็อาจจะลดลงมานิดหนึ่งเพื่อให้เข้าถึงคนได้มากขึ้น เพราะว่าลักษณะของโมบายซาลอนมันต้องเข้าถึงชุมชน แต่คุณภาพและมาตรฐานคือชลาชลครับ ช่างที่มาเข้าร่วมโครงการก็ต้องมาอบรม สัมภาษณ์ ผ่านการทดสอบก่อนเช่นกัน เราก็มีคอร์สตรงนี้สำหรับออกไปในโปรเจกต์โมบายซาลอน เพราะการทำงานอาจจะต่างกันกับที่อยู่ในร้าน เพราะช่างหนึ่งคนถ้าอยู่ในโมบายซาลอนต้องทำทุกอย่างครับ เพราะพื้นที่ค่อนข้างจำกัด คิดว่าในรถก็จะมีหนึ่งคนเบ็ดเสร็จเลย เพราะผมมองเรื่องความสะดวก คล่องตัวในพื้นที่ที่จำกัด โปรเจกต์นี้เราคิดขึ้นมา เพราะชลาชลเราต้องการสนับสนุนให้สร้างอาชีพให้กับช่างทำผม เป็นปณิธานของ ดร.สมศักดิ์ด้วยที่อยากจะสนับสนุนวิชาชีพนี้ เพราะก่อนหน้านี้ท่านก็มีโปรเจ็คท์สำหรับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เราสอนให้ฟรี ได้มีอาชีพ ในสมัยช่วงโควิด ที่มีผู้คนตกงานมากมาย โดยตอนนั้นชื่อโครงการ “เส้นผมพลิกชีวิต”

ในส่วนของโมบายซาลอนตรงนี้ ถ้าช่างมีทุนมาปรึกษาเราได้ มาอบรมให้เข้ามาตรฐานชลาชล ก็จะมีโมบายซาลอนเพิ่มขึ้นอีกเรื่อย ๆ บางคนอาจจะปัญหาในการเช่าพื้นที่ ตรงนี้ก็ช่วยได้ ทำให้ไม่ต้องไปลงทุนเยอะในการทำร้าน ส่วนค่าเรียนทางชลาชลขอเรียนตรงนี้ง่าย ๆ ว่าเราทำเหมือนแฟรนไชส์ ที่มีเงินจำนวนหนึ่งเข้ามาซื้อแฟรนไชส์ คุณไม่ต้องซื้อรถ แต่สามารถเช่าเป็นรายเดือนได้ ก็ลดต้นทุนตรงนี้อีกครับ”

ถือเป็นโปรเจกต์ที่น่าติดตามมากเลยทีเดียว และท้ายที่สุด “คุณต้า” ขอส่งสารถึงผู้ที่สนใจและอยากร่วมเดินทางไปกับ “ชลาชล” ในครั้งนี้

“อยากเชิญชวนช่างทำผมผู้ที่สนใจ อาจจะไม่มีทุนที่จะเปิดร้านเป็นของตัวเอง โครงการนี้เป็นโครงการที่น่าสนใจมาก ๆ ใช้ทุนไม่เยอะ น่าจะหลักหมื่นต้น ๆ มาปรึกษาและพูดคุยกันได้ สามารถเช่ารถแล้วออกไปประกอบอาชีพได้ครับ และถ้ากังวลเรื่องที่จอดรถที่จะให้บริการก็ไม่ต้องกังวลครับทาง Mr.Bic ก็มีหาที่ให้รถไปจอดอีกด้วย ทางนั้นเขาก็ดีลหมู่บ้านมีทุกเกรดให้คุณเลือก เขาก็จะมีแอพลิเคชั่นในการจองให้ด้วย หรือจะเป็นตลาดนัด ปั๊มน้ำมันใด ๆ เขาก็ดีลให้ครับ ตอนนี้เรารับสมัคร 2 ท่านแรกก่อนครับ เพื่อมาเป็นทดลองโปรเจกต์นี้ ผู้สมัคร 2 ท่านนี้ก็จะเริ่มเดินไปพร้อม ๆ กับชลาชล ซึ่งหลังจากนี้ก็จะเริ่มขยายขึ้นเรื่อย ๆ ครับ ผู้ที่สนใจสมัครสอบถามรายละเอียดได้ที่ เบอร์โทร 02-9330449 และช่องทางออนไลน์ Facebook: CHALACHOL และ Line @chalachol ได้เลยครับ”

About Author