23/11/2024

“แหม่ม วิชุดา” เปิดใจครั้งแรกหลังโพสต์แซะ “หน้าอย่างหลังอย่าง รับเรด้าจับสตอพัง” 

นางร้ายมากความสามารถ อย่าง แหม่ม วิชุดา ที่วันนี้จะมาเคลียร์ดราม่าครั้งแรก หลังโพสต์ข้อความหน้าอย่าง หลังอย่าง พร้อมชวน กิ๊ก มยุริญ มาเปิดความสนิทขั้นสุด ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี หนิง ปณิตา และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

คุณไปลงอะไรในสตอรี่?

แหม่ม : เพื่อนเปิดมาเราก็ต้องต่อเพื่อนนิดนึง

คุณนุ๊ก สุทธิดา?

แหม่ม : ใช่ค่ะ แต่จำไม่ได้ว่าเขาเปิดว่าอะไร หน้าอย่าง หลังอย่าง 

อีโมจิเป็นรูปเท้าด้วยนะ?

แหม่ม : อยากมอบให้

หน้าอย่าง หลังอย่าง พี่เจอมาเยอะ แล้วน้องเจอบ้างไหม คืออะไร?

แหม่ม : ก็คนหน้าอย่างหลังอย่างไง แต่สกิวของคนหน้าอย่างหลังอย่างที่พี่เจอ มันไม่ใช่แค่สมมติว่าไม่ใช่แค่เจอแล้วเอาเราไปนินทา แล้วต่อหน้าเรามาทำดี สกิวของเขาคือกุเรื่อง สร้างเรื่องให้เราเป็นคนชั่ว ถ้าสมมติเล่าให้เป็กกี้ฟังก็จะบอกไม่เห็นแรงเลย ก็จะเพิ่มปริมาณความแรงจนเป็กกี้เกลียดพี่ได้ แล้ววีรกรรมมันมีหลาย EP.มาก ต้องบอกก่อนว่าพื้นฐานของคนคนนี้เขาเป็นคนชอบทำให้คนตีกัน โดยที่ไม่ได้มีเรื่องอะไรกันเลย ไปคุยกับคนที่หัวอ่อน ๆ หน่อย อย่างแบบ หนิงไม่เคยมีเรื่องอะไรกับพี่นะ แต่เคยเจอกันทั่วไป สามารถพูดจนหนิงเกลียดพี่ได้

เพื่ออะไรอะ?

แหม่ม : ไม่รู้ แล้วพี่ก็ไม่รู้เรื่องเลย พี่รู้จักมาเกือบ 10 ปี ไม่รู้เลยว่าตัวเองโดนแบบนั้น คือเรด้าจับสตอมันพัง

แล้วไปเกี่ยวอะไรกับพี่นุ๊ก?

แหม่ม : พี่นุ๊กก็โดน แต่พี่นุ๊กเขาจะเป็นลักษณะอีกแบบ เดี๋ยวให้พี่นุ๊กมาเล่าเองนะ

ของพี่แหม่มเจอยังไงบ้าง?

แหม่ม : ยกตัวอย่างเอาเรื่องที่แรง ๆ หน่อยก็ไปกุข่าวว่าพี่เป็นชู้กับเพื่อนสนิทแฟนพี่อย่างนี้ แล้วพี่ก็ทักไปถามว่าพูดอย่างนี้จริงเหรอ เขาบอกว่าเขาไม่ได้ใช้คำว่าเป็นชู้ แต่ว่ามันเป็นการกัดแซวเล่น แต่รายละเอียดขอไม่ลงดีเทลนะคะ เห้ย…ต้องลงดีเทล

คนในวงการบันเทิงไหม?

แหม่ม : ไม่ใช่คนในวงการบันเทิง แต่ชอบใช้ชีวิตอยู่กับคนในวงการบันเทิง ไม่ใช่ผู้จัดการดารา ไม่ใช่คนประสานงาน ไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิงเลย

กว่าพี่แหม่มจะรู้ตัว คบเขามากี่ปีแล้ว?

