เซเลบฯ ชวนเช็คอัปสุขภาพแบบองค์รวม ในงานเปิดสาขาใหม่ W Ploenchit Wellness Center ใจกลางเมือง
เพราะไลฟ์สไตล์การทำงานและใช้ชีวิตของคนเมืองในแต่ละวันล้วนส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นต้นเหตุของการเกิดโรคต่างๆ ดังนั้นการดูแลร่างกายให้เกิดความสมดุล เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยป้องกันก่อนเกิดโรค W9 Wellness Center (ดับเบิลยูไนน์ เวลเนส เซ็นเตอร์) เปิดสาขาใหม่ใจกลางเมือง W Ploenchit Wellness Center คลินิกดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและฟื้นฟูความเสื่อม โดยจัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางเหล่าเซเลบริตี้สายเฮลตี้ อาทิ ดวงกมล เพ็ชร์เลิศ, อุรภา สุทธิพงษ์ชัย, พรทิพย์ โล่ห์รัตนเสน่ห์, กรณ์ ณรงค์เดช, ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์, อัครรัฐ วรรณรัตน์, เจนจิรา พรประภา พร้อมด้วยนักแสดงสาว เปรมินทร์ ทับแก้ว มาร่วมงาน โดยมี ณัฏฐ์พงษ์ ปัญจวรญาณ ผู้ร่วมก่อตั้งฯและ นพ.พิจักษณ์ วงศ์วิศิษฎ์ แพทย์ผู้อำนวยการฯ ให้การต้อนรับ ณ ชั้น G อาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์ สุขุมวิท เมื่อวันอังคารที่ 5 มีนาคม 2567
ณัฏฐ์พงษ์ ปัญจวรญาณ ผู้ร่วมก่อตั้ง ดับเบิลยู เพลินจิต เวลเนส เซ็นเตอร์ กล่าวว่า W Ploenchit Wellness Center เป็นคลินิกดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและฟื้นฟูความเสื่อม ในคอนเซปท์ “Fountain of Youth” น้ำพุแห่งความเยาว์วัย ที่ดูแลด้วยโปรแกรมเฉพาะบุคคล ร่วมกับบริการที่ดูแลสุขภาพจากภายใน เพื่อสร้างสมดุลให้กับร่างกายด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ภายในบรรยากาศรีแลกซ์และเป็นส่วนตัว พร้อมเพิ่มบริการรักษาโรคออฟฟิศ ซินโดรม โรคยอดฮิตของวัยทำงาน ด้วยโปรแกรม PMS (Peripheral Magnetic Stimulation) นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมอื่นๆ ที่ได้รับความนิยม เช่น โปรแกรมปรับสมดุลสุขภาพจากภายในสู่ภายนอกอื่นๆ ด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่คัดสรรมาเพื่อดูแลสุขภาพองค์รวมแบบเฉพาะบุคคล อาทิ โปรแกรม Vitamin IV Drip, การดูแลสมดุลฮอร์โมนแนวธรรมชาติบำบัดแบบไม่ใช้ฮอร์โมน รวมทั้งโปรแกรมปรับสมดุลลำไส้ผ่านการให้โปรไบโอติกส์เฉพาะบุคคล, การตรวจระบบดีทอกซ์และระดับสารพิษ, การวิเคราะห์ระดับสารอาหารและวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล, โปรแกรมรักษามะเร็งทางเลือก ฯลฯ ที่สำคัญเทรนด์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวมกำลังได้รับความสนใจไปทั่วโลก ประกอบกับประเทศไทยเป็น 1 ใน 5 Wellness Destination ของโลก เพราะประเทศไทยมีความพร้อมด้านเวชศาสตร์การป้องกันในทุกด้าน จึงเปิดสาขาใหม่ใจกลางเมือง ณ อาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของวัยทำงานยุคใหม่ ที่หันมาดูแลสุขภาพเชิงป้องกันมากขึ้น
