S.PELLEGRINO YOUNG CHEF ACADEMY COMPETITION 2022/23 ASIA REGIONAL FINAL
เชฟ Ian Goh จากประเทศสิงคโปร์ ผู้คว้ารางวัล S.Pellegrino Young Chef Academy
หลังการแข่งขันทำอาหารสุดระทึกเป็นเวลาห้าชั่วโมง เชฟ Ian Goh ก็ได้ก้าวขี้นเป็นสุดยอด Young Chef ของเอเชีย และยังสามารถคว้ารางวัล Fine Dining Lovers Food for Thought Award จากการแข่งขันในรายการเดียวกันด้วย
กรุงเทพฯ 31 ตุลาคม 2565 – S.Pellegrino ประกาศความสำเร็จในการจัดงานและการมอบรางวัล S.Pellegrino Young Chef Academy Asia Regional Competition 2022-2023 ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับโลกที่ริเริ่มโดย S.Pellegrino Young Chef Academy เพื่อค้นหาและส่งเสริมเชฟที่มีความสามารถยอดเยี่ยม และเพื่อผลักดันขอบเขตของการทำอาหารให้กว้างไกลออกไป ผู้แข่งขันทั้งสิบคนจากเอเชียได้ทำการแข่งขันกันเพื่อคว้าโอกาสในการเข้ารอบ Grand Final ที่จะจัดขึ้นที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ในปี 2566 โดยระหว่างการแข่งขันที่เต็มไปด้วยความท้าทายนี้เชฟผู้เข้าแข่งขันจะทำงานร่วมกับเชฟที่ปรึกษาเพี่อปรุงอาหารที่สมบูรณ์แบบที่สุด จากนั้นจะถูกตัดสินโดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ การตัดสินของคณะกรรมการได้ถูกประกาศขึ้นในพิธีมอบรางวัลซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรม Park Hyatt Bangkok เมื่อคืนที่ผ่านมา
ผู้ชนะรางวัลในการแข่งขัน S.PELLEGRINO YOUNG CHEF ACADEMY COMPETITION 2022/23 ASIA REGIONAL FINAL มีดังนี้
รางวัล Regional Young Chef Academy Award Asia
เชฟ Ian Goh จากร้าน NAE:UM สิงคโปร์ และเชฟที่ปรึกษา Louis Han
รางวัล Fine Dining Lovers Food for Thought Award
เชฟ Ian Goh จากร้าน NAE:UM สิงคโปร์ และเชฟที่ปรึกษา Louis Han
รางวัล Social Responsibility Award
เชฟ Xu Yu Chan จากร้าน Labyrinth สิงคโปร์ และเชฟที่ปรึกษ Li Guang Han
Acqua Panna Award for Connection in Gastronomy:
เชฟ Yi Chung Chiu จากร้าน “Xiang Se” ไต้หวัน และเชฟที่ปรึกษา Chih-Huai Tseng จากร้าน Lopfait Restaurant
S.Pellegrino Young Chef Academy ได้รับเกียรติจากเชฟที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จมากที่สุดในเอเชียจำนวน 5 ท่าน มาเป็นคณะกรรมการการตัดสิน ได้แก่ Mr. Dave Pynt จากร้าน Burnt Ends ประเทศสิงคโปร์ Mr. Daniel Calvert จากร้าน Sézanne ประเทศญี่ปุ่น Ms. Vanessa Huang จากร้าน Ephernité ไต้หวัน (ประเทศจีน) Mr. Thitid (Ton) Tassanakajohn, จากร้าน Le Du ประเทศไทย และ Ms. Pichaya (Pam) Utharntharm จากร้าน Potong ประเทศไทย
ผู้เข้าแข่งขันจะถูกประเมินจากสามหัวข้อหลัก ได้แก่ ทักษะทางเทคนิค – ความสามารถในการเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ สด และแปลกใหม่ ผสมผสานกับทักษะที่จำเป็นในการดึงเอารสชาติของวัตถุดิบออกมา โดยยังคงไว้ถึงความเป็นเอกลักษณ์ของวัตถุดิบที่ได้เลือกสรรค์ไว้ ความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการชี้ให้เห็นถึงที่มา การเปลี่ยนแปลง และการพัฒนาของอาหาร ในขณะที่ยังคงรักษาความสมดุลระหว่างรสชาติและความสวยงามไว้ และความเชื่อส่วนบุคคล หรือการเล่าเรื่องซึ่งสามารถสรุปวิสัยทัศน์ของเชฟเกี่ยวกับอาหาร และการตอบแทนให้กับสังคมผ่านการทำอาหาร
รายชื่อผู้เข้าแข่งขัน S.Pellegrino Young Chef Academy Competition 2022 Asia Regional Final และเชฟที่ปรึกษา มีดังนี้
- Xu Yu Chan จากร้าน Labyrinth สิงคโปร์ และเชฟที่ปรึกษา Li Guang Han
- Yu Chuan Cheng จาก Mandarin Oriental ไต้หวัน และเชฟที่ปรึกษา Jimmy Lin จากร้าน JL Studio
- Hyojeong Kim จากร้าน L’Amant Secret เกาหลีใต้ และเชฟที่ปรึกษา Jongwon Son
- Yi Chung Chiu จากร้าน “Xiang Se” ไต้หวัน และเชฟที่ปรึกษา Chih-Huai (James) Tseng จาก Lopfait Restaurant
- Ian Goh จาก Restaurant Naeum สิงคโปร์ และเชฟที่ปรึกษา Louis Han
- Jiwoo Lee จากร้าน Eatanic Garden เกาหลีใต้ และเชฟที่ปรึกษา Taeho Lee
- William Yee จากร้าน MOONBOW สิงคโปร์ และเชฟที่ปรึกษา Darren Chua
- Shintaro Ohiwa จากร้าน Difference ญี่ปุ่น และเชฟที่ปรึกษา Kazuki Idaka
- Aaron Shiu จากร้าน La Spezia ฟิลิปปินส์ และเชฟที่ปรึกษา Chele Gonzalez
- Chudapa (Joy) Chansaming จาก Elements Restaurant โรงแรม Okura Prestige ไทย และเชฟที่ปรึกษา Gerard Villaret
ผู้เข้าร่วมการแข่งขัน S.Pellegrino Young Chef Academy Competition จะได้รับโอกาสในการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่มีมายาวนาน มีความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ซึ่ง S.Pellegrino มีส่วนร่วมในการพัฒนา และไม่ได้จำกัดอยู่ในเฉพาะแวดวงการทำอาหารเท่านั้นแต่รวมถึงสังคมในวงกว้างอีกด้วย ด้วยการแข่งขันนี้ S.Pellegrino จะสามารถค้นหาและให้ความรู้กับผู้ที่จะมาเป็นเชฟผู้เชี่ยวชาญรุ่นต่อๆ ไปได้ S.Pellegrino Young Chef Academy Competition 2022/23 จะเปิดโอกาสให้เชฟรุ่นใหม่ๆ ได้เริ่มต้นเส้นทางอาชีพที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและการเรียนรู้ ตลอดการแข่งขันผู้เข้าแข่งขันจะได้เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในระดับสากล และโอกาสในการเข้าร่วมงาน Grand Finale ในปี 2566 ที่จะจัดขึ้นที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี
“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้จัดการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระดับภูมิภาคของ S.Pellegrino Young Chef Academy Competition 2022/23 ขึ้นที่กรุงเทพฯ การแข่งขันในปีนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถทางเทคนิค ความคิดสร้างสรรค์ และการถ่ายทอดเรื่องราวของเชฟรุ่นใหม่ จาก สิงคโปร์ ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และไทย รางวัลของเราได้รับการพัฒนาให้เป็นเหมือนสถานที่ฝึกอบรม การสร้างเครือข่ายที่ยั่งยืน และเป็นชุมชนแห่งการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเชฟกว่า 1,000 คน เราขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะรางวัล และพร้อมจะส่งเสริมความก้าวหน้าในอาชีพผ่านแพลตฟอร์มอันยอดเยี่ยมนี้” กล่าวโดย Brett Hibbs, Sanpellegrino’s Asia Pacific Zone Director
Laurent Casteret ผู้อำนวยการโรงเรียน The Food School Bangkok กล่าวถึงการสนับสนุน SPYCA ของโรงเรียนว่า “The Food School Bangkok เป็นสถาบันการศึกษาด้านการทำอาหารแห่งแรกของประเทศไทยที่เป็นพันธมิตรกับโรงเรียนสอนทำอาหารชั้นนำระดับโลก มีเป้าหมายเพื่อมอบการศึกษาคุณภาพระดับโลก ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการเรียนการสอนที่มีเอกลักษณ์ และนวัตกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ เราทุ่มเทเพื่อให้นักศึกษาและผู้ที่กำลังพัฒนาอยู่ในอุตสาหกรรมมีโอกาสได้รับประโยชน์จากการเรียนรู้ในสถานที่อันล้ำสมัย เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับอุตสาหกรรม เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นสถานที่จัดการแข่งขัน S.Pellegrino Young Chef Academy Competition 2022/23 รอบชิงชนะเลิศระดับภูมิภาคเอเชีย ซึ่งมีความสอดคล้องกับปรัชญาของเรา และขอแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับเชฟที่ชนะรางวัลทุกคน!”
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาเชฟรุ่นใหม่ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมการแข่งขัน S.Pellegrino Young Chef Academy Competition 2022-23 ได้ทางเว็บไซต์ www.sanpellegrinoyoungchefacademy.com โดยจะต้องระบุทั้งข้อมูลส่วนตัวและด้านอาชีพ พร้อมส่งสูตรอาหารที่เป็นซิกเนเจอร์ที่สามารถสื่อถึง วิสัยทัศน์ ทักษะ และความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองได้ โดยมีสถาบัน ALMA, the International School of Italian Culinary Arts เป็นผู้ตัดสินรายชื่อผู้เข้ารอบคัดเลือกของ Young Chefs เพื่อเข้าแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของหนึ่งใน 15 ภูมิภาคที่จะจัดขึ้นทั่วโลกในช่วงปลายปี 2565
ผู้เข้ารอบสุดท้ายระดับภูมิภาคจะได้เข้าร่วมการแข่งขันเพื่อคว้ารางวัล ‘S.Pellegrino Young Chef Academy Award 2022-23’ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมด้านอาชีพและเปิดโอกาสให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลก ผู้เข้ารอบจะแข่งขันกันเพื่อชิงรางวัลเพิ่มเติมอีก 3 รางวัล ซึ่งเป็นรางวัลเพื่อยกย่องทัศนคติ ความเชื่อ และแนวทางในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในสังคมผ่านอาหาร รางวัลทั้ง 4 ประเภท ได้แก่ S.Pellegrino Young Chef Academy Award ซึ่งเป็นรางวัลหลักของการแข่งขัน S.Pellegrino Award for Social Responsibility โหวตโดย Sustainable Restaurant Association Acqua Panna Award for Connection in Gastronomy โหวตโดยผู้เชี่ยวชาญให้กับอาหารที่แสดงถึงมรดกด้านการทำอาหารแบบดั้งเดิม และ Fine Dining Lovers Food for Thought Award โหวตโดยชุมชนออนไลน์ของกลุ่ม Fine Dining Lovers การมอบรางวัลพิเศษทั้งสามนี้ จะถูกกำหนดขึ้นระหว่างการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระดับภูมิภาค โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
(สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ San Pellegrino Young Chef Academy Competition Academy website)
S.Pellegrino Award For Social Responsibility
โหวตโดย Sustainable Restaurant Association ผู้ดำเนินโครงการ Food Made Good ซึ่งเป็นโครงการความยั่งยืนของการบริการด้านอาหารที่ใหญ่ที่สุด และเป็นชุมชนระดับโลกในการขับเคลื่อนความยั่งยืนในภาคธุรกิจการบริการ อาหารที่ชนะเลิศจะต้องแสดงถึงหลักการที่ว่าอาหารที่ดีที่สุดคืออาหารที่เกิดมาจากการการปฏิบัติตามแนวทางที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงการจัดหา และข้อกำหนดทางสังคมและสิ่งแวดล้อม การเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนี้พิจารณาตามเกณฑ์ 8 ประการ ได้แก่ การใช้ทรัพยากร ผลกระทบต่อสภาพอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพ เศษอาหาร โภชนาการ ความร่วมมือ การสนับสนุน และนวัตกรรม
Fine Dining Lovers Food For Thought Award
โหวตโดยชุมชนออนไลน์ของกลุ่ม Fine Dining Lovers รางวัลนี้จะมอบให้กับผู้เข้าแข่งขันที่นำเสนออาหารที่สอดคล้องกับความเชื่อส่วนบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเธอ/เขามากที่สุด
Acqua Panna Award For Connection In Gastronomy
โหวตโดยเชฟที่ปรึกษา ผู้ชนะรางวัลนี้จะต้องทำอาหารที่แสดงถึงมรดกด้านการทำอาหารในภูมิภาคของเธอ/เขา อาหารที่ทำออกมาต้องแสดงถึงการทำอาหารแบบดั้งเดิมและวิสัยทัศน์สมัยใหม่ของเชฟผู้ปรุงซึ่งเป็นการเชื่อมโยงระหว่างอดีตและอนาคต
งานเลี้ยงค็อกเทลและพิธีมอบรางวัลได้จัดขึ้นที่ Park Hyatt Bangkok, Central Embassy หลังการแข่งขันในตอนกลางวัน Park Hyatt Bangkok เป็นพันธมิตรด้านสถานที่ และมีนโยบายที่สอดคล้องกับพันธกิจของ SPYCA ในการสนับสนุนความยั่งยืนด้านอาหารและร่วมกำหนดอนาคตของวงการอาหาร
Angelica Aliberti ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดของ Park Hyatt Bangkok กล่าวว่า “Park Hyatt Bangkok มีบรรยากาศที่สวยงามปราณีตและเป็นกันเอง เน้นการออกแบบที่โดดเด่น ศิลปะที่ได้รับการคัดสรรค์ และอาหารรสเลิศ อย่างหลังนี้เองที่ทำให้ Young Chef Awards เหมาะสมกับแบรนด์เป็นอย่างยิ่ง การปฏิบัติตามแนวทางด้านความยั่งยืนยังของเราหมายถึงการลดขยะอาหาร การจัดซื้อจากฟาร์มที่เน้นเรื่องสวัสดิภาพของสัตว์ และการใช้ซัพพลายเออร์ที่มีผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์และเกษตรเชิงนิเวศที่ได้รับการรับรอง เราขอยกย่องความมุ่งมั่นของ S.Pellegrino Young Chef Academy ที่จะสนับสนุนการทำอาหารอย่างยั่งยืนและการหาวิธีที่ดีขึ้นในการจัดการอาหารและเศษอาหาร และให้การสนับสนุนด้วยการเป็นพันธมิตรด้านสถานที่ให้กับการแข่งขันนี้ Park Hyatt ขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะทุกท่านและขอขอบคุณผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกท่านด้วย”
ผลงานและแรงบันดาลใจของผู้เข้าแข่งขัน S.Pellegrino Young Chef Academy Competition 2022/23 Asia Regional Final
Xu Yu Chan, Singapore – ‘Memories of Hometown Assam Laksa’– “อัสสัมลักซาเป็นอาหารที่ผมชอบในวัยเด็ก สำหรับผมความสวยงานของอาหารจานนี้คือการผสมผสานกันของปลาแผ่นและน้ำซุปที่มีรสหวาน เปรี้ยว เผ็ดร้อน หอมสมุนไพร และเนื้อปลา อัสสัมลักซาในแบบของผมใช้สมุนไพรโฮมเมดแบบดั้งเดิม(rempah) เสริมด้วยซอสปลา(garum) น้ำสต็อกกระดูกปลา น้ำมันใบลักซา และโมเสก (mosaic) ที่จำจากเนื้อปลา Kingfish และปลา Farce เสิร์ฟพร้อมเชอร์เบทดอกขิงและหนังปลา Yuba Tuile ราดด้วยซัลซ่าและสมุนไพรพื้นเมือง”
