“หมอพรทิพย์” ถึงบางอ้อแล้ว ใครอยู่เบื้องหลังจะต้อนให้จนมุม
“หมอพรทิพย์” เปิดใจ ไม่โกรธ “คุณแม๊” ฟาดก้าวก่ายแทรกแซงคดี ชินโดนด่าออกทีวี ถึงบางอ้อแล้ว ใครอยู่เบื้องหลังจะต้อนให้จนมุม ขอโทษ “สมชาย-กมธ.” โดนไปด้วย
กรณี “นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน” คุณแม่ “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” และ “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” ประธานเครือข่ายศูนย์ทนายคลายทุกข์ ยื่นหนังสือขอถอดถอนกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ ไม่ต้องเข้ามายุ่งเรื่องสอบสวนคดีแตงโมแล้ว พร้อมขอให้ตรวจสอบการทำงานของกมธ. บางคนว่ากระทำการอันขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 หรือไม่ รวมทั้งคุณแม่ยอมรับว่า ไม่พอใจ “พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์” ที่แทรกแซงการทำงานของตร. และไม่รู้จักกับ “เต๊ะ ศตวรรษ” ทำให้สังคมรับไม่ได้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
รายการโหนกระแสวันที่ 29 มี.ค. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ “สมชาย แสวงการ” ประธานกรรมาธิการสิทธิมนุษยนชนฯ วุฒิสภา มาพร้อม “พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์” สมาชิกวุฒิสภา และอดีตผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
เหนื่อยมั้ยคุณหญิง?
หมอพรทิพย์ : ไม่หรอกค่ะ เตรียมตัวอยู่แล้วว่าเหมือนอยู่ในสงคราม (หัวเราะ)
วันนั้นมีคำถามนึงที่ถามคุณหญิงว่ามักสวนตร.ตลอด?
หมอพรทิพย์ : บอกแล้วว่าคุณพ่อให้กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง
ล่าสุดทนายเดชาไปยื่นเรื่องขอถอดถอนเลย ว่ากมธ. ไม่ต้องไปยุ่งเรื่องนี้ เพราะไปก้าวก่ายการทำงานของตร.?
สมชาย : ขอชี้แจงสองสามเรื่องให้สังคมเข้าใจ หนึ่งกรรมาธิการไม่มีการสั่งการ ยืนยัน ผม คุณหญิงหมอ แม้แต่ไปสภ.นนทบุรี ผมทำหนังสือไป ประสานงาน และบอกว่าขอดูเรือ ท่านผู้กำกับ รองผู้กำกับ หัวหน้าสอบสวน ท่านยังมาชี้ให้เราดูเลย เราทำได้อย่างเดียวคือยืนดูและถ่ายรูป
ขอบเขตกรรมาธิการลงพื้นที่ไปตรวจสอบพวกวัตถุพยานทำได้ใช่มั้ย?
สมชาย : ทำได้ครับ แต่เราไม่เข้าไปแทรกแซง ไม่ได้ไปล้วงลูก เริ่มต้นวันที่ 7 มี.ค. คุณแม่ส่งทนายมาหารือ ซึ่งเมื่อวานบอกว่าไม่ได้ส่ง ก็ไม่เป็นไร อาจสับสนกันนิดหน่อย
ตกลงคุณแม่ส่งหรือไม่ส่ง?
สมชาย : ทนายบอกว่าคุณแม่ส่งมา (หัวเราะ)
มีลายเซ็นคุณแม่ในเอกสารที่ไปยื่น?
สมชาย : เอกสารก็ยังอยู่ที่ผม เมื่อวานให้คุณแม่ไปเอง เอกสารฉบับนี้ก็ลายเซ็นคุณแม่ และมีเลขรับของสภา วันที่ 7 ส่งมา ผมก็เลยขอคุยสปีกเกอร์โฟน คุณหญิง แล้วก็ผม ทนาย แล้วก็หลานว่าถ้าจะขอคำปรึกษาผมกับคุณหญิง ปรึกษาได้ ฟรีอยู่แล้วเพราะเป็นประชาชน แต่ถ้าจะขอร้องเรียนต้องทำเรื่องเข้ากรรมาธิการ วันรุ่งขึ้น หรือวันไหนก็ได้ ให้ยื่นเอกสารมาที่ราชการ แบบฟอร์มคุณแม่ก็เข้าใจผิดว่าวุฒิสภาไปบอกให้เขียนยังไง ผมก็บอกว่าไม่ อาจเป็นทนายหรือท่านเขียนกันเอง แล้วมายื่นในวันรุ่งขึ้น คือวันที่ 8
ในนี้เขียนว่าเรื่องขอความเป็นธรรมและขอให้แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมตรวจสอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ มีการเขียนเหตุการณ์เลยว่าคุณแตงโมล่องเรือไปเกิดอะไรขึ้นบ้าง สูญหายไปยังไง ในฐานะมารดาของผู้เสียชีวิต ขอความเมตตากรรมาธิการฯ เข้ามาร่วมตรวจสอบและตั้งคณะกรรมการในการทำงานเพื่อดูแลตรงนี้?