นพ.พิจักษณ์ วงศ์วิศิษฎ์ แพทย์ผู้อำนวยการ W9 Wellness Center กล่าวว่า ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปส่งผลต่อสุขภาพ ประกอบกับเทคโนโลยีทางการแพทย์พัฒนาไปมากทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ช่วยในการวินิฉัยโรค การรักษา รวมถึงการดูแลสุขภาพองค์รวมทั้งร่างกายและจิตใจ โดยมุ่งเน้นที่การป้องกันก่อนการเกิดโรค อาทิ นวัตกรรมการชะลอวัย ช่วยกระตุ้นให้ระบบเผาผลาญทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย โดยการเพิ่มโคเอนไซม์ในร่างกายผ่านวิตามินดริป ซึ่งโคเอนไซม์ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติในร่างกายจะค่อยๆ สูญสลายไปตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น เมื่ออายุ 50 ปี ระดับโคเอนไซม์ในร่างกายจะเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของช่วงที่เราอายุ 20 ปี และเมื่อเราอายุ 80 ปี จะเหลือเพียง 1-10% เท่านั้น ส่งผลต่อระบบเผาผลาญอาหารลดลง ทำให้น้ำหนักเพิ่มมากขึ้นแม้ว่าจะทานอาหารในปริมาณเท่าเดิม มีอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ หลับไม่ลึก ความจำและสมาธิในการทำงานลดน้อยลง ภูมิต้านทานต่ำลงทำให้ป่วยง่าย เกิดอาการแพ้ง่าย รวมทั้งเกิดริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อยอีกด้วย
นอกจากนี้ยังพบว่าอีกหนึ่งโรคยอดฮิตของคนวัยทำงานคือ ออฟฟิศ ซินโดรม ที่เกิดจากพฤติกรรมการทำงานที่นั่งจดจ่ออยู่กับงานและหน้าจอคอมพิวเตอร์จนไม่ได้เปลี่ยนอิริยาบถเป็นเวลานาน จนทำให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ในร่างกายเกร็งและอักเสบในเวลาต่อมา โดยอาการจะเริ่มจากการปวดกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน ปวดหัวเรื้อรัง ตาล้าพร่ามัว มือชา นิ้วล็อก และปวดข้อมือ ซึ่งหากปล่อยให้เกิดอาการปวดแบบเรื้อรัง อาจจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท กระดูกสันหลังคด และแขนขาอ่อนแรง ดังนั้นทางคลินิกจึงเพิ่มบริการนวัตกรรมการกระตุ้นระบบประสาทส่วนปลายด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Peripheral Magnetic Stimulation (PMS)) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษา โดยกระตุ้นลงลึกไปที่กล้ามเนื้อบริเวณที่ปวดโดยตรงทำให้เกิดการหดและคลายสลับกันไป จึงช่วยกระตุ้นและเพิ่มการไหลเวียนโลหิตบริเวณนั้นๆ ร่วมกับให้คำแนะนำเพื่อปรับการใช้ชีวิต (Lifestyle Modification) ที่เป็นวิธีการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ด้วยองค์ความรู้ในเชิง Wellness ทั้งการใช้อาหารเป็นยา การกินให้ถูกหลัก การนอนและพักผ่อนให้เพียงพอ การควบคุมความเครียด และการปรับสมดุลชีวิตในด้านต่างๆ เพื่อสร้างสุขภาพดีอย่างยั่งยืน
“การดูแลสุขภาพเชิงป้องกันแบบรายบุคคลได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วง 5 ปีมานี้ เนื่องจากทุกคนตระหนักว่า หากปล่อยให้เกิดอาการเจ็บป่วย จะส่งผลต่อการใช้ชีวิต คนรอบข้าง รวมถึงการต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง ซึ่งจากสถิติโรคเรื้อรังยอดฮิตของคนไทย ได้แก่ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไต โรคความดันโลหิตสูง รวมถึงโรคอ้วนซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคอื่นๆ อีกมากมาย โดยสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ นี้ มาจากพันธุกรรม และไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล อาทิ โรคอ้วนลงพุง Metabolic syndrome การเผาผลาญอาหารที่ผิดปกติ ทำให้คนอ้วนลงพุงมีการสะสมไขมันบริเวณช่องเอว หรือช่องท้องปริมาณมากเกินไป ทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง รวมถึงโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งส่งผลเสียต่อร่างกายหลายระบบโดยสังเกตุจากรอบเอวมากกว่าหรือเท่ากับ 80 เซนติเมตรในผู้หญิง และมากกว่าหรือเท่ากับ 90 เซนติเมตรในผู้ชาย ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต ประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารที่มีพลังงานสูง กินหวาน มัน เค็ม หรือการใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย ขาดการออกกำลังกาย ซึ่งสามารถรักษาได้ด้วยการปรับสมดุลลำไส้ด้วยโพรไบโอติกส์เฉพาะบุคคล เนื่องจากจุลินทรีย์ในร่างกายแต่ละคนแตกต่างกัน ดังนั้นการเสริมโพรไบโอติกส์ให้ตรงกับร่างกายตัวเอง (Personalized Probiotics) รวมถึงสัดส่วนที่ควรบริโภคในแต่ละบุคคลจึงเป็นสิ่งสำคัญในการที่ปรับสมดุลลำไส้”
กรณ์ ณรงค์เดช นักธุรกิจหมื่นล้านแห่ง เคพีเอ็น เผยว่า ผมเป็นทั้ง Business man และ Family man ที่ดูแลธุรกิจและดูแลครอบครัวในเวลาเดียวกัน ดังนั้นไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในทุกๆ วันคือ การสร้าง Work Life Balance พร้อมๆ กับการดูแลตัวเองด้วยการ พยายามบังคับตัวเองให้ออกกำลังกาย ผมเชื่อมาตลอดว่าร่างกายก็เหมือนรถยนต์ คือถ้าเราหมั่นดูแลตรวจเช็คเครื่องยนต์ ก่อนที่จะรอให้เสียแล้วค่อยซ่อม ย่อมจะง่ายกว่า เช่นเดียวกับร่างกายที่มีร่างกายเดียวเวลาเสียมันก็จะซ่อมยาก ตารางชีวิตผมในวันธรรมดาเริ่มที่ตื่นนอน 7 โมงไปส่งลูกไปโรงเรียน ต่อด้วยไปออฟฟิศ วันไหนไม่มีนัดดินเนอร์ตอนเย็นก็จะกลับมาว่ายน้ำ 30 นาที ส่วนยิมจะเข้าไปเล่นทุกเสาร์-อาทิตย์ ประมาณ 1ชั่วโมง นอกจากนี้ก็เน้นการนอนเยอะๆ ส่วนตัวผมเป็นคนกินน้ำเยอะอยู่แล้ว ตรวจสุขภาพทุกปี ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ มีบางช่วงที่ทำงานหนัก ร่างกายเหนื่อยล้าดูแลร่างกายด้วยการดริปวิตามินทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้นมาก ส่วนเรื่องอาหารจะเลือกทานอย่างระวัง เพราะผมของหวาน ของทอด ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพ ก็จะทานเท่าที่จำเป็น เพราะผมเชื่อในเรื่องการลงทุนกับสุขภาพว่ามีความคุ้มค่ามากและสำคัญจริง ๆ จะได้มีอายุที่ยืนยาวและอยู่อย่างมีความสุข การมีสุขภาพที่ดีมันก็ทำให้ชีวิตดี อย่างที่สมัยโบราณว่าการไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
สนใจการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมเพื่อการป้องกันก่อนเกิดโรค รับคำปรึกษาได้ที่ W Ploenchit Wellness Center คลินิกดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและฟื้นฟูความเสื่อม ด้วยมาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาล