เผยโฉม ! ที่แรก “น้องเอ” อดีตทหารหญิงรับใช้ เกิดใหม่อีกครั้ง ! หลังทนทุกข์ทรมานกับใบหน้าที่เสียโฉม
เผยโฉม น.ส.ปัทมา ศิริรัตน์ หรือ น้องเอ อดีตทหารหญิงรับใช้ ที่ถูกทารุณจนใบหน้าเสียโฉม จนเป็นข่าวดัง ล่าสุดได้รับการช่วยเหลือศัลยกรรมแก้ไขใบหน้าจาก “ดร.เซปิง ไชยศาส์น” ตื้นตันชีวิตเหมือนตายแล้วเกิดใหม่
หลังจากที่เคยกลายเป็นข่าวใหญ่สุดหดหู่ กรณี “น้องเอ” อดีตทหารหญิงรับใช้ ถูกนายจ้าง ส.ต.ท.หญิง ทำร้ายร่างกาย ทำให้จมูกแตกละเอียด หายใจได้ข้างเดียว ใบหน้าได้รับความเสียหายร้ายแรงจนผิดรูป
ที่ผ่านมา “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้ยื่นมือช่วยเหลือ โดยได้ประสานขอให้ “ดร.เซปิง ไชยศาส์น” ช่วยเหลือเคสนี้ ปัจจุบันน้องเอได้รับการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าจนประสบผลสำเร็จแล้ว ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เคยเปิดโฉมหน้าหลังการรักษาแก้ไขโดยการทำศัลยกรรมมาก่อน และในวันนี้ศาลจังหวัดราชบุรีได้มีคำพิพากษาแล้ว จึงขอเผยโฉมทั้งก่อนและหลังทำศัลยกรรมให้ประชาชนที่คอยส่งกำลังใจให้น้องเอมาโดยตลอดได้ยลโฉม
ดร.เซปิง ไชยศาส์น กล่าวว่า “ทีมศัลยแพทย์ตกแต่งความงามได้ทำการผ่าตัดแก้ไขกระดูกอ่อนของผนังจมูกและปรับทางเดินหายใจด้านซ้ายที่อุดตัน ทำให้กลับมาหายใจด้วยโพรงจมูกด้านซ้ายได้เป็นปกติ การผ่าตัดแก้ไขหางตาด้วยการดึงหน้า ทำให้การมองเห็นกลับมาชัดเจนเป็นปกติ ตาโตขึ้น หางตายกสวยขึ้น ทั้งได้รับการผ่าตัดดึงหน้าผาก เพื่อทำลายพังผืดและยกกระชับเนื้อเยื่อ บริเวณหน้าผาก ผลหลังจากการผ่าตัดรักษาพบว่าพังผืดบริเวณหน้าผากลดลงมากกว่าร้อยละ 90 เป็นผลทำให้บริเวณหน้าผากดูเรียบเนียนขึ้น คางดูผิดรูปและมีไขมันสะสมบริเวณแก้ม เหนียงและลำคอมาก จึงจำเป็นต้องทำการผ่าตัดเสริมวัสดุทางการแพทย์ที่คาง รวมทั้งดูดไขมัน เพื่อแก้ไขให้รูปหน้ากลับมาเป็นปกติและสวยงามขึ้นกว่าเดิม ทำให้น้องเอกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติและมีใบหน้าที่สวยขึ้น เหมือนเป็นการต่อลมหายใจให้กับคนที่สิ้นหวังได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง ดิฉันรู้สึกภูมิใจที่ได้หยิบยื่นโอกาสที่งดงามให้แก่น้องเอในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะการที่น้องเอถูกทำร้ายจนจมูกหายใจไม่ได้ไปหนึ่งข้างนั้น ซึ่งที่ผ่านมามีแพทย์หลายท่านที่ปฏิเสธการรักษา