“ฝน ธนสุนทร” เคลียร์ข่าวเม้าท์ รัก 19 ปีไม่หวานเหมือนเก่า ทะเลาะกันรายชั่วโมง จริงไหม?!

นักร้องเสียงดี เจ้าหญิงแห่งวงการลูกทุ่ง ฝน ธนสุนทร ที่วันนี้ควงแฟนสาวหล่อ คุณเอ มาเคลียร์ความสัมพันธ์จนเกือบปิดตำนานรัก 19 ปี แว่ว ๆ มาว่าช่วงนี้ความรักจากหวานกลายเป็นขมไปซะแล้ว ทะเลาะกันเป็นรายนาที ถึงขั้นสาวฝนเคยเอ่ยปากไล่คุณแฟนออกไปจากชีวิต พร้อมเล่าประสบการณ์ชวนขนหัวลุกมีกุมารมาเข้าร่างคุณเอ แถมยังมีเรื่องสุดแปลกที่สาวฝนต้องสวนทวารทุกวัน ผ่านทาง รายการ คุยแซ่บshow ทาง ช่อง วัน31 ที่มี หนิง ปณิตา, อาจารย์เป็นหนึ่ง และเบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ความรักมันไม่หวานเหมือนเดิม ตั้งแต่รายการเราจะบเขามาเปิดตัว?

ฝน : ใช่ ๆ เปิดตัวที่นี่แหละค่ะ เดินไม่สะดวกเลยหลังจากวันนั้น

ไม่สะดวกคือยังไง?

ฝน : ไปเดินตลาด นี่แทบเดินไม่ได้เลย ล่าสุดไปเดินที่ดอนหวายมา
เอ : เดินไม่ได้เลย น้ำท่วม
ฝน : คนทักเขา บอกว่าจำได้ ๆ นี่แฟนพี่ฝน ๆ

ข่าวว่าแววรักล่มจริงไหม?

ฝน : จริงไหม
เอ : ก็กำลังคิดอยู่

มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมมีข่าวแบบนี้ออกมาว่าความรัก 19 ปีจะล่ม?

ฝน : ไม่หรอกค่ะ พออายุเยอะขึ้น แล้วเหมือนอยู่กันจนชินมากกว่า เหมือนทะเลาะกัน กัดกันเบา ๆ แล้วคนเห็นแล้วคนบอกว่าไม่เหมือนเดิมแล้วเหรอ
เอ : จะบอกว่าเขาเป็นวัยทอง

จริงเหรอ?

ฝน : ก็ใกล้ ๆ ประมาณนั้น มันอาจจะมีสวิงเล็กน้อย เราจะแบบเห็นหน้าเขา ก็เหม็นหน้าเขาแล้ว ได้ยินเสียงแล้วแบบเกลียดเสียงนี้มากเลย มันหงุดหงิด แล้วมันไม่ชอบ บางทีเขาพูดอะไรชอบพูดหักมุม แล้วทำให้เรารู้สึกว่าเราตามเขาไม่ทันแล้วเราโมโห
เอ : แค่อ้าปากก็ผิดแล้ว ไม่ต้องพูด
ฝน : มันคือเราทำกับคนอื่นไม่ได้ไง เราทำได้กับเขานี่แหละ

ทำไมพี่ถึงยอม?

เอ : ก็เพราะรัก
ฝน : จริง ๆ ก็รักกันนั้นแหละ แต่ก็อาจจะมี..คือมันอยู่กันเป็นเพื่อนแล้ว

เขาเรียกว่าทะเลาะกันรายชั่วโมง?

เอ : รายวินาทีดีกว่า

แสดงว่ามันไม่นิดหน่อยแล้วนะ?

