“อ.ส.ค. ” เตรียมจัด “เทศกาลโคนมแห่งชาติ” ประจำปี 67
อ.ส.ค. เตรียมจัด “เทศกาลโคนมแห่งชาติ”ประจำปี 67 นี้อย่างยิ่งใหญ่ ชู “นวัตกรรมอุตสาหกรรมโคนมไทยสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน”
อ.ส.ค.เตรียมจัดงาน “เทศกาลโคนมแห่งชาติ” ประจำปี 2567 เพื่อน้อมรำลึก”พระบิดาแห่งการโคนมไทย” อย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมอุตสาหกรรมโคนมไทย (การพัฒนาที่ยั่งยืน” ระหว่างวันที่ 5-14 มกราคม 2567 นี้ พร้อมเปิดเวทีให้เกษตรกรผู้ประกอบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อ ยกระดับอุตสาหกรรมนมไทยก้าวผู้นำระดับอาเซียนวันนี้ (พุธที่ 20 ธันวาคม 2566) นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายสมพร ศรีเมือง ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริม กิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ร่วมแถลงข่าวการจัดงานเทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2567ภายใต้แนวคิด : “นวัตกรรมอุตสาหกรรมโคนมไทย สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” เพื่อเป็นการระลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร หรือ”พระบิดาแห่งการโคนมไทย” ที่ได้พระราชทาน”อาชีพการเลี้ยงโคนม” ให้แก่เกษตรกรซาวไทย เพื่อให้เกษตรกรไทยได้ประกอบอาชีพที่มั่นคง และคนไทยมีนมที่ดี มีคุณภาพไว้บริโภคได้อย่างพอเพียง
นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสาย พระเนตรอันยาวไกลและพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร หรือ “พระบิดาแห่งการโคนมไทย” ที่ได้ทรงพระราชทาน”อาชีพการเลี้ยงโคนม” ให้แก่เกษตรกรชาวไทยเพื่อให้เกษตรกรไทยได้ประกอบอาชีพที่ มั่นคง และคนไทยมีนมที่ดีมีคุณภาพไว้บริโภคได้อย่างพอเพียงโดยไม่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ โดยพระองค์ทรงได้ให้ดำเนินการจัดตั้ง องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งชาติ (อ.ส.ค.)”ฟาร์มโคนม” และ “ศูนย์ฝึกอบรมการเลี้ยงโคนมไทย-เดนมาร์ค” ขึ้นที่อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรีพร้อมกำหนดให้วันโคนมแห่งชาติ คือวันที่ 17 มกราคม ของทุกปี และในการจัด เทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2567ปีนี้จะมีความยิ่งใหญ่ งดงาม ได้ความรู้ กิจกรรมสุดพิเศษ ครบ จบ ในงานเดียว! ในวันที่ 5-14 มกราคม 2567 ณบริเวณเชิงเขาตาแป้น (ฟาร์มโคนมไทย-เคนมาร์ค) อ.มวกเหลีก จ.สระบุรี ในการนี้ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงานพร้อมทั้งจะเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรนิทรรศการต่าง ๆ ภายในบริเวณงานในวันที่ 5 มกราคม 2567″
กระทรวงเกษตรฯ จะเร่งผลักดัน อ.ส.ค.ให้เป็นองค์กรชั้นนำด้านอุตสาหกรรมนมทั้งในและต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียนและตั้งเป้าหมายตลาดสำคัญ คือประเทศจีน เนื่องจากเป็นประเทศที่กำลังซื้อสูงและมีสัดส่วนประชากรมาก รวมทั้งเร่งรณรงค์ให้คนไทยเห็นความสำคัญของการดื่มนมโคแท้ 100% จากน้ำนมโคที่ได้จากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมประเทศไทย ตลอดจนสืบสาน รักษา ต่อยอด อาชีพการเลี้ยงโคนม ซึ่งเป็นอาชีพอันทรงคุณค่า โดยมอบหมายให้ อ.ส.ค.