เปิดใจ “แอนนา – ฮิปโป” ไม่สงสัยเรื่องฆาตกรรม แต่คาใจพฤติกรรม “กระติก”
เปิดใจ “แอนนา – ฮิปโป” ไม่สงสัยเรื่องฆาตกรรม แต่คาใจพฤติกรรม “กระติก” ทั้งที่ “แตงโม” รักมาก มีปัญหาเรื่องเงินก็ไม่ยอมปลดจากผจก. ยันเตรียมดำเนินคดีมือปล่อยภาพศพ
รายการโหนกระแสวันที่ 1 มีนาคม 2565 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ยังเกาะติดสถานการณ์ “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” กับการเสียชีวิตที่ยังมีเงื่อนงำ ว่าเป็นอุบัติเหตุหรือมีอะไรแอบแฝงอยู่หรือไม่ โดยเปิดใจสัมภาษณ์ แอนนา ทีวีพูล, ฮิปโป เพื่อนสนิทแตงโม มาพร้อมผู้เชี่ยวชาญ รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงศ์ พูตระกูล หรือ อาจารย์โต้ง ผู้ช่วยอธิการบดีและประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยา ม.รังสิต และ รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว. รวมทั้ง “บอล ธนกฤต” เจ้าของอู่เรือ
แอนนาสนิทกับแตงโมมาก?
แอนนา : 17 ปีที่คบเป็นเพื่อน โดยระยะหลังสนิทกันมาก เปิดใจคุยกันทุกเรื่อง ตลอดระยะเวลา 2 ปีหลังสนิทกันมาก เพราะโมเขาแย่ เราทักไปหาว่ามีปัญหาอะไรบ้างให้เราช่วย เลยซัปพอร์ตกันมา 2 ปีนี้
กระติกสนิทมั้ย?
แอนนา : ไม่ค่อยค่ะ คนรู้จักมากกว่า เพราะก่อนหน้านี้แตงโมเคยมาคุยว่าแอนนามาลองเป็นผู้จัดการส่วนตัวฉันมั้ย ก็ถามว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า เขาบอกหลังๆ กระติกอาจหางานให้เขาไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เขาอยากได้งานมาจ่ายค่าบ้าน ค่ารถ อยากปลดหนี้ แอนนาก็เลยบอกว่าโอเค อย่างนั้นได้ แล้วกระติกล่ะจะทำยังไง แตงโมบอกว่าอาจต้องคุยกับกระติก ให้กระติกหยุด ซึ่งแตงโมก็แชตไปคุยกับกระติก แล้วเหมือนไม่ลงตัว เพราะกระติกก็ไม่ยอม บอกว่าโมเธอให้ฉันเดือนละหลักพัน ประมาณ 5-6 พัน ไม่รวมเปอร์เซ็นต์ที่จะได้งานนะคะ ถ้าเธอให้ฉันออกอีก ฉันจะกินอะไร แตงโมเลยถามแอนนาว่าจะเอาเท่าไหร่ แอนนาเลยบอกว่าไม่เอาสักบาท ยกเว้นงานไหนเธอจะให้ฉันพิเศษ ฉันขายงานให้เธอได้มาก เธอค่อยให้ฉัน แต่ส่วนใหญ่ 10 งาน แอนนาก็หักแค่ 2 งาน อีก 8 งานไม่เอา
ย้อนกลับไปวันเกิดเหตุ คุณไปที่เกิดเหตุมั้ย?
แอนนา : รู้ตัวตอนสี่ทุ่ม ห้าทุ่มครึ่ง ตอน 21.55 น. แอนนาทักไปหาแตงโมบอกว่ายอดค่างานเดือนนี้ฉันต้องเอาให้เธอเนอะ เอาเลขบัญชีมา เดี๋ยวจะโอนเลย โมบอกว่าเดี๋ยว แป๊บ เขาตอบเองมั้ยไม่แน่ใจ แต่เป็นไลน์ของโม ไม่รู้โมตอบเองหรือเปล่า เพราะปกติโดยนิสัยแตงโม จะส่งรูปเลขที่บัญชีมาให้เลย เราเลยไม่แน่ใจว่าตอนนั้น ยุ่งอยู่ เพลินอยู่ หรือเที่ยวอยู่หรือยังไง
21.55 น. มีไทม์ไลน์การถ่ายรูปอยู่ ตอนนั้นถ่ายรูปถึงสี่ทุ่มกว่า ๆ แต่ไลน์คุณ 21.55 น. สิบเอ็ดนาทีเขาถ่ายรูปนี้ 21.26 น. เขาถ่ายรูปอยู่?
ฮิปโป : แสดงว่าหนูคุยเป็นคนสุดท้าย หนูคุยตอน 20.27 น. รับสายเอง ได้ยินเสียงแตงโม
ขอดูโทรศัพท์
แอนนา : คุยกันตอน 21.56 ด้วยค่ะ เป๊ะเลย แล้วใครตอบ
21.56 น. วันพฤหัสถ่ายรูป นี่เครื่องกระติก โมอยู่ในภาพด้วย แต่ไลน์แตงโม ที่มีการพูดคุยในอินสตาแกรมขอเลขที่บัญชี ฉันนึกได้ต้องโอนให้เธอ ได้ แป๊บๆ เวลาเดียวกันเลย เป็นไปได้มั้ย?
อาจารย์โต้ง : ต้องดูว่าถ่ายภาพแล้วโพสต์ช่วงเวลานั้นเลยหรือเปล่า และใครเป็นคนโพสต์
อันนี้เป็นไทม์ไลน์การถ่ายรูป?
แอนนา : จริง ๆ กดไทม์แลปได้นะคะ
อาจารย์โต้ง : ก็มีอยู่สองประเด็น ประเด็นแรกคือโทรศัพท์คุณแตงโมเป็นการโต้ตอบเอง สองมีคนมาโต้ตอบให้แทน
แอนนา : แต่ปกติแตงโมไม่ให้ใครหยิบโทรศัพท์
ฮิปโป : ยกเว้นคนสนิทที่รู้จักกัน
อาจารย์โต้ง : ก็ต้องดูว่าคุณแตงโมไว้ใจใครขนาดไหน ถึงเข้ารหัส ตรวจสอบได้
คุณเองไปที่ท่าเรือ แล้วโทรหาคุณแม่?
ฮิปโป : ใช่ค่ะ หนูทราบจากพี่แอนนานี่แหละว่าพี่โมตกเรือ พี่แอนนาเลยให้หนูไปหาที่เกิดเหตุเดี๋ยวนี้ หนูเลยคว้าเสื้อออกไป น่าจะถึงที่เกิดเหตุ ราว ๆ เที่ยงคืน
แอนนา : พอทราบข่าวประมาณ 5 ทุ่มเศษๆ เราทราบข่าวจากทางบอร์ดนางงามด้วยซ้ำ เขาบอกว่าแตงโมตกเรือ แอนนาเลยโทรหากระติก กระติกไม่รับมั้งแล้วโทรกลับมาบอกว่าแตงโมตกเรือจริง ถามว่าตกยังไง พยายามถาม กระติกเหมือนวุ่นวายอยู่ แล้วแอนนาบอกจะไปสะพานพระราม 7 กระติกบอกว่าไม่ต้องมา มาก็ไม่ช่วยอะไร อยู่บ้านไป ฮิปโปก็โดนแบบเดียวกัน กลับบ้านไป มาก็ช่วยอะไรไม่ได้
คุณโทรหาคุณแม่ แล้วแม่บอกทำไมต้องปิดข่าว?
ฮิปโป : มันเป็นความเข้าใจผิดค่ะ ด้วยการสื่อสารหรือชุลุมนต่างๆ สิ่งที่เกิดขึ้นคือเราโทรหาคุณแม่ เพราะคุณแม่เพิ่งถึงสถานที่เกิดเหตุ เราเป็นห่วงความรู้สึกหนึ่ง สองเรื่องราวของอะไรต่างๆ ก็รู้สึกว่าอยากให้พูดถูกต้อง ให้ข้อมูลถูกต้อง เพราะหนูถึงสถานที่เกิดเหตุก่อน หนูก็เหมือนตามไปหาว่าพี่กระติกอยู่ไหนอยากทราบว่าตกเรือได้ยังไง ก็เป็นไปตามคลิป หนูตามไปอู่เรือก็จริง เพราะหนูทราบจากพี่กระติกว่าเขาอยู่ที่อู่เรือ ตอนตีหนึ่งกว่าๆ ไม่เกินตีหนึ่ครึ่งค่ะ เขาส่งโลเกชั่นมาว่าพี่เบิร์ดอยู่ที่นี่นะ หนูก็ไปเจอพี่เบิร์ด ก็ตามไทม์ไลน์นี้ แล้วหนูก็ถามว่าแม่อยู่ไหน เขาบอกไปเจอที่บ้านเลย หนูก็ถามว่าไปเจอที่บ้านทำไม หนูเจอพี่เบิร์ดแล้วตอนนี้
เมื่อวานคุยกับคุณเบิร์ด แฟนแตงโม ร้องไห้ตลอดเวลา?
ฮิปโป : เขาเหมือนคนบ้า สติแตก เขาตะโกนเรียกโม ตะโกนทุก 5 นาทีว่าเจอหรือยัง จนลงไปหาเอง
เบิร์ดบอกว่าเขาเจอเรือลำไหนก็ยกมือไหว้ ว่าพาผมไปดูหน่อย ใครจะมองว่าบ้าไม่สนใจ ตอนนั้นขอทุกคน แล้วเขาก็ร้องไห้ไปด้วย ย้อนกลับมาที่คุณบอล เจ้าของอู่ที่ปอเอาเรือไปจอด เมื่อวานตร.จำลองเหตุการณ์ เป็นยังไง?
บอล : บอกก่อนผมไม่ได้ไปด้วย เป็นคนให้ข้อมูลทุกอย่างก่อนเจ้าหน้าที่จะลงไป เพราะ ณ ขณะนั้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานยังอยู่ที่เรือ ด้วยบุคลากรเอ็นบีซีมีแค่ 3 คนเอง ก็เลยต้องช่วยกันอยู่ตรงนั้น เลยประสานงานกับน้องกอล์ฟ ไปหาเรือรุ่นเดียวกันมา แล้วพี่เจ้าของเรือก็ยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง ให้เรือรุ่นเดียวกัน ต่างแค่เครื่องคนละยี่ห้อ เพื่อให้เจอสถานการณ์จริงๆ ว่าถ้าเรือแบบนี้จริงๆ มันสามารถทำกิจได้จริงมั้ย
เมื่อวานที่มีการพูดคุยกัน โอกาสเป็นไปได้มั้ย?
บอล : ต้องบอกว่าผมในฐานะคนกลาง ไม่ได้เอนเอียงฝ่ายใด ก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าถามผม ผมก็เชื่อว่ามันมีความเป็นไปได้ เพราะหาเหตุจูงใจที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันมากกว่านี้มันก็ยังหาไม่เจอ
เรื่องฆาตกรรมคุณคิดว่าไม่น่ามี?
บอล : ถูกต้องครับ
ถ้ามีต้องมีคราบเลือด หรือผลักแตงโมตกลงไป ไม่น่าจะเป็นแบบนั้น?
บอล : ถูกครับ
ข้างหลังเรือเป็นสวิมแพลตฟอร์ม ตรงนี้มีการจำลองแล้ว ถ้าตกจากตรงนี้ไป ร่องรอยบาดแผลที่ขาที่มีอยู่ด้านใน ลึกมากถึงกระดูก มีโอกาสกระเด็นไปโดนใบพัดเรือมั้ย วันนั้นคุณบอลบอกว่าไม่น่าจะโดน?
บอล : ถ้าตกแรงไม่โดน ถ้าเรือมีความเร็ว ไม่โดนครับ แต่อันนี้คือเรือวิ่งช้า เวลาเรือวิ่ง ท้องเรือจะแหวกน้ำออกไปสองข้างเพื่อให้เรือลอยอยู่บนน้ำได้เดินทาง ด้านข้างยิ่งเขาบอกคุณแตงโมเอียงมาตกด้านข้าง ก็จะไปลงตรงน้ำที่บานออกจากขณะที่เรือเครื่องที่อยู่พอดี พอโดนออกปุ๊บน้ำที่โดนกระแทกก็จะตีกลับเข้ามา ลักษณะการบานของน้ำจะบานเป็นรูปตัววี พออกไปโดนปุ๊บพอกระแทกก็จะกลับเข้ามาทันที มีการจำลองจากการใช้ขวด ฟังเจ้าหน้าที่ตร.เล่าให้ฟัง สารวัตรสอบสวนเล่าให้ฟังว่าเอาขวดผูกเชือกหย่อนไปด้านข้างเรือ พอหย่อนไปปุ๊บก็ดูดเข้าใบพัดเลย ถ้าแตงโมตกตรงนั้นก็จะเข้าแน่นอน แต่ว่าโดนอวัยวะส่วนไหนก็อีกเรื่องนึง
มีความเป็นไปได้ว่าใบพัดเรือดูดตัวน้องเข้าไปแล้วโดนขา?
อาจารย์โต้ง : ต้องบอกว่าสิ่งที่เราพูดทั้งหมดคือไม่มีใครอยู่ในเหตุการณ์ มีเฉพาะ 6 คน ทุกสิ่งทุกอย่างต้องพิสูจน์ด้วยหลักนิติวิทยาศาสตร์ จะดูว่าร่างกายโดนใบพัดหรือเปล่า ผู้เชี่ยวชาญพอจะให้ความเห็นได้ แต่ส่วนที่คุณหนุ่มถามมา ผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเรือเรื่องน้ำ ก็อาจจะบอกไม่ได้ว่าตกลงดูดไปมั้ย
แต่มีโอกาสเป็นไปได้ เพราะมีการทดสอบกันแล้วเมื่อคืน?
บอล : ใช่ครับ
ตอนนี้สังคมแตกเป็นสองมุม มุมนึงอาจเป็นเรื่องอุบัติเหตุ อีกมุมคนไม่เชื่อ เขาคิดว่าน่าจะมีเหตุอื่น อาจฆาตกรรม อำพรางหรือเปล่า อาจารย์วิเคราะห์ยังไง?
