ปลดล็อคเทคนิคการดูแลสุขภาพ ทำได้ทุกวัน! จาก 4 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับโลก

ผ่านหนังสือ ถอดรหัสการมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ “Health Brings Wealth”

ปัจจุบันเทรนด์การดูแลสุขภาพกำลังมาแรง จะเห็นได้ว่าผู้คนหันมาสนใจ และใส่ใจในเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น เนื่องด้วยสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งปัญหาด้านสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนในสังคมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เกิดผลกระทบต่อสุขภาพกาย และสุขภาพจิต ทำให้เป็นบ่อเกิดของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs (Non-communicable diseases)

จากรายงานปี พ.ศ. 2563 จากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO พบว่าในแต่ละปี ผู้คนทั่วโลกเสียชีวิตจากกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ประมาณ 41 ล้านคน คิดเป็น 71% ของจำนวนประชากรทั้งหมด เช่นเดียวกับประเทศไทย ในปีพ.ศ.2562 ที่มีผู้เสียชีวิตจากกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง 76.58% หรือประมาณ 351,880 คนต่อปี เฉลี่ยสูงถึง 44 คนต่อชั่วโมง

การเจ็บไข้ได้ป่วยคงเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากพบเจอ เพราะนอกจากจะเสียสุขภาพกาย สุขภาพจิตแล้ว ยังต้องเสียเวลา เสียงานเสียการ กระทบไปถึงเงินในกระเป๋าอีกด้วย

การป้องกันไว้แต่เนิ่น ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ การหันมาใส่ใจเริ่มต้นสะสมสุขภาพที่ดีจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นกุญแจที่สำคัญที่สุด ของการมีคุณภาพชีวิตที่ดี

หนังสือ Health Brings Wealth ถูกรังสรรค์ขึ้น เพื่อรวบรวมความรู้ มุมมอง แง่คิด และประสบการณ์จริงจาก 4 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งทางด้านหัวใจ ด้านสมอง ด้านการออกกำลังกาย รวมทั้ง ด้านโภชนาการและการชะลอวัย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านนำไปปฏิบัติได้จริง โดยมี นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญ และเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จ ทั้งสุขภาพที่ดี (Health) ความมั่งคั่ง (Wealth) และอายุยืนอย่างมีคุณภาพ (Longevity)

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญท่านแรก ศาสตราจารย์ นายแพทย์ จีรี ดโวชัค (Prof Jiří Dvořák, MD Zurich, Switzerland) ศาสตราจารย์ด้านประสาทวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยซูริค,อดีตประธานเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของ FIFA , ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาอาวุโสด้านประสาทวิทยาและการวิจัยของศูนย์กระดูกสันหลัง (Spine Center) ประจำคลินิก Schulthess เมือง Zurich และเคยดำรงตำแหน่งประธานของคลินิกนี้ มานานกว่า 35 ปีในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิและมีผลงานวิจัยจำนวนมากมาย เกี่ยวกับกระดูกสันหลัง ส่งผลให้ได้รับรางวัลยกย่องต่าง ๆ มากมาย

เนื้อหาภายในหนังสือเล่มนี้ คุณหมอในฐานะผู้ชำนาญการทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาและเวชศาสตร์ป้องกัน จะมาบอกเล่าถึงข้อดีของ การออกกำลังกาย เพียงแค่บริหารเวลาให้ดี แบ่งเวลามาออกกำลังกาย 30 นาที 5 ครั้ง ต่อสัปดาห์ เป็นประจำ สม่ำเสมอ ก็ช่วยให้สุขภาพแข็งแรงได้ในระยะยาว ส่วนผู้ที่ร่างกายมีข้อจำกัดหรือมีอาการบาดเจ็บ ก็สามารถออกกำลังกายได้โดยการรักษาและดูแลที่เหมาะสม

