“ผกก เดวิด ลิทช์” สั่งทีมสร้างขบวนรถไฟ อลังการงานโซนี่ พร้อมเนรมิตรความเป็นญี่ปุ่นใน ”Bullet Train”
ในตอนที่ เดวิด ลิทช์ ผู้กำกับ ได้รับการทาบทามให้กำกับ Bullet Train เป็นครั้งแรก เขายอมรับว่าหนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือเขาจะสร้างภาพยนตร์แอ็กชันเรื่องยาวที่น่าสนใจ ภายใต้สภาพแวดล้อมที่จำกัดเพียงแห่งเดียวได้ยังไง “ระหว่างที่เรากำลังวาดภาพในหัว ผมคิดว่า ‘เราจะสร้างแอ็กชันได้ยังไง รถไฟเป็นสถานที่ที่แคบมาก ๆ เลยนะ’ “แล้ว เคลลี่ แม็คคอร์มิค (ผู้อำนวยการสร้าง ภรรยาของ ผกก เดวิด ลิทช์) ก็บอกกับผมว่า ‘นั่นไม่ใช่โอกาสหรอกหรือ?’ นั่นคือวิธีที่เราทั้งคู่ชอบมองสิ่งต่างๆ การเปลี่ยนปัญหาให้เป็นโอกาสในที่สุด ปัญหาคือเราอยู่บนรถไฟ แต่โอกาสที่ดี ยอดเยี่ยมที่สุด ก็คือเราอยู่บนรถไฟ เมื่อคุณเผชิญหน้ากับปัญหา เมื่อคุณท้าทายตัวเอง เมื่อคุณวางสิ่งกีดขวางไว้ข้างหน้าตัวเองเพื่อออกแบบรอบๆ มัน ตอนนั้นเองที่การออกแบบการเคลื่อนไหวจะสนุก น่าสนใจและสร้างสรรค์ยิ่งขึ้นครับ แทนที่จะเป็นคนสองคนต่อสู้กันในสนามประลอง ตอนนี้มันกลับอยู่ในขอบเขตของตู้โดยสาร ตู้งดใช้เสียงหรือห้องน้ำ คุณถูกบังคับให้หาวิธีที่จะทำให้มันน่าสนใจและสุดท้าย ความท้าทายเหล่านั้นก็จะทำให้คุณสร้างสรรค์สิ่งที่ดีกว่าออกมาได้ครับ”
การออกแบบตู้โดยสารแต่ละตู้ เราได้ผู้ออกแบบงานสร้าง “เดวิด ชูเนมานน์” มาดูแลเรื่องนี้ ซึ่งเขาได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับผู้กำกับภาพ “โจนาธาน เซลา” ตั้งแต่แรกเริ่ม ทุกคนทำงานอย่างใกล้ชิดกันมาก ๆ ตั้งแต่นาทีแรกที่เราเริ่มทำงานในหนังเรื่องนี้แล้วล่ะครับ วิธีเดียวในการออกแบบฉากที่ดีคือการรวมแสงทุกแบบที่คุณจะต้องการ ในภายหลังเข้าด้วยกัน มันเป็นเรื่องของการสร้างฉากที่ใช้งานได้ทั้งในเรื่องของภาพวิชวลและเทคนิคในทุกระดับ แหล่งกำเนิดแสงทุกแห่งจะได้รับการออกแบบ ทดสอบ พูดคุยถกกัน ประชุม และสร้างเป็นฉากเพื่อให้ครอบคลุมเกือบทุกสถานการณ์ในการออกแบบแสงของโจนาธานและรายการถ่ายทำออกมาน่ะครับ
การออกแบบของชูเนมานน์ เราต้องสร้างตู้โดยสารรถไฟที่มีขนาดตามความเป็นจริงสองตู้ ที่ทีมก่อสร้างได้สร้างขึ้นมา สามารถสลับใช้แทนกันได้ ซึ่งทำให้ตู้โดยสารแต่ละตู้นำไปปรับเปลี่ยนและนำกลับมาใช้เป็นตู้โดยสารอื่น ๆ ได้ ซึ่งรวมถึงตู้โดยสารธีมโมโมมอน ที่เหมาะสำหรับครอบครัวด้วย ตู้โดยสารพิเศษสำหรับครอบครัวโมโมมอนนั้นจำเป็นต้องได้รับการอัพเกรดแบบเฉพาะเจาะจงหลายอย่าง เช่น พื้นผิวสีชมพูแจ๊ดที่ติดอยู่กับทั้งภายในและภายนอกของรถไฟ เพื่อแปลงโฉมมันให้กลายเป็นอนิเมะสีสันสดใส นอกจากตู้โดยสารแล้ว เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมเหล่านี้แต่ละแห่ง นักฆ่าก็หยิบฉวยอะไรมาใช้ก็ได้ทั้งนั้น คุณคงไม่คิดว่าจะมีอาวุธมากมายขนาดนั้นบนรถไฟความเร็วสูง แต่เราก็มีทั้งปืน มีมีด เรามีดาบซามูไร และนั่นก็เป็นแค่จุดเริ่มต้น มีงู มีขวดน้ำ มีแล็ปท็อป มีด้ามไม้กวาดและมีดทำครัวติดเทปกาวไว้ด้วยกัน มีน้ำยาทำความสะอาด แม้แต่ชุดโมโมมอนก็ได้เข้าฉากด้วยครับ” ผกก
สเตจที่ 26 ในโรงถ่ายโซนีเป็นที่ตั้งของฉากรถไฟสองขบวน และฉากสถานีรถไฟ ซึ่งทีมช่างฝีมือของชูเนมานน์จะปรับเปลี่ยนเป็นสถานีรถไฟ 5 แห่ง สำหรับสถานีโตเกียว ทีมผู้สร้างได้ปรับเปลี่ยนและตกแต่งศูนย์ประชุมลอสแองเจลิสให้เป็นตัวสถานี ถนนด้านข้างในตัวเมืองถูกเปลี่ยนให้เป็นถนนในโตเกียวที่ผู้คนพลุกพล่านและเต็มไปด้วยป้ายไฟนีออนกระพริบ แผงขายอาหาร และแผงขายของในตลาด ทีมผู้สร้างไม่เคยมีเจตนาที่จะทำให้ญี่ปุ่นใน Bullet Train เป็นเหมือนของจริง บทภาพยนตร์เรียกร้องให้มีการสร้างภาพประเทศนี้ในแบบที่มีสไตล์ยกระดับขึ้น แต่ก็ยังภาพในแบบที่เคารพในวัฒนธรรมและให้ความรู้สึกตรงไปตรงมา มหานครโตเกียว สถานีรถไฟ ป้าย ขนมญี่ปุ่นสารพัดชนิด หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ร้านอาหารและแผงขายอาหาร จะตรงกับความเป็นจริงที่สุด