แหม่ม : เกือบ 10 ปี พี่มีความเหม่ง ๆ นิดนึง สมมติเขาเจอหนิง เขาจะเข้าไปหาหนิง สวัสดีน่ารักแล้วชอบไปคอมเมนต์ในไอจีหนิง sis เลิฟจังเลย แต่คือด่าหนิงให้พี่ฟังยับอย่างนี้ แล้วพี่ก็เอ๊ะ…ทำไมตอนเจอหนิงแล้วเขาดีกับหนิงวะ แล้วเขาเกลียดหนิงได้ขนาดนั้น พี่ก็เริ่ม…กูจะโดนไหมเนี่ย อันนี้แรง มันหลายเรื่อง เรื่องมันเยอะจริง ๆ 

กิ๊ก : ใช่คนเดิม คนนั้นไหม

แหม่ม : พยัคหน้า

พี่กิ๊กรู้ด้วย?

กิ๊ก : รู้ค่ะ

แหม่ม : เวลามีทีก็ไปคุยกับพี่กิ๊กทำให้เราเย็นลง บางทีเรื่องมันแรง มันไม่ไหว แล้วเขาอะ สมมติพูดให้หนิงเกลียดพี่แล้ว แล้วคิดว่าพี่กับหนิงไม่มีทางคุยกันแน่ แล้ววันนึงทุกคนมาคุยกัน แล้วความแตกรู้ทุกอย่าง แล้วทุกคนที่เขาเอามาด่าเละ ๆ เนี่ย คือตอนนั้นคนฟังก็หูเบา คนเล่าก็ปากหมา เราก็หูเบาก็ฟัง แล้วเชื่อแบบไม่โอเคกับเป็กกี้เหมือนกันนะ แต่แปลกเวลาเจอเป็กกี้พี่ก็ประมาณนึง ไอนี่เข้าไปกอดเป็กกี้ เอ้า…เดี๋ยวสิให้กูเกลียดอยู่คนเดียวได้ยังไง มึงด่าเขาเละขนาดนี้ กูเกลียดเพราะมึงนะ นึกออกป่ะ แบบนี้เยอะมาก ก็เลยเอะใจ

ได้บอกเขาตรง ๆ ไหม?

แหม่ม : บอก เขาก็แกล้งบล็อกไลน์ แต่มันเช็กได้ไงว่าบล็อกหรือไม่บล็อกหรืออีกอันที่แบบชั่วมากคือ สมมติเขาชวนพี่ทำธุรกิจ อยู่ดี ๆ ไลน์ออฟฟิเชียลพี่หายไปเลย หาไม่เจอ ลูกค้าสั่งของไม่ได้ พี่ก็ไปเช็กจนรู้มาว่ามีหนึ่งในแอดมินลบไลน์ออฟฟิเชียล ลบบัญชีไปเลย เห้ย..มันพังนะ มันเรื่องธุรกิจ พี่ก็ลงเฟซบุ๊กว่าพี่เช็กได้เรื่องนี้มีผลตามกฎหมายว่าใครเป็นคนทำ ถึงค่อยส่งข้อความมาขอโทษ บอกไม่ได้ตั้งใจทำ แต่พี่มารู้ทีหลังไปพูดกับคนอื่นว่าตั้งใจแกล้ง คือเวลาที่เขาจะติดตัวใคร หรือเขาจะทำให้ใครเชื่อ เขาจะติดตัวจนเราไม่มีโอกาสได้คิดเลย พี่เคยเป็นแบบนั้นมาก่อน คนอื่นเตือนพี่ พี่ไม่ฟังเลย แล้วพี่ไม่เชื่อเลยว่าเขาจะเป็นคนแบบแย่ได้ขนาดนี้ แล้วทุกวันนี้คนที่เขาคบอยู่ก็โดนด่าเละทุกคน แต่เราจะไปเตือนเขา เขาไม่ฟังนะ เพราะเขาแก้ตัวเก่ง

กรณีแบบนี้จัดการยังไงดี?