อาจารย์โต้ง : ผมว่าเราต้องดูก่อนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประเด็นแรกโดยธรรมชาติมนุษย์ถ้าคนๆ นึงตกลงไปในน้ำ แล้วหายไป โดยเฉพาะคนนั้นเป็นคนใกล้ชิด ผมว่าต้องมีการพยายามตามหา โดยเฉพาะถ้าเจ้าหน้าที่ตร.มาสอบถาม คนอยู่แวดล้อมช่วงเกิดเหตุ ต้องให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่มากที่สุด ยิ่งคนรู้จักมักคุ้นเพื่อนสนิท กรณีนี้ที่คนตั้งคำถามเพราะพยานที่อยู่บนเรือ มีพฤติกรรม หรือพฤติการณ์ที่แตกต่างจากสังคมทั่วไป เลยเกิดคำถามขึ้นมา อะไรก็ตามที่แตกต่างจากความเป็นปกติ อันนั้นคือพิรุธ ตรงนี้ตร.ทั่วโลกก็สอนกัน อันนี้ก็เป็นสิ่งผิดปกติแล้ว ประเด็นแรก สองคุณแตงโมไปปัสสาวะบริเวณท้ายเรือ ถามว่าเป็นไปได้มั้ย อันนี้ต้องไปพิสูจน์กันทางหลักนิติวิทยาศาสตร์ และพยานบุคคลบนเรือจะทราบ ถ้าถามว่าไปปัสสาวะบนเรือได้มั้ย ถ้าประมาณการดู พบว่าคุณแตงโมเป็นดารา คนมีชื่อเสียง มีคนรู้จัก ผู้ชายอยู่บนเรือ บางคนคุณแตงโมไม่รู้จักเลย นั่นหมายความว่าผู้หญิงคนนึง ใส่ชุดลักษณะบอดี้สูทแล้วไปปัสสาวะตรงนั้น ผมว่าอาจมีอะไรที่ไม่ค่อยเป็นปกติแล้ว ในทางกลับกัน แม้เราเป็นผู้ชาย มีผู้หญิงอยู่ท้ายเรือ แล้วเราไม่รู้จักกัน ผมว่าผู้ชายหลายคนก็ยังเขิน ต่อมาผู้หญิงไปปัสสาวะบริเวณนั้น เวลาเรือแล่นน้ำต้องตีขึ้นมา ผู้หญิงจะรักษามากเรื่องความสะอาด ก็เป็นคำถามอีกว่าเขาไม่กลัวน้ำกระเด็นขึ้นมาโดนเนื้อตัวร่างกายเหรอ น้ำก็ทราบดี ไม่ได้สะอาดร้อยเปอร์เซ็นต์ อาจมีสิ่งสกปรกปนเปื้อนมา ประเด็นต่อมาที่บอกว่ามีการจับขา แล้วปัสสาวะ แล้วตกหายไปเลย ความเป็นจริง เรือกำลังแล่นไป ถ้าปัสสาวะแล้ววัตถุมีการเคลื่อนที่ตามหลักฟิสิกส์ คนตกลงไป ทำไมมีการบอกว่าไปเกาะข้างเรือ ในเมื่อเรือยังแล่นไปอยู่เรื่อยๆ นั่นแสดงว่าตกไปแล้ว คุณแตงโมต้องว่ายตามเรือเพื่อเกาะข้างเรือ ตกลงเรือจอดนิ่งหรือเรือแล่น ถ้าเรือจอดนิ่งแล้วคุณแตงโมตกลงไป แน่นอนอาจไปเกาะข้างเรือได้ คำถามต่อมาทำไมไม่มีใครไปช่วยถ้าเรือจอดนิ่ง หลายสิ่งที่พูดกันไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อ แต่เป็นข้อสังเกตที่สังคมกำลังตั้งคำถาม ทุกอย่างตรงนี้จะอธิบายได้ พยานบุคคลส่วนนึง ประการสำคัญคือนิติวิทยาศาสตร์ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ตรงนี้เปลี่ยนแปลงกันไม่ได้
มีโอกาสมั้ยที่แตงโมตกลงไปแล้วจะไปเกาะตรงส่วนไหนได้มั้ย?
บอล : ปัญหาคือถ้าได้เห็นรอยฟกช้ำ ผมยังไม่เห็นรูป ก็อาจช่วยวิเคราะห์ได้ว่าเป็นไปได้มั้ย อย่างยกตัวอย่างคนเรือ เขาเอนช่วงด้านท้าย ธรรมชาติคนตก จะคว้าทุกอย่างที่คว้าได้ อาจคว้าติดเรือด้านข้าง ถ้าตกไปเลย แล้วไม่ได้จับใบพัดเลย โอกาสที่จะไม่โดนใบพัดเลยก็เป็นไปได้ พอตกปุ๊บมีการคว้า มีการเหนี่ยวรั้ง ทำให้เราเข้าหาเครื่องได้เร็วขึ้นไปอีก
แต่ยังไงก็ต้องคว้า?
บอล : ต้องมีการคว้า ถ้าเห็นรอยฟกช้ำในร่างกาย ก็อาจเอามาวิเคราะห์ได้ว่ามีการตก มีการล้ม มีการกระแทกจริงๆ ก่อนร่วงสู่น้ำ มันมีโอกาสเป็นไปได้ในมุมมองผมนะครับ
มีบางท่านส่งเข้ามาว่ามีโอกาสเป็นไปได้ สมมติใช้โทรศัพท์กระติกให้แซนถ่าย ทั้งคู่ถ่ายคู่กัน 21.56 น. แตงโมอาจถือโทรศัพท์อยู่แล้วก็คุยไปว่าเดี๋ยวค่อยคุยนะ ถ่ายรูปก่อน เวลามันถึงออกมาตรงกัน อันนี้อีกมุมนึงนะ เพื่อความเป็นธรรม มันมีความเป็นไปได้ทั้งหมด?
แอนนา : มีอีกเรื่องที่เราสงสัย ตอนเราไปเจอครั้งแรกกับเรื่องที่ได้ยินเมื่อวาน มันไม่ตรงกันนะคะ ตอนเราไปถึงท่าเรือวันนั้น ฮิปโปเจอกระติก
ฮิปโป : เจอพี่กระติกคนเดียว แล้วอีก 3 คน มีอุ้ยที่เป็นผู้ช่วยหนู นุช ที่เป็นช่างแต่งหน้าประจำของแตงโม มีแฟนของนุช ไปถึงปุ๊บเราก็ถามข้อมูลตามเหตุการณ์เลยค่ะ คือตอนนี้เหมือนตามหากันอยู่ว่าโมอยู่ไหน จะทำอะไรกันบ้าง เราเจอสามคนนี้เราก็ถามว่าพี่กระติกอยู่ไหน เขาก็ถามหนูว่าหนูเป็นใคร หนูบอกว่าเป็นผู้จัดการแตงโม เขาก็เลยชี้ให้หนู หนูถึงเดินเข้าไป
ตอนคุณเข้าไปเขาทำอะไรกันอยู่?
ฮิปโป : ยืนอยู่งง ๆ หน้าเบลอ ๆ งง ๆ
เมามั้ย?
ฮิปโป : หนูไม่ปักใจว่าเขาเมา แต่หน้าเขาเบลอๆ งงๆ แต่พูดรู้เรื่องทุกอย่างว่าอะไรยังไง พอหนูเดินเข้าไปก็เจอพี่กระติก ด้วยวามเป็นห่วง ความเข้าใจแรกของเราคิดว่าพี่กระติกต้องร้องไห้แน่ๆ แต่ที่เห็นคือทำหน้าตกใจเหมือนแก๊งเพื่อนเขาเลย งงๆ ช็อกๆ เขาอาจช็อกก็ได้ ก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมแตงโมถึงตกน้ำ พี่กระติกก็บอกว่าแตงโมไปเยี่ยวอยู่ท้ายเรือ แล้วพลัดตกน้ำไป ถามว่าตกอีท่าไหน นางบอกว่าฉันไม่เห็น ไม่รู้ บอกไม่ได้ว่าตกยังไง แต่เขาไม่ได้บอกหนูว่าคนเห็นคือพี่แซน
แอนนา : เขาบอกต้องถามคนอยู่หลังเรือ เพราะเขาอยู่หน้าเรือ
มีการพูดอะไรที่เป็นนัยยะสำคัญที่รู้สึกว่าฟังแล้วแปลกมั้ย?
ฮิปโป : มันแปลกตรงที่ด้วยวิสัยแตงโมที่รู้จัก สัมผัสมาในช่วง 3 เดือนสุดท้าย ถ้าเขาปวดปัสสาวะเขาจะกลั้น จนถึงที่สุด กลั้นจนเขาบอกว่าไม่ไหวแล้ว ทำยังไงดี แวะปั้มได้มั้ย จอดได้มั้ย เขาถึงจะลงไปปัสสาวะ หรือถ้าไม่แวะจริงๆ ถ้าฉุกเฉิน ต้องไปงาน ด้วยความเป็นดาราต้องรีบ เขาจะยอมฉี่ในถุงพลาสติก แต่ตอนนั้นบนรถนะคะ ขนาดบนรถหนูยังต้องจับแขนไว้
เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้น?
ฮิปโป : หนูต้องจับเขาไว้ เพราะขับรถรถจะโยก จับเพื่อให้เขาปัสสาวะตรงถุงที่สุด เพราะวันนั้นเขาต้องไปงานแถลงข่าว ภาพลักษณ์เขาต้องสำคัญ ผู้หญิงคนไหนอยากมีกลิ่นฉี่ติดตัวคะ หนูบอกแค่นี้
คุณเคยพูดว่าแตงโมฝังเรื่องไม่มีประจำเดือน?
แอนนา : ใช่ค่ะ
ทำไมถึงใส่ผ้าอนามัย?
แอนนา : เรื่องนี้พูดตรง ๆ ไม่ติดใจอะไรเลย ถ้ากระติกทำตัวปกติ จะไม่ติดใจอะไรเลย แต่ความไม่ปกติกระติก
ไม่กลัวเขาฟ้องเหรอ?