สมชาย : อันนี้เอกสารจริง และสำเนาให้คุณแม่ไป พอเซ็นวันที่ 8 เรารับเรื่องเราต้องลงเลขรับอะไรตามระเบียบราชการเป๊ะ เพื่อเป็นหลักฐาน เราส่งต่อมาตามระเบียบวุฒิสภาการรับเรื่องราวร้องทุกข์ ต้องส่งไปให้สำนักประธานวุฒิสภา ก็มีเจ้าหน้าที่ตรวจว่าเรื่องนี้ถ้ามีกรรมาธิการอื่นรับเรื่องได้มั้ย ซ้ำซ้อนมั้ย ถ้าซ้ำซ้อนจะมีสองประเด็นว่าเกี่ยวข้องกับคณะใดมากที่สุด หรือต้องตั้งคณะกรรมาธิการร่วม ก็สำนักเลขาประธานก็บอกว่าเรื่องนี้ไม่มีซ้ำซ้อน และคณะที่ผู้ร้องมาก็อยู่ในอำนาจหน้าที่คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ ที่ผมกับคุณหญิงหมออยู่ วันที่ 9 ก็ตอบ เรายังถือว่าไม่รับเรื่องนะ เรารับเรื่องจริงๆ วันที่ 14 มี.ค. ผมก็นำจดหมายทั้งสองฉบับเข้าที่ประชุม ที่ประชุมก็ประกอบด้วยกรรมาธิการ 16 ท่าน ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ทั้งนั้น
มีคุณหญิงหมออยู่ในนี้ด้วย?
สมชาย : และมีหลายท่านเป็นนักกฎหมายผู้ใหญ่ อดีตรองประธานวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อดีตรองนายก อดีตผบ.ตร. และต้องเคาะออกมาว่ารับเรื่องหรือไม่ เรื่องที่มีชาวบ้านมาร้อง เขาร้องได้หมดนะ แต่ถ้าเป็นเรื่องชาวบ้านทะเลาะกัน ชกต่อยกันระหว่างบุคคล หรือไปขึ้นเครื่องแล้วไม่ไปตามนัด ไปขอเบิกเงินคืนไม่ได้ อันนี้เราไม่รับ หรือแม้กระทั่งฆ่ากันตาย ทะเลาะกันในคู่อริพี่น้อง เราไม่รับ แต่อันนี้บังเอิญมีเรื่องร้องฆ่ากันตาย เป็นคดีอาญาแผ่นดิน สองความสนใจของสื่อมวลชน และสงสัยในกระบวนการต้นน้ำของตร. การทำสำนวน มีนักสืบโซเชียลเยอะแยะสนใจ ก็ถือว่าเป็นเรื่องท้าทายต่อความศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งรัฐธรรมนูญบัญญัติให้เราปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ตร. อัยการ ศาล คุณหมอกับผมเป็นกรรมาธิการปฏิรูปพ.ร.บ.ตร. ซึ่งกำลังจะเสร็จ ฉะนั้นก็เข้าอยู่ในหลักเกณฑ์การปฏิรูปหมวดว่าด้วยกระบวนการยุติธรรมตามรัฐธรรมนูญ เราพิจารณาแล้วเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ เราถึงรับเคสนี้เข้ามา มีมติให้รับ และผมในฐานะประธานก็มีสองวิธี คือหนึ่งตั้งอนุกรรมการขึ้นมาพิจารณา แต่เนื่องจากงานนี้เป็นเรื่องที่สังคมสนใจ และมันเปลี่ยนเร็วมาก โซเชียลเข้ามาเยอะ เราก็ขอใช้รูปแบบตอนต้นก่อน ใช้คณะกรรมาธิการเป็นคณะ ก็หมายถึงว่า ทั้ง 16 ท่านเป็นองค์คณะในการพิจารณา สองคือถ้ากรรมาธิการท่านใด เราประชุมวางเป้า 4 สัปดาห์เบื้องต้นก่อน ถ้าจำเป็นก็เพิ่ม ถ้ากรรมาธิการที่ต้องไปลงพื้นที่ หรือมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่ม ก็จะขออนุญาตว่าเป็นมติกรรมาธิการว่าอนุญาต โดยผมขอรับภาระในการประสานงานกับท่านเหล่านั้น คุณหญิงหมอตอนแรกจะไปนิติเวช จะมีการไปดูรายงาน ก็ชวนผมไปด้วย
ตอนแรกคุณหญิงหมอต้องไปวันพุธ แต่อยู่ดี ๆ ไม่ต้องไป หรือเขาไม่ให้ไป?