กิ๊ก : พี่ว่าเราต้องใช้ทางธรรมนำก่อน อย่างน้อยแหม่มเขาจะเห็นระบบกรรมทำงาน สุดท้ายเขาว่าคนอื่น เขามีความสุขกับการเห็นคนอื่นแตกแยก สุดท้ายเขามีความสุขไหม ตัวเขาแน่ ๆ ไม่มีความสุข เพราะคนที่อยู่รอบข้าง พอมารู้ก็ไม่มีใครคบเขาจริงไหม ระบบกรรมมันใช้เวลา มันไม่ใช่ทำปุ๊บแล้วมันเห็นทันที แต่เมื่อเขาเปิดช่องให้อกุศลส่งผล คือทำไม่ดีมาก ๆ ไปยุแยง การทำบาปด้วยวาจามันหนักนะคะ อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็ก ๆ  การที่ทำให้คนแตกแยก เพ้อเจ้อ พูดโกหกต่าง ๆ มันเป็นกรรมทางวาจาที่เป็นกรรมหนัก เพราะมันทำให้คนขาดความรัก ความสามัคคีกัน สิ่งนี้มันจะมีผลกระทบค่อนข้างเร็วแล้วก็รุนแรง แต่มันใช้เวลา

แหม่ม : ชีวิตมันค่อย ๆ พังไปเรื่อย ๆ จริงนะ เวลาคุยกับพี่กิ๊ก พี่กิ๊กจะไม่พูดว่าแหม่มปล่อยเขาไปเถอะ ปล่อยวาง พี่กิ๊กจะไม่อะไรแบบนี้ พี่กิ๊กจะใช้คำนี้พูด พอฟังแล้วมันปลดล็อก แล้วเรารู้สึกว่าโอเคยังไงวันนึงมันก็ต้องมีแล้วมันเป็นอย่างที่พี่กิ๊กพูดจริง ๆ 

พี่แหม่มคิดว่า ณ ตอนนี้เขารู่ตัวหรือยังว่าหน้ากากเขากำลังจะถูกฉีกออก?

แหม่ม : ถ้าสมมติว่าถูกฉีกจากกลุ่มนี้เขาก็จะเปลี่ยนกลุ่ม ไปเป็นแบบนี้กับคนอื่นต่อ

กิ๊ก : ถ้าใช่คนนี้พี่ไม่รู้จักเขา แต่พี่ฟังจากที่แหม่มพูด พี่บอกเลยว่าคนคนนี้ปัจจุบันเขาก็ไม่ได้มีความสุข ชีวิตครอบครัวเขาก็ไม่สมบูรณ์

ถ้าเขาดูอยู่อยากบอกอะไรเขา?

กิ๊ก : พี่มั่นใจว่าคนเราจะอยู่ร่วมกันได้ มันจะต้องมีความรัก มีความจริงใจ มีความปรารถนาดีซึ่งกันและกัน หากเราทำสิ่งเหล่านี้ผลที่เราได้รับการตอบสนองก็จะมีแต่คนรักเมตตา ปรารถนาดีกับเรา สิ่งที่น้องทำอยู่ หากน้องรู้ว่าเป็นตัวเอง พี่ก็ไม่อยากให้น้องทำต่อไป เพราะพี่บอกเลยว่ากฎแห่งการกระทำ ยุติธรรม เสมอ หนูทำอะไร หนูต้องได้รับผลแบบนั้น แต่หากรู้ว่าไม่ดี เราลด ละ เลิก ตั้งเจตนาที่จะปรับปรุงตัวเองอันนี้เป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญและน่ายกย่องมาก ๆ 

แหม่ม : พี่ไม่รู้จะบอกอะไร คือเขาเป็นเกลือเกินแกงมากแล้ว ไม่มีอะไรจะพูดกับเขา ตอนนี้พี่ปล่อยมากแล้ว ก่อนหน้านี้อยากจะไปหาถึงบ้าน

กิ๊ก : พี่จะบอกแหม่มว่าเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร แต่ถ้าเราให้อโหสิเขาอย่างแท้จริง เราก็จะปล่อยวางจากเขาไปเลย เขาก็จะเป็นคนไม่ดีของเขาต่อไป แต่เราหลุดจากเขามาแล้ว เพราะฉะนั้น โกรธ เกลียดใคร ต้องยิ่งเมตตาเขา ให้อภัยเขา ไม่โกรธเขา ไม่เกลียดเขาคือการให้อภัยตัวเอง ทำให้ตัวเองหลุดจากเขามา เราจะได้ไม่ต้องมาเกิดแล้ววนมาเจอเขาอีก ยิ่งไม่ชอบใคร ยิ่งต้องให้อภัยให้ได้จริง ๆ จากใจของเรา

เจอกันครั้งแรก พี่แหม่มคิดว่าพี่กิ๊กไม่ชอบเหรอ?

