รีวิวเกม | Marvel’s Spider-Man Remastered (PC) เรื่องราวสไปดี้ที่เราคุ้นเคย เนื้อเรื่องสุดเข้มข้น เล่นเพลินจนลืมเวลา!

เรียกได้ว่าต่อให้ไม่ใช่แฟนตัวละครอย่าง สไปดี้ หรือ สไปเดอร์แมน ก็เชื่อเหลือเกินว่า ตัวละครนี้ หลายต่อหลายคน รู้จักกันอย่างแน่นอน ด้วยภาพลักษณ์ คาแรคเตอร์ของตัวละคร และความเป็นเพื่อนบ้านที่แสนดี ทำให้สไปเดอร์แมน เข้าไปอยู่ในใจใครต่อใครหลายคน ได้อย่างง่ายดาย จวบจนทุกวันนี้ สไปเดอร์แมนก็ยังคงอยู่ในความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์ อนิเมชั่น ซีรีย์ หรือแม้แต่เกม ในวันนี้ก็ยังอยู่กับเกมอีกเช่นเคย และเกมที่จะมาพูดถึงก็คือ “Marvel’s spider-man remastered” ถึงลงขายใน Pc ทั้ง steam และ epic store ในราคา 1,690 บาท หนึ่งในเกมที่สนุก ภาพสวย เล่นเพลิน และเนื้อเรื่องสุดเข้มข้น เหมือนคุณได้ดูภาพยนตร์เรื่องนึงเลย ความรู้สึกหลังจากเล่นเสร็จจะเป็นยังไง ไปอ่านพร้อม ๆ กันเลยครับ
เนื้อเรื่อง Story
อย่างแรกที่เราจะมาพูดถึงก่อนเลยคือ ด้านของเนื้อเรื่องนั่นเองครับ ต้องบอกเลยว่าส่วนตัวผมนั้นชื่นชอบตัวละครอย่างสไปเดอร์แมนอยู่แล้ว พอมาได้เล่นเกมจริง ๆ และได้เห็นในส่วนของเนื้อเรื่องก็ทำออกมาได้ดีพอควรเลยครับ ตามสูตรหนังซุปเปอร์ฮีโร่ทั่วไป ที่เราจะได้รับบทเป็น ปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ หรือ สไปเดอร์แมน ในวัย 23 ปี เพื่อออกไปจัดการกับเหล่าวายร้ายทั่วเมือง ทั้งกลุ่มอาชญากรของ fisk และกลุ่มของพวก Demon และเราไปถึงโจรต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นใน Map ให้เราคอยจัดการ รวมถึงบอสใหญ่ที่เราต้องสู้ตามเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในเนื้อเรื่อง ที่จะพาเราไปสู่จุดไคลแมกซ์ของเรื่อง ที่ทำให้เราวางเมาส์คีย์บอร์ดไม่ลง
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำได้ดีไม่แพ้กันเลยก็คือ ด้านความสัมพันธ์ของตัวละคร ในเนื้อเรื่องก็บอกถึงความสัมพันธ์แต่ละคน ที่เกี่ยวข้องกับปีเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น แม่รี่เจน เอ็มเจ หรือ ป้าเมย์ จริง ๆ ภายในเกมมีมากกว่านี้อีก แต่เด่น ๆ และเป็นจุดหลักเลยก็คือ คู่ระหว่างปีเตอร์และเอ็มเจนั่นเอง ในเนื้อเรื่องของเกมนี้จะทำให้เราเห็นว่า ทั้งสองคนนั้นเลิกรากันไปแล้ว แต่ก็จะมีเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งสอง ต้องมาเจอกันอีกครั้ง แต่ด้วยหน้าที่และเวลาของปีเตอร์ที่ต้องเป็นทั้งคนธรรมดา และ ซุปเปอร์ฮีโร่เพื่อนบ้านที่แสนดี ทำให้ปีเตอร์ไม่ได้มีเวลาให้กับเอ็มเจมากพอ และทั้งสองคนต่างก็ไม่ได้เข้าใจถึงสถานะความเป็นอยู่ของทั้งสองคน นั่นจึงทำให้เนื้อเรื่องในส่วนนี้น่าสนใจ และทำให้ผู้เล่นอย่างเรา ต่างเอาใจช่วยเขาทั้งสองคนให้กลับมาคบกันและคืนดีกันไว ๆ
งานภาพ Cinematography
สิ่งที่ชอบมาที่สุดของเกมนี้ตอนเล่นก็คือ บรรยากาศ หรืองานภาพ ภายในเกมนี้แหละที่บอกเลยว่าสุดจริง ๆ (คอมผมเล่นได้ปรับสุดไม่มีปัญหา) โดยเฉพาะฉากคัดซีนต่าง ๆ ภายในเกมที่บอกเลยว่าโครตสวย ซึ่งมีรายละเอียดทั้งในเรื่องของสิ่งของในฉาก รวมถึงสีหน้าท่าทางของตัวละครหลักดีมาก ๆ แถมเกมยังรันอย่างลื่นไหลตลอด แทบไม่ประสบปัญหาเฟรมตกเลยทั้งระหว่างการโหนใยในเมืองและการต่อสู้ เมื่อมานึงถึงรายละเอียดต่างๆในเกม และความเร็วของเกมที่เราต้องเล่นเป็นสไปเดอร์แมน ในการโหนใยทั่วเมืองไปอย่างรวดเร็วแล้ว ค่อนข้างน่าทึ่งที่เกมสามารถทำงานได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุดเลยแม้แต่น้อย
อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบเลยก็คือบรรยากาศของเมือง “นิวยอร์ก” ที่ตีโจทย์ออกมาสมกับเป็นเมืองนิวยอร์กแบบจริง ๆ ทั้งผู้คน ทั้งตึก หรือแม้แต่สวนของนิวยอร์กที่เรียกว่ามีพื้นที่เยอะและใหญ่สุดของโลก ก็ทำออกมาได้ดี นอกจากเราจะเล่นเนื้อเรื่องแล้วเรายังสามารถเดินดู หรือ โหนใยไปทั่วเมือง ส่องดูบรรยากาศของเมืองนิวยอร์กยามเช้า กลางคืน เป็นเมืองที่ดูมีชีวิตชีวาไม่ต่างกับเมืองจริง ๆ มีผู้คนและรถเดินไปมาตลอดเวลาด้วย แถมเมืองยังมีความหลากหลายในรูปลักษณ์ของตึกพอสมควร แต่ละเขตของเมืองก็มีเอกลักษณ์ของตัวเอง อย่างเขต Harlem ซึ่งเป็นเขตที่ผู้คนมักมีรายได้ต่ำ ก็จะมีลักษณะเป็นโรงงานหรือตึกเตี้ย ๆ โทรม ๆ ซะเยอะ ในขณะที่เขตใจกลางเมืองอย่าง Times Square หรือเขตคนรวยอย่าง Financial District ก็จะมีผู้คนเยอะกว่า มีตึกสูงสวย ๆ ให้โหนได้เยอะกว่า
และที่ชอบที่สุดเลยก็คือรายละเอียดต่าง ๆ ของชุดสไปเดอร์แมนนั้นเอง ผู้เล่นอย่างเรานั้นก็สามารถทำเควสหรือเก็บของต่าง ๆ ภายใน Map เพื่อมาปลดล็อกเอาชุดสไปเดอร์แมนที่มีเกือบ 30 ชุด แถมชุดที่เราเลือกใส่จะแสดงในหน้าจอการโหลดและในฉากคัตซีนทั้งหมดอีกด้วย ทำให้เราสามารถเลือกเล่นเป็นสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นโปรดของตัวเองได้ตลอดตั้งแต่ต้นจนจบเกมเลย ชุดต่าง ๆ ยังปลดล๊อคท่าพิเศษใหม่ ๆ ประจำชุดด้วย (สามารถเลือกพลังพิเศษแยกกับชุดได้) จึงส่งผลต่อการเล่นมากกว่าแค่เป็นสกินตัวละครอย่างเดียว
เกมเพลย์ Gameplay
มาพูดถึงในส่วนของเกมเพลย์บ้าง ในส่วนตรงนี้เองก็ถือว่าทำได้ดีทำได้สนุก รู้สึกว่าสามารถเข้าถึงความเป็น Spider-Man ได้มากกว่าเกมไหน ๆ ส่วนตัวคือชอบการเคลื่อนที่ตอนโหนใยหรือโดดระหว่างตึกมาก ๆ ด้วยฟิสิกส์ ในการโหนใยของสไปเดอร์แมนนั้นมันสมจริงเอามาก ๆ ฟีลลิ่งมันได้จริง ๆ ในขณะที่การเตะต่อยของตัวเกมก็แอคชั่น คอมโบสนุก จัดเต็ม เล่นสนุกและลื่นไหล รวมถีงท่าเผด็จศึกของศัตรูก็ทำออกมาได้ดีเช่นกัน แต่ก็ติดอยู่ตรงมูฟเมนต์หรือรูปแบบการออกท่ามันน้อยไปสักนิด ช่วงหลัง ๆ เลยจะมีความหน่ายเพิ่มเข้ามาบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกน่าเบื่อมากขนาดนั้น
ถึงแม้ว่าตัวเนื้อเรื่องจะเลี้ยงผู้เล่นได้ แต่ถึงอย่างนั้นด้วยความเป็นเกมแนวโอเพนเวิร์ล ก็จำต้องมีเควสต์รองมาตัดเลี่ยนบ้าง พวกเควสต์รองที่มาเป็นซีรีส์หรือนำเสนอปัญหาจิปาถะที่ Spider-Man ต้องเจอก็ถือว่าช่วยเพิ่มมิติให้เซ็ตติ้งของเกมได้อย่างยอดเยี่ยม พวกภารกิจชาลเลนจ์, ตามถ่ายรูป หรือเก็บของ ก็ยังมีความเพลินในแบบของมัน
ภาพรวม Overall
สรุปแล้ว Marvels Spider-man ถือเป็นเกม Action Open-world ที่สนุกตามสูตรของเกมแนวนี้ทุกอย่าง ด้วยระบบการต่อสู้และการเดินทางที่ยอดเยี่ยมและกิจกรรมต่าง ๆ ในแผนที่อันกว้างและละเอียด ซึ่งเยอะและส่งผลต่อตัวละครโดยตรงทำให้รู้สึกเหมือนเกมมีอะไรให้เราทำตลอดเวลา บวกกับเนื้อเรื่องตามสูตรสำเร็จของแนวซุปเปอร์ฮีโร่ ที่ค่อยทวีคูณความเดือดขึ้นไปเรื่อย ๆ แฟน ๆ เกมแอคชั่นหรือ Open-World น่าจะชอบ ส่วนสำหรับแฟน ๆ ซุปเปอร์ฮีโร่หรือแฟน ๆ สไปเดอร์แมน นี่ถือเป็นเกมสำหรับคุณโดยเฉพาะเลย และห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด
Marvel’s Spider-Man Remastered 8.5/10
ผู้เขียน Cr. K’Poom