หมอพรทิพย์ : ไม่ให้ไป เป็นข่าวในสื่อว่าออกมาจากทนาย ว่าไม่ต้องไปแล้วสถาบันนิติเวช ไปชันสูตรที่ไหนก็ไปเลย ไม่ต้องมาที่นั่น เขาไม่ได้อธิบายว่าคุยกันจบ แต่เขาคุยมาแค่นั้น เราเลยถามคนนัดว่าเกิดอะไรขึ้น ทนายกฤษณะก็ตอบมาว่าเขาไม่รู้เรื่อง แค่นี้เองค่ะ
มีเป็นเอกสารเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ของทนายเดชา?
สมชาย : ซึ่งยื่นเมื่อวานนี้ ตอนบ่ายสอง
ทนายเดชาบอกว่าหนึ่งมีกรรมาธิการบางคนมีการเข้ามาก้าวก่ายในการทำหน้าที่ข้าราชการตร. โดยใช้อำนาจกรรมาธิการสั่งให้ตร.ดำเนินการดังนี้ 1.1 สั่งให้สอบผู้เชี่ยวชาญ 1.2 สั่งให้นำเข้าเครื่องจับเท็จ 1.3 ตำหนิเรื่องเก็บเรือของกลางโดยไม่มีอำนาจหน้าที่ ซึ่งตามข้อเท็จจริง ตร.ได้ดำเนินการทุกขั้นตอนครบถ้วนแล้ว ก่อนที่หมอจะสั่งการ สั่งสอบผู้เชี่ยวชาญนี่หมายถึง?
หมอพรทิพย์ : อันนี้น่าจะเป็นเรื่องที่คุยกับท่านสมชาย เพื่อไม่ให้ตร.โดนสังคมไม่เชื่อ เราเห็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องเรือ ที่บอกว่าถ้าเรือกำลังแล่นอยู่แล้วของตก จะบานออก แต่ถ้าตกหัวเรือจะมุดใต้ ตรงนี้เราเลยแนะนำ ไม่ได้สั่งนะ แค่แนะนำว่าน่าจะเอาผู้เชี่ยวชาญเรือมาด้วย เพราะเขาจะได้ไปสรุปกับคุณหมอ แนะนำค่ะ ไม่ได้สั่งค่ะ อีกอันก็แนะนำ ตอนเราออกมา พายุเพิ่งมา 2 วันติดกัน เราคิดว่าถ้าต้องการตรวจเพิ่ม หนึ่งเป็นที่เปิด สองมันถูกฝน ก็เลยแนะนำว่าน่าจะหาอะไรปิด ถามท่านสมชายสิคะ ไม่ได้สั่งค่ะ
ไม่ได้มีการตำหนิเรื่องการเก็บเรือของกลาง?