แอนนา : หนูก็พูดตามความจริงค่ะ
หรือโดนฟ้องแล้วชิน ๆ ?
แอนนา : ไม่ใช่ค่ะ หนูไม่เคยโดน (หัวเราะ) หนูมองว่าทำไมเขาต้องให้หนูกลับ เพราะบอกหนูไม่ใช่นักประดาน้ำ เป็นนักข่าว ไม่เข้าใจว่าความเป็นนักข่าวกับความเป็นเพื่อน ต่างกันยังไง ประเด็นต่อมาที่ไม่เข้าใจคือเวลาเขาเล่า ทำไมเล่าแล้ว… พี่หนุ่มน่าจะจับอะไรได้หลายๆ อย่าง มันไม่ธรรมชาติ นี่พูดแค่กระติกนะคะ แต่ถามว่าเขาเคลียร์ได้มั้ย ในประเด็นสงสัยที่เราสงสัยอยากรู้ เขาเคลียร์ได้หมด แต่เคลียร์แบบที่เราทุกคนได้ยิน
ฮิปโป : เคลียร์แบบคิ้วขมวด
แอนนา : เธอก็ต้องเข้าใจนะ อะไรแบบนี้ แล้วยังไงต่อ เธอกลับบ้านได้ไงตอนตีสาม กลับกันถ้าฉันเป็นเพื่อนที่โมรักขนาดนั้น ถ้าเป็นฉัน ฉันจะอยู่ตรงนั้นจนถึงตีห้าจนหกโมง ตามสัญชาตญาณคนที่ควรทำ เหมือนทีเบิร์ดทำ นี่คือสัญชาตญาณคนรู้จักและสนิทกัน เบิร์ดอยู่จน 48 ชม.ค่ะ อย่าว่าแต่เบิร์ด เพื่อนๆ ก็อยู่ตลอดเวลา
ฮิปโป : หนูนอนรอเลย ตรงโป๊ะ
เรื่องการชันสูตรพลิกศพคุณแตงโม มีนัยยะมั้ย?
นพ.วีระศักดิ์ : จริง ๆ ทุกบาดแผลมีส่วนสำคัญสำคัญ ตอนนี้เป็นประเด็นทางสังคมที่ทุกคนสนใจ หมอที่ทำการชันสูตรต้องดูทุกบาดแผลและอธิบายได้ทุกบาดแผลว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ฉะนั้นที่มาที่ไปบาดแผลเกิดจากอะไร ไปกระทบวัตถุใดหรือเกิดก่อนหรือหลังเสียชีวิต เขาตอบได้อยู่แล้ว
ถ้าคน ๆ นึงถูกใบพัดตีที่ขา บาดแผลฉกรรจ์เข้ากระดูก โอกาสตะเกียกตะกายหรือจมลงไป?
นพ.วีระศักดิ์ : ถ้าบาดบริเวณขา ก็อาจทำให้ขาไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เต็มที่ แต่ร่างกายส่วนอื่นๆ ยังทำงานได้ แต่ต้องขึ้นกับกลไกของเรือที่ว่า น้ำปั่นแล้วดูดหรือไม่ หรือทำให้เขาหลุดหรือไม่ แต่โอกาสจับก็สามารถทำได้ เพราะร่างกายส่วนอื่นยังขยับเขยื้อนได้
เขาบอกว่าหลังแตงโมตกไป เขาวนเรือกลับไปทันที ดับเครื่อง ไม่ได้ยินเสียงแตงโมอีกเลย เอาไฟฉายส่องก็ไม่มี ธรรมดาคนตกน้ำ คิดในเหตุการณ์เลวร้ายที่สุด ถูกใบพัดเรือตี จะจมหรือทะลึ่งขึ้นมาได้อีก?
นพ.วีระศักดิ์ : เหมือนที่เรียนว่าถ้าเป็นบาดแผลที่ขา แล้วไม่สามารถขยับขาข้างนั้นได้ สมรรถภาพที่จะว่ายน้ำ โอกาสยากแล้ว สองเราไม่รู้พื้นน้ำตรงนั้น เป็นน้ำวน ดูดลงหรือไม่ ฉะนั้นเรี่ยวแรงไม่เหมือนคนปกติอยู่แล้ว โอกาสขึ้นมาก็โอกาสยาก
มีสิทธิ์ดิ่งลงไปเลย?
นพ. วีระชัย : มีสิทธิ์ได้ เนื่องจากเขาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ถ้าในบาดแผลที่เห็น
ตร.ถอดใบพัดเรือไปตรวจสอบแล้ว ถ้าตีปั๊บ ๆ ขาน่าจะถูกตีเป็นควั่น ๆ ถูกมั้ย นึกถึงไส้กรอกแล้วเอามีดไปบั้ง ๆ แต่แตงโมมีบั้งเดียว?
บอล : เป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับร่างกายเข้าไปปะทะท่าไหน แผลนี้เป็นแผลใหญ่ อาจขุดทีเดียว 3 ใบเลยในแผลเดียว ก็เป็นไปได้ คือใบพัดเรือมี 3 เบรก มี 3 ใบ อาจขุดทีเดียว ด้วยความเครื่องยนต์หมุนอยู่ ทำให้เกิดแผลเดียวก็เป็นไปได้ แต่ถ้าศพลอยข้างๆ ก็อาจจะปั้งๆ ก็เป็นไปได้ อยุ่ที่ตอนปะทะว่าโดนท่าไหน
เรื่องปัสสาวะถือว่าสำคัญมาก ที่แซนอ้างว่าเขาปัสสาวะจนเสร็จแล้วลุกขึ้นมา นัยยะนี้ตรวจสอบได้มั้ย ว่าร่างกายแตงโม ปัสสาวะไปหรือเปล่า หรือปัสสาวะที่ติดตามขอบของเรือ?
นพ.วีระศักดิ์ : มีสองส่วน ส่วนแรกการผ่าชันสูตรปกติเวลาผ่าชันสูตรเราต้องเก็บปัสสาวะอยู่แล้ว ตรวจปริมาณน้ำปัสสาวะในกระเพาะปัสสาวะ โดยคนปกติทั่วไปเมื่อรู้สึกปวดปัสสาวะ แสดงว่ามีน้ำปัสสาวะอยู่ในกระเพาะปัสสาวะมากประมาณนึง การกรวดน้ำปัสสาวะก็พออนุมานเอามา แต่ไม่ใช่ตัวฟันธงได้ ต้องมีอื่นๆ ต้องมาประกอบ ขณะที่ปัสสาวะบริเวณพื้นผิว ต่างๆ เวลาปัสสาวะจะมีเนื้อเยื้อผิวหนังติดมาด้วย สามารถตรวจเก็บเซลล์พวกนี้ มีนิวเคลียส และดีเอ็นเอ ได้ แต่ก็มีข้อจำกัด เพราะมีปริมาณที่น้อย ต้องใช้เทคนิคขั้นสูง
เป็นการตั้งข้อสังเกตเอง ไม่ได้โทษแซนหรืออะไร ถ้าจะเกิดอุบัติเหตุจริง ๆ จะเป็นไปได้มั้ย ที่เป็นอุบัติเหตุที่มีเงื่อนงำ ไม่ใช่ฆาตกรรมนะ แต่เป็นสัญชาตญาณคนที่เอาตัวรอด สมมติแตงโมเดินไปหลังเรือ แล้วไปบอกแซนว่ากูจะเยี่ยว อย่าบอกใครนะ จากนั้นจับขาสองข้างนั่งลง แล้วมือข้างนึงไปแหวกบอดี้สูทปัสสาวะ เขาบอกฉี่จนเสร็จก็เอามือมาจับเหมือนเดิมสองขา แล้วพยุงตัวขึ้น แล้วเหมือนจะรั้งเขา เขาจะไหลลงมา เขาก็เลยบอกว่าเดี๋ยว ๆ แป๊บนึง กูเสียหลัก เขาเลยจะหาอะไรเกาะ แล้วแซนบอกว่าแตงโมปล่อยมือ ไปจับกับตัวเรือ แล้วก็ไหลไปเลย ตกด้านข้างไปเลย นี่คือที่เขาเล่า เป็นไปได้มั้ยสัญชาตญาณมนุษย์ ถ้าผมเป็นแซน แตงโมฉี่เสร็จแล้วดึงจะขึ้น โหนผมขึ้นมา ผมจะร่วงไปด้วย สัณชาตญาณมนุษย์เขาต้องชักขากลับ พอชักขากลับแตงโมอาจมือหลุดและตกไปหรือเปล่า นี่คือมุมที่ตั้งข้อสังเกต แต่ไม่ได้โทษนะ อีกมุมถ้าผมเป็นแตงโม ผมเดินไป แล้วแซนบอกว่าแตงโมปล่อยมือจากเขา เพื่อไปเกาะตัวเรือซึ่งแข็งแรงมาก งั้นทำไมไม่จับตัวเรือตั้งแต่แรก อาจารย์ว่ามีโอกาสมั้ย?
นพ.วีระศักดิ์ : ที่พี่หนุ่มผมคิดว่าปกติพนักงานสอบสวนคงสอบสวนทุกประเด็น แต่การไปทดสอบสมมติฐานต้องใช้วิทยาศาสตร์ ที่บอกว่ามีการจับ การเกาะก็ต้องมีลายนิ้วมือ ต้องไปตรวจต่างๆ ที่มีการกล่าวอ้างทุกอย่าง ถ้ากล่าวอ้างอะไรแล้ว มีหลักฐานวิทยาศาสตร์รองรับก็เรียกว่าน่าเชื่อถือ แต่ถ้ากล่าวแล้วไม่มีวิทยาศาสตร์รองรับ ก็กลายเป็นเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้ วันนี้การให้ปากคำกับหลักฐานวิทยาศาสตร์จะมาเจอกัน ว่าจริงหรือไม่จริง
คิดว่าเรื่องนี้มีนัยยะยังไง?
แอนนา : ความรู้สึกตัวเอง หนูคิดว่าไม่มีใครฆ่าแตงโมได้ลง เพราะด้วยนิสัย ด้วยอะไรหลายอย่าง
คุณไม่เชื่อว่าเป็นฆาตกรรม?
แอนนา : หนูยังไม่ปักใจเรื่องฆาตกรรม แต่หนูมองว่าเรื่องนี้แปลกๆ คลุมเครือ ตรงที่ว่าทำไมเขาต้องกลับบ้านกันไปวันนั้น ทำไมกระติกบอกเราว่าห้ามไป ไม่ต้องไป มันมีเหตุผลที่มีพิรุธ ถ้าไม่มีพิรุธอะไรเหล่านี้หนูจะเข้าใจได้เลย แล้วบวกกับสัญชาตญาณความเป็นเพื่อน ไม่รู้กระติกรักโมมากแค่ไหน แต่หนูรู้ว่าโมรักกระติกมาก มากถึงขึ้นที่ว่าโมเคยโชว์เงินในบัญชีให้ดูว่ามีเท่าไหร่ และบอกว่าจะทำยังไงดี ค่ารถก็ต้องจ่าย เดี๋ยวต้องโอนให้กระติกด้วย มีค่าต่างๆ มากมาย แต่ก็ไม่เป็นไร โอนให้กระติกตามปกติ ฉันไม่กินได้ อยากให้กระติกได้ยินคำนี้ว่าโมยอมไม่มีหรือยอมอด แต่ไม่ปลดกระติกจากการเป็นผู้จัดการ ยังดูแลตลอด แม้แต่แม่บ้าน คนที่กระติกก็พาเข้ามา เขาก็ดูแลดีมาตลอด
คุณแม่กับแตงโม?
แอนนา : เขารักกันค่ะ เขาดีกันช่วงหลัง วันที่สองที่ผ่านมาหนูชวนโมมานั่งไลฟ์สดที่บ้าน โมก็เหมือนสั่งเสีย เล่าถึงดาราหลายคนที่เคยสนิทกับเขาตอนที่เขายังดังอยู่ พอมาตอนหลังเขาไม่ค่อยมีเงิน ดาราเหล่านั้นก็ไม่เคยโทรมาหาเขาเลยก็มี แต่ไม่เอ่ยชื่อ เขาก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจว่าครั้งนึงเคยเป็นเพื่อนสนิทกับหลายคน บางคนก็อยู่ บางคนก็หายไป ประเด็นแม่เขาบอกว่าก่อนหน้านี้เขามีเรื่องค้างคาในใจ แต่เรื่องแม่เขาปลดล็อกตั้งแต่ตอนพ่อป่วย แล้วแม่กลับมาดูแล เขารักแม่มาก หนูรู้สึกว่าแม่โอเคเลย ส่วนประเด็นกระติก ไม่รู้กระติกรักโมมากแค่ไหน แต่มองว่าถ้าเป็นเพื่อนกัน หนูเพิ่งไปนั่งเรือกันวันที่ 15 ม.ค. ให้ฮิปโปเดินน้ำหน้าด้วยซ้ำ แล้วหนูระวังหลังเพื่อไม่ให้เพื่อนตกน้ำ เพราะเพื่อนเราตัวเล็ก โอกาสตกน้ำก็มี ยังพูดเลยว่า ถ้าเธอตกน้ำ ดังกล่าวลีน่าจังเลยนะ เพราะนี่มันแม่น้ำเจ้าพระยา ยังคุยเล่นกันเหมือนเป็นลาง พอวันเกิดเหตุ หนูแค่สงสัยว่าทำไมไม่อยู่ช่วยตามหาก่อน สัณชาตญาณเพื่อนกลับบ้านได้เหรอ คิดถึงลูกเหรอ เป็นไปได้เหรอ เพื่อนเราจมน้ำ หนูไม่ได้ว่าตัวเองดีนะ แต่หนูคิดว่าถ้าโมจมตรงนั้น ถ้าหนูมีชูชีพหรือมีอะไรที่สามารถหาได้ หนูจะโดดลงไปเพื่อช่วยหา แต่นี่ไม่เห็นใครเปียกเลย
อาจารย์โต้ง : ก็เป็นพิรุธที่ต้องหาคำอธิบายเพิ่มเติมครับ
ทิศทางเป็นไปได้มั้ย ที่พูดไป มันเป็นสัญชาตญาณหรือเปล่า สัญชาตญาณปกป้องตัวเองเช่นเราดึงขากลับ ทำให้อีกคนเสียหลักอะไรแบบนี้ เขาอาจไม่ได้เจตนา แต่อาจเป็นอุบัติเหตุที่มีเงื่อนงำ?
อาจารย์โต้ง : ผมว่าหลัก ๆ เรากำลังสันนิษฐานว่าเป็นอุบัติเหตุหรือไม่ใช่อุบัติเหตุ หมายความว่า อาจพลั้งเผลอไม่เจตนาทำให้คุณแตงโมตกน้ำไป โดยที่คุณแตงดมไม่ได้พลัดตกเอง แต่มีคนอื่นประมาท นอกจากคนขับ ทำให้คุณแตงโมตกลงไปด้วย ตรงนี้ต้องหาหลักฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์มาอธิบาย ผมมองกลับกัน ช่วงแรกการเกิดเหตุ ในเมื่อร่องรอยพยานหลักฐานยังอยู่ สภาพสมบูรณ์ในเรือ ถ้าเราบริสุทธิ์ใจ เราะจบอกตร.ทั้งหมด ว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างจะเป็นคำอธิบาย เช่นคุณแตงโม เกาะข้างเรือ ใครขับเรือ ลายนิ้วมือแฝงปรากฏ ปัสสาวะท้ายเรือเก็บบ้างได้มั้ย ปัสสาวะเหมือนเปิดน้ำจากสายยาง เวลาปิดน้ำก็ยังมีหยดน้ำอยู่บ้าง ก็อาจมีคราบปัสสาวะอยู่บนเรือ ก็อาจพิสูจน์ยืนยันได้ว่านี่ไงสามารถสกัดดีเอ็นเอได้ก็จะยืนยันว่าคุณแตงโมไปปัสสาวะจริง ๆ ก็จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของทุกคนที่อยู่บนเรือ แสดงว่าทุกคนพูดจริง แต่ผิดปกติตรงที่กลับกัน
คุณบอล จุดแตงโมอยู่ เกาะตรงไหนได้บ้าง?