แต่เมื่อดิฉันสามารถจัดหาทีมศัลยแพทย์ตกแต่งเข้ามาช่วยเหลือทำการผ่าตัดให้จนน้องเอสามารถหายใจได้เป็นปกติดีแล้ว ทำให้น้องสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นมาก การต่อลมหายใจให้กับน้องเป็นสิ่งที่พิเศษมากค่ะ สำหรับการศัลยกรรมแก้ไขปัญหาจุดบกพร่องบนใบหน้าอีกหลายรายการ ทำให้น้องดูสวยขึ้น เป็นการเยียวยาจิตใจที่ดีเพื่อให้น้องได้มีโอกาสใช้ใบหน้าสร้างความมั่นใจ สร้างโอกาสในการทำงานเพื่อหาเลี้ยงตนและครอบครัว การได้มอบใบหน้าใหม่ก็เสมือนเป็นการให้ชีวิตใหม่กับน้องเอ รู้สึกยินดีและดีใจกับน้องมาก ๆ ค่ะ”
น้องเอ กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้หนูถูกทำร้ายสาหัสจนจมูกหายใจได้เพียงข้างเดียว หลังจากทำศัลยกรรมรักษาจมูก หนูเหมือนได้ชีวิตใหม่ ก่อนหน้านี้เข้าใจมาเสมอว่าการทำศัลยกรรมคือการทำให้สวยขึ้น แต่สำหรับหนูไม่ได้ทำให้สวยขึ้นเพียงอย่างเดียว การศัลยกรรมตกแต่งครั้งนี้ยังช่วยคืนลมหายใจของหนูให้กลับมาหายใจได้อย่างคนปกติอีกครั้งด้วยค่ะ ซึ่งตอนนี้หนูหายใจได้ 100 เปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ หนูขอขอบพระคุณ ดร.เซปิง ที่ท่านกรุณาคืนลมหายใจให้หนู และยังช่วยเปลี่ยนใบหน้าของหนูที่เคยถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกลายเป็นคนขี้เหร่ เมื่อ ดร.เซปิง ช่วยปรับเปลี่ยนศัลยกรรมใบหน้าให้แล้ว ในชีวิตของหนูเพิ่งได้สัมผัสคำว่า “สวย” เป็นแบบนี้นี่เองค่ะ”
สำหรับคดีอาญา วันที่ 14 มีนาคม 2567 ศาลจังหวัดราชบุรี นัดฟังคำพิพากษา อดีต ส.ต.ท.หญิง หรือ เจ๊นุช และ แฟนหนุ่ม ที่ร่วมกันทำร้าย น.ส.ปัทมา ศิริรัตน์ หรือ น.ส.เอ ส.ต.หญิง อดีตทหารหญิงรับใช้ของเจ๊นุช
ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยที่ 1 และ 2 มีความผิด ร่วมกันทำร้ายร่างกายให้ได้รับอันตรายสาหัส, จำเลยที่ 1 มีความผิด กรรโชกทรัพย์ และ ข่มขืนใจ มีโทษจำคุก 13 ปี 5 เดือน พร้อมให้จำเลยที่ 1 ชดใช้เงินให้กับ น.ส.เอ ส.ต.หญิง ทหารรับใช้ เป็นจำนวนเงิน 365,620 บาท และจำเลยที่ 2 พกพาอาวุธ และไม่จ่ายค่าแรงตามกฎหมาย มีโทษจำคุก 4 ปี 1 เดือน และให้จำเลยที่ 1 และ 2 ร่วมกันชดใช้เงินเป็นจำนวน 350,616 บาท ให้กับ น.ส.เอ ส.ต.หญิง ทหารรับใช้ อีกด้วย
น้องเอ กล่าวหลังฟังคำพิพากษาว่า “สำหรับผลของคำพิพากษาในครั้งนี้ก็คือผลอันเกิดจากการกระทำของตัวผู้กระทำเองทั้งนั้น ใครทำสิ่งใดไว้ย่อมได้รับผลจากการกระทำอันนั้นเอง คือเรื่องจริงที่สุด”