สมชาย : เรียนว่าหนึ่งเราพบตร.โดยเชิญมาที่ห้องกรรมาธิการ แล้วก็พูดคุยกัน คนมาชี้แจงก็ท่านผู้การสภ.นนทบุรี ผู้กำกับ หัวหน้าสอบสวน ผู้บังคับการพฐ. พิสูจน์หลักฐาน 1 และคณะแพทย์นิติเวชผู้ผ่าศพ ระหว่างพูดคุยเราก็มีข้อซักถาม ว่าเราจะไม่เข้าไปในสำนวนนะ อะไรตอบไม่ได้ไม่ต้องตอบ ข้อหาเรือเป็นการแลกเปลี่ยน ถ้าอันไหนแนะนำท่านเอาไปเป็นประโยชน์ ท่านก็เอาไปทำ เช่นเราสงสัยตอนนั้นคือที่มีการกล่าวหาในโซเชียล ว่าจะถูกมีดบาดมั้ย ฟันกันมั้ย ทะเลาะกันมั้ย เราก็ยังบอกว่าเสื้อผ้ายังไม่ได้ตรวจ เอาไปตรวจดีมั้ย ก็แนะนำนะครับ พยานขัดกัน มีอดีตนายตร.บางท่านบอกว่าทำไมเราไม่ใช้เครื่องจับเท็จล่ะ เราก็เสนอไป ไม่ได้ไปบังคับ ทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ ผมเป็นประธานสอบมาไม่รู้กี่คดี เครื่องจับเท็จไม่ใช่พยานหลัก พยานหลักจะมีอื่น ๆ สมมติเรื่องเรือ พยานบุคคลก็มีอยู่ เขาจะทำหรือไม่ก็ตามแต่ บังเอิญสังคมเริ่มสงสัยมาก ถ้าเข้าเครื่องจับเท็จสังคมก็จะเชื่อถือระดับหนึ่ง แต่จะทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ พอไปถึงสภ.นนท์ ทำหนังสือขอไปดูเรือ ก็นั่งคุยกันก่อน ผมก็สงสัยและถามว่าถ้าตกท้ายเรือมันจะลอยออกไป จะไปโดนใบพัดหรือฟินน์เรือได้อย่างไร จะตกจากหัวเรือหรือกลางเรือมั้ย แล้วก็เห็นจากรายการนี่แหละของคุณหนุ่มนี่แหละ ที่เอาผู้เชี่ยวชาญมาออก ผมก็บอกว่าเออ หาผู้เชี่ยวชาญมา เขาจะรู้เรื่องดีเนอะ เพราะเราอยู่ทางบก ไม่ใช่ทางเรือ อย่างนี้เป็นต้น
ข้อสองมีการนำผลการผ่าพิสูจน์ศพคุณแตงโม ออกมาพูดสัมภาษณ์กับสื่อโดยมิชอบ เช่นเปิดเผยปริมาณแอลกอออล์ หยดเลือดที่ผ้าอนามัย ร่องรอยบาดแผลที่ศพเป็นต้น ทำให้ประชาชนเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตร.ผิดไป?
หมอพรทิพย์ : อันนี้ก็ไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร แต่ประเด็นที่แถลงคือแถลงวันนั้น ที่เป็นผู้สังเกตการณ์และได้รับการขอจากท่านเลขารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกับกรรมการคุณหมอทั้งหลาย วัตถุประสงค์คือเพื่อทำให้เห็นว่าคุณหมอจากสถาบันนิติเวชได้ตรวจครบ แค่นั้นเอง ถามว่าเป็นความลับในสำนวนมั้ย ก็ไม่ค่ะ มันเป็นสิ่งที่เป็นประเด็นอยู่แล้ว ว่าเขาได้ตรวจน้ำในลูกตาแล้วเจอแอลกอฮอล์ ก็เป็นสิ่งที่ควรบอก เวลาสื่อมาสัมภาษณ์หลังจากนั้น ทุกคนก็ยืนยันได้ว่า พรทิพย์จะย้ำว่าอย่าถามในรายละเอียดคดี จึงไม่เคยลงไปในเรื่องรายละเอียด เรื่องบาดแผลมีแค่ครั้งนั้นครั้งเดียว
สมชาย : วันที่คุณหมอไป ไปในนามกรรมาธิการ มีสองสถานะ คือหนึ่งท่านเป็นอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์อยู่แล้ว เขาเลยเชิญท่านไปเป็นที่ปรึกษา แต่ผมเรียนเลยว่าไปในนามกรรมาธิการ ที่ผมพูดว่าเวลาไปท่านไปในนามกรรมาธิการเพราะมีเจ้าหน้าที่ไปบันทึกการประชุมและการผ่า นี่เป็นเอกสารบันทึกผลการผ่าทั้งหมด ว่าพบหรือไม่พบอะไร ไม่ได้ไปในนามส่วนตัว ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญ เป็นที่ปรึกษา แล้วอย่างที่คุณหญิงบอกว่าเลขานุการท่านก็ให้แถลงเพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่มีผลหมด เมื่อวานก็บอกทนายเดชาว่าถ้าอยากได้อันนี้ ให้ทำหนังสือมาขอกรรมาธิการ มารับได้ เป็นผลการพิสูจน์
ดูแล้วยืนยันว่ามีข้อเท็จจริง จริง ๆ ทั้งหมด 11 ข้อ ที่มีการชันสูตรไปและลงรายละเอียดมา ร่องรอยบาดแผลต่าง ๆ นานา?