เอ : ก็เยอะอยู่
ฝน : ไม่ ๆ เราไม่ได้เยอะคนเดียว เขาก็เยอะด้วย
เอ : ไม่ใช่ เขาเป็นก่อน เราก็รู้สึกว่าเป็นบ้างดีกว่า
ฝน : พี่ฝนจะเกลียดคำว่า รู้แล้ว ของเขามากเลย บางทีขับรถเราจะช่วยเขามองทาง เพราะบางทีเขาจะคุยงานหลังพวงมาลัย เวลาอยู่หลังพวงมาลัย ชอบมีงานติดต่อเข้ามา เวลาไม่อยู่หลังพวงมาลัยไม่มีงาน พอขึ้นรถปุ๊บมีงาน แล้วเราจะแบบคอยดูทางให้ เป็นห่วง เราก็บอกพี่ เอ รถมา เขาก็บอกรู้แล้วน๊า เราก็แบบ อ่ะรู้แล้ว โอเค เราก็ปล่อย พอมีรถมาเราก็ไม่บอก เพราะเราคิดว่า เดี๋ยวเขาต้องใช้คำว่า รู้แล้วน๊า เราก็ไม่พูด แล้วก็เกือบชน แล้วเขาก็บอกนี่เห็นแล้วทำไมไม่บอกเขา แล้วเราจะรู้ไหมว่าเราควรบอกตอนไหน พอเราบอกก็รู้แล้ว พอเราไม่บอกก็ไม่รู้
หนิง : สรุปให้เลย ทั้งคู่เป็นวัยทอง

แม้แต่กินข้าวก็ตีกัน?

เอ : ไม่ใช่ เอเป็นคนตื่นไว เขาตื่นทีหลัง เอตื่นมาหิวก็กินก่อน พอเขาตื่นมาเขาก็กินของเขา พอทีนี้พอต้องออกนอกบ้านปุ๊บ เอบอกหิว เขาก็บอกฉันไม่หิว แต่ฉันหิว แล้วยังไงอ่ะ ฉันจะรอเธอ หรือเธอจะกินพร้อมฉัน ก็ไปกินสิ เดี๋ยวฉันนั่งเป็นเพื่อน แล้วเราจะกินกับใคร ออกนอกบ้านก็ต้องกินด้วยกัน
ฝน : แล้วก็บ่นว่าเราอ้วน แล้วพาเราไปกิน
เอ : ไม่ใช่ มื้อกลางวันกินได้ แต่มื้อเย็นอย่ากินสิ แต่มื้อเย็นก็กิน ๆ
ฝน : ก็พี่เอพาไปกินมื้อเย็นตลอด จริง ๆ พี่เอนั่นแหละมีปัญหา เขารู้ว่าเราอารมณ์สวิง ขึ้น ๆ ลง ๆ ประมาณนี้ เขาก็ควรจะพูดกับเราดี ๆ แต่เขาชอบมีนัยยะเหมือนเราแบบฉันบอกเธอแล้ว นี่โง่เหรอ มันเป็นนัยยะแต่ไม่ได้พูดนะ อย่างเช่น พี่เอ พรุ่งนี้เราต้องไปที่ไหนนะ พรุ่งนี้เราต้องไปคุยแซ่บshow ไง เสร็จแล้วประมาณ 1 ชั่วโมงผ่านไป พอดีพี่ฝนทำนู้น ทำนี่หลายอย่าง เอ๊ะ เอ พรุ่งนี้เราไปไหนนะ
เอ : ก็บอกแล้วไงว่าไป คุยแซ่บshow ทำไมไม่รู้จักจำเลยเนี่ย
ฝน : อะไรอย่างนี้ คือเขาชอบใช้คำที่มีนัยยะให้เรารู้สึกแย่ เราก็บอกไม่เป็นไร ต่อไปนี้เราจะจดจำเอง พี่เอไม่ต้องมาช่วยก็ได้ มันให้ความรู้สึกนั้น
เอ : ใช่ค่ะ จำเอง ให้ซื้อสมุดมา 1 เล่ม แล้วให้จดเลย เขาบอกเขาจดเองด้วย วันนี้ไปงานนี้ วันนี้ไปงานนี้ จดเสร็จแล้วค่ะ แล้วเขาก็ถามว่าสมุดเล่มนั้นอยู่ที่ไหน แล้วเขาก็เปลี่ยนให้จดไว้ในโน๊ตครอบครัวมีอยู่ 2 คน แล้วเขาก็ถามว่าไว้ตรงไหน แล้วมันอยู่ตรงไหน เราก็บอกมันอยู่ที่โน๊ตไง เขาก็ถามว่ามันเข้ายังไง มันเข้าไม่เป็น ก็กลัวเขาเป็นอัลไซเมอร์ เป็นห่วง
ฝน : เขาต้องเข้าใจเราด้วย เราไม่อยากให้เขาใช้คำที่แบบเป็นนัยยะที่มันไม่ค่อยดีทำให้เรารู้สึกแย่ บางทีเราก็แอบไปร้องไห้ แต่ไม่ร้องไห้ให้เขาเห็น แอบไปร้องไห้ว่าทำไมเราต้องมาเจอคนแบบนี้ด้วย เมื่อไหร่เราจะหลุดพ้นจากคนคนนี้

