GWS CLOUD สนับสนุนองค์กรสร้างคลาวด์ของตนเองด้วยโซลูชัน “Be Your Own Cloud”

GWS CLOUD ผู้นำคลาวด์เทคโนโลยีจากไต้หวันรุกตลาดไทย แนะนำ Be Your Own Cloud เปิดทางองค์กรรวมถึง Solution Provider สามารถพัฒนาคลาวด์ของตัวเอง พร้อมเพิ่มโอกาสต่อยอดจำหน่ายบริการคลาวด์โดยใช้แบรนด์ดิ้งของตัวเอง โดยอาศัยเทคโนโลยีระดับโลกจาก eASPNet บริษัทแม่ของ GWS CLOUD จากไต้หวัน

GWS CLOUD พร้อมให้บริการรูปแบบ B2B

ด้วยประสบการณ์มากมายจากการให้บริการรูปแบบ B2C ทาง GWS CLOUD มองเห็นโอกาสทางการตลาดที่จะขยายการบริการไปสู่รูปแบบ B2Bในฐานะ Cloud Solution Provider เพื่อนำเทคโนโลยีคลาวด์ที่บริษัทเชี่ยวชาญสู่องค์กรอื่น ๆ เปิดประตูโอกาสใหม่

สำหรับผู้ประกอบการ SI รูปแบบการจำหน่ายคลาวด์ในอุตสาหกรรมนี้ คือลูกค้าต้องแยกเงิน 2 ส่วนเพื่อชำระค่าบริการแยกกันระหว่างค่าพัฒนาระบบหรือโซลูชัน กับค่าบริการคลาวด์ที่ต้องชำระไปถึงเจ้าของคลาวด์โดยตรง ทำให้การให้บริการยุ่งยากกว่าที่ควรจะเป็น ทั้งฝั่งลูกค้าก็ต้องแยกจ่ายหลายส่วนหลายรอบ ถึงผู้ให้บริการหลายฝ่าย ยากที่จะได้รับการสนับสนุนทางเทคนิคตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนั้น ในส่วนของบริษัทผู้พัฒนาโซลูชันเองก็ไม่ได้รับส่วนแบ่ง หรือได้รับส่วนแบ่งเพียงเล็กน้อยจากการแนะนำให้ลูกค้าของตนเองไปใช้บริการคลาวด์นั้น ๆ

GWS CLOUD จึงให้บริการแบบ White Label ในรูปแบบ Be Your Own Cloud ที่เปิดโอกาสให้องค์กรหรือ Solution Provider สามารถพัฒนาคลาวด์ในชื่อของตัวเองขึ้นมาใช้งาน และให้บริการต่อไปยังบุคคลภายนอกได้ โดยอาศัยเทคโนโลยีระดับสูงของ GWS CLOUD อย่าง GWStack และ GWStack-O All-in-ONE เป็นพื้นฐานในการให้บริการ ซึ่งลูกค้าสามารถใช้คลาวด์คุณภาพสูงได้ง่ายขึ้น ในขณะเดียวกัน พันธมิตรธุรกิจก็มีโอกาสได้ส่วนแบ่งมากขึ้นจากการให้บริการคลาวด์ในชื่อของตัวเอง

นีนี่ อู๋ ประธานกรรมการจาก GWS CLOUD กล่าวว่า “พวกเรากำลัง Disrupt วงการคลาวด์เพื่อให้มีค่าบริการที่ถูกลง สวนกระแสบริษัทยักษ์ใหญ่ที่พยายามทำให้คลาวด์มีราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ การที่เราเปิดให้บริการในรูปแบบ B2B ให้พันธมิตรของเราสามารถให้บริการคลาวด์กับลูกค้าของตัวเองโดยตรงได้ ซึ่ง GWS CLOUD ทำให้สามารถบริหารจัดการลูกค้าที่มีค่าของตัวเองได้อย่างดี”

มุมมอง GWS CLOUD ต่อค่าบริการคลาวด์ในปัจจุบัน

รูปแบบการให้บริการของอุตสาหกรรมคลาวด์ในปัจจุบันคือค่าใช้จ่ายเมื่อเริ่มต้นใช้นั้นถูกมาก เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้าไปใช้งาน แต่เมื่อต้องใช้งานมากขึ้น ค่าบริการกลับแพงขึ้นอย่างก้าวกระโดด มีการเก็บค่าใช้จ่ายหยิบย่อยอีกมากมาย เช่นค่า Microservice หรือบริการย่อย ๆ ที่ทำขึ้นมาสนับสนุนนักพัฒนาให้ทำงานง่ายขึ้น แต่เมื่อเรียกใช้บริการเหล่านี้ก็จะถูกคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมไปเรื่อย ๆ ตลอดเวลาที่ใช้งาน หรือค่าใช้จ่ายในส่วนของ Bandwidth ที่เก็บแยกจากค่าบริการอีกที ซึ่งหลายครั้งที่ค่า Bandwidth นั้นแพงกว่าค่าใช้งานระบบคลาวด์อีก ทั้งที่เรื่องปกติในอุตสาหกรรมอื่น ๆ คือยิ่งซื้อเยอะ ยิ่งใช้เยอะ ค่าใช้จ่ายต่อหน่วยควรจะลดลง

GWS CLOUD จึงนำเทคโนโลยีจากบริษัทแม่ที่ไต้หวันอย่าง eASPNet มาพัฒนาให้ค่าบริการคลาวด์สมเหตุสมผลมากขึ้น อย่างการใช้ Hybrid Cloud ที่ผสมผสานระหว่าง Private Cloud เพื่อเก็บและจัดการข้อมูลทั่วไปที่ไม่ต้องการประสิทธิภาพในการทำงานสูง ร่วมกับ Public Cloud สำหรับดูแลข้อมูลในส่วนที่เรียกใช้บ่อย ทำงานเยอะ หรือข้อมูลที่สำคัญกับความเร็วของระบบ จึงลดปัญหาการใช้ทรัพยากรเกินตัว จนทำให้ค่าบริการสูง เช่นการเอาข้อมูลที่นาน ๆ จะเรียกใช้ (Cold Data) ไปเก็บบนฮาร์ดแวร์ประสิทธิภาพสูงที่มีราคาสูงของ Public Cloud ก็ทำให้เกิดค่าบริการที่สูงเกินสิ่งที่ต้องการใช้

หรือการใช้งานแพลตฟอร์ม GWSCLOUD-O All-in-ONE ที่มี Service ต่าง ๆ ในส่วนที่จำเป็นมาให้อยู่แล้ว โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการใช้ และหากมีบริการอื่น ๆ นอกเหนือจากสิ่งที่อยู่ในชุด All-in-ONE ที่นักพัฒนาต้องการใช้งานเพิ่มเติม เช่น ต้องการ AI/ML Model เข้ามาช่วยประมวลผล ก็สามารถหาจากผู้ให้บริการอื่น ๆ ที่ไม่ได้ผูกขาดเฉพาะกับคลาวด์เจ้าใดเจ้าหนึ่ง ก็จะมีการใช้จ่ายในการใช้งานน้อยลง

เมื่อทุกอย่างได้รับการบริหารอย่างดี ค่าใช้จ่ายด้านคลาวด์ก็สามารถลดลงได้ GWS CLOUD จึงสามารถให้บริการด้วยงบประมาณที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมสูงสุดราว 40%