เพื่อนเล่าความเหี้ยม “ทอย” ใช้เท้าเหยียบหัว “นุ่น” 10 กว่าครั้ง! จิกตบต่อหน้า

เคยแจ้งความแต่ถอนเพราะรัก อัดตอแหx สร้างภาพเก่ง “พล.ต.ต.วิชัย” ลั่นเป็นลูกผมเอามันตาย ยอมติดคุก!

กรณี “นายศิริชัย รักทอง” หรือ “ทอย” อายุ 33 ปี ก่อเหตุสะเทือนขวัญ ฆ่าเผาอำพราง “น.ส.ชลลดา มุธุวงศ์” หรือ “นุ่น” อายุ 27 ปี ภรรยาสาว ล่าสุดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้ง 2 ข้อหาหนัก ฆ่าคนตายโดยเจตนา และอำพรางศพ พบเคยมีประวัติทำร้ายน้องนุ่นที่หน้าลิฟท์ เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา

รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 21 ก.พ. 67 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล , บิว พลเมืองดีเห็นเหตุการณ์และไปตามกล้องวงจรปิด จนเรื่องแดงออกมา รองศาสตราจารย์ พันตำรวจโท ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดีและประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาฯ ม.รังสิต, แดน คนที่รู้จักทอยกับนุ่น ที่สำคัญรู้จักกับทอยเป็นอย่างดี ครั้งนึงเคยทำงานด้วยกัน เคยเตือนทอยต่างๆ นานา

ตอนแรกทอยแจ้งว่าเมียหาย เขาคือบุคคลต้องสงสัยตั้งแต่แรกมั้ย?

พล.ต.ต.วิชัย : คดีอย่างนี้เวลาเกิดเหตุ เคยพูดแล้วว่าเวลาตร.สืบสวนสอบสวน เขาจะไปดูก่อนว่าเหตุเกิดอย่างไร การที่คนไปแจ้งภรรยาหาย ต้องถามก่อนว่าหายยังไง มีพฤติกรรมยังไง มันน่าหายมั้ย การที่เขาพูดเหมือนน่าจะเป็นไปได้ เพราะทะเลาะกันแล้วเมียหนีไป หาไม่เจอ ตอนนั้นก็ยังไม่เห็นศพ คนก็น่าเชื่อถือได้ตามคำพูดนั้น  แต่พอเขาเอาพฤติกรรมความสงสัยมา มันไม่น่าเป็นไปได้ คู่นี้ตีกันประจำ ทะเลาะกันประจำ น่าจะมีเหตุลึกซึ้งมากกว่านี้ ตร.ก็เลยทำการสืบสวน จะสืบสวนจากพ่อแม่ เพื่อนฝูง ดูแชตไลน์ หลักฐานต่าง ๆ จนประมวลแล้วว่าสิ่งที่เขาพูดไม่น่าเป็นความจริง ต้องดูหลักฐานขณะเกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุทำอะไรบ้าง ไล่ไทม์ไลน์ดูเวลา จนพบกล้องวงจรปิดก็สามารถเปิดเผยพฤติกรรมที่เขาโกหกหลอกลวงตั้งแต่ต้นได้ เวลาแจ้งความมันก็จะเป็นพิรุธ คนร้ายเวลากระทำความผิดต้องหาพยานหลักฐานให้ตัวเองรอดให้มากที่สุด สร้างหลักฐานให้มากที่สุด แต่หลักฐานที่สร้างจะไปขัดกับข้อเท็จจริง ทำให้เป็นพิรุธ ทำให้ตร.สืบสวนหาตัวคนร้ายได้

อ.โต้งมองเหมือนกันมั้ย?

อาจารย์โต้ง : หลังแจ้งความ ตร.ต้องสอบปากคำ หายที่ไหน เมื่อไหร่อย่างไร เรื่องนี้มีข้อสงสัยอยู่ด้วยกัน ผู้หญิงลงจากรถแล้วหายไปเลย น่าสนใจตรงที่ช่วงเวลานั้นทำไมไม่คิดจะตาม หรือตามแล้วตามอย่างไร ช่วงแรกตร.ยังไม่พบศพ ยังไม่สามารถยืนยันการเสียชีวิตได้ แต่แน่นอนคิดว่าตร.มีการตั้งคำถามอยู่ก่อนแล้วแต่อย่างไรก็ตาม คนกระทำความผิด ถึงพูดกลับไปกลับมาก็จะมีข้อพิรุธ ยิ่งพยายามสร้างพยานหลักฐานก็ยิ่งทำให้พิรุธยิ่งปรากฏขึ้นอีก การทำงานของตร.ปัจจุบันก็เรียนรู้จากคดีที่ผ่านมาหลาย ๆ คดี ก็จะมีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น

พล.ต.ต.วิชัย : เทคโนโลยีต่าง ๆ สามารถจับพิรุธของทอยได้ เพราะคุณพูดตรงนั้น แต่เบสหรือการใช้โทรศัพท์ จีพีเอสต่าง ๆ ขัดกับที่เขาพูด สามารถรู้เลยว่าที่คุณให้การครั้งแรกนี่โกหก

บิว เป็นพลเมืองดี?

บิว : โดนด่าเยอะเหมือนกัน ว่าทำไมไม่ช่วย แต่คนไม่เข้าใจว่าตอนที่ผมเห็นคือตอนเป็นศพแล้ว ผมไม่ได้เห็นตอนกระโดดถีบหรือเตะ ถ้าเห็นแบบนั้นใครจะไม่ช่วย

เหตุการณ์วันนั้นเป็นยังไง?

