“จอย รินลณี” สวย รวย โสด สวนกระแสโควิด ซื้อคอนโดใจกลางเมืองเกือบ 40 ล้าน!

ทั้งโสด สวย และรวยมาก สำหรับ นักแสดงสาว จอย รินลณี ที่วันนี้จะขอมาเปิดใจเรื่อความรัก ไม่สนคนมองโสด ไร้ความคิดมีชีวิตคู่ แถมเจอคนแซะที่โสดเพราะเลือกเยอะ พร้อมเปิดความรักที่ผ่านมาไม่พร้อมเปลี่ยนตัวเอง ลั่นเป็นฝ่ายเทบอกเลิกก่อน  ตอนนี้เจ้าตัวขึ้นแท่นเจ้าแม่อสังหาฯ สวนกระแสโควิด ฟาดคอนโดกลางเมืองเกือบ 40 ล้าน โดยงานนี้เจ้าตัวมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บ show ทางช่อง วัน31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และบูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

จอยอยู่ในวงการมามากกว่า 25 ปี บอกเลยไม่เคยไม่มีงาน แต่เรื่องที่ไม่ค่อยพูดถึงคือเรื่องการมีแฟน วันนี้โสดหรือไม่โสด?

จอย : โสดค่ะ ถามว่ามีคนเข้ามาจีบไหม ไม่มีนะ แต่จริง ๆ ก็คุยนะคะ แต่จอยเป็นคนค่อนข้างที่แบบเร็ว ถ้ารู้สึกว่าไม่ใช่ก็จะตัดจบเร็ว ไม่อยากให้เขาเสียเวลา เราเสียเวลา 

จริงไหมที่บอกว่าจอยไม่อยากมีครอบครัว?

จอย : จอยไม่ได้บอกว่าตัวเองต้องโสดไปตลอด แต่จอยไม่ได้มีภาพของการมีครอบครัวตั้งแต่เด็กๆ  ไม่ใช่ว่าพอเราอายุเท่านี้แล้วเรารู้สึกแบบนั้นนะ แต่ว่าเป็นคนที่อยู่กับครอบครัวแล้วไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิต ไม่ได้รู้สึกว่าวันนึงจะมีครอบครัวแล้วจะเป็นยังไง แต่ไม่ได้ตีกรอบตัวเองว่าฉันจะไม่มีครอบครัว หรือครองตัวเป็นโสด คือไม่ได้คิดแบบนั้น แล้วแต่สถานการณ์ แล้วแต่ชีวิตว่าเราจะเป็นยังไง

พี่จอยโสดมาแล้วกี่ปี?

จอย : ไม่เคยนับ สมมติเราคบใคร เราเลิกกับใคร นักข่าวจะต้องถาม เลิกไปกี่ปีแล้ว ไม่มีแฟนมากี่ปีแล้ว เอาจริงๆชีวิตเราไม่เคยนับ

รู้สึกว่าเหงาไหม?

จอย : ไม่เคยรู้สึกเลยจริง ๆ เป็นคนที่สามารถอยู่กับตัวเอง อยู่กับครอบครัวแล้วก็อยู่กับเพื่อนได้ จอยสามารถไปกินข้าว ดูหนังคนเดียวได้นะ เวลาไปไหนกับเพื่อน เพื่อนไปกับสามี เราก็ไปได้นะ ไม่ได้รู้สึกอะไร เรารู้สึกว่ามันโอเคกับแบบนี้

เพื่อนเราตอนนี้น่าจะมีครอบครัว มีลูกกันหมดแล้ว เรารู้สึกกดดันไหม ฉันก็อยากมีนะ?

จอย : ดีสิ เราก็ไปเล่นกับลูกเขา เราก็ไม่ต้องมี

จอยอยากมีลูกบ้างไหม?

จอย : ไม่อยากค่ะ อย่างที่บอกว่าเราไม่ได้อยากมีครอบครัว เราก็เลยไม่ได้ไปถึงจุดที่เราอยากมีลูก

ไม่อยากมีโมเมนต์แบบมีใครสักคนเป็นที่ปรึกษาในชีวิตเหรอ?

จอย : ไม่ค่ะ เราค่อนข้างที่จะเชื่อตัวเอง การตัดสินใจ เราก็สามารถตัดสินใจได้ หรือว่าเราสามารถปรึกษาคนในครอบครัว จอยสามรถอยู่ได้โดยไม่รู้สึกอะไร

ครั้งก่อน ๆ เราเข็ดกับความรักไหมถึงไม่อยากเริ่มต้นใหม่?

จอย : จอยไม่ได้เข็ดกับความรัก จอยยังเชื่อว่าความรักเป็นสิ่งที่สวยงามมากๆ เสมอ จอยว่าความรักมันไม่จำเป็นต้องเป็นความรักแบบคู่ รู้สึกว่าความรักแบบครอบครัว ความรักแบบเพื่อน ความรักมีหลากหลายรูปแบบ เราไม่ต้องไปโฟกัสว่าต้องเป็นความรักแบบแฟนเท่านั้นถึงจะทำให้เราแฮปปี้หรือว่าอะไร

มีสเปคไหม?

จอย : จอยไม่ได้เป็นคนมีสเปค ถ้าเป็นแฟนเหมือนเป็นคนที่คุยกัน เป็นเพื่อนกันมาก่อนมากกว่า จอยจะแบบไม่ใช่คนแปลกหน้าแล้วมาจีบ จอยจะตั้งป้อมนิดนึงว่าแบบไม่รู้จักหรือว่าอะไรยังไง เรื่องหน้าตา จอยไม่ได้มองว่าจะหน้าตายังไง คุยกันแล้วโอเค

อย่างนี้เรียกว่าเราเป็นคนที่เลือกเยอะไหม?

จอย : คิดว่าตัวเองไม่ได้เลือกเยอะ หรือเป็นคนเลือกเยอะก็ไม่รู้อะ อันนี้ไม่สามารถตอบได้ แต่จอยมีความรู้สึกว่าเราคบใครก็ต้องทำให้เรามีความสุข แล้วชีวิตเราดีขึ้น เพราะเรารู้สึกว่าชีวิตเราดีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้ามีใครอีกคนเข้ามาแชร์แล้วรู้สึกว่าไม่ได้ทำให้เราดีขึ้น หรือว่ามีความสุขขึ้น เราก็ไม่มีดีกว่า

หน้าตาสำคัญหรือไม่สำคัญ?

จอย : ก็ต้องโอเคนะ ไม่ถึงกับสำคัญมาก

มีเงิน?

จอย : ไม่สำคัญเท่าไหร่ คือไม่ต้องรวยถูกป่ะ แต่ไม่ควรมีน้อยกว่าเรา เราไม่กะพึ่งพาใคร แต่ว่าทุกคนต้องดูแลตัวเองได้ อายุไม่สำคัญ อะไรก็ไร ไม่ได้รู้สึกว่าเด็กกว่าหรือว่าผู้ใหญ่กว่า ต้องเป็นคนที่คุยด้วยแล้วโอเค

เวลาพี่จอยมีความรัก แล้วไม่ได้ประสบความสำเร็จ พี่จอยสตรองถึงขั้นแทบไม่ร้องไห้กับความรักเลย?

จอย : ถ้าไม่ร้องไห้เลย มันก็เป็นเรื่องโกหก มีความรักแล้วแบบผิดหวัง แต่จอยเป็นคนที่แบบคือร้องไห้ แล้วมันจบเร็วมาก จอยเป็นคนไม่ค่อยชอบให้ตัวเองอยู่กับความทุกข์ 

ความรักที่มันเจ็บสุดคืออายุเท่าไหร่?

จอย : ถ้าจำเป็นอายุจำไม่ได้ น่าจะเป็นความรักครั้งแรก จอยรู้สึกว่าครั้งแรกมันคือสิ่งที่เราไม่รู้ แต่ครั้งต่อไปเราได้เรียนรู้ว่าชีวิตเราจะผ่านมาแบบนี้ ความรู้สึกของความเจ็บแล้ว พอเรามองย้อนกลับไปเราก็จะรู้สึกว่ามันจะผ่านไปวันนี้เราเสียใจเดี๋ยววันนี้เราจะดีขึ้น  

เหตุผลที่ไปต่อไม่ได้กับเรื่องความรัก ส่วนใหญ่คืออะไร?

จอย : ความรักมันเป็นเรื่องของคนสองคน มันเลยไม่สามารถตอบได้ แต่ว่าพอถึงจุดนึง เราจะรู้สึกว่าเราไปต่อกับเขาไม่ได้ หรือว่าอยู่แล้วมันรู้สึกไม่มีความสุข เราก็รู้สึกเลิกดีกว่า

ตอนนี้ที่เราเลือกจะโสด ตกลงเป็นเพราะเราหรือเพราะคนที่มาจีบ?

จอย : จอยว่ามันทั้งสองฝ่าย เพราะว่าการที่เรามีใครมันเป็นเรื่องของคนสองคน ตอนนี้เราอาจจะไม่มีใครด้วย ซึ่งเราก็โอเคกับสถานะแบบนี้

พี่จอยสู้กับการทำงานมาตลอดหลายปี แต่เรื่องความรัก เป็นคนยอมแพ้และตัดง่ายมาก?

จอย : เป็นคนไม่ค่อยสู้กับเรื่องความรัก ก็เลยไม่มีไง

พี่จอยเป็นคนไม่อยากเปลี่ยนตัวเองใช่ไหม?

จอย : จอยเป็นคนเปลี่ยนตัวเองยาก จอยรู้สึกจอยเป็นแบบนี้ แล้วจอยไม่ชอบให้ใครเปลี่ยนตัวเองด้วย เพร่ะรู้สึกว่ามันไม่ใช่ คือถ้าต่างคนต่างเป็นแบบนี้ถ้าไปด้วยกันไม่ได้คือไม่เป็นไร

ความรักในอดีตส่วนมากจะเป็นคนในวงการ ถ้ามีงานเข้ามาสามารถร่วมงานกันได้ไหม?

จอย : ในความรู้สึกจอยได้นะ ถ้าจบไปแล้วคือจบ แรกๆ เหมือนแผลสด แต่สักพักมันก็ไม่มีอะไรในใจ จอยไม่มีแบบไม่ร่วมงานกับคนนี้นะ ไม่มีเลยสักครั้งที่พูดแบบนั้น จอยรู้สึกว่าทำงานคือทำงาน มันแยกออกจากกันได้

จอยไม่อยากมีครอบครัว แต่ทำไมไปฝากไข่?

จอย : จอยไม่ได้ฝาก คือเอิร์นกับจ๊ะทำลูกแฝด แล้วจอยสนิทกับสองคนนี้อยู่แล้ว เขาก็บอกพี่จอยลองไปมห้หมอตรวจไหม ว่ามันโอเคไหม เผื่อไว้ก่อน เผื่ออยากจะมีลูกในสักวัน เราก็ไปเป็นเพื่อนเขาอยู่แล้วก็ให้คุณหมอเช็กดู คุณหมอบอกว่ามันสมบูรณ์มาก เก็บได้เลย แล้วเราก็ผ่านเวลาไป จ๊ะก็ถามว่าพี่จอยไปไหม แล้วเราก็ทบทวนตัวเอง เราไม่ได้อยากเก็บ สุดท้ายเราก็ไม่เก็บ เราก็ถามตัวเองว่าเราอยากมีไหม คำตอบคือเราไม่ได้อยากมีขนาดนั้น เราก็เลยไม่ตัดสินใจที่จะเก็บ

ทำไมจอยถึงไม่อยากมีลูก?

จอย : จอยรู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก ๆ จอยไม่ได้พร้อมที่จะมีความเป็นแม่ขนาดนั้นกับการที่เราต้องรับผิดชอบชีวิตชีวิตนึง ถ้าเรามีเราอยากให้เขาดีที่สุด กว่าเขาจะเรียนจบ มันเป็นฟูลไทม์ที่ยาวนานมาก ๆ อาจจะคล้าย ๆ พีเคที่ไม่อยากมีลูก เพราะเรารู้สึกแบบเราชอบชีวิตของเราแบบนี้ เราสบาย เราชิลแบบนี้ก็เลยไม่ได้รู้สึกอยากมีลูก

พี่ไม่เคยวาดภาพว่าตัวเองอยู่ในวงการบันเทิงเลย?

จอย : ใช่ค่ะ จอยเรียนการเงินมา คิดว่าเรียนจบจะไปอยู่แบงค์ ไปอยู่ตลาดหุ้น แต่เราได้โอการเรื่อย ๆ จากการทำงานจนเรากลับไม่ได้แล้ว เราลืมไปหมดแล้วที่เราเรียนมา

จอยนับถือพี่ไก่ วรายุฑ เหมือนคุณแม่?