Yu Chuan Cheng, Taiwan (China) – ‘Use Everything, Waste Nothing’ – “เชฟหลายคนพูดถึงเรื่องความยั่งยืนในสื่อต่างๆ ผมก็มีความห่วงใยในเรื่องนี้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับขยะที่เกิดจากอาหาร ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาทางสังคม สิ่งแวดล้อม และการเงิน ในฐานะพ่อครัวผมสามารถเห็นได้ว่าอาหารในครัวที่เสียไปในแต่ละวันมีมากน้อยเพียงใด ในระหว่างการแข่งขันผมต้องการสร้างผลงานโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อไม่ให้มีขยะเหลือทิ้ง ดังนั้นไก่ทั้งตัวจะถูกใช้ทั้งหมด ผมต้องการแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่จะทำได้ในฐานะเชฟ ด้วยความแข็งแกร่งและความสามารถที่ทำให้เกิดการเปลี่ยงเเปลงภายในพื้นที่เล็กๆ ของเราเอง และความรับผิดชอบที่มีต่อสังคม”
Hyojeong Kim, Korea – ‘Fancy Chicken’ – “ในการแข่งขันของ San Pellegrino ฉันต้องการทำอาหารเกาหลีจานใหม่ที่น่าสนใจและอร่อย นำเสนอในรูปแบบที่น่าสนุกด้วยการใช้ส่วนผสมที่ทุกคนคุ้นเคย นอกจากนี้ฉันต้องการพัฒนาสูตรอาหารที่สามารถลดเศษอาหารซึ่งส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อมลภาวะแวดล้อมให้ได้อีกด้วย ฉันเชื่อว่าเราสามารถจัดการได้ผ่านหลักการปรุงอาหารอย่างมีความรับผิดชอบและยั่งยืน”
Yi Chung Chiu, Taiwan (China) – ‘The Grace of the Tibetan Forest’ – “ผมคิดว่าอาหารที่ทำด้วยความรู้สึกที่แท้จริงนั้นจะอร่อยที่สุดแต่ในขณะเดียวกันก็ท้าทายที่สุดด้วย และนั้นคืออาหารที่จะบอกเล่าเรื่องราวได้ด้วย ผ่านอาหารของผม ผมต้องการแบ่งปันกับเรื่องราวที่เกิดจากประสบการณ์การเดินทาง ความทรงจำที่ทรงคุณค่า และเรื่องราวของเกาะไต้หวันที่ได้หล่อหลอมและเลี้ยงดูผมมาจนโต ผมปรารถนาให้แขกของผมทราบว่าพวกเขาก็มีวันอันน่ารื่นรมย์และอบอุ่นหัวใจได้เช่นกัน”
Ian Goh, Singapore – ‘Heritage Lamb’ – “อาหารจานนี้เริ่มต้นด้วยความรักในเนื้อแกะ และความต้องการที่จะให้เห็นถึงมรดกทางวัฒนธรรมไห่หนาน (ไหหลำ) ของผม เนื้อแกะเป็นอาหารหลักของชาวไหหลำ เช่น Dong Shan Lamb เมนูนี้จะถูกนำเสนอด้วยส่วนผสมและเทคนิคที่เชื่อมโยงระหว่างโลกตะวันออกกับโลกตะวันตก ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเส้นทางเครื่องเทศ (Spice Route) หรือที่รู้จักกันในชื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล (Maritime Silk Roads) ผมจึงใช้เครื่องเทศ เช่น ยี่หร่า เฟนเนล พริกไทยเสฉวน และขิง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นที่รู้จักและใช้กันในสมัยโบราณ และซื้อขายกันในเอเชีย”
Jiwoo Lee, Korea – ‘Deconstructed Sinseollo’ – “ฉันได้แยกส่วนอาหารเกาหลีแบบดั้งเดิม ซึ่งก็คือ ชินซอลโล (Sinseollo) ฉันพยายามปรับปรุงข้อจำกัดของวิธีการทำอาหารแบบดั้งเดิมโดยการใช้เทคนิคสมัยใหม่ที่มาจากประสบการณ์การทำงานของฉันในประเทศต่างๆ ฉันทำอาหารจานนี้ขึ้นด้วยองค์ประกอบสามอย่างของอาหารเกาหลีแบบดั้งเดิม ได้แก่ ซุป ข้าว และเครื่องเคียง (banchan) และเมื่อต้องคำนึงถึงเรื่องของความยั่งยืนด้วยแล้ว ส่วนผสมทั้งหมดที่ถูกนำมาใช้ในการทำอาหารจะไม่มีส่วนใดถูกทิ้งไป เพื่อให้เป็นการทำอาหารแบบไม่เหลือทิ้ง (zero-waste cooking)”
William Lee, Singapore – ‘Blessing from the Woods’ – “มาเลเซีย ไต้หวัน และสิงคโปร์เป็นสถานที่ที่มีอิทธิพลต่อผมมากที่สุด อาหารจานนี้เริ่มต้นจากน้ำซุปซึ่งเหมือนกับการเริ่มต้นการเดินทางสู่ความลึกลับ เต็มไปด้วยเมฆหมอกแต่ก็น่าตื่นเต้น ตามด้วยของว่างเหมือนเช่นเวลาคุณเดินเข้าป่าและเห็นอาหารแสนประณีตที่ปรุงแต่งโดยธรรมชาติ และสุดท้ายคืออาหารจานหลักซึ่งเหมือนกับว่าคุณได้เข้าสู่ใจกลางป่าและพบกับสิ่งต่างๆ มากมายให้สำรวจ ทั้งหมดนี้เป็นเหมือนกับการเดินทางผ่านอาหาร ผมต้องการสร้างเทรนด์ใหม่ๆ และแสดงให้เห็นว่าภูมิหลังที่แตกต่างกันสามารถสร้างเรื่องราวที่น่าสนใจได้อย่างไร”
Shintaro Ohiwa, Japan – ‘Taichazuke’ – “ด้วยอาหารจานนี้ ผมต้องการให้เห็นถึงส่วนผสมที่ยอดเยี่ยมและวัฒนธรรมอาหารของญี่ปุ่น เรายังคิดถึงการตกแต่งจานด้วยใบชิโสะและมิโยกะซึ่งมักใช้กันในญี่ปุ่น และเพิ่มความหอมด้วยหนังปลา sea bream และด้นหอมย่าง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเกิดการพัฒนา หรืออีกนัยหนึ่งคือไม่น่าเบื่อทั้งในแง่ของเนื้อสัมผัสและรสชาติ เรายังเชื่อว่าความข้นของซุปทำให้ข้าวและปลา seam bream ผสมกันได้ดียิ่งขึ้น จึงใช้แป้งข้าวเจ้าเพื่อเพิ่มความข้นของน้ำซุป
Aaron Shiu, Philippines – ‘Lapu, Aged Soy, Collagen’ – “อาหารจานนี้มีบทบาทสำคัญในชีวิตของผม ผมได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมนูปลาเก๋านึ่ง ซึ่งผมและครอบครัวจะกินกันเป็นประจำทุกวันอาทิตย์ อาหารจานนี้เป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจที่ทำให้ผมเป็นเชฟที่เรียบง่าย อาหารที่ทำให้รู้ถึงความเรียบง่ายแต่ซับซ้อน เพื่อเตือนว่าอาหารที่มีรสชาติดีไม่จำเป็นต้องซับซ้อนและมีไว้เพื่อเเบ่งปัน อาหารของผมแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากประสบการณ์ โดยไม่ลืมวัฒนธรรมและการอบรมเลี้ยงดูในฐานะคนฟิลิปปินส์-จีน”
Chudapa Chansaming, Thailand – ‘Ocean Memories’ – “สิ่งที่ฉันอยากจะสื่อผ่านจานนี้คือวัฒนธรรมไทย และสร้างสรรค์ขี้นใหม่ด้วยการผสมผสานและเสริมเข้ากับวัฒนธรรมฝรั่งเศสและศาสตร์การทำอาหารของฝรั่งเศส ฉันอยากนำอาหารไทย ที่คนไทยชื่นชอบและกินกันเป็นประจำทุกวันมาปรุงให้อร่อยขึ้นโดยใช้องค์ประกอบของอาหารฝรั่งเศส ในขณะเดียวกันก็ใส่ความเป็นเอกลักษณ์ของไทยไปในอาหารฝรั่งเศส