สมชาย : จะได้ชัดเจนว่าคุณหมอทำในนามกรรมาธิการจริงๆ และไปสังเกตการณ์เรื่องการผ่าศพ
ก็ยืนยันได้ในมุมกรรมาธิการ เป็นสิทธิ์ของเราที่พึงกระทำได้ เพราะเป็นอำนาจของเราอยู่แล้ว ไม่ได้หมายถึงวันนี้เขายื่นเรื่องถอดถอน เราจะถอนไม่ทำ?
หมอพรทิพย์ : ค่ะ มันไม่ใช่ แต่มุมนึงอยากเรียนว่าในอดีตที่ผ่านมา ทั้งทนายที่ญาติเป็นผู้ว่าจ้าง จะอยู่ข้างผู้ตาย หรือข้างเหยื่อ ฉะนั้นกรณีนี้มันแปลก ทนายต้องรู้ข้อมูลทั้งหมดของเหยื่อที่ตัวกำลังว่าความให้ เวลามองมุมนี้ก็กลายเป็นเอ๊ะ ทำไมล่ะ เรากำลังทำให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ตาย
ในนี้บอกด้วยซ้ำว่ามีการให้สัมภาษณ์สื่อในทำนองดิสเครดิตแพทย์นิติเวชด้วย?
หมอพรทิพย์ : อันนี้เป็นอะไรที่เขาน่าจะเข้าใจผิดนะคะ เพราะถ้าไปดูทุกสื่อ เราจะบอกเลยว่าแพทย์สถาบันนิติเวชได้ดำเนินการอย่างดีมาก ๆ
มีการให้สัมภาษณ์สื่อว่าทนายดังต่อสายเตือนว่าตร.ผู้ใหญ่ไม่ปลื้มที่เข้ามายุ่งคดีน้องแตงโม?
หมอพรทิพย์ : อันนี้ขอไม่ตอบแล้วกันนะคะ เพราะว่าเวลาพูดไม่มีอะไรที่ไม่เป็นจริง เพียงแต่เราเซฟชื่อคนที่โทรมาแค่นั้นเอง
อ้างหลักการเปิดเผยข้อมูลนิติวิทยาศาสตร์ต่างประเทศกับเรื่องนี้ ทั้งที่เรื่องนี้เป็นประเทศไทย?
หมอพรทิพย์ : อันนี้คือสิทธิที่จะรับรู้ค่ะ ที่คุยกับคุณหนุ่มคราวที่แล้วค่ะ
กล่าวหาว่าตร.เตะถ่วงไม่ยอมให้ผ่าพิสูจน์รอบสอง ณ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะตร.ได้ส่งศพพร้อมส่งหนังสือแจ้งไปที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเก็บรักษาไว้แล้ว?
หมอพรทิพย์ : อันนี้ปล่อยไปดีกว่าค่ะ ถ้าเป็นประเด็นในเชิงศาลมันจะมีหลักฐานอยู่ที่กระทรวงยุติธรรม ถ้าเรามาชี้แจงแบบนี้มันจะเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกันค่ะ
อีกอันคือในมุมคุณเต๊ะ ศตวรรษ ฝั่งคุณแม่บอกว่าไม่รู้จัก แต่มาทางคุณหญิงหมอ?