บิว : ผมขับรถส่งคนเมา เรียกตามแอปฯ มีไปส่งลูกค้าตามบ้าน ไปขับรถให้เขา ผมส่งเขาแถว ๆ แจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด แถวที่เกิดเหตุ เราเอารถคืนบริษัทแล้วก็เดินกลับ เพื่อหาจุดสว่าง มีคนเยอะ ๆ เพื่อความปลอดภัย ระหว่างที่เดิน เส้นแจ้งวัฒนะปากเกร็ดมีการคืนพื้นที่ มันจะมืดหมด มองไม่เห็น ปกติสว่าง แต่วันนั้นมองเห็นแค่ไฟกะพริบขึ้นทางด่วนเฉย ๆ ผมเดินไปได้ยินเสียงเหมือนฟาดดัง ๆ ก็ตกใจใครมาทำอะไรตรงนี้ ตอนแรกคิดว่าเขาไม่เห็นผมนะ แต่พอมานั่งวิเคราะห์อีกที คิดว่าเขาคงเห็นว่ามีคนเดินผ่าน เขาก็เลยเบาลง ตอนนั้นเขาอุ้มลูกนะครับ แล้วเหมือนผู้ชายตบคนให้ตื่นจากการเมา ผมเจอคนเมาเป็นปกติอยู่แล้ว ก็คิดว่าผู้หญิงเมา สามีตบให้ตื่น

แต่ไม่เห็นตอนเขากระทืบ ตบ เตะ?

บิว : ไม่เห็นเลย เราเข้าใจว่าคนปลุกคนเมาให้ตื่น เราก็คิดในใจว่าเออดีนะ ผัวมาปลุกเมียให้ตื่นให้สร่าง เพราะมันมืดมาก ผมไม่เห็นเลือดไม่เห็นอะไร ผมเห็นแค่นั้น ผมก็เดินเข้าเซเว่น ต่อมางานก็เข้ามาในระบบ ผมก็โฟกัสที่งานแล้ว ไม่ได้สนใจต่อ

มันเตะเสยใบหน้า แล้วกระทืบที่หน้า ผู้หญิงนอนกองกับพื้น เอาหินทุบหัว ถ้ามีคนเห็น ไม่ว่าใครก็ต้องช่วยแล้ว?

พล.ต.ต.วิชัย : ถ้าเป็นลูกผม ผมเอาตาย ยอมติดคุก

 คุณเดินไปดูมั้ย?

บิว : เหมือนสะกิดคนเมาให้ตื่น พอมานั่งคิดวิเคราะห์อีกที ผมคิดว่าเขาน่าจะเห็นผม เขาเลยเบาการกระทำลง ผมไม่เห็นแต่ต้น ผมเห็นตอนท้าย แล้วเขาหยิบหินมาทุบอะไรอีก ผมไม่เห็นเหตุการณ์อีกแล้ว

ตอนคุณเดินผ่านไป เขาไม่ได้ทำอะไร?

บิว : ใช่ ให้เราเข้าใจว่าเหมือนคนเมา เรียกคนเมาให้ตื่น ตอนนั้นพอผมคล้อยหลังไป เขาก็คงจัดการต่อ ผมไม่ได้ตามเหตุการณ์ต่อ เพราะเข้าใจว่าผัวปลุกคนเมาปกติ 

พล.ต.ต.วิชัย : ได้ยินเสียงคนร้องมั้ย

บิว : ไม่ เข้าใจว่าตอนนั้นเขาเมา จนไปติดตามเพื่อนเขา บอกว่าเพื่อนเขาดื่มไปนิดเดียว ไม่ได้เมา น่าจะสลบอยู่

ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ร้านอาหาร ไอ้ทอยเดินไม่รอ มันผิดวิสัยคนมากับลูกกับเมีย ต้องเดินด้วยกัน ไอ้ทอยก็โยนของ ดูภาษากายมันนะ มันเดินขึ้นรถ นุ่นพยายามคุยกับเพื่อน แต่ไอ้ทอยไม่สนแล้ว ขึ้นรถแล้ว นุ่นขึ้นรถแล้วขับออกไป ดูแล้วน่าจะมีปัญหากันมาก่อนมั้ย?

อาจารย์โต้ง : ก็มีความเป็นไปได้ แต่มีเพื่อนร่วมโต๊ะอยู่ด้วย น่าจะรู้ดี

พล.ต.ต.วิชัย : น่าจะมีปากเสียงกัน

ตอนหลังบิวรู้ข่าว ทำยังไงต่อ?

บิว : ก็ติดต่อคนที่บอกว่าเพื่อนหาย พอดีผมมาดูข่าว แล้วเขาสงสัยช่วงไทม์ไลน์ที่หายไป ช่วงตีหนึ่งครึ่งถึงตีสาม หายไปอยู่ที่ไหน เพราะเพื่อนน้องนุ่นคุยกับนุ่น 01.27 น. แสดงว่าช่วงหลังจากนั้น 4 นาที คือหายไปเลย ผมเจอเขาตอนตี 2 ก็กลายเป็นว่า ถ้าผมอยากช่วยหรือบอกได้ ผมเจอคนนี้ในช่วงตี 2 ในไทม์ไลน์นั้นที่นักข่าวอีกช่องเขาสงสัยว่าหายไปไหน เพราะผู้ชายให้การว่าเขาไปกินข้าวกันตรงเส้นเลียบคลองประปา แต่ผมเห็นคือถนนแจ้งวัฒนะปากเกร็ด มันไม่ใช่แล้ว เราก็ไม่ได้นะ ผมเจอรถคันนี้ ผู้ชายอุ้มลูก บีเอ็มสีขาว ใช่เลยแน่ ๆ แต่เขาบอกเพื่อนน้องนุ่นว่าไปกินข้าวกันต่อ

คุณทำยังไง หลังได้ยินเรื่องนี้?

บิว : ผมก็ติดต่อเพื่อนเขาไปเลย เพื่อนบอกว่าไม่ใช่นะพี่ แน่ใจเหรอว่าเป็นคนนี้ ผมก็บอกว่าแน่ใจสิ ให้พาไปชี้จุดก็ได้ให้คุณแม่ติดต่อมาก็ได้ ให้พี่ไปโรงพักก็ได้ เพื่อให้ปากคำเพิ่ม ว่าสิ่งที่ผู้ชายพูดในข่าวไม่เป็นความจริงนะ

นี่คือคีย์นะ?

