แมริออท เผยผลสำรวจ นักท่องเที่ยวสไตล์ลักซ์ชูรีรุ่นใหม่ นิยมท่องเที่ยวใกล้บ้านมากขึ้น
มากกว่าสองในสามของเหล่า Gen Z และ Millennials ในเอเชียแปซิฟิก ตั้งใจที่จะท่องเที่ยวพักผ่อนช่วงวันหยุด ณ จุดหมายปลายทางใกล้บ้านมากขึ้น ผลการสำรวจโดย แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ในเอเชียแปซิฟิก เผยว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวสไตล์ลักซ์ชูรีรุ่นใหม่นั้น กำลังเมินการเดินทางไกล ๆ แต่หันมาสนใจในการสำรวจสถานที่ใกล้บ้านของพวกเขามากขึ้น
การสำรวจในระดับภูมิภาคโดยผู้นำด้านการโรงแรมลักซ์ชูรีระดับสากล อย่าง แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล (Marriott International) ได้บัญญัติศัพท์เพื่ออธิบายถึงกลุ่มคนเจเนอเรชั่นใหม่ของนักเดินทางท่องเที่ยวที่กำลังมีอิทธิพลในอุตสาหกรรมในอีกสองถึงสามปีข้างหน้าว่า ‘นักสำรวจท้องถิ่น’ (‘Native Explorers’) ซึ่งหมายถึงกลุ่มนักเดินทางช่วงวัยมิลเลนเนียล (millennial) และเจน ซี (Gen Z) ในเอเชียแปซิฟิกที่มีฐานะ ผู้กำลังสร้างเทรนด์การเดินทางที่ตรงกันข้ามกับผู้คนเจเนอเรชั่นก่อนหน้าพวกเขา โดยขณะที่บรรพบุรุษของพวกเขาอาจยอมอดออมเงินเพื่อใช้จ่ายกับการเดินทางท่องเที่ยวระยะทางไกล ๆ ที่มีค่าใช้จ่ายสูงมากกว่า แต่เหล่า Native Explorers เลือกที่จะออกเดินทางตั้งแต่อายุยังน้อย โดยหนึ่งในสี่ของพวกเขาเดินทางมาแล้วไม่น้อยกว่าสองทวีปนอกเอเชียแปซิฟิกขณะที่พวกเขาอายุเพียง 26 ปี กระนั้น Native Explorers ก็ยังตั้งใจที่จะใช้เงินกับการเดินทางในจุดหมายปลายทางที่ใกล้บ้านมากขึ้นในอีกอย่างน้อยสองปีข้างหน้า หรือ 85% ของพวกเขาเชื่อว่าพวกเขายังต้องการสำรวจและค้นพบทั่วภูมิภาคนี้ให้ได้มากที่สุด
การสำรวจที่ครอบคลุมทั้งออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น อินเดีย สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ได้จัดทำขึ้นเพื่อให้เข้าใจได้ดียิ่งขึ้นถึงมุมมองและทัศนคติของเหล่านักเดินทางเจนเนอเรชันมิลเลนเนียล และเจน ซี ผู้มีฐานะ และช่วยให้แบรนด์ลักซ์ชูรีต่าง ๆ สามารถวางแผนเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเดินทางรุ่นใหม่ได้ดียิ่งขึ้น
ด้วยมุมมองของพวกเขาที่ปรารถนาจะใช้วันหยุดพักผ่อนไปกับการเดินทางที่ใกล้บ้านมากขึ้น Native Explorers ได้จัดอันดับให้ญี่ปุ่น (52%), เกาหลีใต้ (42%) และนิวซีแลนด์ (39%) เป็นสามจุดหมายปลายทางระดับท็อป และพวกเขายังคงตามหาสิ่งใหม่ๆ แม้ในจุดหรือสถานที่ท่องเที่ยวอันคุ้นเคย อาทิ ออสเตรเลีย (39%) และไทย (32%) ในฐานะศูนย์กลางด้านวัฒนธรรม และแม้ว่าหนึ่งในสี่ของ Native Explorers จะพอใจมากกว่ากับการเลี่ยงการเดินทางระยะไกลและเลือกที่จะท่องเที่ยวเพียงใกล้ๆ หรือในวันหยุดที่ไม่วุ่นวาย แต่ทว่า ความรู้สึกของการได้ผจญภัยของพวกเขาก็ยังคงอยู่ โดย 43% มองหาซึ่งการหลีกหนีความวุ่นวายสู่ธรรมชาติ และประสบการณ์ด้านสุขภาพที่ดี และ 36% กำลังมองหาอัญมณีทางวัฒนธรรมที่ซ่อนตัวอยู่ซึ่งพวกเขานั้นยังไม่เคยได้ค้นพบมาก่อน
“ในระดับทั่วโลก เรากำลังเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ท่ามกลางกลุ่มนักเดินทางที่มุ่งหน้าสู่ประสบการณ์อันเปี่ยมด้วยความหมายและประสบการณ์เฉพาะหนึ่งเดียวทั้งในแง่ของจุดหมายปลายทางใหม่ๆ และจุดหมายปลายทางที่คุ้นเคย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชียแปซิฟิก ด้วยหลักฐานยืนยันจากการสำรวจและวิจัยของเราถึงรูปแบบและพฤติกรรมการเดินทางของเหล่าเจน ซี และมิลเลนเนียล” บาร์ต บัวริง (Bart Buiring) ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เอเชียแปซิฟิก (Chief Sales & Marketing Officer, Marriott International Asia Pacific) กล่าว “ด้วยเพราะกลุ่มนักเดินทางรุ่นใหม่ผู้มีฐานะร่ำรวยในเอเชียแปซิฟิกมีแนวโน้มที่จะใช้วันหยุดพักผ่อนภายในท้องถิ่น และวางกำหนดการเดินทางที่รุ่มรวยไปด้วยเรื่องราวทางวัฒนธรรม เราจึงกำลังขยายโครงการระดับลักซ์ชูรีขึ้นในจุดหมายปลายทางอันเป็นที่ต้องการสูงสุดของภูมิภาค เช่น นารา ซิดนีย์ และจิ่วจ้ายโกวของจีน ด้วยเป้าหมายของการเปิดตัว 12 โครงการ เฉพาะเพียงในปี 2566 นี้”
ความลักซ์ชูรีที่นิยามโดยความเชื่อมโยงและประสบการณ์อันเป็นต้นตำรับ และงานฝีมือที่ยังคงเป็นกุญแจสำคัญ
เหล่า Native Explorers กำลังสร้างนิยามใหม่ให้กับความหมายของการเดินทางแบบลักซ์ชูรี จากความยากและความเอ็กซ์คลูซีฟมาสู่การเชื่อมโยงและประสบการณ์อันเปี่ยมด้วยความหมาย และขณะที่พวกเขากำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้วันหยุดพักผ่อนแบบเรียบง่ายและมีความเป็นต้นตำรับ หนึ่งในสามของผู้ตอบแบบสอบถาม (37%) ได้ให้ความสนใจกับการเดินทางที่เชื่อมโยงกับผู้คน ด้วยการบริการด้านการโรงแรมอย่างจริงใจ และเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน ในฐานะองค์ประกอบสำคัญของการเดินทางแบบลักซ์ชูรีหรือสไตล์หรูหรา
โดยส่วนใหญ่ (58%) เชื่อว่าประสบการณ์หนึ่งเดียวในชีวิตและช่วงขณะเวลาอันน่าจดจำนั้นคือสิ่งที่สร้างซึ่งประสบการณ์การเดินทางอันหรูหราหรือลักซ์ชูรี โดยตัวเลือกอันดับต้นๆ ยังรวมไปถึงการเข้าถึงแบบ วีไอพี (VIP) สู่งานคอนเสิร์ตที่ขายบัตรหมดอย่างรวดเร็วจากบรรดาศิลปินที่พวกเขาชื่นชอบ (52%) และเวิร์กชอปด้านอาหารแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับเหล่าเซเลบริตี้เชฟชื่อดัง (36%) โดยมี แมริออท บอนวอย โมเมนท์ (Marriott Bonvoy Moments) เป็นแพลตฟอร์มที่ซึ่งสมาชิก แมริออท บอนวอย (Marriott Bonvoy Members) จะสามารถใช้คะแนนที่ได้รับจากการเดินทางและกิจกรรมในทุก ๆ วัน เพื่อแลกสู่แพคเกจ เอ็กซ์คลูซีฟต่าง ๆ โดยเติมเต็มความปรารถนานี้ด้วยการนำเสนอประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต นับจากการพบปะกับทีม เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ปิโตรนาส เอฟวัน (Mercedes-AMG PETRONAS F1 Team) ตลอดจนถึงช่วงเวลาพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่มีร่วมกับเหล่าเซเลบริตี้เชฟและศิลปินต่างๆ
งานฝีมือยังคงเป็นหัวใจของการเดินทางอันหรูหราหรือสไตล์ลักซ์ชูรี โดยกว่า 50% เชื่อว่าการบริการอันล้ำเลิศและสิ่งอำนวยความสะดวกอันทันสมัยนั้นคือหัวใจหลัก ขณะที่การออกแบบเฉพาะบุคคลยังคงเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการตัดสินใจในการเลือกโรงแรมหรูระดับลักซ์ชูรี โดย 32% คาดหวังถึงการบริการที่ออกแบบขึ้นเฉพาะบุคคล อาทิ ที่ปรึกษาด้านการเดินทางของแต่ละบุคคล และ 32% เลือกที่จะพักในโรงแรมซึ่งนำเสนอกำหนดการการเดินทางที่ออกแบบขึ้นเฉพาะ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ออกแบบขึ้นตามความต้องการของแต่ละบุคคล เช่น เดอะ ริทซ์ คาร์ลตัน (The Ritz-Carlton) ที่ได้ยกระดับประสบการณ์แห่งคลับ (Club) ซึ่งเปิดตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้ เพื่อนำพาแขกผู้มาเยือนเดินทางสู่โลกของประสบการณ์อันหรูหราที่ออกแบบขึ้นเฉพาะบุคคล นับจากก่อนการออกเดินทางไปจนถึงการออกเดินทาง โดยประสบการณ์ ริทซ์-คาร์ลตัน คลับ ที่ผ่านการยกระดับแล้วนี้จะสามารถรับบริการได้ ณ โรงแรม ริทซ์-คาร์ลตัน ทั้งหมดในเอเชียแปซิฟิก ที่ซึ่งแขกผู้เข้าพักจะได้ค้นพบกับการพักผ่อนคลายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียว ตลอดจนการเดินทางด้านประสบการณ์อาหารที่รังสรรค์ขึ้นเฉพาะอย่างพิถีพิถัน และการบรรจบกับความต้องการเฉพาะบุคคลที่สร้างสรรค์เป็นดั่งช่วงเวลาอันเปี่ยมด้วยความหมาย
สำรวจจุดหมายปลายทางผ่านความสะดวกสบายของโรงแรมหรูระดับลักซ์ชูรี
จับระหว่างความปรารถนาของพวกเขาในการค้นพบและสัมผัสได้ถึงความหรูหรา เก้าใน 10 ของผู้ตอบแบบสอบถามชื่นชอบกับการสำรวจจุดหมายปลายทางด้วยความช่วยเหลือจากโรงแรมหรูของพวกเขา มากกว่าการค้นหาและจ้างไกด์ท้องถิ่นให้กับพวกเขาเอง โดยเกือบครึ่งหนึ่ง (45%) นั้นชื่นชอบอาหารท้องถิ่นแบบง่าย ๆ มากกว่า ผ่านประสบการณ์การรับประทานอาหารชั้นเลิศของโรงแรมนั้น ๆ ขณะที่ 39% ต้องการประสบการณ์ของวัฒนธรรมท้องถิ่นผ่านโปรแกรมที่ออกแบบและรังสรรค์ขึ้นโดยโรงแรม และ 34% สนใจที่จะลองร่วมสัมผัสวิถีของการดูแลด้านสุขภาพในท้องถิ่นซึ่งค้นพบได้ ณ สปาของโรงแรม
ความกระตือรือร้นในการค้นพบด้านวัฒนธรรมของชาว Native Explorers ยังขยายไปสู่ตัวเลือกด้านที่พักต่างๆ โดยส่วนใหญ่ (76%) ของผู้ตอบแบบสำรวจนั้นเลือกโรงแรมและรีสอร์ทที่มีแนวคิดอันเปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ ณ จุดหมายปลายทางนั้นๆ โดยความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และผู้มาเยือนยังคงเป็นกุญแจสำคัญสำหรับ Native Explorers โดยประมาณหนึ่งในสามของพวกเขาเลือกที่พักอันเปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจของจุดหมายปลายทางภายใต้แบรนด์หรูหราที่มีชื่อเสียง เช่น ทิศทางการออกแบบที่วิวัฒนาการขึ้นของโรงแรม ดับเบิ้ลยู (W Hotels) ที่ได้สร้างการเข้าถึงอันลึกซึ้งสู่ท้องถิ่น ผ่านทั้งแง่มุมของแบรนด์และสถานที่ ดังนั้น จึงไม่มีโรงแรม ดับเบิ้ลยู แห่งใด ๆ ที่ดูเหมือนกัน
แบรนด์ลักซ์ชูรีของ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ให้ความสำคัญกับการบรรจบกับความต้องการของเหล่า Native Explorers
ภายใต้โครงการแบรนด์ลักซ์ชูรีต่าง ๆ ของ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ล้วนให้ความสำคัญกับการบรรจบกับความปรารถนาที่สร้างรูปของการเดินทางขึ้นใหม่ ด้วยการเปิดตัวโรงแรมแห่งต่างๆ ที่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับเหล่านักเดินทางยุคใหม่ โดยบริษัทวางแผนที่จะสร้างผลงานอันมิอาจเทียบเคียงได้ของโรงแรมหรูระดับลักซ์ชูรีซึ่งเปี่ยมไปด้วยพลังทั้งแปดแห่ง ที่ตั้งอยู่ในสถานที่ด้านการเดินทางและท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดของภูมิภาค อาทิ ซิดนีย์ และกรุงเทพฯ รวมถึงจุดหมายปลายทางยอดนิยมใหม่ๆ อย่าง ฟุกุโอกะของญี่ปุ่น และจิ่วจ้ายโกวของจีน
ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านการโรงแรมอันหรูหรา ณ ปัจจุบัน แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล บริหารงานโรงแรมและรีสอร์ทหรู ระดับลักซ์ชูรีเกือบ 500 แห่ง ใน 68 ประเทศและพรมแดน ซึ่งรวมไปถึงโครงการ 159 แห่งที่เปิดตัวในเอเชียแปซิฟิกจนถึงปัจจุบัน โดยภูมิภาคนี้เป็นที่ตั้งของครึ่งหนึ่งของโครงการตามแผนนโยบายการพัฒนาระดับโลกของบริษัทซึ่งมีโครงการหรูระดับลักซ์ชูรีถึงเกือบ 200 โครงการ