หมอพรทิพย์ : จริง ๆ แล้วเรื่องเป็นแบบนี้ค่ะ อาจารย์ธงชัยซึ่งเป็นศาสนาจารย์ ก็พยายามให้มีตัวแทน คือไปคุยว่าต้องมีตัวแทนญาติเข้าไปอยู่ในการทำงานของกรรมาธิการด้วย เพื่อความโปร่งใส ไม่ใช่ให้ทนายอย่างเดียว ปรากฏว่าไม่สามารถหามาได้ อาจารย์ธงชัยเลยมองว่าทางฝ่ายคุณป้าคุณแตงโม ที่อยู่ภูเก็ต มีคนรู้จักคนนึง และเป็นคนรู้จักคุณแตงโม ก็คือคุณเต๊ะ เขาก็คุยกัน จนคุณป้ามีหนังสือมอบมาให้ เวลาทำงานทำยังไง เพราะคุณแม่ไม่ยอมมา เราก็ให้คุณเต๊ะไปคุยกับคุณแม่ ซึ่งคุณเต๊ะบอกว่าเขาไปคุยมาแล้ว มันถึงเป็นหนังสือฉบับนั้น
สมชาย : เป็นหนังสือที่คุณเต๊ะได้รับมอบ เพราะกรรมาธิการก็เรียกหนังสือจากคุณเต๊ะด้วยเหมือนกันว่าได้รับมอบมาหรือไม่
วันนั้นที่มีการชันสูตรรอบสองคุณแตงโม คนภายนอกจะเข้าไปไม่ได้ คุณเต๊ะตอนแรกมองว่าเป็นคนนอก แต่มีหนังสือยืนยันว่าเป็นตัวแทนครอบครัว โดยคุณแม่คุณแตงโม?
สมชาย : เมื่อวานผมก็ส่งให้ คุณแม่คุณแตงโมก็บอกว่าใช่
แต่มีคลิปที่คุณแม่พูดถึงคุณเต๊ะ ที่บอกว่าแม่ไม่รู้จัก เขามีที่มา เขาไม่ได้เป็นญาติทั้งพ่อทั้งแม่ เขาสนิทกับท่านอาจารย์ธงชัย เป็นเพื่อนกับคุณหมอพรทิพย์ คงมีการแนะนำกัน?
หมอพรทิพย์ : คือท่านอาจารย์ธงชัย เราประสานไปว่าจะทำยังไงให้คุณแม่ส่งตัวแทนมาอยู่ ต้องเข้าใจนะตลอดการทำงาน เราต้องมีญาติผู้สูญเสีย ไม่ใช่ปล่อยทนายอย่างเดียว แต่กรณีนี้ไม่ว่าจะติดต่อยังไง คุณแม่ก็ไม่เข้ามา ติดต่อพี่ชายก็ไม่กล้าเข้ามา เราก็งงๆ เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น พอดีท่านอาจารย์ธงชัยซึ่งท่านทำงานอยู่ในโบสถ์ ประสานคุณแม่ โดยบอกว่ามีคุณเต๊ะที่มีความเกี่ยวพันกับคุณป้าฝั่งคุณพ่อ
มุมคุณหญิงหมอ มีประเด็นที่เพิ่งโพสต์ไปเมื่อช่วงเช้า ขอบคุณนักข่าวช่อง 8 ที่ทำให้ทราบเบื้องหลัง?
หมอพรทิพย์ : อยู่ๆ ก็มีคลิปขึ้นมา ทำให้เราเห็นว่ามันมีการให้ข่าย และบอกได้เลยว่าใครอยู่เบื้องหลังทำให้คุณแม่ออกมาแถลงแบบเมื่อวาน ถามว่าโกรธมั้ยก็ไม่ค่ะ แต่มันปะติดปะต่อได้ เพราะข้อมูลที่ได้รับตอนแรก คือจะมีการพยายามต้อนให้หมอเข้ามุมนะ เราก็ไม่เข้าใจ เคยมีคนเตือน แต่เรามองในเชิงธรรมะ ตั้งแต่เมื่อวานไม่ตอบโต้คุณแม่ เรานิ่ง และเราสบายใจที่เราไม่ได้รู้สึกทุกข์ทรมาน พอเช้ามาเหมือนมีไขปริศนา ว่าอ๋อ เป็นเช่นนี้เอง