พล.ต.ต.วิชัย : เดี๋ยวตร.ต้องเรียกไปสอบ เพราะน้องเป็นประจักษ์พยานสำคัญเห็นตอนกระทำ น้องอาจเห็นลักษณะอย่างนี้ แต่เมื่อคดีสืบสวนสอบสวนจนปรากฏแล้ว มันเป็นการทุบ ถือว่าเป็นประจักษ์พยานสำคัญ น้องให้การอย่างดีเลย บวกกับกล้องวงจรปิดที่เห็น น้องเป็นพยานสำคัญ

นี่คือคีย์ เพราะตอนแรกมืดแปดด้าน ไอ้ทอยบอกตร.ว่านุ่นโดดหนีลงไปจากรถ แล้วผมมีลูกอยู่ในรถ ผมพยายามไปตาม แต่ตามไม่ได้จริง ๆ มีเด็กอยู่ในรถ นุ่นกลับมาเถอะ เขาประกาศแบบนี้ กลับมาหาลูกเถอะ แต่บอกกับทางฝั่งเพื่อนว่าไปกินข้าวแถว ๆ เลียบคลองประปา  แต่คุณบิวบอกว่าไม่ใช่ เจอที่แจ้งวัฒนะ?

บิว : ผมก็บอกว่าผมเป็นพยานให้ได้นะ ถ้าคุณหาช่วงเวลาไม่เจอ อย่างน้อยเราไม่เห็นคลิปก่อนหน้านั้นนะ ผมก็พยายามหาในเพจ และแสดงตัวว่าผมเป็นคนเห็น

คุณดีมาก ทำไมคนไปด่าคุณ ไม่เข้าใจ?

บิว : เขาคงเข้าใจผิดครับ

พล.ต.ต.วิชัย : เขาคงคิดว่าน้องเห็นเหตุการณ์ตลอด แล้วไม่ช่วย จริง ๆ น้องเห็นเฉพาะช่วงตรงนั้น เขาก็เอาตรงนั้นมาบอกสื่อหรือพ่อแม่ว่าเขาเห็นตรงนี้ ซึ่งเป็นประจักษ์พยานสำคัญมาก น้องทำความดีด้วย

บิวจะไม่ปรากฏตัวก็ได้ จะไม่ติดต่อญาติผู้ตายก็ได้ ไม่ติดต่อเพื่อนก็ได้ เพราะเขาเดินผ่านแล้วหายไป ไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร แต่พอเขาเห็นแล้เขารู้สึกว่าไม่ได้ นี่คือความถูกต้อง เขาจำเป็นต้องพยายามตามหาเพื่อนตามหาครอบครัวผู้หญิงเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่เห็นไม่ได้เป็นไปตามข่าวเลย แล้วก็ตามเจอ จากนั้นคุณไปแจ้งใช่มั้ย?

บิว : พอผมติดต่อเพื่อนเขา เพื่อนเขาก็ตั้งกลุ่มในเฟซขึ้นมา แล้วให้คุยว่าผมอยู่ตรงไหน ก็เลยนัดคุณแม่ไปที่สถานีปากเกร็ดตีสาม เพราะผมเสร็จงานประมาณตีสองครึ่งหรือตีสาม คุณแม่ก็ไปแจ้งความคนหาย ไปเห็นหน้าแม่เขา ก็อดสงสารไม่ได้ คนเรากำลังเดือดร้อน ก็พาเขาไปแจ้งความ

พล.ต.ต.วิชัย : ถ้าสังคมด่า ต่อไปไม่มีใครทำความดี

บิว : ผมก็บอกว่าผมเจอเขาตรงจุดนี้นะ พรุ่งนี้แม่มาติดต่อร้านที่ได้กล้องมา แม่ก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง เข้าใจครับว่าเป็นชาวบ้าน ก็อดสงสารไม่ได้อีก แยกจากคุณแม่ประมาณ 6 โมงครึ่ง 11 โมงก็มาเจอคุณแม่อีกที มาที่ร้านเพื่อดูกล้อง

เหตุการณ์สด ๆ จุดที่สี่ ที่ปราจีนบุรี สวนยางที่ไอ้ทอยเอาศพนุ่น ภรรยา ใส่กระเป๋าไป ซื้อน้ำมันไปสองแกลลอน พันกว่าบาท เอาไปเผาจุดนี้ ตร.พาไปทำแผนรับสารภาพเป็นจุดที่สี่ จุดแรกคือที่บ้าน จุดที่สองบริเวณปั๊มน้ำมัน อีกจุดเป็นถนนแจ้งวัฒนะ จุดนี้จุดที่สี่ ถามว่าทำไมทอยต้องเอาศพไปทิ้งจุดนั้น ทอยเองรับสารภาพกับตร.ว่ามันคุ้นเคยเส้นทางนี้ เวลาพานุ่นไปปอยเปตก็เป็นเส้นทางนี้?

พล.ต.ต.วิชัย : พฤติกรรมเขารู้อยู่แล้ว ให้คนสันนิษฐานว่าน้องนุ่นหนีไปทางปอยเปต ไอ้ทอยคนนี้ฉลาด ใช้เส้นทางเดิมที่น้องนุ่นใช้เป็นประจำ เพื่อให้คนสงสัยว่าน้องนุ่นหนีข้ามไปฝั่งโน้นแล้ว

อาจารย์วิเคราะห์ภาษากายยังไง?