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญท่านถัดไป ศาสตราจารย์ นายแพทย์ เซอร์จิโอ ฟาซิโอ (Prof Sergio Fazio, MD, PhD Portland, Oregon and Tarrytown, New York, US) ศาสตราจารย์วุฒิคุณด้านโรคหัวใจ ประจำ Stanford University คุณหมอเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันโรคหัวใจ ณ Knight Cardiovascular Institute ของ Oregon Health & Science University (OHSU) และที่นี่เองที่คุณหมอได้ริเริ่มความร่วมมือเพื่อนำทฤษฎีการรักษาโรคหัวใจแบบป้องกัน (Preventive Cardiology) มาสู่ประเทศไทย

ภายในหนังสือ Health Brings Wealth คุณหมออธิบายถึงความสำคัญของ หัวใจ ซึ่งเป็นอวัยวะทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เคยได้หยุดพัก การดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ต้องเริ่มต้นที่ตัวเรา ด้วยการหันมาใส่ใจการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น การเลือกรับประทานอาหารที่ดี คือ ไม่หวานจัด ไม่เค็มจัด และอาหารที่ไม่มีไขมันอิ่มตัวสูง  พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ดี นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เคลื่อนไหวร่างกายอยู่เสมอ ลดความเครียด อันเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ และอีกหลายวิธี เพื่อรักษาหัวใจให้อยู่ด้วยกันกับเราไปนานๆ 

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญท่านที่สาม ผู้ช่วยศาสตราจารย์วุฒิคุณ นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุญ (หมอแอมป์) (Adj Asst Prof Tanupol Virunhagarun, MD Bangkok, Thailand) ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ป้องกัน (Preventive Medicine)ดูแลคนไข้ในการดูแลฟื้นฟูสุขภาพ ด้านการลดน้ำหนักและควบคุมโรคอ้วนที่มีความมุ่งมั่นที่จะดูแลผู้ป่วยทำให้เรื่องควบคุมน้ำหนักไม่ใช่เรื่องยากสำหรับการดูแลสุขภาพ

คุณหมอแอมป์เป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนและกระตุ้นให้ประชาชนคนไทยเกิดความตระหนัก และสนใจในการดูแลสุขภาพในเชิงป้องกันโรคมากขึ้น โดยการให้ความรู้ผ่านทางการบรรยาย และช่องทางสื่อออนไลน์ อาทิ Facebook : Dr Amp Team, Instagram : DrAmp Team, Spotify : Dr.Amp Team, YouTube : DrAmp Team, Website : www.dramp.com เพื่อให้คนได้ปฏิบัติกัน ปัจจุบันมีผู้ติดตาม มากกว่า 750,000 คน

อีกทั้ง ยังเป็นเจ้าของผลงานหนังสือ Best Seller อีกหลายเล่ม อาทิ เคล็ดลับชะลอวัย ห่างไกลโรค, กินดี อยู่นาน คือของขวัญชีวิต, สุขภาพดีอายุ 100  ปี คุณก็มีได้,  นอนถูกวิธี สุขภาพดีตลอดชีวิต

การดูแลสุขภาพในเชิงป้องกันโรค เป็นสิ่งที่คุณหมอได้ให้ความรู้ด้วยสำนวนที่อ่านเข้าใจง่าย เน้นการดูแลสุขภาพตั้งแต่ก่อนเจ็บป่วย ด้วยหลักการของเวชศาสตร์ป้องกัน (Preventive Medicine) เพื่อทำการป้องกันและชะลอการเกิดโรค จากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต (Lifestyle Medicine) ทั้งในเรื่องของการรับประทานอาหารในแต่ละวันที่ได้รับสารอาหารครบถ้วน โดยอาหารที่ดีต้องมาจากธรรมชาติ ไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป ควบคู่กับการตรวจเชิงลึกทางห้องปฏิบัติการบวกการเจาะรหัสพันธุกรรม เพื่อไขความลับสุขภาพดีที่ลงลึกไปถึงระดับเซลล์ เพื่อให้เกิดการดูแลรักษาสุขภาพแบบเฉพาะบุคคล

