“DEX” พร้อมลุย! ตลาดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำจากญี่ปุ่นครบวงจรปลื้ม
DEX พร้อมลุย! ตลาดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านลิขสิทธิ์จากญี่ปุ่นแบบครบวงจร ปลื้ม กระแส J-DRAMA ยังแรง เสียงตอบรับ “SEE HEAR LOVE” ล้นหลาม!
DEX พร้อมเดินหน้าลุยลิขสิทธิ์ธุรกิจภาพยนตร์ญี่ปุ่นเต็มตัว หลังชิมลางด้วยภาพยนตร์ SEE HEAR LOVE พบกระแสตอบรับดีเกินคาด มองอนาคตสื่อบันเทิงจากญี่ปุ่นยังเป็นขาขึ้นในไทยและ ในตลาดโลก พร้อมตั้งเป้าเป็นผู้นำด้านลิขสิทธิ์จากประเทศญี่ปุ่นแบบครบวงจร
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 66 บริษัท เดกซ์ (ดรีม เอกซ์เพรส) ผู้บริหารธุรกิจลิขสิทธิ์จากญี่ปุ่นชั้นนำของประเทศไทย ร่วมกับ REMOW Co., Ltd. (บริษัท รีโมว์ จำกัด) ประเทศญี่ปุ่น และ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) จัดงานเปิดตัวภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ (Gala Premier) เรื่อง “SEE HEAR LOVE แม้จะมองไม่เห็น แม้จะไม่ได้ยิน แต่ก็รักเธอสุดหัวใจ” พร้อมดึง 2 นักแสดงนำ “โทโมฮิสะ ยามาชิตะ” และ “ยูโกะ อารากิ” บินตรงจากญี่ปุ่นมาพบสื่อมวลชน และแฟนคลับสาวก J-POP และ J-Drama แบบสุดพิเศษก่อนเข้าฉายจริง 6 ก.ค.นี้ ในโรงภาพยนตร์ที่ร่วมรายการ
โดยนายกวิน โรจน์รัตนวาณิชย์ ผู้อำนวยการสายงานธุรกิจภาพยนตร์ บริษัท เดกซ์ (ดรีม เอกซ์เพรส) เปิดเผยภายในงานว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 25 ปีที่ผ่านมา บริษัทมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจการนำเข้าและบริหารลิขสิทธิ์การ์ตูนญี่ปุ่นเป็นหลัก “SEE HEAR LOVE” นับเป็นครั้งแรกที่หันมาจับตลาดธุรกิจภาพยนตร์ญี่ปุ่น และเป็นก้าวสำคัญของ “เดกซ์” สู่การนำเข้าลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ญี่ปุ่นอย่างเต็มตัว ซึ่งพบว่าตลาดนี้ยังไปได้ดีในประเทศไทย นายกวินเสริมอีกว่า เสียงตอบรับจากภาพยนตร์เรื่อง SEE HEAR LOVE ในครั้งนี้เป็นตัวอย่างที่พิสูจน์ให้เห็นว่าคอนเทนต์จากประเทศญี่ปุ่นยังคงมีกระแสอยู่ ซึ่งต้องขอบคุณแฟน ๆ ทั้งแฟนคลับนักแสดง “โทโมฮิสะ ยามาชิตะ” และ “ยูโกะ อารากิ” รวมถึงแฟน ๆ สาย J-POP และ J-Drama ทุกท่านที่ยังให้การตอบรับเป็นอย่างดี
“ก้าวต่อไปของเดกซ์นับจากนี้ นอกจากการบริหารลิขสิทธิ์การ์ตูนญี่ปุ่นซึ่งเป็นสายธุรกิจหลักแล้ว จะยังมองหาช่องทางอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัท ด้วยจุดแข็งของตัวธุรกิจเอง รวมถึงการมีคู่ค้าที่ดีทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ทำให้เดกซ์ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แม้จากวิกฤตการณ์โควิด-19 จะทำใหธุรกิจโรงภาพยนตร์ในภาพรวมได้รับผลกระทบอย่างหนักอีกทั้งพฤติกรรมของลูกค้าก็เปลี่ยนไป แต่ลูกค้ากลุ่มที่ชื่นชอบคอนเทนต์จากประเทศญี่ปุ่นนั้นก็ยังคงเหนียวแน่นและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังเข้าไปชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์อยู่เหมือนเดิม ดูได้จากตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง “วันพีซ” และ “ยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน” ที่มียอดสถิติ Box Office สูงขึ้นในทุกๆ ปี” นายกวิน กล่าวทิ้งท้าย