นักข่าวช่อง 8 ไปถามคุณแม่ ปรากฏว่าคุณหญิงหมอไปเห็นคลิปนี้ก็ถึงบางอ้อทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น มีหลายประเด็นมากในสิ่งที่คุณแม่สัมภาษณ์ว่าประเด็นใหญ่คือไปก้าวก่ายการทำงานของตร. ผู้ใหญ่พูดมา คุณแม่ก็ได้ยิน พูดมาที่คุณแม่ด้วย ว่าตรงนี้โดยก้ายก่ายนะ ซึ่งตร. ไม่ได้ล็อบบี้คุณแม่ แต่เล่าว่าตอนนี้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นที่สน.บ้าง เขาก็เกรงใจเรา ไหนคุณแม่บอกว่าชอบตร. ทำไมมีใบนี้ขึ้นมา คุณแม่ก็ตายแล้ว พลาดมากไม่ได้อ่าน เรื่องการสัมภาษณ์ของหมอพรทิพย์ แกชอบเอาเรื่องเก่าๆ ปี 45 มาพูด นี่ปี 65 แล้วนะ เรื่องอื่นๆ ที่แกชอบหว่านคลิปไปในไลน์ มันไม่ใช่เรื่องสัมภาษณ์นะ เอาให้ตรงประเด็น ก้าวก่ายตร.เรื่องใหญ่ ตอนนี้ไม่ได้เกลียด ไม่รู้จักด้วย ไม่เคยคุยกับท่านเลย แต่พอมีข่าวก้าวก่ายตร. คุณแม่ก็ต้องหลีกออกมา ให้เขาไปจัดการกันเอง ส่วนที่คุณหมอมาแทรกแซง ตร.พูดเองกับคุณแม่ เขาไม่คุยกับคุณหมอเองเพราะเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว ให้เด็กๆ คุยเอง ระดับท่านผู้การ นายพลทั้งหลาย เขาไม่มานั่งคุยเองหรอก เขาก็ให้เราคุย คุณแม่ก็โดนตร.มาดอกนึงเหมือนกัน ไม่ใช่ไม่โดน คนเดือดร้อนจริงๆ คือตร. ไม่อยากให้เข้ามาก้าวก่าย เพราะตร.ทำจะเสร็จแล้ว ทุกเรื่องที่คุณหมอพรทิพย์เข้ามา ตร.ทำแล้วทุกเรื่องเลย เขาโกรธเรื่องแบบนี้ คุณแม่ไม่เกี่ยว ซึ่งคุณหญิงหมอขอบคุณน้องนักข่าวด้วย มีหลายประเด็นมาก ที่คุณแม่ให้สัมภาษณ์ ประเด็นนึงคือที่บอกว่าไปทำอะไรในปี 45 แต่นี่มันปี 65 แล้ว?
หมอพรทิพย์ : ไม่ขอชี้แจงอะไรเลย เพราะชินกับเรื่องแบบนี้ ถ้าเราไม่ได้ทำก็ไม่ต้องไปนั่งชี้แจง เพราะเราไปห้ามปากคนไม่ได้ ส่วนนึงออกจะเห็นใจด้วยซ้ำว่ามันมีอะไรที่ทำให้คุณแม่กระทบกระเทือนใจ ถึงได้เกรงใจตร.มากนัก สุดท้ายไม่มีอะไร ไม่เคยโกรธอะไรเลย เป็นการด่าเราออกสื่อทีวีอีกแล้ว (หัวเราะ) ขี้เกียจแก้ไข
เสียใจมั้ย ตอนแรกคุณแม่พูดเองว่าอยากให้หมอพรทิพย์เข้ามาจัดการกับเรื่องนี้ ในงานคุณแตงโม วันที่ 2 ที่ไว้อาลัย แม่ประกาศจะอายัดศพเอาไว้ ไม่มีเผาศพจนกว่าจะรู้เรื่อง ทุกคนปรบมือเลยพอบอกว่าจะมีการผ่ารอบสอง ทุกคนตบมือทั้งฮอล์?
หมอพรทิพย์ : เป็นคนคิดบวกค่ะ ตอบเลยว่าไม่เสียใจ อาจจะฟังแล้วสะดุดนิดนึงว่าเราโดนด่าแล้วเหรอ แต่หลังจากนั้นก็เป็นการทดสอบใจเรารู้ว่าเราเป็นยังไง พระสอนไว้นานแล้วว่าใจเราถ้าไม่เอาไปรับก็ไม่สะเทือน มองอีกมุมต้องขอโทษท่านสมชายและกรรมาธิการทั้งหมดที่มาโดนไปด้วย เพราะเป้าเขาคือหมอพรทิพย์ ความรู้สึกเราไม่โกรธเขา
เป้าของเขา คือของใคร?