คุณหมอยังเน้นย้ำอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ คือ การนอน เพราะการนอนที่เพียงพอจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของร่างกายที่ดีขึ้น มีความสดชื่นและตื่นตัวตลอดทั้งวัน ช่วยส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญท่านสุดท้าย ศาสตราจารย์ นายแพทย์ คีธ แบล็ค (Keith L.Black, MD, Los Angeles, California, USA) ศัลยแพทย์ระบบประสาท และนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียง คุณหมอดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกศัลยกรรมประสาทและผู้อำนวยการสถาบันศัลยกรรมประสาท Maxine Dunitz ของศูนย์การแพทย์ Cedars-Sinai ได้รับการแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์ ประจำสาขาประสาทวิทยา

ผลงานของคุณหมอได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง โดยผลงานได้รับการตีพิมพ์กว่า 400 บทความ ประวัติของท่านถูกนำมาสร้างเป็นซีรีส์ออกฉายทางโทรทัศน์ The New Explorers อีกทั้ง นิตยสาร Esquire ได้จัดให้ท่านเป็นหนึ่งใน “21 บุคคลที่สำคัญที่สุดแห่งศตวรรษที่ 21” และคุณหมอยังได้ขึ้นปกนิตยสาร TIME ฉบับพิเศษปี 1997 “Heroes of Medicines.” รวมถึงอัตชีวประวัติของคุณหมอได้รับการตีพิมพ์เป็นหนังสือ Brain Surgeon ในปีพ.ศ. 2552 อีกด้วย

หนังสือเล่มนี้ คุณหมอ ได้พูดถึงความสำคัญของ สมอง ซึ่งเป็นศูนย์กลางของระบบประสาททำหน้าที่ควบคุมและสั่งการ การเคลื่อนไหว พฤติกรรม รวมไปถึงการรักษาสมดุลในร่างกาย

สมองมีการเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างไรบ้าง เพื่อป้องกันและชะลอไม่ให้เป็นโรคอัลไซเมอร์ เพราะในปัจจุบันทั่วโลกมีผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมสูงถึง 50 ล้านคน และเพิ่มจำนวนขึ้นเกือบ 10 ล้านคนต่อปี ส่งผลให้มีคนเสียชีวิตจากโรคอัลไซเมอร์สูงเป็นอันดับที่ 5 ของโลก การดูแลสมองจึงเป็นเรื่องที่ต้องดูแลและให้ความใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การนอน การมีน้ำหนักตัวที่เหมาะสม รวมไปถึง การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพื่อให้สมองได้ทำงาน ตลอดจน การนั่งสมาธิ ซึ่งเป็นการเปิดสมองอีกแนวทางหนึ่ง

ด้วยประสบการณ์และความรู้เฉพาะด้าน ผนวกกับงานวิจัยและพัฒนาใหม่ ๆ ทำให้หนังสือ “Health Brings Wealth” เป็นเสมือนกุญแจปลดล็อคสู่การมีสุขภาพดี พร้อม infographic และตัวอย่างการปฏิบัติตนที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง ช่วยให้ผู้อ่านได้ความรู้และเข้าใจการดูแลสุขภาพอย่างถูกต้อง

ภายในเล่มประกอบด้วยเนื้อหา 10 บทหลัก ด้วยกัน

บทที่ 1  Hippocrates บิดาแห่งการแพทย์สมัยใหม่ (Hippocrates on Preventive Healthcare)

บทที่ 2 ตำนาน นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ (The Legacy of Dr. Prasert Prasarttong-Osoth)

บทที่ 3 สี่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ (Co-Authors) 

บทที่ 4 การออกกำลังกายคือยารักษาโรคที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อ (Physical Activity is Your Cheapest Medicine) 

บทที่ 5 โภชนาการที่สมดุลคือกุญแจสู่การมีสุขภาพดี (Balanced Nutrition is Key for Your Health) 

บทที่ 6  เวชศาสตร์ป้องกันกับโรคหัวใจ สิ่งที่ต้องรู้และต้องทำ (Preventive Cardiology: What you Need to Know and Do)

บทที่ 7 การเพิ่มประสิทธิภาพสมองอย่างไรให้ได้ผลดี (Optimizing Brain Wellness As You Age) 

บทที่ 8  เวชศาสตร์วิถีชีวิต : 5 เสาหลักเพิ่มประสิทธิภาพสุขภาพของคุณ (Lifestyle Medicine: Five Pillars for Optimizing Your Health)

บทที่ 9 เรื่องราวจากผู้ป่วย (Patient Stories)

บทที่ 10 เมนูเพื่อสุขภาพ (Recipes for Home Cooks)

หนังสือ Health Brings Wealth จัดทำด้วยกระดาษอาร์ตสี่สีทั้งเล่ม จำนวน 228 หน้า โดยจะเปิดให้สั่งซื้อได้ผ่านทางร้านหนังสือ Asiabook ประเทศไทย และ amazon.com ในราคา 990 บาท และในรูปแบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Book) กลางเดือนเมษายน 2565

เพราะสมบัติที่สำคัญที่สุดคือ สุขภาพ ไม่มีอะไรที่มีค่ามากเท่าการมีสุขภาพที่ดี เป็นที่มาของคำว่า “Health Brings Wealth” หนังสือ “Health Brings Wealth” เล่มนี้จึงเหมาะที่จะส่งมอบเป็นของขวัญให้กับคนที่รักและตัวคุณเอง ส่งมอบกุญแจไขสู่การมีสุขภาพที่ดีอย่างมีคุณภาพ.

ประวัติผู้เขียน “Health Brings Wealth”

ศาสตราจารย์ นายแพทย์ จีรี ดโวชัค (Prof Jiří Dvořák, MD)
Zurich, Switzerland

  • ที่ปรึกษาอาวุโสด้านประสาทวิทยาและการวิจัยของศูนย์กระดูกสันหลัง (Spine Center) ประจำคลินิก Schulthess เมือง Zurich ซึ่งท่านเคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานของคลินิกนี้มานานถึง 35 ปี
  • ศาสตราจารย์ด้านประสาทวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยซูริค
  • อดีตประธานเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของ FIFA
  • ที่ปรึกษาของ BDMS Wellness Clinic กรุงเทพฯ
  • ที่ปรึกษาอาวุโสของ British Journal of Sports Medicine
  • อดีตรองบรรณาธิการของวารสารทางการแพทย์ SPINE ซึ่งมีบทความที่ได้รับการตีพิมพ์อย่างกว้างขวางมากถึง 462 บทความ

ในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิและมีผลงานวิจัยจำนวนมากมายมหาศาลที่เกี่ยวเนื่องกับกระดูกสันหลังทั้งในแง่ที่เกี่ยวกับการประยุกต์หลักการทางชีวกลศาสตร์และเวชศาสตร์การกีฬามาใช้เพื่อป้องกันการบาดเจ็บส่งผลให้ท่านได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย งานวิจัยต่างๆ ในปัจจุบันของท่านมุ่งเน้นไปที่การป้องกันโรคทั้งในกลุ่มโรคติดต่อเรื้อรังและกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และอยู่ในระหว่างการพัฒนาหลักสูตรเวชศาสตร์วิถีชีวิตระดับชาติให้กับประเทศไทยอีกด้วย

นอกจากนี้ท่านยังเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของสมาคมและสถาบันอีกหลายแห่ง อาทิ สมาคม EUROSPINE ซึ่งท่านมีส่วนร่วมก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2533 International Society of Arthroscopy, Knee Surgery and Orthopedic Sports Medicine และ the Czech Medical Academy.

