อัพเดตอาการ “จัสติน บีเบอร์”

เมื่อวันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน จัสติน บีเบอร์ ในวัย 28 ปี ได้รับการวินัจฉัยเป็น โรคแรมเซย์ฮันต์ ซินโดรม (Ramsay Hunt Syndrome) หลังติดเชื้อไวรัสที่สร้างความเสียหายแก่ระบบประสาทหูและระบบประสาทใบหน้า
ชาร์ลส์ เอนดูกา ศัลยแพทย์ที่ปรึกษาด้านผ่าตัดตกแต่งใบหน้า และผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรการกุศล Facial Palsy UK ในอังกฤษ ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ว่า 75% ของผู้ป่วยที่มีอาการโรคแรมเซย์ฮันต์ ซินโดรม ที่ได้รับการรักษาตั้งแต่เริ่มแรก รวมทั้งได้รับยาสเตียรอยด์ และยาต้านไวรัส สามารถฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ

รับชมได้ที่ https://www.instagram.com/tv/CeorE9OjqX9/?utm_source=ig_web_copy_link
นายแพทย์เอนดูกา ให้ความเห็นอีกว่า ก่อนจะกลับมายิ้มได้เป็นปกติ สิ่งแรกที่จะพัฒนาดีขึ้นเป็นอย่างแรกก็คือ ความสมมาตรของส่วนต่างๆ บนใบหน้า อย่างเช่นฐานจมูกจะยกขึ้นเล็กน้อย และปากจะสม่ำเสมอกันมากขึ้น ซึ่งในคลิปวิดีโอผมสามารถเห็นสัญญาณบางอย่างเหล่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งแสดงถึงว่ากำลังเริ่มมีการฟื้นตัว
เขามีคนไข้เป็นคนในวงการบันเทิงอยู่หลายคน และอยากฝากว่าสิ่งสำคัญอย่างแรกที่คนในวงการบันเทิงที่ป่วยด้วยโรคนี้ต้องตระหนักก็คือ ต้องจัดการสาเหตุที่ทำให้ภูมิคุ้มกันของพวกเขาอ่อนแอให้ได้ก่อนจะกลับไปทำงาน
พวกเขาเหล่านั้นอาจมีความกดดันเรื่องการเงิน หรือจากปัญหาอะไรก็ตามที่กดดันให้ต้องรีบกลับไปทำงานโดยเร็วเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่การกระทำเช่นนี้มีแต่จะนำไปสู่การเกิดปัญหาในระยะยาว




Cr_ig: justinbieber