อาจารย์โต้ง : ผู้ชายคนนี้ไม่ได้รักน้องนุ่น เรียกว่าความเห็นแก่ตัว ที่ปัจจุบันคบกันอยู่ต้องดูว่าน้องมีประโยชน์อะไรกับผู้ชายคนนี้มั้ย คนรักกันไม่ทำร้ายแบบนี้ ภาษากายที่เกิดขึ้น จากร้านอาหาร น้องเขาเดินอุ้มลูกมา ไม่ได้แสดงอาการเมานะ เรายังพิสูจน์ไม่ได้ แต่ภาพที่เห็น การที่คุณแม่อุ้มลูกคนนึงแล้วเดินปกติ ไม่แสดงอาการเซ ก็สะท้อนให้เห็นว่าช่วงที่ถูกทำร้ายร่างกายเขาไม่ได้เมานะที่เซ แต่เป็นเพราะสติไปแล้ว พยายามหลบหนีโดยสัญชาตญาณมนุษย์ เขาถูกทำร้าย ถูกทุบตี กรณีนี้ผู้ก่อเหตุมีความโหดเหี้ยม ผู้ชายเท่าที่ทราบเขามีอารมณ์ฉุนเฉียว เอาอารมณ์ตนเองเป็นใหญ่ แบบนี้เรียกว่าพฤติกรรมต่อต้านสังคม ไม่ใช่คนไข้วิกลจริต หรือจิตเวช ต้องให้จิตแพทย์ประเมินอีกครั้งนึง ก็เป็นที่มาเวลาไม่พอใจก็ทำร้ายร่างกาย ลักษณะแบบนี้คือความรุนแรงในครอบครัว เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในบ้านเรา ข้อมูลจากสหประชาชาติ เมืองไทยมีปัญหาความรุนแรงภายในครอบครัวติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก และยังไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหานี้คนอยู่ภายนอกครอบครัว เพื่อนบ้าน คนใกล้ชิด ญาติสนิท ถ้ารับทราบปัญหาเหล่านี้ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ เพื่อเข้าไปตัดวงจรปัญหาก่อนลุกลามบานปลายแล้วนำไปสู่การฆาตกรรมแบบนี้

ดูในคลิปเหมือนเขาโมโห แต่พยานบอกว่าในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นวันเกิด เขาไม่ได้มีการทะเลาะกันนะ อาจารย์มองยังไง?

อาจารย์โต้ง : เศร้าใจครับ เพราะเป็นบรรยากาศที่มีความสุข คุณพ่อ คุณแม่ ลูก เพื่อนมาสังสรรค์ ไม่น่าเชื่อว่าจะไปจบเหตุด้วยการฆาตกรรม ที่สำคัญผู้ก่อเหตุพยายามอำพรางทำลายศพด้วยการเผาด้วย

พล.ต.ต.วิชัย : คิดว่าน้องนุ่นคงรู้ว่าทำอะไรไม่พอใจนิดนึง ไม่ต้องด่าทอหรอก เพียงแต่ขัดใจนิดนึงคนนี้ก็โกรธแล้ว ก็อาจเป็นพฤติกรรมที่ทำให้เขาเดินเร็วแบบที่เห็นก็ได้ ตอนขึ้นรถเขาดุให้รีบขึ้นรถหรือเปล่า

แดน ถ้าเกิดพฤติกรรมแบบนี้ ในฐานะสนิทกับทอย นี่น่าจะมีเรื่องกันมั้ย?

ทอย : อาจไม่พอใจน้องสักอย่างแล้วเดิน เห็นเมื่อกี้แล้วมันแย่มาก (ร้องไห้) น้องจะรู้เลยว่าถ้าไอ้ทอยถ้าไม่เอาใจ น้องจะไม่โต้ตอบอะไร แต่การไม่โต้ตอบจะยิ่งทำให้ไอ้ทอยมีอารมณ์

ถ้าน้องเฉย น้องนิ่ง มันยิ่งเอาใหญ่เหรอ?

แดน : เฉยก็เอา ไม่เฉยก็เอา เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อย แทบเป็นทุกครั้งที่มีการดื่มด้วยกัน แต่เขาไม่ทำต่อหน้าคนอื่น เขาจะไปลงมือกับเมียเขา

สิ่งที่ทอยทำ ผมมีการอ่านข่าวทอย แล้วปรากฏว่าข้อมูลที่ทอยให้ข้อมูลตร.คือเขาบอกว่าเขาแค้นสะสมมานาน บอกแม่อย่างนั้นด้วย ว่าแค้นสะสมมานาน จริง ๆ แล้วเวลามีการพูดคุย ทะเลาะกัน ทอยจะตามง้อตลอด เพราะฝั่งนุ่นเองมองเขาไม่เคยเป็นคนดี มองว่าทอยไม่ดีสักอย่าง เขาก็เลยโกรธ เก็บสะสมมานาน ไม่ว่าทอยจะทำดีแค่ไหน นุ่นก็รู้สึกว่าทอยไม่ดี แล้วจะขี้งอน เขาบอกเขาเก็บกด ชอบชวนเขาทะเลาะเรื่องซ้ำ ๆ เดิม ๆ ทำให้เขาโมโหสะสม เก็บกด จนเกิดทำให้เป็นแบบนี้ แบบนี้เหมือนโทษคนตายมั้ย?

อาจารย์.โต้ง : คนตายพูดไม่ได้ ผู้ก่อเหตุจะให้การซัดทอดยังไงก็ได้ ผมว่าต้องแยกกันระหว่างความแค้นกับความรัก ถ้าคุณแค้นเขา หมดรักแล้ว ก็ให้เขาไปเถอะ อย่าไปฆ่าเลย ไม่ใช่หาเหตุผลในการฆ่า นี่ไม่ใช่ความรัก การที่เขาพูดแบบนี้ยิ่งชัดเจนว่าเขาหมดรัก แล้วทำไมถึงยังคบผู้หญิงคนนี้อยู่ ผมเชื่อว่าน้องอาจสามารถมีรายได้มีอะไรจุนเจือครอบครัวได้ ผู้ชายเลยมองว่าน้องมีความจำเป็นอยู่ที่ไม่ควรเลิก นี่เป็นข้อสันนิษฐาน นี่ก็เป็นอุทาหรณ์เวลาผู้หญิงจะคบกับใคร โดยเฉพาะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งจะเลือกใครเป็นคู่ชีวิต ต้องตัดสินใจให้ดี มิฉะนั้นแล้วเรารู้หน้าไม่รู้ใจ หน้าขาว ๆ แบบนี้ ไม่คิดว่าจะฆาตกรรมอำพรางศพนะ เชื่อว่าผู้ชมดูคลิปแล้วก็คงสะเทือนใจเช่นกัน

มุมฆ่าถือว่าโหดเหี้ยมมั้ย?