หมอพรทิพย์ : ใครก็ได้ที่อยู่เบื้องหลัง ที่เขาพูดมา (หัวเราะ) เรียนจากใจว่าขอโทษท่านสมชายและกรรมาธิการทั้งหมดด้วย เผอิญเรามุ่งมั่นอยากให้ระบบมันดีขึ้น
เมื่อกี้มีคำพูดคำนึงตอนท้าย แม่บอกเราเหมือนเด็ก ๆ ท่านระดับนายพล ต่าง ๆ นานา เหมือนบอกว่ามีการแทรกแซง มาว่าทางคุณแม่ ให้มาจัดการกันเอง ถ้าเป็นอย่างที่คุณแม่พูด ท่านมองยังไง?
สมชาย : ประเด็นแรก อาจเข้าใจผิดก่อน ผมเรียนคุณหนุ่มว่าเมื่อวานกรรมาธิการมีมติ และการเขียนมติในการแถลงข่าว ยาวที่สุดในชีวิตผมแล้วนะ ห้าแผ่น (หัวเราะ) เป็นทั้งข้อกฎหมาย ข้อรัฐธรรมนูญ อธิบายว่ากรรมาธิการทำตามกฎหมาย ทำตามพระราชบัญญัติ ทำตามระเบียบคำร้องทุกข์วุฒิสภา ไม่มีการแทรกแซง มันมาจากเรื่องที่เขาอาจรู้สึกก็ได้ ตร.อาจคิดว่าไปสั่งการ แทรกแซง ซึ่งถ้าท่านเข้าใจผิด ก็ฝากไปถึงท่านด้วย ท่านดูอันนี้ให้ดี เราไม่มีการแทรกแซง ทั้งพฤติกรรมและข้อกฎหมาย สองถ้าท่านจะทำคดี เรื่องคุณแม่ที่ถอนแล้ว อันนี้ผมตรวจดูข้อบังคับชัดเจนว่าทำได้ สอบมาเป็น 10 คดี แล้วก็เรื่องใหญ่ๆ ทั้งนั้น ยังไม่เคยมีคนถอน มีแต่เราไม่รับเรื่อง นี่คือครั้งแรก (หัวเราะ) ผมเรียนตั้งแต่ต้น ว่าหนึ่งเป็นเรื่องบุคคล แม้จะเป็นอาญาแผ่นดิน คดีทำให้เสียชีวิตด้วยเหตุใดก็ตาม สองเป็นเรื่องกระทบความยุติธรรม ซึ่งสังคมกำลังสงสัย อยากเชื่อมั่นให้เดินหน้าต่อไปได้ในการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ผมรับโทรศัพท์จากผู้หลักผู้ใหญ่เยอะมาก อดีตปลัดกระทรวงหลายกระทวง อดีตประธาน อดีตอัยการสูงสุดต่างๆ ขอให้กรรมาธิการเป็นที่พึ่ง อย่าถอยเรื่องนี้
เรื่องนี้ถอยมั้ย ตามที่เขาร้องให้ถอดถอน?
สมชาย : เรื่องคุณแม่เราถอนให้ วันจันทร์หน้าเราถอนให้ เรื่องทนายนกเขาที่ไปยื่น ต้องพิจารณาว่าจะรับหรือไม่ สามพิจารณาว่ากรรมาธิการ ในประเด็นเพื่อสังคม เพื่อประโยชน์สาธารณะยังอยู่ ผมเชื่อว่ากรรมาธิการขณะนี้ คิดว่าจะเดินหน้าต่อ เพียงแต่เดินหน้าต่ออย่างไร เมื่อเรื่องที่เขาร้องมาถอดไป มันจะมีบทบาทกรรมาธิการในการเดินกี่ขั้นตอน เช่น ตร.เขาจะเร่งสรุปสำนวน เราก็จะรอฟังเขาสรุปสำนวน
คุณหญิงถอยมั้ย?
หมอพรทิพย์ : ไม่ได้ถอยค่ะแต่ว่าไม่ได้ไปทำคดีนี้ ตั้งใจทำให้บทบาทหน้าที่สว. และกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน อยากทำอะไรให้มันเกิดระบบสิ่งที่ดีขึ้น กระบวนการยุติธรรมเป็นส่วนหนึ่ง
แต่เขาบอกเรื่องคุณแตงโม คุณหมอเป็นตัวแทนหมู่บ้านนะ?
หมอพรทิพย์ : (หัวเราะ) เรายังตามอยู่อย่างที่ท่านสมชายพูด เรารอดูข้อสรุป