กาลเวลาเปลี่ยนไป ทำไมพี่ถึงเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้?

เอ : ไม่เคยเปลี่ยนค่ะ เป็นอย่างนี้ตั้งแต่ไหน แต่ไรแล้ว
ฝน : ไม่จริง เมื่อก่อนเขาจะน่ารักกว่านี้ พูดจาอบอุ่นกว่านี้

สองคนนี้น้อยใจกันไหม?

ฝน : น้อยใจ รู้สึกว่าบางทีเราไม่อยากเถียงกับเขา เพราะเรารู้วึกว่าเราเถียงเราไม่ชนะ เราก็เลยไม่พูด พอเราไม่พูด เขาจะถามว่าพี่ฝนเป็นอะไรหรือเปล่า ก็ยังไม่รู้ตัวอีก อะไรประมาณนี้
เอ : พี่ฝนเป็นอะไรหรือเปล่า ไม่รู้ตัวจริง ๆ ว่าทำอะไรลงไป หรือพูดอะไรไม่ถูกหู
ฝน : เราก็บอกว่าเราไม่อยากอธิบาย พอเราอธิบายปุ๊บ เขาจะมีคำมาโต้แย้ง จริง ๆ เราแค่ต้องการคำว่า เอขอโทษนะ แค่นั้นเรื่องมันก็จบ แต่เขาไม่จบไง เขาพูดประมาณว่าจะเอาอะไรหนักหนา
เอ : ไม่ใช่ ก็ขอโทษแล้ว เราก็บอก ยังไม่หายอีกเหรอก็ขอโทษแล้ว ไหนบอกขอโทษแล้วจะหาย
ฝน : ใกล้จะหายแล้ว แล้วเขาจะมาแบบหายยังอะ พอใจหรือยังอะ อะไรอย่างนี้ มันก็ขึ้นใหม่อะสิ มันก็ไม่หยุด

ข่าววงใน แม่บ้านบอกว่าอยู่ๆ พี่เอก็ร้องไห้ แล้วไล่พี่ฝนออกจากบ้าน?

เอ : เขาไม่ได้ไล่ ไม่เคยไล่
ฝน : พี่ฝนไล่เขาออกจากบ้าน เพราะเรารู้สึกไม่ไหวแล้ว แล้วเขาเวลาอารมณ์เขาพุ่งพล่าน ถ้าเราพุ่งพล่านเขาก็จะดร๊อปลง อย่างเช่นว่า พี่ฝนนู้น นั่นนี่ ทำไมไม่เข้าใจเอบ้างเลย อ่อ ถ้าไม่นั้นก็ไป ออกจากบ้านไปเลย ไล่ไปเลย แล้วเขาก็ประมาณว่า ไล่เอจริงๆ เหรอ แล้วเขาก็วิ่งลงไป แล้ววิ่งขึ้นมา ขอเงินค่ารถหน่อย ไม่มีเงินค่ารถแท็กซี่ แต่ก็ยังจะไปอยู่นะ เราก็เลยได้ ควักให้ 500 เอาไปเลย แล้วอย่ากลับมาอีกนะ เราก็ไล่เขาออกไป เขาก็ลงไปแล้วร้องไห้ เธอไล่จริงๆ เหรอแล้ววิ่งออกไป ไม่ถึง 5 นาทีเขาก็วิ่งขึ้นมา ไปพรุ่งนี้ได้ไหม วันนี้กลัวผี เพราะว่ามันตอนกลางคืน

แล้วถ้าไล่แล้วเขาไปเลยพี่ฝนทำยังไง?

ฝน : ณ ตอนนั้นไปก็ไป เราเป็นคนใยแข็ง เราคิดว่าโอเคถ้าเขาไม่รักเราแล้ว รั้งไว้ก็ไม่มีประโยชน์ เรามองว่าถ้าเขายังรักเรา เขาต้องไม่ไป แล้วเขาก็ไม่ไปจริง ๆ

พี่ฝนไม่ชอบคนร้องไห้ คนงี่เง่า?

ฝน : ใช่

แล้วเวลาสุดทางพี่เอทำยังไง?

เอ : ร้องไห้
ฝน : เขาร้องให้เราเห็นเลย เรานี่แอบไปร้องไห้

พี่ฝนไม่สงสารสักนิดเหรอ?

เอ : พี่ฝนไม่สงสารในการร้องไห้ของเอเลย ต่อให้เอร้องไห้เป็นสายเลือดพี่ฝนก็ไม่สงสาร ตอนแรกคิดว่าร้องไห้คงจะเห็นใจบ้าง เอบอกว่า โถ่…พี่ฝน พี่ฝนไม่เห็นใจเอบ้างเหรอ เขาก็บอก หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ หยุด เราก็ถามทำไม ฉันไม่ชอบคนร้องไห้ เราก็โอเคได้ แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ เราก็บอกว่าพี่ฝนเห็นเอเป็นแฟนคลับคนหนึ่งก็ได้นะ เพราะว่าเขาไม่เคยทำร้ายจิตใจแฟนคลับ เขาจะทำร้ายจิตใจเราคนเดียว เอก็เลยบอกว่าเห็นเอเป็นแฟนคลับก็ได้
ฝน : เขาเคยพูดว่า เขาอยากเกิดเป็นหมา เพราะว่าพี่ฝนรักหมามากกว่ารักเขา ก็เอ็นดู แต่เราอยากให้เขาเป็นผู้นำมากกว่านี้ ไม่อยากให้เรียกร้องโดยน้ำตาแล้วมาร้องไห้ เพราะว่าเราไม่อยากให้เขาเป็นแบบนั้น ไม่อยากให้เขาอ่อนแอ อยากให้เขาเป็นผู้นำ

สรุปที่น้อยใจกันเคลียร์กันหรือยัง?

เอ : ล่าสุดเคลียร์กันไปแล้ว ล่าสุดก็ไหว้อโหสิกรรมกันแล้ว
ฝน : ขออโหสิกรรม

ขออโหสิกรรมเลยเหรอ?

ฝน : เขาไหว้ขอขมาพี่ฝนเลยว่าสิ่งไหนที่เขาทำขอให้พี่ฝนอภัยให้เขา อะไรที่พี่ฝนทำ พี่ฝนขอโทษพี่เอด้วยแล้วกัน ก็คือ ต่างคนต่างขออโหสิกรรมซึ่งกันและกัน หลังจากนั้นก็ดีนะคะ ถึงทะเลาะกันนิดนึงแต่มันก็ทำให้ดึงสติกลับมาได้เร็วว่าเราเคยขอโทษ ขอโพยกันแล้วนะ เราต้องโกรธกันไม่นาน เหมือนขอโทษเจ้ากรรมนายเวร เหมือนเขาเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรา

เราเคยโกรธพี่ฝนไหม?

เอ : ไม่เคยโกรธพี่ฝน พี่ฝนพูดอะไรแรง ๆ มาก็ไม่เคยโกรธ เอบอกว่าพี่ฝน เอเป็นคนคนนึงที่หวังดีกับพี่ฝนมากที่สุด ไม่เคยคิดร้ายกับพี่ฝนเลย
ฝน : ไปไหนไม่ได้เพราะประโยคนี้แหละ เพราะสุดท้ายเราก็ดึงสติเรากลับมา
เอ : ต่อให้เขาไล่เรายังไงหรือบอกเลิกเรากี่ครั้ง เอก็จะบอกว่า ตัวเองไม่ต้องบอกเลิกเขานะ ตัวเองไม่ต้องไล่เขาออกจากบ้านเลย วันใดที่ตัวเองหมดหนีเ หมดสิน เขาจะเดินออกไปจากชีวิตตัวเองเอง

กิจกรรมว่าง ๆ ของพี่ฝน?

เอ : ติดเกม
ฝน : ก็ว่าง ๆ

เสียเงินทีเป็นหมื่น?

ฝน : ก็ค่อย ๆ ซื้อ ไม่ได้ทีเดียว

มีแอบเล่นด้วยใช่ไหม?

เอ : ตอนแรกเอไม่รู้
ฝน : ในเกมเนี่ย ถ้าอยากเลเวลสูงขึ้นเราจะต้องมีเพชร เรายะต้องเล่นเกม แต่จะให้นิดหน่อย ถ้าเราอยากขยายเร็ว ๆ เราจะต้องใช้เพชรเยอะ เราจะต้องซื้อ 300 บ้าง แต่ถ้า 500 บาทมันจะได้เยอะขึ้นนะ แต่ถ้า 1000 บาทมันจะได้เยอะขึ้นนะ ก็จะซื้อๆ ไปเรื่อย ๆ แล้วก็จะมีซื้อเด็กที่เราใช้ให้ไปซื้อ แต่ซื้อครั้งนึงมันนอน 2 ชั่วโมง เราก็ตั้งเวลา เพราะซื้อครั้งนึงต้องใช้ให้คุ้ม พอกลางคืนเรานอนใช่ไหม แต่มันจะตื่นกลางคืน เรานอน 8 ชั่วโมง ต้องตื่นมา 4 รอบเราก็จะเสียไป 4 สิทธิ์ เราก็ตั้งนาฬิกาปลุก แต่ถ้าเล่นบนที่นอนเขาจะรู้ แอบย่องไปในห้องน้ำ ทอมตื่นหรือยัง เรารู้สึกว่าเราจะไม่ซื้อทอมอีกแล้ว มันเป็นภาระ เพราะต้องไปดูแลทุก 2 ชั่วโมง

พี่ฝนจ่ายเยอะสุดเท่าไหร่?

เอ : หมื่นกว่า
ฝน : ไม่ใช่ต่อครั้งนะ ทยอย
เอ : มันผ่านมานานแล้ว น่าจะ 5-6 ปีแล้ว ซื้อฟาร์มนี่น่าจะหมื่นกว่าบาท แล้วตอนนี้กลับมาเล่นใหม่

แปลกนะ เวลาเล่น Hay Day เขาไม่ลืมที่จะเล่น แต่พอเป็นของเกี่ยวกับตัวเองลืม?

ฝน : ใช่ เราจะจำในสิ่งที่อยากจำ แล้วสิ่งไหนที่เราไม่จำเป็นต้องจำก็ปล่อยให้ผู้จัดการจำไง
เอ : มันก็ดูเกินไป

พี่ต้องทำอะไรบ้างที่ทำให้คู่นี้รักกันขนาดนี้?

เอ : จริง ๆ ทำให้เกือบทุกอย่าง ตั้งแต่จัดเสื้อผ้า ดูแลเรื่องอาหารการกิน เตรียมกาแฟ เตรียมบท ตบท้ายด้วยซักกางเกงใน
ฝน : เคยไล่เขาออกจากห้องครั้งนึง ตอนนั้นคอนเสิร์ต แล้วมีพี่คนหนึ่งเดินเข้ามาพูดคุยด้วย เห็นพี่ฝนนอนหลับสบายใจในห้อง แล้วพี่เอนั่งร้องไห้ ทะเลาะกัน
เอ : คือหนูมีหน้าที่ต้องไปซักอันนี้ก่อน เขาถามพี่เอไปเดินเล่นกัน เราบอกไปไม่ได้ซักกางเกงในอยู่

พี่โดนไล่ขนาดนั้น ระหว่างที่พี่ซัก พี่คิดอะไรอยู่?

เอ : ก็ไม่ได้คิดอะไรนะคะ ปกติ แล้วเขาก็ลืมว่าทะเลาะกันหรือเปล่า ไม่เห็นมาคุย มาง้อกันเลย
ฝน : ไม่ลืมนะ แต่ไม่ง้อ

เวลาคนรักกัน เขาสามารถพิสูจน์อะไรได้บางอย่าง เช่นดูสิกลิ่นปากฉันโอเคไหม รักแร้ฉันโอเคหรือเปล่า คู่นี้เป็นไง?

ฝน : พี่ชอบไปเดินผ่านคนที่มีกลิ่น เราก็เห้ย เป็นกลิ่นเราหรือเปล่า เราก็ต้องพิจารณาตัวเองก่อน ดม ๆ แล้วพี่เอก็จะบอกว่าพี่ฝนมีอะไรหรือเปล่า พี่ฝนเหมือนมีกลิ่นหรือเปล่า พี่เอมาดมให้หน่อย เขาก็จับเลยนะ ดม
เอ : เขาไม่ได้จับ ๆ คุณบอกว่า ไหนมีกลิ่นหรือเปล่า มาดมให้พี่ฝนหน่อย เราก็ดมเลย พอดมเสร็จก็บอกว่าไหนมีกลิ่นปากไหม พอเราถามเขามีกลิ่นไหม
ฝน : ไม่เอา น่าเกลียด
เอ : เขาไม่ดมให้เลย

ตอนคบกันแรก ๆ เกิดอะไรขึ้น มีปามีดกันด้วย?

เอ : เมื่อก่อนพี่ฝนเป็นอารมณ์ร้อนมากเลย เอาไม่อยู่
ฝน : คือเราเหมือนทะเลาะกัน แล้วแบบโกรธอยู่ อย่าเพิ่งเข้ามา แต่เขาจะเป็นคน พี่ฝนอะ จะให้เราหายทันทีทันใด ซึ่งเรายังไม่หาย เราบอกว่าอย่าเพิ่งเข้ามาใกล้ อย่า ๆ ๆ ๆ มือเรามีมีด เราขว้างเลย คืออย่าเพิ่งเข้ามา แต่เขาเป็นคนที่โกรธแล้ว ทะเลาะแล้ว เขาจะเคลียร์เลยทันที เขาไม่ให้เวลาเราในการตั้งสติ เขาเหมือนเด็กที่งอนแล้วหายโกรธเลยทันที คือเราทำไม่ได้ ขอเวลาก่อน อย่าเพิ่ง
เอ : เราก็จะถามว่าโกรธอะไรหนักหนา สวดมนต์ไหว้พระ แม้อโหสิกรรมไม่ได้เหรอ นิดนึง
ฝน : เราก็บอกว่าเดี๋ยวห่างกันนิดนึง อย่าเพิ่งเข้ามาใกล้ แง๊ๆ อยู่ใกล้ ๆ เราก็รำคาญ

ดีไม่ใช่เหรอที่เวลามีปัญหาแล้วเคลียร์เลย?

ฝน : ใช่ค่ะ มันก็ดี แต่เราค่อย ๆ ปรับตัว เพราะพี่ฝนเป็นคนชอบสันโดด เพราะฉะนั้นไม่อยากให้เขาเข้ามาในเวลาที่เราสันโดด แต่เราก็คิดว่าในเมื่อเราอโหสิกรรมกันแล้ว เราก็โอเค ๆ ตั้งสติ เพราะสุดท้ายเราต้องมาดีกันอยู่ดี เพราะฉะนั้นเสียเวลาทัเลาะกันเปล่า ๆ

บางครั้งทะเลาะกันข้ามประเทศก็มี?

เอ : ใช่ ๆ เขาให้เราไปเที่ยว เราไปก็ได้ จะเดินทาง ก็โทร ถึงแล้วนะ เอ๊ะ…ไม่เห็นตอบกลับ ไม่เห็นโทรหาเอเลย แต่ว่าไปตอบไอจีคนอื่น แล้วฉันล่ะ ทำไมไม่ติดต่อฉันเลย คือเอไปเที่ยวก็ทักถามกันบ้างว่าเป็นไงที่นู้นอากาศเย็นไหม เป็นยังไงบ้าง
ฝน : ประมาณว่าเขาอยากให้พี่ฝนอยู่ในทริปกับเขาตลอดเวลา ซึ่งพี่ฝนบอกไม่ต้องห่วงพี่ฝน ไปเที่ยวเลย ไปสนุกเลย พี่ฝนก็ทำงาน เวลาเล่นไอจีก็ตอบไปปกติ เราอาจจะผิดที่ไม่นึกถึงเขา เราแค่อยากให้เขาเที่ยวโดยไม่ต้องห่วงเรา แล้วพอเขามางอน มาน้อยใจ พี่ฝนก็เลยบอกว่าคราวหลังพี่ฝนไม่ให้ไปแล้ว อยู่ติดพี่ฝนเลยแล้วกัน เพราะว่าเขาติดพี่ฝนมาก เขาเป็นคนที่เพื่อนชวนไปไหน ถ้าพี่ฝนไม่ไปเขาก็ไม่ไป แฟนคนอื่นขอไปเที่ยว ถ้าไม่ได้ไปเขาก็จะไปชอบ แต่นี่เราไปเลย ๆ ไม่ไป

เขากลัวพี่ไปมีคนอื่นใช่ไหม?

เอ : ใช่ค่ะ

พี่สาวเราชอบบริหารเสน่ห์นะ?

เอ : ก็มีคนมาทักทาย สวัสดีครับ สวยจังเลย ขอบคุณครับ อิอิ

มันเป็นสไตล์พี่ฝนหรือเปล่า?

เอ : เอบอกว่าเวลาคุยกับแฟนคลับ ก็แค่บอกว่าขอบใจจ๊ะ ไม่ใช่ว่าขอบคุณครับ แล้วมีรูปปากหัวใจ

ขี้หึงเหมือนกันนะเนี่ย?

ฝน : ขี้หึง ๆ ขี้หึงมาก แล้วพี่ฝนไม่เคยหึงเขาเลย แล้วเขามาน้อยใจพี่ฝนว่าพี่ไม่หึงเขาเลย อิจฉาหมาอีกแล้ว
เอ : ไม่ใช่ พอถึงบ้าน ของขวัญลูก จุ๊บ ๆ เราก็อยากอย่างนี้บ้าง
ฝน : ไปทำงานด้วยกัน อยู่ด้วยกันทั้งวัน อยู่บนถนนทั้งวัน ขับรถจนถึงบ้าน พอถึงบ้านปุ๊บเราเข้าไปกอดลูกหมา โอ๊ย…คิดถึงจังเลยลูก กอด หอม นี่พูดเลย ไม่คิดถึงเขาบ้างเหรอ ก็อยู่ด้วยกันทั้งวัน จะให้คิดถึงอะไร มันเกินไปไหม
เอ : บางทีบอกเขาว่าตัวเองหอมกันสักทีก็ได้ เขาแทบไม่หอมแก้มประมาณเกือบปีแล้วนะ

พี่เอเขาบอกว่าพี่ฝนมีพฤติกรรมแปลก ๆ จริงเหรอ?