อาจารย์โต้ง : ทำร้ายร่างกายผู้หญิงก็โหดแล้วนะครับ จากคลิปก็พบว่ามีการใช้หินไปทุบทำร้ายเขา เท่าที่ทราบพาขึ้นรถด้วย พาไปที่บ้าน จากนั้นพาไปต่อเพื่ออำพรางศพด้วยการเผา วิธีคิดแบบเป็นขั้นเป็นตอน ก็จะมีคำถามว่าคนนี้มีความผิดปกติทางจิตหรือไม่

ออกจากร้าน 01.04 น. นุ่นกับทอยเดินออกมา ไปถึงรถ 01.09 น. ทอยเดินแน่บมาเลย ไม่สนใจลูกเมีย มุมนึงก็ผิดวิสัยไปนิดนึงเหมือนกันนะ หลังจากนั้นพอเขาขึ้นรถกันเรียบร้อยก็ไปตรงจุดทำร้ายร่างกายกัน?

พล.ต.ต.วิชัย : เหมือนนุ่นไม่อยากขึ้นรถเหมือนกันนะ

จากร้านเลียบทางด่วน ขับมาแจ้งวัฒนะปากเกร็ด ทำร้ายร่างกาย ทั้งเตะทั้งกระทืบหัว ทั้งเตะหน้า ถ้าเป็นลูกสาวพี่แต้ม?

พล.ต.ต.วิชัย : ผมฆ่าตาย ยอมติดคุก นี่ไม่ใช่ตบตีแบบสั่งสอน ใช้ความรุนแรงมาก พฤติกรรมแบบนี้ต้องแยกกันนะ ความรักกับการกระทำ ผู้หญิงอาจหึงหวงได้เพราะรัก แต่คุณเอาความหึงหวงเป็นจุดทำร้ายผู้หญิง มันไม่ถูกต้อง มันเป็นโรคชนิดหนึ่งผมว่า

หลังจากนี้นายทอยพาภรรยาขึ้นรถพากลับบ้าน ตอนนั้นผู้ตายเองไม่ได้เสียชีวิตนะ ตอนที่เอาขึ้นไป แต่ไปตายที่บ้าน ต้องเจ็บหนักเพราะกระทืบหัว เอาหินตีหัว ภาพวงจรปิด มีเสียงไอ้ทอยตะโกนเสียงดังด่าทอออกมา เสียงเด็กร้องไห้ เชื่อว่ามันกำลังทำนุ่นเสียชีวิต?

พล.ต.ต.วิชัย : คงตีไป ด่าไป

อาจารย์มองว่าเตรียมการมั้ย?

อาจารย์โต้ง : ความเป็นมนุษย์กับความเป็นสัตว์ มันต่างกันตรงนี้แหละคุณหนุ่ม เพราะคุณไม่ใช่คนแล้ว คุณทำร้ายแม้กระทั่งผู้หญิง เขาหมดทางสู้แล้วแต่คุณยังทำร้ายจนเขาเสียชีวิต แล้วเขาเป็นคนที่มีลูกด้วยกัน ผมว่านี่เกินกว่าสังคมจะรับได้

ต่อสายหาเฟิร์น อยู่ในร้านวันเกิดเหตุ เป็นวันเกิดของทอย?

เฟิร์น : เป็นวันเกิดของทอย สามีนุ่นค่ะ ซึ่งนุ่นเป็นเพื่อน

วันนั้นมีอะไรผิดปกติมั้ย?

เฟิร์น : ไม่เลยค่ะ ทุกคนแฮปปี้ดี ไม่มีทะเลาะหรือมีปากเสียงอะไรกันเลย

เฟิร์นเดินไปส่งที่รถหรือเปล่า?

เฟิร์น : พอกินเลี้ยงเสร็จ ร้านปิด เฟิร์นเข้าห้องน้ำ นุ่นกับสามีแล้วก็ลูกยืนรอเฟิร์นที่เข้าห้องน้ำ เฟิร์นออกมาทุกคนก็บ๊ายบายกันหน้าร้าน แยกย้ายกันขึ้นรถใครรถมัน

มีผู้หญิงเดินตามนุ่นไป เป็นเฟิร์นหรือเปล่า?

เฟิร์น :   น่าจะเป็นเฟิร์นหรือเปล่า เฟิร์นก็จำไม่ค่อยได้ เหมือนเดินโบกมือลากัน ที่ลานจอดรถ

ทอยเดินนำหน้าไปลิ่วเลย?

เฟิร์น :   ประมาณนั้นค่ะ

นุ่นกับทอยมีปัญหากันบ่อยมั้ย?

เฟิร์น : เฟิร์นเคยเห็นเมื่ออดีตที่ผ่านมา และเคยได้ยินเพื่อน ๆ เล่า ว่าเขามีทำร้ายร่างกายกันบ้าง ที่เฟิร์นเห็นกับตา มีวันนึงเพื่อนโทรมาบอกว่าคิดถึงให้มาหาที่คอนโด เฟิร์นก็คิดว่าเพื่อนคิดถึงเราก็ไปหาที่คอนโด แล้วเจอเขาทะเลาะกัน เพื่อนหนูนอนลงกับพื้น เขาใช้เท้าเหยียบหน้าไปมากกว่า 10 ครั้ง หนูก็ช็อก เหมือนเพื่อนรู้ว่าทะเลาะกัน อยากให้เพื่อนไปห้ามหรือเปล่า แต่เขาพูดไม่ได้ เลยบอกว่าให้เราไปหาหน่อย พอไปถึงก็เห็นเขาเอาเท้าเหยียบหน้า หนูก็ทำอะไรไม่ถูก ช็อก ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ตัวแข็งเลย เพื่อนบอกช่วยด้วย หนูได้สติก็เข้าไปห้าม แต่เขาเป็นแรงผู้ชาย ห้ามไม่ได้ เขาก็ใช้มือบีบคอนุ่นจนเหมือนเพื่อนอ่อนแรง หายใจไม่ออก หนูเลยบอกว่าหยุดได้แล้ว พี่ทอย เพื่อนจะตายแล้ว จนเขาสะดุ้งแล้วหยุดทำไป

เขาทะเลาะอะไรกัน?