ศาสตราจารย์ นายแพทย์ เซอร์จิโอ ฟาซิโอ (Prof Sergio Fazio, MD, PhD)
Portland, Oregon and Tarrytown, New York, US

ศาสตราจารย์ นายแพทย์ เซอร์จิโอ ฟาซิโอ จบการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิตจาก University of Rome ปริญญาเอกจาก University of California เข้าทำงานที่ Vanderbilt University โดยเริ่มต้นที่แผนกอายุรกรรมโรคต่อมไร้ท่อและโรคเบาหวาน (Endocrinology and Diabetes) ก่อนจะย้ายไปยังแผนกอายุรกรรมหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Medicine) ที่ซึ่งท่านได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าแผนกป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด และศาสตราจารย์วุฒิคุณด้านโรคหัวใจ ประจำ Stanford University ตามลำดับ

ต่อมาท่านได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันโรคหัวใจ Knight Cardiovascular Institute  ณ Oregon Health & Science University (OHSU) และที่นี่เองที่ท่านได้ริเริ่มความร่วมมือเพื่อนำทฤษฎีการรักษาโรคหัวใจแบบป้องกัน (Preventive Cardiology) มาสู่ประเทศไทย และเป็นที่ปรึกษาที่ BDMS Wellness Clinic กรุงเทพฯ ล่าสุด ท่านยังได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกสภาวิทยาศาสตร์ของบริษัทผลิตยา Regeneron อีกด้วย 

ผลงานทางวิชาการของศาสตราจารย์ฟาซิโอที่ได้รับการตีพิมพ์มีมากกว่า 320 ฉบับ ท่านมีส่วนร่วมในการก่อตั้ง American Journal of Preventive Cardiology Arteriosclerosis หน่วยงานอย่างเป็นทางการของ American Society for Preventive Cardiology และได้ร่วมเป็นคณะกรรมการบรรณาธิการของวารสารวิทยาศาสตร์อีกหลายฉบับ

ท่านเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการของ American Board of Clinical Lipidology ซึ่งเป็นองค์กรอเมริกันเพียงองค์กรเดียวที่สามารถออกประกาศนียบัตรรับรองเฉพาะทางด้านการรักษาโรคหัวใจแบบป้องกันอีกด้วย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์วุฒิคุณนายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุญ (หมอแอมป์)
Bangkok, Thailand

        นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุญ (หมอแอมป์) จบการศึกษาจากแพทยศาสตร์บัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช หลังจากนั้นได้ศึกษาต่อทางด้านการดูแลป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพ และได้รับวุฒิบัตร American Board of Anti-Aging and Regenerative Medicine (ABAARM) จากชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นได้เข้ารับการฝึกอบรมและสำเร็จการศึกษาเป็นแพทย์เฉพาะทาง สาขาเวชศาสตร์ป้องกัน แขนงสาธารณสุขศาสตร์ (Preventive Medicine, Public Health) จากสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย

นายแพทย์ตนุพลยังได้รับใบประกาศนียบัตรเป็นแพทย์ผู้ชำนาญการในด้านการควบคุมน้ำหนัก (Fellowship in Obesity Medicine) จากสมาคม American Society of Bariatric Physicians (ASBP) ที่ เมืองเดนเวอร์ โคโรราโด สหรัฐอเมริกา นายแพทย์ตนุพลเป็นแพทย์ที่มีความมุ่งมั่นที่จะดูแลผู้ป่วยทำให้เรื่องควบคุมน้ำหนักไม่ใช่เรื่องยากสำหรับการดูแลสุขภาพ

ปัจจุบัน นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุญ ดำรง ตำแหน่ง นายกสมาคมแพทย์ฟื้นฟูสุขภาพและส่งเสริมการศึกษาโรคอ้วน กรุงเทพ (BARSO) และประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และบริษัท บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท จำกัด ท่านยังเป็นหนึ่งในคณะกรรมการกองบรรณาธิการของ Bangkok Medical Journal วารสารวิชาการของเครือ BDMS ซึ่งเป็นวารสารงานวิจัยทางการแพทย์ของโรงพยาบาลเอกชนฉบับแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองคุณภาพระดับอาเซียน  นอกจากนี้นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุญ ยังได้รับการแต่งตั้งเป็น ผู้ช่วยศาสตราจารย์วุฒิคุณ จากสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล

นายแพทย์ตนุพลเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับขับเคลื่อนและกระตุ้นให้ประชาชนไทยเกิดความตระหนัก และสนใจในการดูแลสุขภาพในเชิงป้องกันโรคมากขึ้น โดยการให้ความรู้ผ่านทางการบรรยาย และช่องทางสื่อออนไลน์ อาทิ Facebook : Dr Amp Team; Instagram : DrAmp Team; YouTube : DrAmp Team, BDMS Wellness Clinic; Website : www.dramp.com ปัจจุบันมีผู้ติดตาม มากกว่า 750,000 คน

นายแพทย์ตนุพลยังเป็นเจ้าของผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ เป็นหนังสือ Best Seller อีกหลายเล่ม  อาทิ เคล็ดลับชะลอวัย ห่างไกลโรค, กินดี อยู่นาน คือของขวัญชีวิต, สุขภาพดีอายุ 100  ปี คุณก็มีได้,  นอนถูกวิธี สุขภาพดีตลอดชีวิต

ศาสตราจารย์ นายแพทย์ คีธ แบล็ค (Prof Keith L. Black, MD)
Los Angeles, California, USA

ศาสตราจารย์ คีธ แอล. แบล็ค เป็นศัลยแพทย์ระบบประสาทและนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงในลอสแองเจลิส ได้รับปริญญาทางการแพทย์จาก Michigan Medical School และมีประสบการณ์ในวิชาชีพมานานมากกว่า 20 ปี ท่านดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกศัลยกรรมประสาทและผู้อำนวยการสถาบันศัลยกรรมประสาท Maxine Dunitz ของศูนย์การแพทย์ Cedars-Sinai ได้รับการแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์ สาขาประสาทวิทยา

ตอนอายุ 17 ปี ศาสตราจารย์ แบล็ค ได้ตีพิมพ์บทความทางวิทยาศาสตร์เรื่องแรกซึ่งได้รับรางวัล Westinghouse Science Award ท่านสำเร็จการศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและแพทย์ศาสตร์ภายในหกปี ทำงานเป็นแพทย์ฝึกหัดด้านศัลยกรรมทั่วไปและเฉพาะทางด้านศัลยกรรมประสาทที่ศูนย์การแพทย์ของมหาวิทยาลัยมิชิแกนใน Ann Arbor.

ผลงานวิจัยของศาสตราจารย์แบล็คมีมากมายหลายเรื่อง อาทิ เช่น การพัฒนาวัคซีนเพื่อเพิ่มการตอบสนองภูมิคุ้มกันต่อเนื้องอกในสมอง, ชีววิทยาของแนวกั้นเลือดและสมอง, เซลล์ต้นกำเนิดมะเร็ง, เครื่องมือนำร่องเพื่อการวางแผนการผ่าตัดเนื้องอกในสมอง, Alzheimer’s retinal imaging ท่านเป็นผู้บุกเบิกวิธีการใช้คลื่นไมโครเวฟจี้ทำลายก้อนมะเร็งโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในการนำร่องซึ่งในอนาคตอาจทำการรักษาแบบทางไกลได้โดยไม่ต้องดำเนินการในห้องผ่าตัด

ผลงานของท่านได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง ท่านได้นำเสนอผลงานและบรรยายทางวิชาการในการประชุมระดับชาติและนานาชาติกว่า 500 ครั้ง มีผลงานได้รับการตีพิมพ์กว่า 400 บทความ ประวัติของท่านถูกนำมาสร้างเป็นซีรีส์ออกฉายทางโทรทัศน์ The New Explorers นิตยสาร Esquire ได้รวมชื่อของท่านไว้ใน “21 บุคคลที่สำคัญที่สุดแห่งศตวรรษที่ 21” ท่านได้ขึ้นปกนิตยสาร TIME ฉบับพิเศษปี 1997 “Heroes of Medicines.” อัตชีวประวัติของท่านยังได้รับการตีพิมพ์เป็นหนังสือ Brain Surgeon ในปีพ.ศ. 2552

About Author