บอล : ถ้านั่งบริเวณปลายสวิมแพลตฟอร์ม ไม่มีโอกาสที่แขนผู้หญิงจะเอื้อมถึงเลย แต่ถ้าขยับมานิดนึง ถ้าทำกิจจะเลอะบริเวณพื้นไปหมดเลย ต้องมีปัสสาวะหลงเหลืออยู่บริเวณพื้นบ้าง สีแดงที่เห็นแขนผู้ชายก็เอื้อมไม่ถึง นั่งห้อยขา ผู้ชายก็เอื้อมไม่ถึง แต่ถ้าขยับมาสักนิดนึง จะจับได้ แต่มันจะเต็มพื้นนั่นไปเลย
ถ้ามีขาคนนึงนั่งห้อยขา แล้วเกาะ เป็นไปได้มั้ย?
บอล : ถ้าเข้าไปใกล้ ๆ ก็จับได้ แต่ฉี่ต้องเปรอะครับ
กราบเรือด้านซ้าย จับได้มั้ย?
บอล : ไม่ได้ ไม่มีที่จับใดเลย นอกจากเอาแขนไปค้ำเครื่องถึงจะได้ แต่ก็อันตราย ถ้าเป็นผม จะไปนั่งหลังเครื่องเลยตรงตัวเลข 25 จะมีที่ให้จับได้ถนัด เอาหลังพิงเครื่องไว้แล้วทำกิจตรงนั้นเลยจะไม่มีโอกาสร่วง แต่นี่เขานั่งด้านข้าง
ตัวสวิมแพลตฟอร์มนี้ก็ใหญ่?
บอล : ก็ใหญ่ กว้างประมาณ 60 เซนฯ ที่วัดกันเมื่อวาน พอพี่หนุ่มพูดว่ามีการกระตุกเพราะตกใจ ก็นึกออกว่าอาจทำให้มือที่เกาะอยู่ หลุดได้
ใบพัดเรือที่เอาไปตรวจ ดีเอ็นเอแตงโมถ้าถูกควั่นจริง ๆ จะมีติดอยู่มั้ย?
นพ.วีระศักดิ์ : คือถ้าดูจากใบพัด ถ้ามีการตัดจริง เนื้อเยื่อต่างๆ อาจไปติดตามรูของน็อตได้เขาถึงต้องถอดมาทั้งหมดทำความสะอาดเพื่อเอาเนื้อเยื่อที่ติดเข้าไป เพราะเวลาหมุนมันอาจหมุนตัดเข้าไปได้ ทุกส่วนของใบพัดเรือ ทุกรูต้องตรวจดีเอ็นเอทั้งหมดอยู่แล้ว
ตอนตร.ลงมาตรวจสอบ มีประเด็นนึงคือในเรือมีจีพีเอสอยู่ สามารถเช็กได้เลยว่าแล่นไปไหนบ้าง แล่นเท่าไหร่?
บอล : ถ้าคนใช้จีพีเอสจริง ๆ จะสามารถทราบได้ว่าไปไหนมาบ้าง อย่างเดียว แต่ถ้าต้องการข้อมูลลึกกว่านั้น ต้องใช้ซอร์ฟแวร์ในการดูดข้อมูลออกมา ล่าสุดเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดมีการประสานไปทางตัวแทนจำหน่ายจีพีเอสยี่ห้อนึง ขอบคุณพี่อาร์ตที่ส่งเจ้าหน้าที่มาดูให้ ถึงได้ทราบว่าขณะเกิดเหตุเรือเคลื่อนที่อยู่ช้า ไม่ได้เร็ว เรื่อเคลื่อนที่ในบริเวณนั้นพอดี เป็นดาวเทียมมาสก์ให้เป็นระยะๆ เรือวิ่งช้า ความเร็วเท่ากับที่เขาได้ข้อมูล วิ่งในความเร็วเดียวกันเลย คลิปที่กลางวันเรือลำนี้วิ่งก็เห็น ความเร็วประมาณนั้นเลย ใกล้เคียง ไม่ถึง 20 กิโลเมตรต่อชม.
กรณีน้ำนิ่งทำให้แตงโมพลัดตกลงมา และทำให้ใบพัดเรือดูดไปได้?
บอล : ใช่ครับ
ทรายในปอดน้อง แสดงว่าจมไปถึงใต้พื้นดินเลยเหรอ?
นพ.วีระศักดิ์ : ไม่จำเป็น เนื่องจากน้ำไหลอยู่ตลอดเวลา ก็เหมือนน้ำอยู่ในแก้ว ก็กวนเอาดินโคลนทราย เวลาจมลงไปเมื่อสำลักน้ำเข้าปาก ก็จะลงไปสู่ปอด จะมีดินโคลนทรายปนอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องลงไปข้างล่าง ถ้าลงไปข้างล่างจริงๆ 12 เมตรน่าจะเสียชีวิตไปแล้ว โอกาสที่ทรายจะเข้าไปก็เป็นไปไม่ได้แล้ว ดังนั้นเป็นช่วงจมน้ำนี่แหละครับ
ถ้าถูกใบพัดก่อน ตะเกียกตะกายไม่ได้ จมหายใจไม่ได้ วินาทีสุดท้ายชีวิตมันแย่มาก เรื่องนี้จะยังไงต่อไป?
แอนนา : ตอนนี้เดินหน้าต่อค่ะ
ตอนนี้คุณออกมาเรียกร้องเรื่องการแชร์ภาพ?
แอนนา : สิ่งที่โมเคยพูดไว้ เหมือนสั่งเสีย เขาบอกว่าถ้าฉันจะตาย ขอตายสวยๆ นะ ไม่อยากให้ใครเห็นสภาพฉันไม่สวย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ มีคนเอารูปโมตอนเสียชีวิต ตั้งเป็นโปรไฟล์ในทวิตเตอร์ แอนนาว่าโหดร้ายเกินไป แล้วบ้านเราควรก้าวผ่านการลงรูปคนตายได้แล้ว มันไม่ได้น่าดูและไม่ให้เกียรติผู้ตาย เป็นไปได้คดีที่จะเกิดขึ้นแอนนาประสานกับคุณแม่ เพื่อดำเนินคดีคนที่เอารูปมาปล่อย ทั้งต้นตอและคนแชร์ เพราะมองว่าถ้าผ่านไปเรื่อยๆ ต่อไปอีก 10 ปี ก็เอารูปคนตายมาลง แห่แชร์กัน แล้วบอกว่านี่คือคอนเทนต์สร้างยอดไลค์ สร้างคนกดคอมเมนต์ได้ มันควรมีจรรยาบรรณบ้าง
ฮิปโป : ควรมีความเป็นมนุษย์บ้าง
ฮิปโปพูดเองว่าขอนะ อย่าถ่ายภาพน้องในสภาพน้องเสียชีวิตไปแล้ว เพราะน้องรักสวยรักงาม แต่ยังมีคนเอาไปแชร์?
แอนนา : แชร์ไม่ว่า เหมือนเอาไปสร้างคอนเทนต์สร้างกระแส พอมีคนรีพอร์ตแล้วก็เอาไปสร้างใหม่ ถามคำเดียวทำเพื่ออะไรไม่คิดเรื่องเวรกรรมกันเลยเหรอ ศีลธรรมขั้นต้น ถ้าเราตาย ใครอยากให้คนอื่นมาเห็นเราในสภาพไม่ดี
4 คนเห็นหน้าหมดแล้ว กระติก แซน จ๊อบ ปอ อีกคนที่ไม่ได้ออกมาเลย คือคุณเบิร์ต เบิร์ตไม่ออกมา เมื่อวานเขาก็บอกว่าไม่สบาย แอดมิท เขาบอกความดัน 200 กว่า มาไม่ได้ เป็นคนเดียวที่ไม่ได้ออกมา และไม่ออกมาให้การอะไรเลย ทราบแค่ว่าเบิร์ตเป็นรุ่นพี่คุณปอ ข้อเท็จจริงเขาไมได้ออกมาพูดอะไรเลย เชื่อว่าสังคมรออยู่ จริง ๆ ควรออกมาพูดมั้ย?