เฟิร์น : ไม่ทราบเลยค่ะ ไปถึงเขาก็ทำร้ายร่างกายกันแล้ว หนูก็งง ช็อกเลย นุ่นไม่เคยเล่าให้เราฟังเลย

รู้จักนุ่นมานานแค่ไหน?

เฟิร์น : เป็นเพื่อนของเพื่อนอีกที รู้จักมา 4 ปีได้แล้ว

มีนุ่นสองนุ่น นุ่น ผู้ตาย เป็นเพื่อนกับนุ่นนี้ นุ่นนี้เป็นเพื่อนกับหนู นุ่นจะรู้เรื่องทั้งหมด?

เฟิร์น : ใช่ค่ะ เขาสนิทกันมากกว่าเฟิร์น

ยืนยันในร้านไม่มีเหตุรุนแรง?

เฟิร์น : ใช่ค่ะ ปกติดี

เพื่อน ๆ เคยบอกผู้ตายมั้ยว่าผัวไม่เวิร์ก ไม่ดี ผัวเหี้..มาก เคยบอกมั้ย?

เฟิร์น : พูดทุกคน ไม่มีใครชอบแฟนของเขา ผู้ชายคนนึงที่ทำร้ายร่างกายผู้หญิงตัวเล็กมาก ทำได้ไง

รู้อยู่แล้วว่าผัวคนนี้ไม่ดี แต่นุ่นเขารัก?

เฟิร์น : ใช่ค่ะ ก็พูดอะไรมากไม่ได้

พล.ต.ต.วิชัย : มีคดีทำร้ายภรรยา ถูกตัดสิน แต่ยอมความกันไป

เดี๋ยวจะติดต่อหานุ่นอีกคน ที่เป็นคนรู้ข้อมูลทั้งหมด พี่แต้มบอกเป็นลูกพี่แต้ม พี่แต้มเอาตาย?

พล.ต.ต.วิชัย : ผัวเมียกระทบกระทั่งกันได้ ตบตีได้บ้าง สั่งสอน อาจไม่เข้าใจ เป็นพฤติกรรมในครอบครัว เป็นความเล็กน้อยต่าง ๆ แต่ถ้าลงมือกระทำโหดร้ายโหดเหี้ยม เราเจอภาพแบบนี้ ไม่มีใครยอมได้ อย่างผม ผมยอมไม่ได้แน่นอน ผมยอมติดคุกอีกคนแล้วกัน มึงต้องตามตามลูกกูไปแน่นอน ผมไม่ยอมแน่นอน การกระทำมึงไม่ใช่คน เป็นสัตว์ร้าย เป็นคนอำมหิต ไอ้วรนุชแล้ว ไม่รู้จะอยู่ทำห่..อะไร ก็จัดการให้ไปตามวิธีทางของมึง

คุณรู้เช่นเห็นชาติทอยอย่างดี ทำงานกับเขา ทำงานถูกต้องตามกฎหมายเปล่า?

แดน : เทา ๆ วันนี้พร้อมเปิด

อยู่ในสายกับ “นุ่น” เพื่อนสนิทที่สุด ของนุ่นผู้เสียชีวิต เขาเคยอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน เวลานุ่นมีเหตุอะไร นุ่นจะโทรหานุ่นคนนี้ ขอเรียกว่าเอแล้วกัน สนิทกับนุ่นมากแค่ไหน?

เอ : สนิทกันมาก เคยพักอยู่คอนโดด้วยกัน ทำงานที่เดียวกันหลายที่ ที่เราเปลี่ยนงานไปด้วยกัน มีทำงานร้านเสิร์ฟอาหารก็ทำด้วยกัน

ตอนนุ่นไปรู้จักกับนายทอย เขาปรึกษาเรามั้ย?

เอ :   ก็พอรู้ว่าเขาคบกัน คุยกัน มีไปหาพี่ทอยอยู่หอพัก ไปนอนกับพี่ทอย

ไอ้ทอยทำงานอะไร?

เอ : ทำงานขายรถมือสองค่ะ

เขาไปรู้จักกันได้ยังไง?

เอ : น่าจะรู้จักทางเฟซบุ๊ก เขามีแชตคุยกัน ไปพบกัน ไปปิ๊งกัน

พฤติกรรมไอ้ทอย เท่าที่นุ่นผู้เสียชีวิตเล่าให้เอฟัง เป็นยังไง?

นุ่น : หนูเคยอยู่ด้วยกันกับเขา พฤติกรรมถ้านุ่นพูดอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ แล้วเขาไม่พอใจ เขาจะโวยวาย ต่อว่า บ่นอยู่นั่นแหละค่ะ ตัวเองต้องชนะทุกอย่าง นุ่นต้องยอมทุกอย่าง ถ้านุ่นเถียงก็มีลงไม้ลงมือค่ะ

เห็นว่ามีหลายครั้งคุณตกใจมาก คุณไปห้องเขาแล้วเห็นอะไร?

