กรมประมง…สนองงาน ๘๓ โครงการ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มุ่งมั่น “สืบสานงานประมงสร้างสุขปวงประชา” เพื่อพัฒนาภาคการประมงสู่ความยั่งยืน

กรมประมง…ร่วมสนองงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ๘๓ โครงการเพื่อแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากให้แก่ราษฎร โดยเฉพาะเกษตรกรชาวประมงที่ประสบปัญหาในการประกอบอาชีพ 
โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงนำไปสู่ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นรวมทั้งปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรประมงเพื่อให้มีการใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าและยั่งยืน

นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า  กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสและพระราชดำริขององค์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศา
นุวงศ์ ที่ทรงมีพระราชหฤทัยมุ่งมั่นในการขจัดทุกข์บำรุงสุขแก่พสกนิกรชาวไทยและได้นำมาสู่การพัฒนางานประมงในด้านต่าง ๆ ภายใต้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ยึดหลักตาม
แนวพระราชดำริ เพื่อให้เกิดการดำเนินงานที่เหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทในแต่ละพื้นที่ ทั้งการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีการประมง การส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การสร้างจุดเรียนรู้และสาธิตด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่เหมาะสม การเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำให้เป็นแหล่งอาหารโปรตีน และการอนุรักษ์ทรัพยากรประมง  โดยที่ผ่านมาสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ทำให้เกษตรกรชาวประมงมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น 

สำหรับในปีงบประมาณ ๒๕๖๖ กรมประมงได้ดำเนินงานตามแผนงานโครงการ และกิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ รวมทั้งสิ้น ๘๓ โครงการ โดยได้กระจายอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วทุกภูมิภาค เช่น โครงการศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งกรมประมงได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสนองพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ โดยจัดตั้งงานพัฒนาการประมง ภายใต้การกำกับดูแลของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดศรีษะเกษ  โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาและอนุรักษ์พันธุ์ปูป่าทุ่งทะเลอันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดกระบี่ เป็นหนึ่งในโครงการที่ปลูกจิตสำนึกให้เกษตรกรมีความรักษาหวงแหนอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ โดยมุ่งเน้นผลิตและปล่อยพันธุ์ปูในแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อเพิ่มผลผลิตพันธุ์ปูในธรรมชาติ เพื่อเป็นแหล่งศึกษา และพัฒนา การเพาะพันธุ์ปู เป็นแหล่งอบรมความรู้ และเสริมสร้างจิตสำนึกของการรักษาหวงแหน การอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำร่วมกับป่าชายเลนให้อุดมสมบูรณ์เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน  และโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดจันทบุรี โดยให้ทุกหน่วยงานนำหลักวิชาการ ในสาขาต่าง ๆ มาบูรณาการร่วมกัน เพื่อศึกษา ทดลอง วิจัย และพัฒนาในเขตที่ดินชายทะเล จัดทำเป็นแปลงสาธิต หรือ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกร 

อธิบดีกรมประมง กล่าวถึงการดำเนินงาน ๘๓ โครงการในปีที่ผ่านมากรมประมงดำเนินงานโครงการประกอบด้วย ๔ กิจกรรมหลัก ได้แก่ กิจกรรมแรก การผลิตพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติต่าง ๆ ที่เหมาะสม เพื่อทดแทนสัตว์น้ำเดิมในแหล่งน้ำธรรมชาติ ตลอดจนสร้างความหวงแหนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และส่งเสริมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้แก่เกษตรกรในโครงการฯ ไม่น้อยกว่า ๘๙ ล้านตัว 

กิจกรรมที่สอง การถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีด้านการประมง ส่งเสริมอาชีพเลี้ยงสัตว์น้ำอบรมให้ความรู้ด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแก่เกษตรกร เพื่อเป็นรายได้เสริมแก่ครัวเรือนและโปรตีนประเภทปลาไว้บริโภคในครัวเรือน ตลอดจนให้ความรู้ด้านการแปรรูปสัตว์น้ำแก่นักเรียน จำนวน ๕,๖๔๐  ราย จำนวนรายอาจจะไม่มาก เพราะในแต่ละพื้นที่จะมีเยาวชนรุ่นใหม่ ๆ ที่เข้ามาให้ความสนใจไม่มากนัก โดย กรมประมงจะเข้าไปส่งเสริมให้การอบรมทุก ๆ ปี ฉะนั้นบางหมู่บ้านอบรมเกือบหมดแล้ว ต้องขยายออกไปหมู่บ้านใกล้เคียง 

