แพทย์ความงาม เผยการค้นพบเทคนิคใหม่ล่าสุด! กายวิภาคศาสตร์ใบหน้าแบบบูรณาการ

แพทย์ความงามเผยการค้นพบเทคนิคใหม่ล่าสุด! กายวิภาคศาสตร์ใบหน้าแบบบูรณาการ สร้าง ‘Highlight & Shading แบบธรรมชาติให้ผิวหน้า’ ตอบโจทย์คนยุคโซเชียล สวย-หล่อ ทั้งหน้าจอและชีวิตจริง
ความงามเป็นเรื่องปัจเจก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันนี้คนดูแลตัวเองมากขึ้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด จึงไม่น่าแปลกใจหากพัฒนาการความงามและการดูแลผิวจะปรับเปลี่ยนตามแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ซึ่งวันนี้นายแพทย์ณัฐพล ลาภเจริญกิจ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเวชศาสตร์ความงาม และแพทย์วิทยากรในงานสอน Full Face Anatomy แบบผสมผสานรูปแบบใหม่แก่แพทย์ผิวหนังและความงามที่ Chula Surgical Training Center คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยถึงโจทย์ความงามของคนยุคโซเชียล และเทคนิคการสร้าง Highlight & Shading แบบธรรมชาติให้ผิวหนังด้วยโมเลกุลไฮยาลูโรนิค แอซิด ชนิดพิเศษ ซึ่งเป็นเทคนิคขั้นสูงล่าสุดที่ค้นพบเมื่อปี 2560 จากประสบการณ์เก็บเคสมามากกว่า 1,000 ราย และพัฒนาเทคนิคมาตลอด 6 ปี

นายแพทย์ณัฐพล ลาภเจริญกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเวชศาสตร์ความงาม และอาจารย์พิเศษด้านการฉีดฟิลเลอร์ กล่าวว่า “ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2566 หลังจากสถานการณ์ Covid-19 คลายลง คนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ มีการเปิดประเทศ และคนไทยออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น สิ่งหนึ่งที่พบคือ ธุรกิจเสริมความงาม ผิวหน้าและผิวพรรณกลับมาคึกคัก เพราะคนกลับมาดูแลตนเองเพื่อเตรียมพร้อมในการออกไปมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม โดยสถิติคนมารับบริการทางการแพทย์ที่ อินฟินิซ คลินิก (Infiniz Clinic) ตั้งแต่ต้นปี 2566 เรียงตามกลุ่มอายุ คร่าว ๆ พบว่า

กลุ่ม Gen Z (ต่ำกว่า 23 ปี) แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก เป็นกลุ่มที่มีปัญหาสิวเรื้อรัง หรือ มาขอรับคำปรึกษาเพราะรักษาสิวมาหลายที่แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ลองใช้ยาหลายขนานจนเกิดผลข้างเคียงกับผิว และกลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มที่อยากดูดีทั้งในโลก Social และชีวิตจริง ต้องการให้ผิวดูดีเหมือนในรูปถ่าย
กลุ่ม Gen Y (อายุ 23-43 ปี) เป็นกลุ่มที่มีงบประมาณ จะเข้ามารับรักษาด้านปัญหารูขุมขนกว้าง รอยแผลเป็นจากสิว ผิวหน้าหยาบกร้าน เริ่มมีริ้วรอยที่มากขึ้น และผิวหมองคล้ำจาก Collagen ที่เสื่อมสภาพเมื่ออายุที่มากขึ้น ร่วมกับ Lifestyle ที่ทำงานหนักอดนอน ขาดการดูแลตัวเอง
กลุ่ม Gen X (อายุ 44-58 ปี) เป็นกลุ่มที่ผิวหน้าเริ่มมีริ้วรอยร่องลึก หย่อนคล้อย ที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยการทาครีม รวมไปถึงปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำ ที่เกิดจากสมดุลผิวและฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป”

Pain point คนยุคโซเชียล “อยากสวยหล่อในชีวิตจริงแบบไม่ง้อแอพฯ”
นายแพทย์ณัฐพล เผยถึง request ของผู้มาใช้บริการความงามยุคโซเชียลว่า ปัจจุบันเรามีแอพพลิเคชั่นแต่งรูปมากมาย ทำให้หลายคนพอได้แต่งภาพตนเองในแอพฯ ก็เหมือนได้เห็นลุคตัวเองในเวอร์ชั่น Better Me ซึ่งมีหลายเคสมากๆ ที่ผู้มาใช้บริการนำภาพตนเองที่ผ่านแอพฯ มาเป็น Reference ให้คุณหมอ โดย Pain point ส่วนใหญ่ที่นำมาปรึกษา มีดังนี้
- อยากให้ผิวดีขึ้น โดยบริเวณที่กังวล ส่วนมากคือ รูขุมขนกว้าง ผิวขาดความกระจ่างใส และไม่ต้องการทำเลเซอร์ผิวแล้ว เนื่องจากทำให้หน้าบางลงและผิวระคายเคืองเมื่อโดนแดด
- ถ่ายรูปไม่ขึ้นกล้อง ทั้งที่พอใจกับรูปหน้าปกติ และไม่รู้สาเหตุว่าเพราะอะไรเมื่อถ่ายภาพแล้วใบหน้ากลับดูแบน จุดที่ควรเด่นสะดุดตากลับดูเรียบ ไร้มิติ
- อยากมีผิวใสเหมือนแก้ว หรือศัพท์ความงามเรียก ‘Glass Skin’ ใช้ make up ให้น้อยที่สุด เพื่อลดการปนเปื้อนระหว่างผิวหนังกับกับเครื่องสำอาง ลดการเกิดโรคผิวหนังอักเสบ เช่น สิว ภูมิแพ้ผิวหนัง ภูมิแพ้สัมผัส

เทคนิคกายวิภาคศาสตร์ใบหน้าแบบบูรณาการ (Integrative Total Face Anatomy) ตอบโจทย์คนยุคนี้ ด้วยการสร้าง Highlight & Shading แบบธรรมชาติให้ผิวหน้า!
นายแพทย์ณัฐพล กล่าวถึงเทคนิคกายวิภาคศาสตร์ใบหน้าแบบบูรณาการ (Integrative Total Face Anatomy) ในงานสอน Full Face Anatomy แบบผสมผสานรูปแบบใหม่ แก่แพทย์ผิวหนังและความงามที่ Chula Surgical Training Center คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า “แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและการฉีดฟิลเลอร์ ต้องมีความแม่นยำเรื่องกายวิภาคศาสตร์ในแต่ละส่วนของใบหน้าโดยเฉพาะบริเวณขมับที่เป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดและเส้นประสาทค่อนข้างมาก การฉีดฟิลเลอร์ บริเวณนี้ต้องอาศัยความรู้ในเรื่องของ Safety zone อย่างละเอียด รวมถึงการดีไซน์การฉีดก็ต้องอาศัยการประเมินและวิเคราะห์รูปหน้าอย่างดี เพื่อให้ได้รูปทรงที่สวยงามและเป็นธรรมชาติสูงสุด
สำหรับการค้นพบเทคนิคการสร้าง Highlight & Shading แบบธรรมชาติให้ผิวหน้า เริ่มการทดลองเก็บเคสมาแล้วมากกว่า 1,000 เคส จากนั้นในปปี 2560 เริ่มทดลองปรับเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์สำหรับงานผิวเพื่อการเปลี่ยนแปลงคุณภาพผิวหน้าและเพิ่มความกระจ่างใส เป็นแบบใหม่คือการสร้าง Highlight & Shading บนผิวด้วยโมเลกุลไฮยาลูโรนิค แอซิด ชนิดพิเศษ จนพบว่าเทคนิคใหม่นี้ให้ผลดีกว่าการฉีดแบบเดิม ทำให้ใบหน้ามีมิติมากขึ้นด้วยหลักการของ Light reflection point

การสร้าง Highlight & Shading แบบธรรมชาติให้ผิวหน้า จะให้ผลที่ผู้มาใช้บริการพึงพอใจเพราะดูสวยปกติในชีวิตจริง และเมื่อถ่ายรูปใบหน้าก็โดดเด่น โดยจะมีการแบ่งโซนนิ่งของการรักษาเพื่อให้เกิดผิวใหม่ สดใส เรียบเนียน ในรูปแบบ Photogenic Face ซึ่งเทคนิคที่กล่าวมานี้จะเป็นการออกแบบสำหรับรูปหน้าเฉพาะบุคคล”
ความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ใบหน้าคนไข้ และเทคนิคของแพทย์คือหัวใจสำคัญ
จากข่าวคราวการฉีดฟิลเลอร์โดยหมอกระเป๋าจนทำให้ผู้รับบริการหวิดเสียโฉมและตาเกือบบอดในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้หลายคนตระหนักถึงพิษภัยของการรับบริการโดยหมอเถื่อนมากยิ่งขึ้น โดยนายแพทย์ณัฐพลกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การเลือกสถานที่ให้บริการและหาข้อมูลเกี่ยวกับคุณหมอเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ควรเห็นแก่ของแถม ของฟรี หรือโปรโมชั่นที่ลดราคาจนผิดสังเกต เพราะเราอาจจะได้ของที่ไม่ดี ของหมดอายุ หรือของปลอมมาก็ได้

อย่างเช่นเทคนิคการสร้าง Highlight & Shading แบบธรรมชาติให้ผิวหน้า ในประเทศไทยยังมีคุณหมอด้านความงามเพียงไม่กี่คนที่ทำได้ ดังนั้นก่อนเข้ารับบริการจึงควรหาข้อมูลเบื้องต้น โดยเทคนิคนี้คุณหมอจะเริ่มต้นที่การวิเคราะห์โครงสร้างผิวอย่างละเอียด เพื่อเลือกตัวโมเลกุลของสาร HA ที่ตรงกับปัญหาของผู้มาใช้บริการแต่ละราย จากนั้นจะเป็นการออกแบบเวคเตอร์ (Vector) เพื่อกำหนดปริมาณและทิศทาง รวมทั้งวางแผนการฉีดในชั้นผิวต่างๆ ในแต่ละส่วนของผิวหน้าเพื่อให้เกิดผลลัพธ์การสร้างผิวใส เรียบเนียน อิ่มน้ำ ร่วมกับการเกิด Permanent Highlight and Shading ซึ่งในท้ายสุดเมื่อนำเทคนิคการสร้างไฮไลท์ และ เฉดดิ้งมาผนวกกับเทคนิคการปล่อยตัวยาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและลดเลือนริ้วรอยแล้ว ผู้มาใช้บริการก็จะได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจได้ทั้งงานผิวลดริ้วรอย และใบหน้าดูมีมิติธรรมชาตินั่นเอง