นุ่น : ไปห้องพี่ทอย มีดาบยาว ๆ ตั้งอยู่บนหัวเตียงที่นอน มีเหตุการณ์นึงเขาทะเลาะกัน เขาใช้ดาบตัวนี้ตัดผมเพื่อนหนู จากผมยาว ๆ ตัดผมเพื่อนหนูจนสั้น จนเพื่อนหนูต้องไปต่อผมค่ะ มีเหตุการณ์ที่เพื่อนหนูไม่โอเคแล้ว ให้หนูพาไปแจ้งความว่าถูกเขาทำร้ายร่างกาย ตอนนั้นเพื่อนหนูโดนทำร้ายร่างกายจนหน้าตาเขียวช้ำ ก็พาไปแจ้งความบ่อยครั้ง หนูพาไปแจ้งความที่สน.หัวหมาก หลังจากนั้นมีตร.นัดให้ปากคำว่าจะเอาความยังไง หลังจากนั้นหนูก็ไม่ได้พาไป หนูก็ไม่รู้ว่าเขาเอาความหรืออะไรหรือเปล่า แต่มีเหตุการณ์ที่เพื่อนคนนึงโทรเล่าให้ฟังว่าเขาพาไปแจ้งความเหมือนกัน พอพาไปแจ้งแล้ว นุ่นขอให้เพื่อนถอนแจ้งความ สงสารพี่ทอย รักเขาต้องยอมเขา

ทอยบอกว่านุ่นไม่เคยเห็นเขาดีเลย นุ่นไม่ได้รักเขาเลย เขาต้องคอยง้อตลอดเวลา นุ่นมักเอาเรื่องเก่า ๆ มาซ้ำแล้วซ้ำอีก จนเขาโมโหสะสมเก็บกด?

เอ : ก็คิดว่าน่าจะมีส่วน ถ้านุ่นพูดอะไรหน่อยเขาจะอารมณ์รุนแรงค่ะ ถ้านุ่นไม่ทำตาม หรือเถียงหน่อย ต้องทำตามที่เขาพูดไม่ได้ ขัดใจไม่ได้

เคยคิดมั้ยว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้เกิดขึ้น?

เอ : เคย หนูเคยบอกว่านุ่นมึงเลิกกับพี่ทอยเถอะ ถ้าเลิกได้ให้เลิก ความรักก็ต้องแยกแยะ ถ้าเขารักมึงต้องไม่ทำร้ายมึงแบบนี้ เลิกให้ได้ ถ้าวันไหนมันพลั้งมือมึงเสียชีวิตไป มึงจะไม่สามารถโทรหากู เรียกหากูให้มารับหน่อยได้ทุกครั้งนะ พอเขามีเรื่องเขาก็ทักมาว่ามีเรื่องทะเลาะกับพี่ทอยอีกแล้ว อย่างโน้นอย่างนี้ มีบ่อยครั้งที่เขาทักมา หลังจากเขามีลูกแล้ว บอกว่าเขาทะเลาะกับพี่ทอย กำลังพาทีน่า ลูกสาวนุ่นกลับบ้านที่อุบลฯ ให้อามารับที่สนามบิน พอผ่านไปชม.สองชม. บอกว่าเออ มึงไม่ได้กลับแล้วนะ พี่ทอยมาง้อแล้ว คุยกันเข้าใจแล้ว เป็นแบบนี้บ่อยครั้ง สุดท้ายเขาง้อเพื่อนก็กลับไปทุกครั้งที่เขาง้อ

เห็นว่าคุณเองนัดกับนุ่นจะพาลูกไปเล่น?

เอ : ใช่ หนูนัดกับนุ่นว่าเดือนเม.ย.จะพาลูกไปเล่นไปเที่ยวไปทะเลด้วยกัน

คุณรู้เรื่องได้ยังไงว่านุ่นถูกทำร้ายจนเสียชีวิต?

เอ : เฟิร์นโทรมาหาหนูว่านุ่นได้ทักหามั้ย หรือไปหามั้ย กวางโทรหาเฟิร์นบอกว่าพี่ทอยโหรหากวาง แล้วบอกว่าติดต่อนุ่นไม่ได้ หนูก็บอกว่าไม่ได้ทักมาเลย มันหายไปไหน ก็เอะใจเพราะนุ่นไม่เคยหายไปแบบนี้ เป็นคนติดโทรศัพท์มาก จะเล่นโซเชียลตลอด มันผิดปกติที่จะหายไปแล้วขาดการติดต่อ จากนั้นพี่ทอยก็ทักมาหาหนู ว่าติดต่อนุ่นได้มั้ย ทั้งโทรมา น้ำเสียงร้องไห้

แดน : ตอแหลอยู่แล้วไอ้นี่ ไอ้ทอย มันเก่งมากเรื่องสร้างภาพ

นี่เพื่อนคุณนะ?

แดน : มันไม่ใช่เพื่อนสนิทขนาดนั้น เลิกคบมันแล้ว มันมากราบตีนผมขอโทษที่เคยทำผิด

คุณไม่กระทืบมันมั่งล่ะ?

แดน : ผมต่อยมันตอนที่มันตีนุ่นรอบนึง มันตีต่อหน้า น้องใส่ส้นสูงแล้วจะถอดส้นสูงมาถือ มันก็บอกว่าไม่ได้ ไม่สวย ต้องใส่ มันก็เหี้- มันจิกแล้วตบ เราก็ต่อยมัน เราก็แยกมันออกไป ให้นุ่นไปอยู่กับเพื่อนเลย ถ้าไม่มีคนห้ามจะหนัก ก็คิดนะว่าสักวันต้องมีเหตุแบบนี้เกิดขึ้น

แค่ไม่ใส่รองเท้าส้นสูงต้องตบเลยเหรอ?

แดน : ใช่ ไอ้นี่มันชอบสร้างภาพ

พอเฟิร์นบอกแล้วยังไงต่อ?

เอ : พี่ทอยโทรมาในคืนนั้นบอกว่าทะเลาะกันกับนุ่น นุ่นลงจากรถไป หายไปเลย ไม่รู้ขึ้นแท็กซี่ไปหรือยังไง น้ำเสียงร้องไห้ด้วย ตอนแรกทักมาหาหนูว่าได้คุยกับนุ่นบ้างมั้ย หนูบอกว่าไม่เลยพี่ แกก็โทรมาบอกทะเลาะกับนุ่นเมื่อคืน มีปากเสียงกัน แล้วนุ่นจะโดดลงรถทั้งที่พี่ขับรถอยู่ พี่ก็รีบชะลอจอด กลัวรถชน นุ่นก็โดดจากรถไปเลย ไม่รู้ขึ้นแท็กซี่หรือใครมารับไป

พล.ต.ต.วิชัย : มันฉลาด มันสร้างภาพ มันผูกเรื่องเพื่อให้คนเชื่อได้ แล้วไปผูกเรื่องกับเพื่อน มันรู้ว่าคนไหนสนิทสามารถกระจายข่าวช่วยมันได้ การทิ้งศพต้องไปเส้นนั้น เพราะรู้ว่าน้องเคยทำงานที่เขมร แต่การทำงานของมันก็ทำให้ตร.สืบสวนได้ ว่าเส้นทางมึงไปทางไหน ทำให้เจอศพได้เหมือนกัน

เกิดอะไรขึ้นต่อ?

เอ : หนูก็คุยกับเพื่อน ๆ แล้วว่าไม่ใช่ ทุกครั้งที่เขาทะเลาะเขาจะมีลงไม้ลงมือ ก็สงสัยพี่ทอยเลยตอนนั้นที่คุยกัน ก็ตั้งแชตกลุ่มกันระหว่างเพื่อน ๆ ก็ปรึกษาว่าโพสต์ตามหามั้ย มันไม่ใช่แล้ว หนูก็บอกพี่ทอยให้ไปแจ้งความ แกบอกว่าต้องรอให้ครบ 24 ชม.ก่อน เดี๋ยวแกจะไปแจ้งความ พอตอนตี 3 เช้ามาก็ยังไม่ไป เพื่อนเฟิร์นโทรไปหา แกไปแจ้งตอน 7 หรือ 9 โมงหนูก็จำไม่ได้ จากนั้นก็ไม่ได้คุยกับแกเลย ก็มีทักไปบ้างว่าตามเจอมั้ย ตามที่ไหนบ้างแล้ว แกบอกว่าไม่เลย ไม่เจอเลย

มีแชตที่ไอ้ทอยพยายามตามเมียกับคนนั้นคนนี้ สมอ้างตัวเองเป็นผู้เสียหาย ว่าเมียไม่อยู่ มันบอกสื่อปั่นจัด คุณบิวพาแม่ไปตามหากล้องวงจรปิด แม่ก็เป็นชาวบ้าน ไม่รู้จะทำยังไง คุณไปขอกล้องหรือยังไง?

บิว : พอผมดูข่าวก็ติดต่อเพื่อนเขา ได้ไปในกลุ่มที่เขาคุยกัน เขาบอกว่าสะดวกเจอแม่ที่สภ.ปากเกร็ดมั้ย เราก็บอกว่าได้ เพราะอยู่แถวนั้นพอดี ก็นัดเจอคุณแม่ประมาณตีสาม ตีสี่ ไปแจ้งความกับตร. ตร.ถามว่าน้องเป็นอะไรกับเขา ผมก็บอกว่าผมจะมาให้การว่าเขาไม่ได้พูดตรงตามในข่าว ผมแค่จะมายืนยัน ตร.ก็บอกว่าเรื่องผัวเมีย น้องไปยุ่งอะไรด้วย ผมก็เหมือนฟิวส์ขาด ก็พิมพ์ไปในแชตเลยว่าให้ติดต่อนักข่าวเลย ไม่ได้การแล้วถ้าเป็นแบบนี้  พึ่งไม่ได้เลย แต่เขาอยากเอาตัวเด็กออกมาก่อน

หลังจากนั้นความเปิดเพราะกล้องวงจรปิด?

บิว : ความตั้งใจผมแค่อยากบอกว่าเจอน้องที่มุมนี้ อย่างน้อยถ้าเจอกล้องก็เจอเส้นทางแล้ว ยังไงก็ตามได้ถูก แต่กลายเป็นว่าพอไปขอดูกล้องก็เจออย่างที่เห็นกัน

พล.ต.ต.วิชัย : น้องคือประจักษ์พยานคนแรก จิ๊กซอร์สำคัญ

บิวเขาโดนด่านะ เพราะหลายคนบอกว่ามึงเดินผ่านไปทำไมไม่ช่วย

ฟังแล้วก็เหนื่อยใจ?

พล.ต.ต.วิชัย : ท้อ ผมไม่อยากให้คนมาด่าทอตร. คนไม่รักตร.เพราะเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ จะไม่ทำก็อย่าไปพูดให้กระทบจิตใจ ไปยุ่งอะไรเรื่องผัวเมียแบบนี้ โอ้โห รับฟังก็ได้ จะได้เป็นจิ๊กซอร์ไปหาเขา พ่อแม่เขาก็มาด้วย เขาอยากหาลูกเขา ลูกเขาหาย ทำอะไรแอ็กทีฟจะได้รู้ว่าเราสนใจ เขาถึงได้ไปร้องสื่อ พอสื่อรู้ก็มาทำย้อนหลัง มันก็ไม่ทันการ

มีคลิปในลิฟต์ จิกหัว ตบ กระทืบ ต่อย คบหากันนานแค่ไหน?

แดน : ประมาณ 4-5 ปี มันรัก ๆ เลิก ๆ

เออยากพูดอะไรกับไอ้ทอย มันโกหกตอแหลเรา?

เอ : ไม่รู้จะสรรหาคำพูดอะไรไปต่อว่าเขาแล้ว มันเกินคนแล้ว ทางหนูก็เสียใจมาก ๆ ด้วยความเป็นเพื่อนรักของหนู ไปไหนก็ไปกัน ทำใจแทบไม่ได้ เลวมาก ไม่รู้จะใช้คำพูดไหน

คุณมองยังไง ถ้าไอ้ทอยบอกว่านุ่นไม่ได้รักทอยเลย?

เอ : ถ้าไม่รักเขาไม่ยอมขนาดนี้ ไม่รักก็ต้องเลิกไปแล้ว แต่นี่ทำร้ายร่างกายกี่ครั้งก็กลับไป ถ้าไม่รักจะด้วยเหตุผลอะไร ถ้าไม่รักคงไม่ต้องอยู่ด้วยแล้วมั้งคะ ต้องแยกย้าย ต้องเลิกกันแล้ว เพราะเพื่อนก็เตือนทุกครั้ง ขอให้เลิกแต่ไม่เลิก

About Author