“บอย-พีรพล” เดินหน้าฟ้อง “บิ๊ก-ทองภูมิ” เบี้ยวงานละคร
เปิดใจ “บอย-พีรพล” ที่แรกแบบเจาะลึกกรณีเดินหน้าฟ้อง “บิ๊ก-ทองภูมิ” เบี้ยวงานละคร ฟาดแรง จะได้ไม่ต้องไปทำแบบนี้กับใครอีก!!
หลังจากที่มีข่าว คุณกนกวรรณ(หุ้นส่วน) ของผู้จัด “บอย-พีรพล จันทรากาศ” แห่งบริษัท กู๊ดบอย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้จัดละคร “วิญญาณแพศยา” ทางช่อง8 หอบหลักฐาน พร้อมด้วยทนายความ นายธนพนธ์ ทองน้อย ขึ้นศาลจังหวัดนนทบุรี ตามที่ได้ฟ้อง นักแสดง “บิ๊ก-ทองภูมิ” ครั้งแรกในวันพุธ ที่ 16 ธันวาคม2566 ที่ผ่านมา โดยสาเหตุเกิดจากหนุ่มบิ๊ก เบี้ยวงานไม่มาถ่ายละครหลายครั้ง จนสร้างความเสียหายให้กองละครหลักล้าน ทำให้หลายคนอยากรู้เรื่องราวว่าข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่
ล่าสุดคุณ “บอย-พีรพล” และหุ้นส่วนคุณ “กนกวรรณ” ได้ออกมาเปิดใจที่แรกแบบเจาะลึกตรงประเด็นกรณีดังกล่าวแบบหมดเปลือกโดยคุณบอย กล่าวว่า “ละครวิญญาณแพศยา จะแบ่งเฟดในละครประมาณ 2 ภพ เพราะเป็นเรื่องราวของผีกะ และความแค้น 2ภพชาติ ตอนแรกพอมีปัญหาก็ได้มีการขอร้องให้กลับมาถ่ายปิดตัวละครในชาติที่ 1 ก่อน เพราะได้ถ่ายทำไปเยอะแล้ว และแต่ละฉากค่อนข้างใช้เงิน ในการลงทุนถ่ายทำที่สูง แถมฟิตติ้งต่าง ๆ ก็เสร็จไปหมดแล้ว เพราะจากเดิมในละครเรื่องนี้บิ๊กต้องเล่นเป็น 2 ชาติ 2 ภพ เพื่อให้ละครสมูทที่สุด และทางเรา จะเปลี่ยนตัวในชาติ2 เป็นคนอื่นมาแทน อยากให้ช่วยเห็นใจกันหน่อย แต่เราก็ไม่ได้การตอบรับจากบิ๊กกลับมาเลย เราเลยปรึกษาทนาย ออกหนังสือยื่นโนติส เพื่อขอร้องให้กลับมาร่วมหาทางออกร่วมกัน เพราะหวังว่า ให้บิ๊กกลับมาถ่ายต่อให้เรา ทีนี้เราก็ทำอะไรไม่ได้ละครต้องถ่ายทำต่อไป เพราะนักแสดงคนอื่นก็มีคิวค่อนข้างยาก และมีหลายคนที่รับงานหลายที่ ซึ่งทุกคนวางแผน จัดสรรคิวของตัวเองกันหมด รวมถึงเรา ทุกอย่างมันมีขั้นตอนแผนงานหมดทุกคน ไม่ใช่เฉพาะผู้จัด เราจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวนักแสดงใหม่ พร้อมถ่ายรีชู้ตใหม่ทั้งหมดทุกอย่าง เลยเป็นต้นเหตุออกมาเรียกค่าเสียหาย ยื่นฟ้อง เพราะทุกอย่างเรากระทบไปหมด และทุกอย่างมันมีค่าใช้จ่ายหมดเลย เรากระทบมากจริง ๆ มูลค่าความเสียหายมีมากกว่าหลายล้านบาทที่เราเสียไป และใช้อะไรไม่ได้เลย ต้องนับหนึ่งใหม่”
ทางคุณกนกวรรณ(หุ้นส่วน) เสริมอีกว่า “การเป็นนักแสดง ควรมีจรรยาบรรณการทำงานทั้งต่ออาชีพ และเพื่อนร่วมงาน มันคือความรับผิดชอบ มันกระทบหมดจริง ๆ หลายคนอาจยังไม่รู้นอกจากค่าใช้จ่ายที่เราเสียไปเปล่าๆ ทีมงานหลายคน รายได้เขาก็หาย เพราะเขานับเงินเป็นคิว หรือวัน ไม่ได้รับเงินเดือนแบบพนักงานออฟฟิศ ทุกคนมีภาระของตัวเองกันหมด นักแสดงทุกคนก็กระทบไปหมดจริงๆ รวมๆเป็นร้อยชีวิต ที่ไม่สามารถออกกองได้ ต้องหยุดถ่ายไปเพื่อรอคำตอบจากเขาคนให้กลับมาถ่ายทำต่อคนเดียว โดยทางเราเป็นฝ่ายยอม และเข้าหาเขาอยู่ฝ่ายเดียวตลอดจริง ๆ แถมไม่ได้มีการตอบรับ มันคือการไม่ให้เกียรติ และรับผิดชอบการกระทำของตนเลย ถ้าไม่พร้อมควรถอนตัวออกตั้งแต่แรกก่อนเริ่มถ่ายทำ เรื่องมันจะไม่บานปลายแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่คุยกันได้ หากไม่พร้อมทำงานแต่แรกที่เราออกมาพูดในวันนี้ เราอยากให้แคสนี้เป็นแคสกรณีตัวอย่างในการทำงานร่วมกับผู้อื่น และหน้าที่ความรับผิดชอบในการทำงาน”
สุดท้ายก่อนจบสัมภาษณ์คุณบอยยังทิ้งท้ายอีกว่า “ส่วนด้านกรณีที่ผู้จัดการของหนุ่มบิ๊กออกมาชี้แจงให้สัมภาษณ์กับนักข่าว ว่ามีบุคคลที่ 3 ที่ทำให้เกิดปัญหาและมีความไม่เข้าใจเกิดขึ้น อันนี้คงจะต้องไปถามทางหนุ่มบิ๊กเอง แต่ในสิ่งที่เกิดขึ้นกับทางกองละคร เกิดขึ้นจริงตามที่เล่าทุกประการครับ”