ให้ความสำคัญในการการมลิตตั้งแต่ดันน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำจนถึงมือผู้บริโภคต้องได้คุณภาพและมาตรฐาน รวมทั้งสร้างการรับรู้ให้ประชาชนจดจำว่านมวัวแดง นมไทย-เดนมาร์ค นมทุกหยดผลิตจากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม” ปัจจุบันอุตสาหกรรมโคนมไทยมีความก้าวหน้าเป็นลำดับโดยประเทศไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์กลางข้อมูลอุตสาหกรรมนมของอาเซียน ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้ให้การส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโคนมอาชีพพระราชทาน และพัฒนาศักยภาพการเลี้ยงโคนมให้กับเกษตรกรอย่างต่อเนื่องจนเกิดความมั่นคง เข้มแข็งในอาชีพในขณะที่ อ.ส.ค. ปัจจุบันป็นองค์กรที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค หรือ นมวัวแดงผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากน้ำนมโคแท้ 100% ของฟาร์มเกษตรกรไทย ทำรายได้ในปี 2566กว่า 7,000 ล้านบาท อ.ส.ค.มีการทำบันทึกข้อตกลง (MOU) การซื้อขายน้ำนมโค ปี 2566/2567 (1 ตุลาคม 2566 – 30กันยายน 2567) เป็นปริมาณน้ำนมโคที่ซื้อเฉลี่ยวันละ 435. 205 ตันต่อวัน จากสหกรณ์โคนมฯ จำนวน 35 แห่ง,ศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ จำนวน 14 แห่ง, กลุ่มวิสาหกิจฯ จำนวน 3 ราย, บริษัทฯ จำนวน 1 แห่ง รวมทั้งหมด 53 แห่งโดยมีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 5,260 ราย จำนวนสมาชิกที่ส่งน้ำนมดิบ 3,622 ราย จำนวนโคนมทั้งหมด 155,822 ตัวเป็นแม่โครีตนม 66,907 ตัว (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2566) นับว่าเป็นองค์กรที่เคียงข้างเกษตรกร ผู้เลี้ยงโคนมมาตลอดกว่า 60 ปี”
ด้านนายสมพร ศรีเมือง ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวถึงการจัดงานทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2567 และกิจกรรมที่น่าสนใจภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมอุตสาหกรรมโคนมไทย สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน”ว่าความก้าวหน้าของวิทยาการด้านการเลี้ยงโคนมและอุตสาหกรรมโคนมของประเทศ มีความก้าวหน้าทางวิทยาการอย่างมาก ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการอุตสาหกรรมฯจะได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนทัศนคติกันพร้อมทั้งความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่สามารถถ่ายทอดไปสู่เกษตรกรได้มากขึ้น โดยจัดเวทีแสดงความก้าวหน้าของวิทยาการด้านการเลี้ยงโคนมและอุตสาหกรรมโคนมของประเทศผ่านนิทรรศการและการเสวนาร่วมกัน เช่น ตัวอ่อนโคพันธุ์เรดเดน ประเทศเดนมาร์ก ,คลินิกเครื่องรีดนม ,โครงการ อ.ส.ค. รักนม รักฟาร์มยกระดับฟาร์มโคนม เป็น Smart Farmer และต่อยอดเป็นฟาร์มพี่เลี้ยงสร้างเครือข่ายเพื่อแบ่งปัน อุตสาหกรรมโคนม/ลานชงชิม และสื่อสารการตลาด ,ศูนย์วิจัยและฟาร์มโคนมสาธิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แก่งคอย สระบุรีและสวนจิตรลดา อีกทั้งยังมีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ อาทิ การขมความงามโคนมหลากหลายรุ่น กับกิจกรรมประกวดโคนมครั้งที่ 39 ที่มาพร้อมกับความระการตาด้วย แสง สี เสียง และศิลปินสร้างสีสัน 10 วัน จัดเต็ม อาทิ เสกโลโซ ,ปู แบล็คเฮด& อึ๊ด วงฟลาย ,เนสกาแฟ ศรีนคร ,วงคาราบาว ,แจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กก๊ก และเป๊กกี้ ศรีธัญญา เป็นต้น โดยเทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2567 มีขึ้นวันที่ 5-14 มกราคม 2567 ณ บริเวณเชิงเขาตาแป้น (ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค) อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี