SMEs สร้างอาชีพ Awards ครั้งที่ 8 จุดพลุความอลัง 40 ธุรกิจเอสเอ็มอี
SMEs สร้างอาชีพ Awards ครั้งที่ 8 จุดพลุความอลัง 40 ธุรกิจเอสเอ็มอี ชี้ทิศทางธุรกิจ SMEs ก้าวสู่ออนไลน์เต็มรูปแบบ ปลื้มตลาดต่างประเทศคึกคัก ดันภาพรวมเติบโต
นางสาวพรทิพย์ แก่นจันทร์ บรรณาธิการบริหาร SMEs สร้างอาชีพ เปิดเผยว่า “สำหรับการจัดงานมอบรางวัลอันทรงเกียรติ SMEs สร้างอาชีพ Awards ครั้งที่ 8 ประจำปี 2566 สุดยิ่งใหญ่ ภายใต้แนวคิด “ธุรกิจนำสมัยด้วยเทคโนโลยีร้อนแรง” ซึ่งSME สร้างอาชีพ ในฐานะผู้จัดงานรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการคัดเลือก 40 ธุรกิจคุณภาพ ความโดดเด่นครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ส่งเสริมให้ธุรกิจก้าวเข้าสู่ยุคออนไลน์แบบเต็มตัว ที่เน้นให้เกิดการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ในทุกแพลตฟอร์ม ครบสมบูรณ์อย่างมืออาชีพ ธุรกิจ SMEs มีการปรับความคิดและแนวทางธุรกิจให้ตรงกับแนวโน้มธุรกิจเปลี่ยนแปลง เพื่อตอบโจทย์ทิศทางเศรษฐกิจของทางโลกในยุคนี้ พร้อมกับนำเสนอให้รู้จักวิธีการจัดการใหม่ที่สะดวก กระชับ ง่าย และเร็วด้วยเทคโนโลยี
“ทั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายผกายเนติ์ เล่งอี้ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานและให้เกียรติมอบรางวัลให้กับธุรกิจ SMEs คุณภาพทั้งหมดกว่า 40 รางวัลแบ่งเป็น 14 สาขารางวัล ได้แก่ 1. สาขาบุคคลสร้างอาชีพดีเด่น 2. สาขานักธุรกิจดาวรุ่งแห่งปี 3. สาขาอาชีพทำเงินแห่งปี 4. สาขาธุรกิจดาวรุ่งแห่งปี 5. สาขาช่างสักคิ้วดีเด่นแห่งปี 6. สาขา CEO Vision 7. สาขา SME Idol 8. สาขา Star Business มี 5 นักแสดงร่วมรับรางวัลครั้งนี้ อาทิ พริมรตา เดชอุดม หรือจ๊ะจ๋า ธุรกิจร้านดอกไม้ JAJA FLOWERS ,คุณราวรรณ โทนะหงษา หรือรุ้ง ธุรกิจผงซักฟอก EasyEasys-อีซี่อีซี่, คุณปุณยาพร พูลพิพัฒน์ หรือเบนซ์ ธุรกิจสกินแคร์ BENZE (เบนซ์ซี่), คุณวรนิษฐ์ รัตนมั่นคงพงศ์ หรือออย ธุรกิจซอสปรุงรสเพื่อสุขภาพ “เปี่ยมพ์” และ คุณเตชินท์ ชยุติ ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น พรีเมี่ยม เนตะฟิชแอนด์มีทบุฟเฟ่ต์ และร้านคิซากาย่า สไตล์อะลาคาร์ท 9. สาขา The Best of Wellness Service 10. สาขา The Best of Recruitment Agency 11. สาขา The Best of Factory and Innovation 12. สาขา The Best of Quality Franchise 13. สาขา The Best of Quality Product และ 14.สาขา The Most Popular Content Creator”
บรรณาธิการบริหาร SMEs สร้างอาชีพ กล่าวต่อไปว่า “ สำหรับภาพรวมการเติบโตธุรกิจ SMEs สามารถเติบโตได้อีก ขอเพียงแต่มีการพัฒนา เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ธุรกิจก็ยังเติบโตได้ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี AI ยังสามารถใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ตลอด แม้ว่าจะมีการทดแทนด้วยระบบออนไลน์มากขึ้น แต่งานด้านฝีมือ ก็ยังต้องอาศัยคนคิด คนทำในการสร้างสรรค์ ดังนั้นจึงยังมีการทำควบคู่กันไป และอาจจะมีการลดขนาดธุรกิจลงบ้าง เพื่อความคล่องตัวต่อไปในอนาคต ยอมรับว่าในปี 2566 แนวโน้มภาคธุรกิจ SMEs มีทิศทางที่ดีขึ้นโดยเฉพาะ ธุรกิจที่ใช้สื่อออนไลน์ และธุรกิจที่ติดต่อกับทางต่างประเทศ ด้วยเหตุผลที่ประเทศไทยมีระบบการขนส่งทันสมัย ได้รับการส่งเสริมจากองค์กรต่างๆ อย่างดีในภาคเอกชนและรัฐบาล ให้มีการพัฒนาความรู้ ความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นใหม่ นำไปใช้ต่อยอดจนเป็นรูปธรรมในผลลัพธ์ที่ลงทุนไป เป็นผลกำไรที่ดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา”