ญาติผู้ตาย อยากให้ประหารชีวิตไอเหี้ยม น้ำมันราดจุดไฟเผา แทงซ้ำกว่า 6 แผล ดับคาที่
เป็นข่าวดังที่หลายคนตามดูว่าสุดท้ายจะจับคนร้ายได้ไหม และเรื่องจะจบลงอย่างไร กับกรณีของผู้หญิงคนหนึ่งที่วิ่งหนีชายคนหนึ่งจากรถมาหาพลเมืองดี ขอให้ช่วย ปรากฎว่าหญิงคนนั้นถูกแฟนหนุ่มเอาน้ำมันราดตัว จนเธอเองหนีแล้วก็ถูกจุดไฟวิ่งหนีลงไปในน้ำ แฟนหนุ่มตามลงไปแล้วใช้มีดจ้วงแทงจนกระทั้งแฟนสาวเสียชีวิต
ล่าสุดจับตัวคนร้ายได้เรียบร้อยแล้ว รายการโหนกระแสวันนี้ 7 มี.ค. 66 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ พลเมืองดีที่อยู่ในเหตุการณ์ “ปัญญา” และ “ชัชวาลย์” , “ผศ.ดร.ตฤณห์โพธิ์รักษา” นักอาชญาวิทยาเชิงพฤติกรรมและจิตวิทยาอาชญากร คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, “หนู” เพื่อนข้างห้องผู้ตาย , “ยิ้ม” แม่บ้านที่หอพักซึ่งผู้ตายอาศัยอยู่กับสามี และ “แต้ว” หลานสาวของผู้ตายถึงมูลเหตุว่ามันเกิดอะไรขึ้น รวมถึงเป็นอุทาหรณ์ที่ได้จากกรณีนี้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราไปประสบเหตุมายังไง?
ปัญญา : “พอดีผมกำลังจะขับรถไปขึ้นงานที่โรงงาน แล้วก็เห็นผู้ตายแก้ผ้าอยู่หลังรถ คือเปลือยเปล่าเลยผมเลยจอดรถถามว่ามีอะไรกัน ตรงจุดนั้นเรียกว่าโรงบำบัดน้ำ ก่อนถึงสนามกอล์ฟบางปู ผู้ชายก็ตอบว่ามาว่าเรื่องของผัวเมีย ผมก็เลยบอกว่า อ้าว ผัวเมียอะไร แล้วทำไมผู้หญิงถึงแก้ผ้าอย่างนั้น เดี๋ยวโทรหาตำรวจดีกว่า เขาก็บอกว่าผมนี่แหละผัวมัน มันหายไป10 วัน ไม่รู้มันไปนอนกับใคร ผมก็เลยบอกว่างั้นพี่ก็ใจเย็นๆเดี๋ยวให้ตำรวจมาเคลียร์ดีกว่า มันจะได้ไม่รุนแรง เขาก็บอกงั้นพี่ก็โทรเลย ผมก็เลยให้ลุงคนที่โดนไฟคลอกบอกลุงเอาโทรศัพท์มา”
คือตรงนั้นมีพลเมืองดีอยู่หลายคน มีพี่ปัญญา พี่ชัชวาลย์ คุณลุงประภาส?
ชัชวาลย์ : “ตอนนั้นผมนอนอยู่ในรถ แล้วมันมีเสียงดังมาก ผมเลยมองดูข้างหลังก็เห็นผู้หญิงไม่ใส่เสื้อผ้าผมก็ดูซักพัก ก็มาเห็นตอนที่ผู้ชายสาดน้ำมันใส่ผู้หญิง กับ ลุง”
ปัญญา : “ขวดน้ำมัน คือขวดน้ำมันเบนซินใสๆ เขาราดใส่ผู้หญิงตอนอยู่ในรถแล้วครั้งนึง ผู้หญิงเลยถอดเสื้อผ้าออก”
ตอนนั้นผู้หญิงไปแอบอยู่หลังลุงประภาส แล้วลุงประภาสเลยเอาผ้าขาวม้าของแกห่มให้?
ปัญญา : “ตอนนั้นผมก็บอกลุงเอาโทรศัพท์มา ผมไม่ได้เอาอะไรออกมาเลย ผมกำลังจะไปขึ้นงาน แกก็บอกว่าโทรศัพท์อยู่ในรถ ลุงไปเอามาให้หน่อย แกเลยไปเอามาให้ ผมก็เลยโทรหาตำรวจ ตำรวจบอกให้ถ่ายรูปทะเบียนรถมาให้หน่อย ผมกำลังจะถ่ายทะเบียนรถเขาก็วิ่งไปเอาน้ำมันมาพอดี เหตุการณ์มันไวมาก เขาก็บอกว่าพี่ไม่น่าเข้ามายุ่งเลย รู้ไหมพี่ทำให้ผมเดือดร้อน แล้วเขาก็ไปเอาน้ำมันมาราด ๆ แล้วก็จุดไฟ ผมก็บอกกับผู้หญิงว่าพี่ลงไปในน้ำก่อน ลุงลงไปในน้ำก่อนให้ไฟมันดับ เขาก็ลงกันไป จากนั้นเขาก็ไปเอามีดมา แล้วเขาก็จะเอามาฟันผม ผมก็หาจับไม้จะเอาไปเขวี้ยงสู้ เขาเลยจะลงไปหาผู้หญิง ผมเลยเอาไม้เอาถังเขวี้ยงเขาแต่ไม่ทัน เขาลงไปแล้ว แล้วก็ฟัน จ้วงแทง จากนั้นเขาก็มาจะมาแทงผมต่อ ทีนี้คุณชัชวาลย์เขาถือไม้มาช่วย”
ชัชวาลย์ : “ตอนนั้นผมไม่กล้าเข้าไปเพราะหนึ่งไฟลุกอยู่ ถังน้ำมันก็อยู่ในมือเขา ผมก็เลยดูก่อน เขาก็ยังไม่อะไร พอเขาจุดแล้ววิ่งลงน้ำ แล้วก็วิ่งไปหยิบมีด ผมเลยลงไปช่วยพี่ปัญญา แต่เขาถือมีดมาวิ่งไล่ แล้วก็มีรถกระบะอีกคันที่จอดอยู่มาช่วย เขาไม่ได้สนใจพวกผม เขาเห็นผู้หญิงอยู่ในน้ำ เขาเลยกระโดดลงไปจ้วงแทง”
มาถาม คุณแต้ว ปกติแล้วกับผู้ตายคือพี่หมอน ก็คุยกันอยู่ตลอด?
แต้ว : “ก็มีพูดคุยกันบ้าง แต่ไม่ถึงกับถามเรื่องส่วนตัว เรื่องครอบครัว”
เขาเคยเล่าไหมว่า นายต้น คนร้ายชอบทำร้ายร่างกาย?
แต้ว : “ไม่เคยเล่าให้ฟังโดยตรง แต่หนูได้ยินจากญาติคนอื่น ๆว่าน้ามีปัญหาทะเลาะกัน หนูก็ไม่ได้ไปสนใจว่ายังไง คิดว่าเป็นเรื่องผัวเมียตามประสาที่มีปากเสียงกัน ไม่ได้คิดว่าจะถึงขั้นนี้ มีอยู่ครั้งนึงที่เคยได้ยินว่าลงไม้ลงมือกันก็มี เขาคบกันมา 4-5 ปีแล้ว”
เขาเคยมาเล่าถึงนายต้นไหมว่ามีนิสัยใจคอยังไง?
แต้ว : “ไม่เคยค่ะ เคยเจอตามงานหรือแกมาหาที่บ้าน เขาดูเป็นคนดี สุภาพ พูดน้อย ดูเป็นคนเงียบๆ”
มาถาม พี่หนู เป็นคนที่ขายของอยู่ในห้องเช่าใกล้ห้องผู้เสียชีวิต พอจะรู้ไหมว่าเหตุมันเป็นอย่างไรบ้าง?
หนู : “โดยรวมผู้ชายก็ดูเป็นคนดี แต่เวลาที่เขามีปัญหาทะเลาะกัน หมอนจะชอบวิ่งมาหาพี่หนู ต้นเขาจะเป็นคนขี้ระแวง เมียไปไหนก็ไม่ได้ เมียเป็นคนไม่ตรงต่อเวลา มาช้าก็ระแวงว่าเมียไปไหน คอยจับผิด ก่อนสิ้นเดือน ก.พ. หมอนเขาก็วิ่งมาหาพี่หนู เขาบอกพี่หนู หนูขอแอบหน่อย มันจะฆ่าหนูอีกแล้ว เขาจะพูดกับหมอนประจำว่าจะฆ่า หมอนมาเล่าเรื่องนี้ให้พี่หนูฟังหลายครั้ง คือลงมาไม่มีที่ไป หมอนก็จะมาอยู่ที่ห้อง ที่บ้านพี่หนู ก็ถามเขาว่ามันมีอะไรกันหมอน จะฆ่าจริงๆเหรอ เขาก็บอกว่ามันจะฆ่าหนูจริงๆพี่”
แล้วผู้ตายได้มาบอกสาเหตุที่เขาจะฆ่าไหมว่าเหตุมันมาจากอะไร?
หนู : “น่าจะเป็นเรื่องเงิน ช่วงหลังต้นเขายังไม่ได้งานประจำ เงินก็ขาด งวดรถเป็นชื่อหมอน ก็โดนตามที่ค้างชำระ ล่าสุดหมอนได้เงินมาก้อนหนึ่งเป็นโบนัสสิ้นปี ตอนปี 65 หมอนเขาบอกว่ามันก็ค้างค่างวดอย่างนี้แหละ หนูก็ได้ช่วยจ่าย 40,000 บาท พอมาปีนี้หนูไม่มีจ่ายแล้ว เพราะหนูมีภาระ หนูเลยไม่ได้ช่วยเขา ที่นี้ก็รื้อฟื้นเรื่องเก่า ๆ เอามาพูด ที่หมอนเล่าให้ฟังนะคะ ในส่วนของการลงไม้ลงมือ พี่หนูยังไม่เคยเห็นนะคะ ที่รู้มีแต่ขู่ ที่หมอนมาเล่าให้ฟัง แต่พี่หนูเองก็ไม่เคยได้ยิน”
นายต้นผู้ก่อเหตุพยายามพูดเสมอว่าทางผู้ตายคือพี่หมอนไปอยู่กับชายอื่น หายออกจากบ้านไปเป็น 10 วัน แต่เพื่อนของพี่หมอน บอกว่าจริงๆทั้งสองคนนี้ตกลงกันแล้วว่าเขาจะแยกทางกัน แล้วพี่หมอนก็ได้แยกตัวมาอยู่ที่บ้านเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน ทางญาติพอจะทราบเรื่องนี้?
แต้ว : “ไม่ทราบเลยค่ะ”
ทางรายการได้ติดต่อไปยัง “เล็ก” เพื่อนของผู้เสียชีวิต ที่พักอาศัยอยู่กันหลังจากที่ผู้ตายแยกตัวออกมา?
เล็ก : “พี่หมอนแกมาเล่าว่าแฟนแกขี้หึง เพราะแฟนเก่าไปมีผู้ชายอื่นแล้วก็ตามหึงกัน เขาเลยหวาดระแวงมาเรื่อยๆ จนมาคงกับพี่หมอนก็ยังเป็น แต่ในส่วนตัวของพี่หมอนไม่มีแบบนั้นนะคะ ก่อนนี้เขาระหองระแหงกัน เรื่องของเรื่องพี่หมอนแกหนีออกมาแล้วขอไปนอนบ้านเพื่อนที่อื่น แล้วผู้ชายก็ตามจนเจอ แต่ก็ไม่ได้มีปัญหากัน ก็คุยกันดีๆ แต่พี่หมอนก็ไม่ได้กลับไป เขาก็ไปตามดักเรื่อยๆ เห็นแกเล่าให้ฟังว่ามีโทรมาคุยกันบ้าง เขาโทรมาด่าแก คือต้นเขารู้ว่าพี่หมอนไม่ได้มีผู้ชาย แต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรทำไมเขาถึงคิดอย่างนั้นก็ไม่รู้”
ในมุมของทางอาชญาวิทยาเชิงพฤติกรรมและจิตวิทยาของอาชญากร การที่ผู้กระทำอ้างแบบนี้มันคืออะไร?
ผศ.ดร.ตฤณห์ : “มันเป็นลักษณะนิสัยส่วนตัวของผู้กระทำผิด คือคดีแบบนี้ผู้ที่กระทำความผิด ฆาตกรไม่จำเป็นจะต้องมีอาการทางจิต ไม่จำเป็นต้องใช้สารเสพติดหรือแอลกอฮอล์ร่วมด้วยก็ได้ คือบุคลิกภาพของคนมันเชฟได้ด้วย เราต้องไปดูว่าเขาโตมายังไง ที่สำคัญเลยก็คือเราต้องดูว่าเขาเติบโตมาอย่างไรเติบโตมาในสภาพแวดล้อมอย่างไร เพราะภายใน 1 นาที หรือ 1 ชั่วโมงที่เราเห็นบุคคลคนนึงที่เราไม่รู้จักมันเป็นแค่0.00001% ในชีวิตเขาเอง เราไม่รู้เลยว่า 1 ปีที่ผ่านมา 10 ปีที่ผ่านมาเขาเจอเหตุการณ์อะไรมาบ้าง ดังนั้นเราอย่าไปฟันว่าคนที่กระทำคดีอุกอาจ ดูร้ายแรงรุนแรงแบบนี้ จะมีปัญหาทางจิตหรือเสพยาเสพติดเสมอไป มันอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่ด้วยลักษณะการก่อเหตุเห็นได้ชัดว่าเตรียมตัวมาอย่างดี มีน้ำมัน มีมีด แต่พอโดนจับปุ๊บเขาบอกไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนี้ รู้สึกเสียใจมาก มันก็ไม่สอดคล้องกันแล้ว”
มีบางคนพิมพ์เข้ามาว่าบางทีผู้ตายบางทีอาจจะไม่ใช่ฝ่ายถูกเสมอไป ควรฟังสาเหตุเพราะบางเรื่องมันละเอียดอ่อน ผมว่าวิธีคิดแบบนี้ไม่ถูกต้องเลย อาจารย์มองยังไงกับคนที่คิดแบบนี้?
ผศ.ดร.ตฤณห์ : “น่าจะเป็นลักษณะมองโลกในแง่ร้าย เป็นคนหวาดระแวง ไม่ไว้ใจใคร ไม่ไว้ใจสังคม ซึ่งผู้ก่อเหตุก็มีลักษณะคล้าย ๆ อย่างนี้เหมือนกัน”
พูดถึงเรื่องที่คนร้ายมีการเตรียมตัว ลักษณะแบบนี้คือชัดเจน?
ผศ.ดร.ตฤณห์ : “ชัดเจนครับ เพราะมีอาวุธครบมือไม่ใช่แค่อย่างเดียว มีน้ำมัน มีด ไฟแช็ค น้ำมันมาสำรองไว้ด้วย เผื่อราดจุดไฟเผาแต่ไม่ตาย ไม่เป็นไปอย่างที่วางแผนไว้ก็มีแผนสำรอง คือมีมีด ยังไงก็ตั้งใจจะเอาชีวิตแน่นอนอยู่แล้ว จากลักษณะท่าเดิมเขา ดูใจเย็นมาก ที่ถอดเสื้อนี่อาจจะถอดเพราะตัวเองก็เปื้อนน้ำมันเหมือนกัน”
เป็นไปได้ไหมที่ขณะอยู่บนรถ ทางคนร้ายราดน้ำมันผู้ตายแล้วราดตัวเองด้วย?
ผศ.ดร.ตฤณห์ : “เป็นไปได้ครับ เพราะ 1 ใน 4 ของสามีหรือคู่รักที่ฆ่าฝ่ายหญิง 1 ใน 4 จะฆ่าตัวตายตามเป็นสถิติที่สูงมาก ซึ่งสอดคล้องกับขณะที่โดนจับกุม เขาก็กำลังจะกระโดดสะพานเพื่อจะฆ่าตัวตายเหมือนกัน เป็นไปได้ที่ราดตัวเองด้วย ราดภรรยาด้วย ให้มันตายตามกันไปนี่แหละ ถ้าเขาไม่ได้แฟน คนอื่นก็ต้องไม่ได้เหมือนกัน”
ทางฝั่งของคุณยิ้ม แม่บ้านที่หอพักนั้น ได้รู้เรื่องนี้บ้างไหม?
ยิ้ม : “รู้จักทั้งคู่เป็นอย่างดี เขาก็นิสัยดีกันนะ ทั้งผัวทั้งเมีย เขาพูดจาไพเราะ ไม่เคยเห็นเขาทะเลาะกันรุนแรง ลงไม้ลงมือตบตีกันเลย จะมีพูดคุยกันแบบไม่เข้าใจบ้างตามประสาผัวเมีย แต่ก็ไม่ได้สงสัยโวยวายอะไร พี่หมอนนิสัยดีมาก เข้าได้กับทุกคน เขาก็เคยพูดเรื่องของต้นกับเราบ้างว่าต้นชอบหึงหวงเกินกว่าเหตุ ทำงานไปไหนมาไหน กลับช้าผิดเวลาไม่ได้ เขาจะซัก”
ขอถามทาง “เล็ก” จากที่ผู้ตายเขาไปนอนกับเพื่อนของเขาทำไมอยู่ดีๆถึงได้กลับไปเจอนายต้น คนร้ายอีก?
เล็ก : “ต้นเอากุญแจกับคีย์การ์ดมาคืนให้พี่หมอน แล้วบอกว่าจะไปแล้ว เก็บของออกมาหมดแล้ว พี่หมอนแกเลยจะกลับไปเก็บของเพราะแกก็จะย้ายห้องเหมือนกัน แกก็กลัวเรื่องความปลอดภัยของแก ก็เตือนแกแล้วว่าอย่าเข้าไป มันอาจจะหลอกเรารึเปล่า แต่ด้วยความที่แกเป็นผู้หญิงบ้านๆคนนึง แกไม่ได้คิดอะไรไม่ดี แกก็บอกว่าต้นมันก็พูดไปอย่างนั้นแหละ เข้าไปไม่มีอะไรหรอก แต่ ณ วันที่เข้าไปเราไม่แน่ใจว่าแกเข้าไปเก็บของหรืออะไร มารู้อีกทีคือแกเก็บของออกมาเป็นบางส่วน แล้วเราก็ไม่รู้ว่าเขาไปเจอกันตอนไหน ต้นน่าจะตามไปตั้งแต่วันอาทิตย์แล้ว เพราะแกบอกว่าแกจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะกำลังจะไปงานบวชกัน ซึ่งเราห้ามแล้วว่าอย่าไป ก่อนหน้านี้มันขู่แล้วว่ามันจะฆ่า”
“เล็ก” เองไม่ไว้วางใจนายต้นเลย?
เล็ก : “ไม่เลยค่ะ เพราะหึงหวงพี่หมอนบ่อยแล้ว หลายครั้งแล้ว แต่ถามว่าตีไหมไม่เคยมีตี ต้นรักพี่หมอนมาก รักจนเหมือนคลั่งรัก รักจนหลอน รักจนพี่หมอนกระดิกตัวไปไหนไม่ได้ เล็กเองเคยเจอเขา แต่พอช่วงโควิดก็ไม่ได้เจอเลยเพราะผู้ชายไปทำงานที่ชลบุรี แล้วก็ขอแก้ข่าวแทนพี่หมอนด้วยที่บางข่าวลงไปว่าพี่หมอนทิ้งไปเพราะเป็นหนี้ จริงๆมันไม่ใช่นะ พี่หมอนเขาตามใช้หนี้ให้ผู้ชายคนเขาเหนื่อยแล้ว เขาไม่ไหวแล้ว ส่วนรถต้นอยากได้ พี่หมอนก็ให้ พี่หมอนก็ไม่ได้ว่า”
อาจารย์วิเคราะห์ว่าอย่างไรบ้าง?
ผศ.ดร.ตฤณห์ : “ฝ่ายที่มีอาการหึงหวงมากๆเขาจะรู้สึกว่าผู้หญิงเป็นโลกทั้งใบของเขา การสูญเสียผู้หญิงหรือคนที่รักไปก็เหมือนสูญเสียการเป็นตัวเองไปด้วย แล้วยิ่งผู้เสียชีวิตบอกว่าจะเลิก การบอกเลิกหรือการบอกว่าจะเลิกเป็นสาเหตุอันดับ 1 เลยที่ทำให้เกิดการลงมือจริงๆขึ้น”
หลังจากที่คนร้ายถูกจับกุม เขาบอกว่าทุกอย่างเป็นชื่อเมียหมดเลย มองเรื่องนี้ยังไง?
หนู : “ต้นซื้อทุกอย่างไม่ได้เพราะต้นโดนแบคลิสต์ สิ่งที่ซื้อเป็นชื่อหมอนทั้งหมด ตอนที่ดาวน์เหมือนจะร่วมกัน ตอนตกลงกันคือต้นจะเป็นคนผ่อน เพราะหมอนเขาไม่อยากได้รถ ต้นเป็นคนอยากได้ ที่หมอนเล่าให้ฟัง แต่พอเขามาตาม กลายเป็นหมอนต้องคอยมาตามใช้หนี้ให้”
อาจารย์มองยังไงกับพฤติกรรมที่คนร้ายออกมาร้องไห้และพูดแบบนี้?
ผศ.ดร.ตฤณห์ : “เขาไม่ได้เดินมามอบตัวเองก็ไม่รู้ว่าคำว่าสำนึกแสดงออกมาแบบไหน การร้องไห้ไม่ได้แปลว่าสำนึก เราไม่รู้ว่าเขาร้องไห้จริงรึเปล่า การร้องไห้หรือการบีบน้ำตา มันก็แสดงได้ สารเคมีตอนที่เราเสียใจ หรือสารเคมีปลื้มปิติยินดี ถ้าเอาไปตรวจแล้วมีสารเคมีองค์ประกอบไม่เหมือนกันนะครับ ผู้ก่อเหตุไม่ได้มีการมาแสดงตัว มามอบตัวเลย อันนี้คือตำรวจเข้าไปรวบตัวมา โดยเขาอ้างว่ากำลังจะกระโดด”
แล้วถ้าคนร้ายมีการอ้างว่าเขาป่วยเป็นโรคจิต มีภาวะทางจิตต่าง ๆ จะทำยังไง?
ผศ.ดร.ตฤณห์ : “ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจ ต้องให้จิตแพทย์หลายท่านด้วยนะครับ ไม่ใช่ท่านเดียว ต้องหลายท่านคอนเฟิร์ม ถ้ามีอาการทางจิตก็ต้องมาดูขั้นความรุนแรง มีประวัติการทางยา การรักษามาก่อนไหม ถ้าอยู่ดี ๆ พูดลอย ๆอันนี้รับฟังไม่ได้ จากเคสนี้ดูจากประวัติแล้วว่ามีการทำร้ายร่างกายแฟนมาก่อนเมื่อ 9 ปีที่แล้วในลักษณะคล้ายๆกัน การกินเหล้าสอบถามพยานแวดล้อมแล้วมีบ้างแต่น้อย ยาเสพติดยังไม่ทราบแต่ดูการพูดคุยอย่างใจเย็นกับคนอื่น ดูมีสติ ผมคิดว่าอันนี้เป็นเรื่องของสันดาน ลักษณะนิสัยส่วนตัว”
ไม่ใช่เรื่องจิตแล้ว?
ผศ.ดร.ตฤณห์ : “บุคลิกภาพของแต่ละคนแตกต่างกันมาก เราไม่ได้โตมาพร้อมกัน ขนาดฝาแฝดเกิดมาด้วยกัน ใช้เวลาส่วนใหญ่ด้วยกัน นิสัยยังไม่เหมือนกันเลย เวลาเขาพูดสุภาพกับคนอื่นไม่ได้แปลว่าเขาเป็นคนสุภาพ ถ้าอยากจะรู้ว่าใครเป็นยังไง เราต้องไปดูประวัติการเติบโตมาของเขาเป็นหลัก อาจจะไม่ใช่เพื่อนที่ทำงาน เพราะว่าหน้ากากเวลาเราสวมเมื่อเจอคนแต่ละกลุ่ม เราก็จะปรากฏตัวตนอีกตัวตนนึงที่ไม่เหมือนกัน ชุดคำพูดที่คุณหนุ่มพูดกับเพื่อนที่สนิทจะเป็นชุดคำพูดนึง กับเจ้านายก็จะเป็นอีกชุดนึง ลูกน้องก็อีกอย่างนึง มันจะไม่เหมือนกัน มันคือหน้ากากที่คนเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้แล้วแต่สถานการณ์ ดังนั้นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์พูดสุภาพมากเลย คนใกล้ชิดบอกว่าไม่น่าทำแบบนั้นได้เลย เราไม่มีทางรู้เลยว่ากับคนที่เขาบอกว่ารัก ความหึงหวงจะทำให้คนๆนึงเป็นคนก้าวร้าวรุนแรงได้ขนาดไหน เราต้องดูว่าเขาโตมายังไง เราต้องถามเพื่อนสนิทสมัยเรียนประถม มัธยม ถามที่บ้าน
คือมันจะมาจากตรงนั้นเลย?
ผศ.ดร.ตฤณห์ : “ถูกต้องครับ ตรงนั้นเป็นสาเหตุหลักในการสร้างฆาตกรขึ้นมา”
คำว่าสันดานในที่นี้หมายความว่าพฤติกรรมแบบนี้มันต้องเคยปรากฎมาแล้ว?
ผศ.ดร.ตฤณห์ : “สันดานคือเป็นหนึ่งในตัวตนของเราไปแล้ว ไม่สามารถแก้ไขได้ เช่น ทุกครั้งที่เมาและใช้แอลกอฮอล์จะมีการทำร้ายทุบตีภรรยา สาเหตุของการเป็นแบบนี้มันมี 2 อย่าง จะมีทั้งปัจจัยภายนอกและภายใน ภายนอกก็คือสิ่งแวดล้อมหลอมให้เขาเห็นแบบนั้นและคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ทำได้ อาจจะเห็นพ่อตัวเองทำกับแม่ตัวเอง แล้วไม่มีคนห้าม เป็นลูกคนเดียว โดนสปอย ปัจจัยภายในคือเรื่องพันธุกรรม ความก้าวร้าว ความไม่ปกติ
ให้สังเกตอย่างนี้นะครับ ผู้ก่อเหตุเขาไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลย คดีเมื่อปี 57 เกิดเหตุที่บ้านของผู้หญิงที่เพชรบูรณ์ ตอนนี้เขาก็ติดกับแฟนคนปัจจุบัน แฟนอยู่ไหน ตัวเองจะอยู่ที่นั้นด้วย จะตามติด เป็นคนหึงหวงแสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งจริงๆแล้วนิสัยแบบนี้เป็นนิสัยที่มากับเพศขายอยู่แล้ว ผู้ชายจะแสดงความเป็นเจ้าของมากกว่าเพศหญิง แต่ผู้หญิงจะมีความเข้าใจและรับความจริงได้มากกว่าเมื่อเกิดการเลิกรา ผู้ชายจะรู้สึกว่าโดนไม่ให้เกียรติ โดนหลู่เกียรติ การโดนขู่ว่าจะเลิกเขารู้สึกว่าเขาเสียของรักไป ฉะนั้นต้องกำจัดทิ้ง ถ้าเราไม่ได้คนอื่นก็ต้องไม่ได้เหมือนกัน เคสนี้มีเรื่องการเงินเข้ามาร่วมด้วย ไม่มีผู้หญิงก็คือไม่มีทั้งรายได้ ไม่มีทั้งคนอยู่ด้วย”
อาจารย์สอนเรื่องพวกนี้ให้เด็ก ๆ ฟังบ้างไหม?
ผศ.ดร.ตฤณห์ : “สอนครับ สอนทุกคณะเลย คณะแพทย์ก็ต้องมีความรู้ด้านนี้ เราจะรู้เรื่องชีววิทยา กายวิภาพศาสตร์ ของคนทั่วไปก็ไม่ได้ เราต้องรู้สภาพจิตใจ สังคมของเขาด้วย”
เด็กอายุ 17 ปี จะมีภาวะอารมณ์ การควบคุมอารมณ์ ความก้าวร้าว จากทางด้านหลังศีรษะ และโตขึ้นมาด้านบน คนที่เจริญวัยอายุ 30-35 ปี จะอยู่กลางหน้าผากเป็นด้านเหตุผล แต่คนร้ายคนนี้อายุ 40 แล้ว?
ผศ.ดร.ตฤณห์ : “ก่อเหตุครั้งแรกอายุ 33 ปี จริงๆก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว ถึงได้บอกว่ามันเป็นเพราะสันดานแล้วไม่ใช่ภาวะการผิดปกติของสมอง อันนี้เขารับรู้ พูดคุยรู้เรื่อง จังหวะจะโคนปกติ การเดินดูใจเย็นมากเลยแล้วก่อเหตุต่อ อันนี้คือเขาเตรียมตัวมา จะมาบอกว่าไม่ได้ตั้งใจเป็นไปไม่ได้ครับ”
ในมุมของญาติอยากจะให้เป็นยังไงต่อ เพราะจับตัวคนร้ายได้แล้ว?
แต้ว : “อยากให้เอาเรื่องให้ถึงที่สุด ประหารชีวิตเลย”