เคลียร์หมดเปลือก “สมปอง” ตอนเป็นพระตายไปแล้ว! ยันไร้ชู้สาว “ติ๋ม ทีวีพูล”

เคลียร์หมดเปลือก “สมปอง” ตอนเป็นพระตายไปแล้ว! ยันไร้ชู้สาว “ติ๋ม ทีวีพูล” ขนของหนีเพราะน้อยใจ โต้สาวที่เป็นข่าวแค่เพื่อน ขอ “บุ๋ม” อย่าอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ปมธุรกิจสีเทา – กระทบงาน

กลายเป็นดราม่าสนั่นเมือง กรณี “ติ๋ม ทีวีพูล” ออกมาแหก “สมปอง นครไธสง” อดีตพระนักเทศน์ชื่อดัง หลังเซ็นสัญญาร่วมงานกัน รีโนเวตบ้านให้ วางแผนชีวิตให้ทุกอย่าง หมดเงินไปเกือบล้าน แต่ฝ่ายสมปองกลับขนเสื้อผ้าหนี เหลือทิ้งไว้แค่รูปถ่ายเจ๊ติ๋มในห้องนอน พร้อมทิ้งบอมบ์หลายเรื่อง ทั้งอยากรวยเร็วเกินไป ยุ่งกับคนไม่ดี ธุรกิจสีเทา เรื่องผู้หญิง แอลกอฮอล์ ต่อมาก็มีชาวเน็ตข้องใจว่า ติ๋ม ทีวีพูล กับสมปอง มีสัมพันธ์เกินเลยหรือไม่ หลังมีภาพหลุดติ๋ม จับมือถือแขน ลูบท้องสมปองสนิทสนมจนเจ๊ติ๋มต้องออกมาเคลียร์ว่าลูบท้องเพราะเอ็นดูเหมือนลูกเท่านั้น ไหนจะเรื่องที่ดิน ส.ป.ก. 300 ไร่ ที่มีการระบุว่าสมปองซื้อตอนเป็นพระอีกด้วย 

รายการโหนกระแสวันที่ 8 ก.พ. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ สมปอง นครไธสง ขอเคลียร์ใจทุกประเด็นร้อน

วันนี้อย่าโกรธกัน ขอถามกลางที่สุด ไม่สามารถถามไปแล้วทำให้คนรู้สึกว่าทำงานด้วยกัน ถามเอื้อกันหรือเปล่า ขอถามแบบตรงไปตรงมา ไม่โกรธกันนะ?

“ไม่โกรธครับ”

สิ่งเดียวที่จะบอกว่าจะตอบอะไรให้คนไทยได้ฟังกัน ความสง่างาม ความเปิดเผยเป็นที่ตั้ง?

“ครับ ผมก็อยากใช้ชีวิตอย่างสง่างามและเปิดเผย องอาจในสังคมครับ”

40 วันของการเป็นฆราวาส เป็นยังไงบ้าง?

“นี่ขนาดดูฤกษ์แล้ว ยังวุ่นวายหลายอย่าง ถ้าไม่ดูฤกษ์คงหนักกว่านี้ หลายสิ่งหลายอย่างก็เป็นปรากฎการณ์ในชีวิตมากมาย แต่ก่อนไม่เข้าใจว่าที่เพื่อนไม่อยากให้สึกญาติโยมไม่อยากให้สึก แต่ก่อนไม่เข้าใจ รู้สึกว่าอยากใช้ชีวิตฆราวาสก็ใช้ได้เลย”

คิดในใจมั้ยว่ารู้งี้ไม่สึกดีกว่า?

“ไม่ถึงขนาดนั้นครับ ผมว่าการตัดสินใจก็ถูกต้องแหละครับ แต่ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นเราไม่รู้จริง ๆ ต้องเรียนรู้ใหม่ บางอย่างไม่รู้อนาคต บางอย่างเด็กอนุบาล บางอย่างเด็กประถม”

เรื่องแรกก่อน “พี่ติ๋ม ทีวีพูล” แกก็มีบุญคุณในชีวิตผมเหมือนกัน เรื่องเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ดี ๆ พี่ติ๋มออกมาแถลงข่าว ทิดขนข้าวของออกมาโดยไม่ได้บอกอะไรแกเลย?