แหม่ม : เอาจริง ๆ พี่ก็ฟังผ่าน ๆ แต่พี่ธงชอบมาแบบ แหม่ม แหม่มว่าไหม แต่เขาพูดน่ารักนะ แหม่ม แหม่มว่าไหม พี่ว่ากิ๊กเขาไม่ค่อยชอบแหม่ม พี่ว่าแปลก ๆ เขาไม่ค่อยคุยกับแหม่มเลยอะ หรือว่าแหม่มยังไงอะ แต่ว่าพูดเป็นตลก ฟังแล้วขำ อะไรอะพี่ธงจริงเหรอ เราก็คิดว่าเขาไม่ชอบเราจริง ๆ เพราะเราพูดมาก แล้วทำอะไรคนละขั้วกับเขามาก ๆ ตอนนั้นพี่กิ๊กคงไม่ได้ไม่ชอบหนูหรอก

กิ๊ก : ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่แหม่มเขามีความเป็นตัวของตัวเอง เขาเป็นคนมีออร่าอะไรบางอย่าง ซึ่งน่าเกรงใจ ไม่ใช่ไม่ดี ดูเป็นคนมั่นใจในตัวเอง พี่ก็เหมือนไม่สนิท พยายามเล็งก่อนว่าเขาชอบอะไร  แหม่มดูยังไม่ได้ชอบธรรมะตอนนั้น ชอบเลี้ยงสัตว์ พี่ก็ไม่ใช่สายเลี้ยงสัตว์ ไม่รู้จะคุยอะไร อยู่ในกองก็คุยกันปกติ แต่ไม่ได้สนิทนะ แล้วเพิ่งรู้มาไม่นานมานี้ว่ามีตัวเสี้ยมก็คือ พี่ธง

แหม่ม : แกไม่คิดอะไร หาเรื่องเฮฮา หาเรื่องขำ คงคิดมั้งถ้าฟังคำนี้มา พี่เป็นคนชอบเคลียร์ เราอาจจะเดินไปคุยกับพี่กิ๊กเอง แต่ตอนนั้นคืองง ไม่เชื่อพี่ธงก็เลยไม่ได้คุย

อยู่ด้วยกัน 19 ปีพี่กิ๊กได้ชวนพี่แหม่มไปปฏิบัติธรรมบ้างไหม?

กิ๊ก : ชวน ทริปนั้นพี่เช่ารถตู้เลยนะ หลายคันมาก คันนึงไปรับ ชาคริต แย้มนาม อีกคันไปรับแหม่ม วิชุดา แล้วคุณพ่อ คุณแม่ไปอยู่ที่หัวหินไปหมดเลยทั้งแก๊ง สุดท้ายเกิดอะไรขึ้น มันเป็นคอร์ส 7 วัน แหม่มอยู่กับพี่คืนนึง เสร็จแล้วบอกว่าพี่กิ๊ก ๆ แม่แหม่มอยู่ไม่ได้ พ่อก็ไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวต้องกลับบ้าน พี่ก็พยายามต่อรอง ถ้าคุณแม่ไม่ไหวงั้นคุณแม่กลับคนเดียวไหม เดี๋ยวพี่เอารถตู้มารับให้คุณพ่อกับแหม่มอยู่ ไม่ได้ ๆ ต้องมีคนดูแลแม่ แหม่มก็ต้องกลับ

แหม่ม : คือไปเสี้ยมแม่ แม่ แม่ปวดหลังใช่ไหม ปล่อยไว้แบบนี้มันไม่ดีนะแม่ เดี๋ยวเข้าโรงพยาบาล แม่มึนหัวไหม แม่ไม่โอเค ดูแม่ป่วย ๆ แม่กลับบ้านเถอะ แม่ก็บอกว่ากลับก็ได้

ทำไมบิ๊วแม่อย่างนั้น?