เอ : ใช่ ชอบล็อกห้องน้ำ ชอบขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำ เราก็งง เราก็ถามว่าตัวเองทำอะไรอยู่ เขาบอกแป๊บนึง ๆ เราก็ถามทำอะไร เขาสวนรูทวาร
ฝน : ดีท็อกซ์ค่ะ สวนล้างลำไส้ เพราะช่วงนึงพี่ฝนเป็นสะเก็ดเงิน แล้วเราต้องดูว่าเราต้องดูแลตัวเองยังไงเพราะไปหาหมอ หมดเงินเยอะแล้วก็ไม่หาย ก็เลยมาเจอโดยวิธีธรรมชาติ ก็คือจะดูแลเรื่องอาหารการกิน หยิน หยาง ให้สมดุล แล้วก็ดีท็อกซ์สวนล้างลำไส้ ซึ่งมันทำให้เราอาการดีขึ้น

ที่บ้านพี่ฝนเลี้ยงกุมารจริงไหม?

เอ : จริงค่ะ

เห็นว่ากุมารเคยไปเข้าสิงพี่เอเวลาพี่เอดื้อด้วย?

เอ : เขาบอกว่าเข้าอยู่ ไม่แน่ใจ
ฝน : คือเหมือนกับว่าน้องกุมารเนี่ยเขาจะไม่กล้ามาสื่อสารกับพี่ฝน เหมือนเราจะเป็นคนดุหรือเปล่า เวลาเรานั่งสมาธิมีเสียงวิ่งขึ้น วิ่งลง เหมือนวิ่งเล่น เราก็จะรู้แล้ว เราก็เหมือนจะดุข้างใน น้องไม่เอา ไม่วิ่งนะ นั่งสมาธิอยู่ เดี๋ยวบาปนะ ไม่ดีนะ มันก็เลยทำให้เขาไม่สื่อสารกับเรา แต่จะไปสื่อสารกับพี่เอ เช่น เดินผ่านร้านที่ขายของเล่น เขาก็จะชี้เลย เอา ๆ  คือพี่เอชี้ แล้วเราจะเห็นน้ำเสียงและแววตาไม่ใช่พี่เอ แล้วมีคนมาท้าทาย น้องมาหรือเปล่า น้องมา น้องอยู่ตรงไหน จากที่แบบหน้าปกติ หน้าเริ่มนิ่ง แล้วก็แบบจะกินไอติม ไอติมช็อกโกแลตด้วย ซึ่งเขาไม่กินช็อกโกแลต เพราะเขาเป็นไมเกรน แล้วเขาก็กิน ๆ โมโห ๆ แล้วบอกว่านี่ไงมาแล้ว

จังหวะนั้นพี่เอรู้สึกตัวไหม?

เอ : ไม่ค่ะ ก็ยังถามพี่ฝนว่าตอนไหน เมื่อกี้ที่เล่ายังจำไม่ได้เลยว่าตอนไหน
ฝน : เขาจะไม่รู้ตัว เขาจะรู้ตัวเฉพาะเขาชี้เอาของ เหมือนแบ่งเป็นครึ่ง ๆ ว่ามีคนมาบอกว่าอยากได้ นี่ก็บอกว่าพี่ฝน นี่ต้องซื้อนะ น้องอยากได้ แต่ถ้าเข้าแบบเต็มตัว อย่างเช่นมีครั้งหนึ่ง ร้องไห้หนักมาก บอกว่าแม่ไม่รัก แม่ไม่สนใจ เหมือนแม่ดุ ร้องไห้เต็มที่เลย มันก็เป็นความเชื่อ
เอ : เอกลัว ไม่ค่อยชอบ ตอนที่พี่ฝนเอามาครั้งแรก เอก็ถามว่าเอามาทำไม เอกลัว แต่เขาก็ไม่เคยแกล้งเอเลย ทุกวันนี้เอชินแล้ว

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ ฝน ธนสุนทร

About Author