แยกเป็น ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ๓,๐๒๐ ราย ถ่ายทอดและพัฒนาความรู้ด้านเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในโรงเรียน ๑,๑๒๐ ราย และถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านโภชนาการและการแปรรูปสัตว์น้ำ ๑,๕๐๐ ราย 

กิจกรรมที่สาม สร้างแหล่งเรียนรู้ และแหล่งผลิตอาหารโปรตีนประเภทปลาให้แก่นักเรียนด้วยกิจกรรมประมงโรงเรียน จำนวน ๗๓๖  แห่ง กรมประมงสนับสนุนปัจจัยการผลิตด้านการประมงที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และศักยภาพของโรงเรียน อาจจะเป็นบ่อดิน หรือบ่อปูนก็ได้ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนอาหารในวัยเรียน ในกิจกรรมประมงโรงเรียนในสังกัด กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) โรงเรียนในสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หรือโรงเรียนในสังกัดอื่น ๆ โดยอบรมให้ความรู้การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ สนับสนุนพันธุ์ปลาและให้อาหารปลาในตอนเริ่มต้น และให้ความรู้ด้านโภชนาการและการแปรรูปอาหารเพื่อนำมาเป็นอาหารกลางวัน จำพวกโปรตีน ที่ได้จากปลา ไข่ไก่ และไก่ ตลอดจนพืชผักสวนครัว ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเข้าไปช่วยบูรณาการในโรงเรียน ซึ่งเป็นโมเดลที่ร่วมคิดร่วมสร้างว่าจะทำอย่างไรเพื่อจะแก้ปัญหาของการขาดแคลนอาหารสำหรับเด็กในวัยเรียน 

กิจกรรมที่สี่ มีจุดสาธิตเรียนรู้เพื่อถ่ายทอดความรู้ด้านวิชาการ เป็นสถานที่ตัวอย่างให้ราษฎรเข้ามามีส่วนร่วมศึกษาดูงานและฝึกปฏิบัติจริงเพื่อให้สามารถนำไปใช้ประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้ จำนวน ๕๑ แห่ง 

ในปีที่ผ่านมาเกษตรกรในโครงการมีผลผลิตสัตว์น้ำจากกิจกรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อดินทั้งหมด จำนวน ๕๐๒,๒๗๑ กิโลกรัม มีพื้นที่ทั้งหมด จำนวน ๑,๙๑๒.๕๐ ไร่ ได้ผลผลิตสัตว์น้ำเฉลี่ยของพื้นที่การเลี้ยงในบ่อดิน เท่ากับ ๒๖๒.๖๓ กิโลกรัมต่อไร่ และมีผลผลิตสัตว์น้ำจากกิจกรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อพลาสติก บ่อคอนกรีต และกระชัง ทั้งหมด จำนวน ๓๙,๖๑๖ กิโลกรัม มีพื้นที่ทั้งหมด จำนวน ๑๓,๖๐๕ ตารางเมตร ได้ผลผลิตสัตว์น้ำเฉลี่ยของพื้นที่การเลี้ยง เท่ากับ ๒.๙๑ กิโลกรัมต่อตารางเมตร ส่งผลให้เกษตรกรในพื้นที่โครงการ จำนวน ๓,๗๙๑ ราย มีผลผลิตสัตว์น้ำไว้บริโภคในครัวเรือนและสามารถเหลือจำหน่ายเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัวได้

วันนี้..กรมประมง ยังคงมุ่งมั่น ที่ทำให้เกษตรกรชาวประมงภายใต้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการประมงสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเอง ให้มีความรู้ความสามารถอย่างครบวงจร ทั้งการผลิต การแปรรูป ตลอดจนถึงการจำหน่าย สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงครอบครัวและพึ่งพาตนเองได้ ส่งผลให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตลอดจนเกิดจิตสำนึกอนุรักษ์หวงแหนทรัพยากรสัตว์น้ำ เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับแหล่งน้ำธรรมชาติ และแหล่งน้ำชุมชน ซึ่งเป็นความสำเร็จของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอย่างยั่งยืน 

About Author