แหม่ม : เป็นคนนั่งสมาธิแล้วหลับหัวโขก แล้วแหม่มรู้สึกมันไม่ใช่ทางจริง ๆ  อีกสักพักเราคงจะทำได้ แต่ตอนนี้มันคงยังไม่ถึงเวลา แล้วคิดในใจทำไมเข้าไปพี่กิ๊กไม่คุยกับเราเลย เขาไม่มองหน้าเราเลย มองพื้นอย่างเดียว เหมือนไม่พอใจอะไรเราสักอย่าง แต่จริง ๆ เขาทำสมาธิอยู่ เราก็คิดหลายอย่าง

อีกอย่างที่ไม่กล้าคุยกับพี่แหม่ม เพราะพี่กิ๊กรู้สึกว่าพี่แหม่มโดนของ?

กิ๊ก : มีช่วงนึงเขาเป็นจริง ๆ เขาดูแบบเก็บตัว ดูหงุดหงิด เขามากองเขาไม่คุยกับใครเลย เขาดูขรึม ดูไม่มีความสุข มา ๆ เสร็จแล้วก็กลับ ดูแปลกไม่ใช่แหม่ม ซึ่งพี่ไม่รู้เรื่อง ตอนนั้นแหม่มมีแฟนด้วย เราก็เลยคิดว่าเขาทะเลาะกับแฟนหรือเปล่า ก็ไม่กล้าไปถาม แต่ว่าหลังจากนั้นสักพักใหญ่ ๆ จนกระทั่งแหม่มกลับมาเป็นปกติ เขามากระซิบกับพี่ว่า แหม่มโดนของ

จริงเหรอพี่แหม่ม?

แหม่ม : ก็โดนของจริง ๆ มีคนทำของใส่ เราไม่อยากลงดีเทลเยอะเดี๋ยวมันไม่ดี เดี๋ยวไปกระทบกับคนอื่น

ผู้ชายเหรอ?

แหม่ม : ใช่ค่ะ เขาอยากให้เรารักเขาไง

ถ้าโดนของอย่างนี้ เราถอนยังไง?

แหม่ม : เรารู้ตัวว่าเราผิดปกติ สมัยก่อนมันจะมีสำนักใหญ่ ๆ เป็นที่แก้ของโดยเฉพาะเลย เราก็ไปทำที่นั้น ไปสวดทุกวัน บางคนหายเร็ว บางคนเป็นปี แต่พี่ไปสัก 2 อาทิตย์แล้ววันพระพอดีพี่หลุด หาย

หลังจากถอนของออก เขาก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น ทั้ง ๆ ที่ทำงานกันมา 19 ปี แต่เพิ่งสนิทกันตอนไปทริปเกาหลี ไปมาปีไหน?

แหม่ม : ปีนี้แหละ เพิ่งไปมา คือคนอื่นเขารวมตัวกันหลายทริปแล้ว แต่พี่กิ๊กถ้าเป็นอะไรที่ต่างประเทศนี่ยากมาก เพราะพี่กิ๊กไม่ว่างเลย หรือถ้าปาร์ตี้มีอบายมุขเขาจะไม่ไปเลย แต่ว่ารอบนี้พี่กิ๊กยอมไปกับเรา ไปถึงคือมันสนุก เรารู้เลยพวกเรารักกันมาก มันสนุก แล้วพี่กิ๊กเป็นคนตลก เขาเป็นคนอยู่ด้วยง่าย ต่อให้เขาธรรมะแค่ไหน เขาก็ไม่ยัดเยียด แต่เขาจะมีความสอดแทรกไปให้เรา เราเลยไม่ได้รู้สึกว่าอยู่กับคนเคร่งจนเหนื่อย แต่พอตกดึกหน่อยเขาก็เข้าห้องสวดมนต์

จะจัดทริปให้พี่กิ๊ก พี่กิ๊กจะไปไหน?

กิ๊ก : จะลาไปศึกษาต่อต่างประเทศ

อย่าบอกว่าพี่กิ๊กจะลาไปบวช?

กิ๊ก : ใช่ ๆ จะไปศึกษาที่พม่าสักนิดนึง

รอบนี้กี่วัน?

กิ๊ก : แพลนไว้อยากไปสักปี แต่พี่ต้องบอกก่อนว่ารอบนี้ตั้งใจไว้นะ แต่ไม่รู้จะอยู่ได้นานแค่ไหน เพราะว่าต้องให้ทางพม่าอนุมัติ ให้เขาเป็นคนทำเรื่องให้พี่ แต่ตั้งใจว่าเต็มที่ 1 ปี

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ แหม่ม วิชุดา 

About Author