“กระทรวงการต่างประเทศ” จับมือ “มูลนิธิไทย” จัดงานมอบรางวัลการทูตสาธารณะประจำปี 2565
“Public Diplomacy Award 2022” เชิดชูผู้สร้างแฟนคลับ “นิยมไทย” ในต่างแดน
นับเป็นครั้งแรกที่กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับมูลนิธิไทย จัดงานมอบรางวัลการทูตสาธารณะประจำปี 2565 “Public Diplomacy Award 2022” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมอบให้บุคคล กลุ่มบุคคลทั่วไปหรือองค์กรที่เป็นคนไทย ซึ่งมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมภาพลักษณ์ของไทยที่สร้างชื่อเสียง จนเป็นที่ประจักษ์ในสายตาชาวต่างประเทศ นำไปสู่การสร้างแฟนคลับให้กับประเทศไทย คนไทยและความเป็นไทย หรือสร้างแฟนคลับ “นิยมไทย” ในกลุ่มชาวต่างประเทศนั่นเอง
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า การทูตสาธารณะถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงต่างประเทศ ที่มีเป้าหมายในการเสริมสร้างเกียรติภูมิและบทบาทของไทยในประชาคมโลก ที่ผ่านมา กระทรวงต่างประเทศ มีการส่งเสริมด้านการสร้างการรับรู้ของประเทศไทยผ่านสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ รวมถึงผนึกกำลังกับหน่วยงานไทยที่อยู่ในประเทศต่าง ๆ มาโดยตลอด รวมไปถึงความร่วมมือกับภาคเอกชนที่ร่วมกันเผยแพร่ความเป็นไทยอย่างเข้มแข็งผ่านการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมในด้านต่าง ๆ มาโดยตลอด
“ปัจจุบันเป็นยุคแห่งโลกไร้พรมแดน การดำเนินงานด้านการต่างประเทศมีความหลากหลาย จึงหารือร่วมกับมูลนิธิไทย จัดโครงการรางวัลทูตสาธารณะขึ้น เพื่อเชิดชูเกียรติบุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กรที่ไปดำเนินงานด้าสาธารณประโยชน์ ด้านมนุษยธรรม ด้านศิลปวัฒนธรรม กีฬา นวัตกรรม เป็นต้น จนสามารถสร้างชื่อเสียง เกียรติภูมิ การยอมรับ ชื่นชม นิยม เป็นที่ประจักษ์ในต่างประเทศ”
นายธฤต จรุงวัฒน์ เลขาธิการมูลนิธิไทย กล่าวว่า มูลนิธิไทยก่อตั้งเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2550 โดยดำริของกระทรวงการต่างประเทศเพื่อดำเนินงานด้านการทูตสาธารณะของประเทศไทย อย่างไรก็ดีมูลนิธิไทยดำเนินการโดยอิสระภายใต้การกำกับของคณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วยบุคคลสำคัญภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมความเข้าใจอันดีเกี่ยวกับประเทศไทย ความเป็นไทยและคนไทย ผ่านการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยรอบด้านเป็นภาษาอังกฤษ อาทิ ประเพณี เทศกาล การแสดง วรรณกรรม อาหาร มวยไทย ภาพยนตร์ ดนตรี เป็นต้น
“นอกจากนี้ยังมุ่งมั่นสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ กระชับความสัมพันธ์ ทัศนคติที่ดี รวมถึงจัดตั้งเครือข่ายความร่วมมือ ซึ่งเน้นในระดับประชาชนผ่านกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ นอกจากนี้ตั้งแต่ปี 2563 มูลนิธิไทยได้ปรับแนวทางการทำงานเพื่อให้ก้าวหน้าและสอดคล้องกับยุคสมัย วิถีชีวิตใหม่และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การทูตสาธารณะและแผนปฏิบัติการมูลนิธิไทย ฉบับที่ 1 (ปี 2564-2568) โดยเน้นการนำเสนอความเป็นไทย 3 ประการ อันเป็นคุณสมบัติดีเด่นของคนไทยที่ได้รับการยอมรับ ได้แก่ การมีความเคารพต่อผู้อื่น (Respect) การทีความเมตตาต่อผู้อื่น (Compassion) และการเปิดกว้างไม่ปิดกั้นวัฒนธรรม วิถีชีวิต หรือเชื้อชาติใด (Openness)”
นายธฤต กล่าวด้วยว่า สำหรับการจัดโครงการรางวัลการทูตสาธารณะ ถือว่าจะเป็นงานประจำปีของมูลยิธิเป็นงานแรก มีความตั้งใจที่จะเชิดชูเกียรติให้แก่บุคคล ไม่จำกัดเพศและวัย รวมทั้งกลุ่มบุคคลชาวไทยผู้ทำคุณประโยชน์โดยไม่แสวงหาผลกำไรหรือทางธุรกิจใด ๆ ให้แก่ประเทศในต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ดังที่กล่าวมา ให้ชาวต่างชาติได้รู้จักและสัมผัสประเทศไทยให้มากขึ้น และยังต้องการสนับสนุนให้ผู้รับรางวัลสามารถดำเนินงานตามเจตนารมณ์ที่ดีและเกิดผลดีต่อประเทศไทยต่อไปในอนาคต อีกทั้งเป็นแบบอย่างให้แก่บุคคลและองค์กรอื่น ๆ ด้วย ขณะเดียวกันก็ต้องการให้ประชาชนทั่วไปได้ตระหนักและเข้าใจถึงบทบาทของการทูตสาธารณะมากยิ่งขึ้น และสร้างการรับรู้ว่าประชาชนทั่วไปสามารถมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนงานการทูตสาธารณะได้เช่นกัน
“โดยรางวัลนี้จะมีบุคคลหรือองค์กรได้รับเพียง 1 เดียวเท่านั้นที่ได้รับ จะมีการจารึกชื่อไว้ที่ฐานถ้วยรางวัลใหญ่ที่ตั้งไว้ในกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมเงินรางวัลจำนวน 5 แสนบาท เพื่อให้นำไปต่อยอดในกิจกรรมสร้างสรรค์สังคมต่อไป ซึ่งผลสัมฤทธิ์ที่คาดหวังของการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดตัวอย่างของบุคคลและกลุ่มบุคคลที่มีจิตสาธารณะและรักประเทศไทยให้มีมากยิ่งขึ้น ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แต่หน่วยงานภาครัฐ
ทั้งนี้มูลนิธิไทยและกระทรวงการต่างประเทศ เปิดโอกาสให้สถานทูตไทยในประเทศต่าง ๆ นำเสนอชื่อผู้ที่เหมาะสมกับรางวัล รวมถึงเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปนำเสนอชื่อผู้ที่เหมาะสมกับรางวัลนี้เข้ามาได้เช่นกันภายในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ ซึ่งจะพิจารณาโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อให้ได้ผู้สมควรได้รับรางวัล อีกทั้งเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม โดยจะมีพิธีมอบรางวัลวันที่ 20 ตุลาคมนี้ ณ กระทรวงการต่างประเทศ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ มูลนิธิไทย 02-203-5000 ต่อ 11031 ในเวลาราชการ ดูวิธีการเสนอชื่อผู้รับรางวัลและรายละเอียดอื่น ๆ ได้ที่ www.thailandfoundation.or.th”