อาจารย์โต้ง : มองได้สองมุม มุมแรกอาจเจ็บป่วยจริง ก็มีความเป็นไปได้ สองไม่พร้อมตอบคำถามกับทางสังคมที่มีหลายประเด็นก็ได้ กลัวตอบแล้วไม่ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตร.ต้องเรียกไปสอบปากคำแน่นอน ประเด็นนึงที่เป็นข้อสังเกต คือเครื่องจับเท็จจะบอกได้ว่าคนๆ นี้ปฏิกิริยาเป็นอย่างไร ในอเมริกา อังกฤษ ก็เป็นเรื่องสากล โดยหลักสากลต้องนำเข้าเครื่องจับเท็จในช่วงระยะเวลาใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ ไม่ใช่ผ่านไป 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี
ไม่ใช่คดีลุงพล ผ่านไปปีกว่ามาจับเท็จ?
อาจารย์โต้ง : ผมไมได้พูดนะ คุณหนุ่มพูดเอง
อย่างนี้รีบเอาเข้าเครื่องจับเท็จเลยนะบอกได้?
อาจารย์โต้ง : อย่าลืมนะครับ ความจริงก็คือความจริง แต่ไม่ใช่ครูปรีชานะ ถ้าเราใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ ก็จะสามารถบ่งบอกอะไรได้บางอย่าง ได้ข้อเท็จจริงบางอย่างเพิ่มเติมได้
เมื่อวานคุณจ๊อบมานั่งให้สัมภาษณ์ พอผมสัมภาษณ์เสร็จ เขาเดินไปข้างนอก เขาถูกนักข่าวชื่อคุณตาม วัชรา ทีมข่าวคุณสรยุทธ ขอสัมภาษณ์ เขาก็ยินดีให้สัมภาษณ์ เขาเป็นคนที่ถูกพาดพิงว่าใส่เสื้อไปแล้วเสื้อขาด เขาต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังยืนสัมภาษณ์เขาบอกว่าเขาเปลี่ยนเสื้อให้ดูเลย ปรากฏว่าด้านนึงมีแผลประมาณฝ่ามือ เป็นแผลช้ำเลือดช้ำหนอง บริเวณคอเหมือนมีรอยขีดข่วน เสร็จแล้วเขาเดินมาหาผม บอกว่าไม่สบายใจเลย ที่ฝั่งผู้สื่อข่าวเขามาสัมภาษณ์เรื่องแผล ผมก็บอกว่าให้พูดไปว่าเกิดอะไรขึ้น ปรากฎว่าคุณปอบอกว่าไม่ได้ ต้องลบ เดี๋ยวเผยแพร่ไปทำให้คนเข้าใจผิด หลงประเด็นกันไปใหญ่ ให้ฟอร์แมต แล้วทิ้งซะ ผมก็โทรไปคุยกับสรยุทธ เขาบอกว่าให้ไปคุยมาเลย เพราะจะกู้ไฟล์นะ ผมก็โทรไปบอกคุณปอ เพราะทำแบบนี้ไม่แฟร์กับทางเรา เขาก็อนุญาต แต่ตอนนี้กู้ไม่ได้ไปแล้ว แผลแบบนี้ ถ้าตกเรือจะไปเกิดตรงนี้ได้มั้ย?
นพ.วีระศักดิ์ : ถ้าเจอบาดแผล ก็จะบอกวัตถุที่มากระทำ ดังนั้นถ้าเป็นคำถาม เกิดขึ้นกับกรณีแบบนี้ได้มั้ย เขากล่าวอ้างว่าไปตกเรือ ตกท่าไหนอย่างไรต้องบอก และไปดูความสอดคล้องกับบาดแผลที่เกิด ถ้าเราสงสัยเกี่ยวกับเรื่องถูกทำร้าย กรณีรอยข่วนชัดเจน มันบอกได้ว่าไม่ใช่ลักษณะโดนลวดเกี่ยวแต่เป็นรอยเล็บข่วน ก็จะไปบอกอะไร ซึ่งเห็นจากภาพและตำแหน่งไม่ชัด แต่ถ้าคนเห็นบอกว่าเป็นรอยช้ำ ถ้ารอยช้ำคือรอยช้ำ แต่รอยช้ำเกิดจากอะไร เขาก็ต้องตอบให้ได้ ต้องมาเทียบเคียงกับวัตถุที่เขาบอกว่าไปกระทบกระแทก มันเช็กได้หมด
จ๊อบต้องถูกตรวจร่างกายแน่นอน ?
นพ.วีระศักดิ์ : กรณีแบบนี้ถ้าพบบาดแผลเขาจะส่งไปให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชและจะมีการบันทึกบาดแผล
เรื่องนี้โทรคุยกับคุณปอ บอกว่าทำแบบนี้ไม่ถูก ต้องให้เขาไปกู้ไฟล์ จนสุดท้ายเขาก็ยอม ผมก็ถามว่าเพราะอะไร ทำไมต้องอย่างนี้ เขาบอกว่าถ้าหลุดออกไปเดี๋ยวจะเป็นประเด็นเกิดขึ้นอีก คนไปจับประเด็นผิดๆ ถูกๆ เขากลัวแบบนี้ เลยขอให้ลบ ผมบอกว่าถ้าเป็นอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริง ๆ จะกลายเป็นเรื่องของความพิเรนทร์จนกลายเป็นความพิรุธ พิเรนทร์ที่จะคิด พิเรนทร์ที่จะทำ พิเรนทร์ที่จะตอบแบบนี้ พิเรนทร์ที่จะให้ลบคลิป พิเรนทร์กลัวนักข่าว กลายเป็นพิรุธ เป็นไปได้มั้ย?
แอนนา : ก็คิดแบบนี้ ถ้าทุกอย่างเป็นไปอย่างที่ควรเป็น รอในที่เกิดเหตุ คุยกับตร. ชี้แจงเหตุการณ์ แอนนาว่ามันจบตั้งแต่วันแรกแล้วนะ แต่พอกลับบ้าน มันก็เอ๊ะ มีอะไรหรือเปล่า
อาจารย์มองเรื่องนี้ว่าต้องมีการตรวจสอบ?
อาจารย์โต้ง : หลัก ๆ คำให้การของคนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แต่การพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์และนิติวิทยาศาสตร์ ตรงนี้สำคัญ เพราะเปลี่ยนแปลงไมได้ เช่นการถ่ายรูปบนเรือ ตรงนี้แก้ไขไม่ได้ หรือข้อความสนทนาระหว่างบุคคลทั้ง 6 ท่านที่อยู่บนเรือ แก้ไขไม่ได้ ฉะนั้นความหมายคือ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ นิติวิทยาศาสตร์ จึงมีความสำคัญ ช่วงแรกอาจเป็นไปได้ว่าน้องแตงโมตกเรือ แต่ทำไมไม่ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่เต็มที่ในการค้นหา เจอไม่เจอไม่สำคัญ เขาจะรอดหรือติดเกาะกลางแม่น้ำเพื่อรอการช่วยเหลือมั้ย นี่คือสิ่งที่สังคมสงสัยว่าทำไมไม่เกิดลักษณะแบบนั้น ในทางกลับกันคือไม่ใช่ ทุกคนแยกย้าย ประการต่อมา คืนนั้นจนเป็นข่าวเป็นกระแส แต่ปรากฎว่าบุคคลที่อยู่ในเรือ มาพบเจ้าหน้าที่เกือบอีกวันนึง สังคมก็ตั้งคำถามต่อ ไม่เป็นห่วงเพื่อนเหรอ หายไปทั้งคน ยกตัวอย่างเราไปทานข้าวริมแม่น้ำ นั่งเรือ เราทำมือถือตกน้ำ เครื่องประดับต่างหูเพชรตกน้ำ เรายังกังวลใจจะทำยังไงถึงจะเอากลับขึ้นมาให้ได้ แต่นี่ไม่ใช่เครื่องประดับ นี่คือคนทั้งคน ไม่คิดจะตามหาเลยเหรอ ฉะนั้นเราไม่ได้บอกว่าใครเป็นคนทำ แต่เราค้นหาความจริงว่าเกิดไปเพราะอุบัติเหตุ หรือมีคนทำให้คุณแตงโมตกลงไป หรือเจตนามั้ย ก็เป็นข้อกฎหมายทั้งหมด แต่การสันนิษฐานมีได้หลายประเด็น แต่สุดท้ายการใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ การพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ผลตรวจนิติเวชจะบอกได้
นพ.วีระศักดิ์ : ผมมองว่าสังคมต้องการคนออกมายอมรับความจริง กรณีนี้เป็นกรณีศึกษาเลย ที่ผ่านมาพอเกิดเหตุ คนที่อยู่ในเหตุการณ์มักหายตัวไปก่อน บอกว่าตั้งหลักแล้วกลับมา จากเหตุการณ์นี้ควรทบทวนแล้วนะครับ ถ้าเกิดอะไรขึ้น คุณควรออกมารับผิดชอบทุกอย่าง อยู่ในที่เกิดเหตุ แสดงความรับผิดชอบทุกอย่าง ไม่ควรหายตัวไป เพราะการหายตัวไปวันนี้กลายเป็นปัญหากับตัวคุณเอง ต่อไปนี้รับผิดชอบ แล้วทุกอย่างจะผ่านพ้นไป ยืนยันทุกอย่างที่พูดมาทั้งหมดจะถูกพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ ว่าจริงหรือไม่จริง
คิดว่าไม่น่ามีประเด็นอะไรในการตรวจสอบ?