จอย : ใช่ค่ะ จอยรู้สึกว่าคนในครอบครอยจอยคือที่1 ใช่ไหมคะ มีแม่กับพี่สาว คนต่อไปคือพี่ไก่ที่จอยจะนึกนึกถึง

พี่ไก่ : จริงๆ ค่ะ เขาเป็นคนนึกถึงพี่อยู่ตลอด เขาน่ารักมาก เอาใจใส่ เป็นห่วงเป็นใยซึ่งกันและกัน

พี่ไก่บอกว่ารักเหมือนน้อง เคยมองเขาเป็นลูกสาวไหม?

พี่ไก่ : ถ้าเป็นลูกสาวอาจจะเป็นลูกสาวคนเล็ก เพราะถ้านับก็จะมีพี่บุ๋ม พี่หมิว จอย จ๊ะ แต่จอยนี่ใกล้ชิดผูกมันกันมาก มีอะไรเราก็คุยกัน ปรึกษากันตลอดเวลา

ส่วนหนึ่งคือพี่ไก่ปั้นเขามากับมือเลยไหม?

พี่ไก่ : ด้วยความสามารถของเขาเอง ด้วยความพยายาม อดทนของเขา ช่วงแรก ๆ  รู้สึกเขาเหนื่อย เขาท้อ อย่านะจอยต้องสู้  ต้องยืนให้ได้

พี่ไก่สนับสนุนพี่จอยตอนซื้อบ้านด้วย จริงไหม บ้านหลังแรกพี่เซ็นเช็คให้ 5 ล้านเลยเหรอ?

พี่ไก่ : รักเขา แล้วเขาเป็นคนดีไง อะไรที่เป็นสิ่งที่ดี สิ่งที่งาม เราสามารถคุยกันได้ ช่วยเหลือกันได้ เราอยากช่วยคนที่เรารักให้ดี

จอย : วันนั้นจอยจะไปซื้อบ้าน เสร็จแล้วเข้าไปฟิตติ้งละครของพี่ไก่ พี่ไก่ก็ถามว่าไปไหนมา จอยบอกไปแบงก์จะไปคุยเรื่องกู้เงิน พี่ไก่ถามว่าซื้อบ้านเหรอ ไม่ต้องกู้หรอกมันมีดอกเบี้ยขาดอีกเท่าไหร่ แล้วเขาก็เซ็นเช็คให้ตอนนั้นเลย ก็งงมากทำไมอยู่ดีๆ ให้เงินเรามา เราไม่ได้แบบพี่ไก่คะหนูขอ เราไม่ได้แบบนั้นเลย แค่บอกว่าหนูไปคุยกับแบงก์มา เท่าไหร่แล้วเซ็นเช็คให้เลย จะมีใครในโลกที่ทำอะไรแบบนี้ เซ็นเช็คให้แล้วจบไปเลย ปีเดียวก็ไปคืนแล้ว

คอนโดใหม่ที่ซื้อกลางเมือง 40 ล้านจริงไหม?

จอย : ไม่จริง ไม่ถึงค่ะ

ทำไมซื้อในช่วงโควิด?

จอย : ช่วงโควิดเป็นช่วงที่อสังหาฯลง เพราะฉะนั้นเขาค่อนข้างที่จะลดราคาลงค่อนข้างเยอะมาก ช่วงโควิด1 จอยตระเวณดูคอนโดทุกที่เลย ด้วยความที่จอยจะซื้ออสังหาฯไว้บ้าง เพื่อจะให้ปล่อยเช่า คือเขาลดราคาไปเยอะมาก หลายล้านเลย ก็ตัดสินใจจะซื้อ แต่ว่าจอยไม่ได้ซื้อเงินสดนะคะ จอยก็ยังผ่อน ตอนนี้ก็มีผู้เช่าอยู่ ผู้เช่าก็เป็นคนผ่อนให้จอย

ตอนนี้มีปล่อยเช่ากี่ที่?

จอย : 3 ที่ค่ะเป็นการลงทุนระยะยาวแล้วมีรายได้ที่แน่นอน ถามว่าเอาดีทางนี้ไหมคือชอบที่จะดูอสังหาฯ ชอบที่จะซื้อทาวน์โฮม ซื้อคอนโด ทุกที่มีคนเช่า มีคนอยู่ เพราะฉะนั้นจอยถือว่าซื้อมาแล้วให้คนอื่นเช่าแล้วสุดท้ายมันก็เป็นของเรา

ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.05-14.05 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ จอย รินลณี

About Author