บอล : มันตัดประเด็นที่คนสงสัยได้หลายประเด็นพอสมควร เพราะหลักฐานชัดเจน ว่าเรือใช้ความเร็วต่ำ ณ บริเวณจุดเกิดเหตุ ตร.มีหมดแล้วครับ
ประเด็นคนขับเรือ มีนัยยะด้วยมั้ย?
อาจารย์โต้ง : มีเรื่องความประมาท ว่าตกลงแล้วใครเป็นคนขับกันแน่ ถ้าช่วงแรก ผู้เชี่ยวชาญเก็บร่องรอยหลักฐานอาจพบร่องรอยลายนิ้วมือแฝงตรงพวงมาลัย อาจมีมากกว่า 1 คน และช่วงน้องตก ดึงออกมาว่าตกลงใครเป็นคนขับ
คุณสองคนมองยังไง?
ฮิปโป : หนูก็ยังเชื่อในกระบวนการต่าง ๆ ไม่ว่าพิสูจน์หลักฐาน นิติวิทยาศาสตร์ ยังเชื่อว่ามันจะพิสูจน์ได้ว่าเหตุการณ์เกิดอะไรขึ้น เรื่องราวจะจบยังไง แต่มันก็เป็นความเสียใจ เราเสียเพื่อนไป (ร้องไห้)
แอนนา : แอนนาไม่ติดใจอะไรเลย ถ้าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเรื่องปกติ ที่บอกว่าไม่ปกติ เราวัดจากความรู้สึกเพื่อนทั่วไป ถ้าเพื่อนคนนึงตกน้ำหรือหายไป เราจะอยู่ได้ยังไง เหมือนคนนึงทำลูกหายในห้างสรรพสินค้า คุณจะเดินหาต่อหรือกลับบ้านไปแล้วค่อยมาหาวันพรุ่งนี้ คำถามนี้คิดว่าคนทั้งประเทศมีคำตอบอยู่แล้ว อะไรที่มีพิรุธ มันแปลก ไม่ปกติ ทำให้ชวนสงสัยได้ อาจเป็นอุบัติเหตุจริงก็ได้ หรือมีอะไรที่ไม่ได้บอกเราทั้งหมด ก็ขอแค่บอก ถ้าเป็นความจริงเรารับได้ ยังไงแตงโมก็จากไปแล้ว แต่ขอแค่ว่าความยุติธรรมต้องมีอยู่
คิดว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำ?
แอนนา : ส่วนตัวคิดว่าไม่มีใครฆ่าแตงโมได้หรอก ใครๆ ก็รักแตงโม คนบนเรือจะทำกับแตงโมได้เหรอ แต่แค่รู้สึกว่าทำไมไม่เล่าทั้งหมดอย่างจริงใจและตรงไปตรงมา ทำไมวันนั้นต้องออกมาจากที่เกิดเหตุ ทำไมไม่รอ ทำไมไม่ให้เราไปช่วยหา ที่มันตอบไม่ได้ ทำให้เราต้องออกมาจับผิดว่ามันอะไรกันแน่
พิเรนทร์จนเป็นพิรุธ?
แอนนา : พอมันแปลกเราก็หยุดตามหาความจริงไม่ได้ พอเขาพูดผิดปกติ มันไม่ใช่ตั้งแต่คำพูดแรกที่บอกให้เรากลับบ้านไป เธอหามั้ย เธอบอกว่าหา แต่ทำไมตีสามเธอกลับ เราก็งงว่าสรุปยังไงกันแน่
ได้คุยกับคุณเบิร์ดแฟนแตงโม น่ารักมาก คุยแล้วก็เศร้า คุยไปแล้วก็ร้อง ๆ แกก็พูดว่าขอบคุณมาก โมรักพี่นะ เขาดูรายการพี่ตลอด เขายังบอกเลยว่าพี่เป็นคนกวนตีน พี่บอกว่าพี่เชื่อ เพราะวันที่ได้คุยกับโม โมเลือกมาคุยกับพี่ วันที่มีเรื่องศัลยกรรม แล้วเราเล่นละครกับเขา ?
ฮิปโป : เขาเคยมีคลิปจะเอาลงแซวพี่ว่าอย่าฆ่าหนูนะ หนูกลัว (หัวเราะ) มันเป็นคลิปเหมือนพี่บอกว่าอย่าเข้ามาใกล้กูนะ เดี๋ยวกูฆ่านะ เรื่องยัยใบบ้า แตงโมเล่นเป็นคนพิการทางเสียง พูดไม่ได้
รายการเราไม่ใช่ศาลเตี้ย ไม่ได้ตัดสินใคร ไม่ได้สร้างหรือบิวต์ประเด็นทางสังคมให้เขาถูกด่า เขาต้องการชี้แจงข้อเท็จจริง ก็ให้มาออก เราเป็นสื่อกลางจริง ๆ ไม่ใช่คนกลาง คนกลางคืออะไรก็ไม่รู้เลย?
บอล : ก็เริ่มมีกระแสเข้ามาเยอะว่าผมเข้าข้างคุณปอมั้ย คือรู้จักและเป็นเพื่อนกันจริง แต่ไม่ได้สนิทเหมือนทางนี้ เราสนิทในฐานะผู้ให้บริการ ด้วยงานของเรา แต่ด้วยอุปนิสัยส่วนตัวพี่ปอน่ารัก เขามาเรียนขับเรือกับผมก่อน ก่อนเขาไปด้วยตัวเอง เขาอยากเก่งเร็วๆ เรื่องเก่งไม่เก่งสอนกันไมได้ แค่รู้วิธีแนะนำทำยังไง แต่ประสบการณ์ชั่วโมงบินจริงๆ คือการใช้เรือ เรื่องใบขับขี่ ถ้าตามข่าวคุณปอไม่มี แต่เรือมีทะเบียน แต่ทะเบียนขาด เพราะเขามีการซื้อขายและไม่ได้โอนกัน ยังเป็นชื่อเจ้าของเดิม แต่มีหลักฐานซื้อขายถูกต้อง มันอยู่ที่เจ้าของเรือว่าจะดำเนินการยังไง หน้าที่เราแค่ให้สถานที่ในการเก็บรักษา ส่วนเรื่องทะเบียนอยู่ที่เขา เขาจะทำหรือไม่ทำ กฎหมายมีบังคับบอกอยู่แล้วว่าต้องมี ถ้าไม่มีก็ไม่มีสิทธิ์ออกไปขับเรือ
ปล่อยเรือให้อีกคนขับ?
บอล : ก็ต้องโดนด้วยกัน เพราะต่างคนต่างไม่มี แต่ถ้าอีกคนมี ข้อหานี้ก็ถูกตัดออกไป