“ผิดเลยครับ (ยกมือไหว้) ถ้าพี่ติ๋มดูอยู่ อันดับแรก ขอโทษพี่ติ๋ก่อนเลย เหมือนน้องน้อยใจพี่สาว เหมือนลูกน้อยใจแม่ หลายสิ่งหลายอย่างที่พี่เขาหวังดี การคบเพื่อน การทำงาน การวางตัว บุคลิก พี่เขาสอนผมตลอด ซึ่งจริงๆ พี่เขาไม่ต้องสอนผมก็ได้ แต่เขาก็สอนและดูแลผมอย่างดี จัดห้องนอนให้อะไรต่าง ๆ

เหมือนคนน้อยใจ ออกมาจากบ้าน อะไรคือสาเหตุ?

“มันเหมือนความหวังดี ของพี่สาวที่มีต่อน้อง หรือแม่มีต่อลูก เขาก็มีกฎ กติกา ข้อห้ามหลายอย่าง สำคัญสุดคือเรื่องการคบเพื่อน ก็เป็นความหวังดีนั่นแหละ สีเทานะ จะมีคำพูดแบบนี้ค่อนข้างบ่อย แล้วผมก็เป็นคนรักเพื่อน”

พี่ติ๋มไม่อยากให้คบเพื่อนเหรอ?

“ใช่ครับ จริง ๆ ท่านก็เมตตา อยากให้ระมัดระวังเป็นห่วงนั่นแหละ ให้คบเพื่อนให้ดี ออกมาใหม่ ๆ ควรเก็บตัว 4 เดือน ปฏิบัติธรรมนิ่ง ๆ ก่อน หรือเจอเพื่อนที่ชวนดื่ม ชวนเที่ยว ชวนอะไร”

ทำไมไม่บอกแกตรง ๆ ทำไมเก็บข้าวของออกมา ทำไมไม่บอกว่าอยู่ไม่ได้ คุณไปเลย?

“อันนี้ไม่รู้กาลเทศะ ไปไม่ลา มาไม่ไหว อันนี้ผมผิดมารยาทของคนไทย ของเด็กที่มีต่อผู้ใหญ่ อันนี้ขอโทษจริง ๆ ที่ทำให้ผิดหวังเรื่องนี้ ไม่ว่าพี่ติ๋มหรือผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่าน ผมไม่ได้ไปขนของเองด้วย ไม่ได้ปรึกษาพระเพื่อนที่สึกออกมา ดร.สมพงษ์ ไม่ได้ปรึกษาใครเลย ผมก็ออกเลย ให้ทีมงานไปเก็บของด้วย ยังระแวงว่าตอนเก็บของจะเจอแล้วโดนด่า โดนว่ามั้ย ความไม่ได้เรื่องได้ราวก็ได้ ความเสียมารยาท ไม่รู้กาลเทศะ ความไปไม่ลามาไม่ไหว้ ตรงนี้ผิดเลย ขอโทษพี่ติ๋มและทุกท่านที่ทำให้ผิดหวังเรื่องนี้ มันเหมือนเราไม่กล้าพูด เกรงใจ เหมือนผมไม่กล้าบอกพี่หนุ่ม ผมก็ไปเลย จะบอกว่าคิดน้อย สิ้นคิดเลยก็ได้”

แต่คุณออกไปทั้งที่คุณมีพันธะอยู่ คุณมีสัญญากับเขาอยู่ คุณเอาเงินเขาไปแล้วล้านนึง คุณทิ้งทุ่นไปเลยก็ไม่ได้ไง?

“ครับ นี่คือเรื่องที่สองที่ผิดอีก คือรับเงินมาจริง 1 ล้าน ล่วงหน้า 4 เดือน เขาก็ใจๆ กับผม ใจแลกใจ ก็จ่ายก่อน ผมก็รับมา”

ร้องขอเองมั้ย?

“ไม่ครับ มีเหมือนร่างสัญญา ไม่แน่ใจว่าร้องขอมั้ย แต่ประเด็นคือรับเขามา รับของเขามาก็ต้องคืน ก็คุยกับคุณเต้ ลูกชายพี่ติ๋ม ที่ดูแลทีวีพูล ก็ต้องคืน คืนยังไง คืนแบบไหน เพราะเราไม่ได้ทำงานให้เขา  ต้องคืนอยู่แล้ว”

อยากถามให้สิ้นสงสัย สิ่งที่คุณทำได้คือต้องสง่าผ่าเผย ต้องชัดเจน อะไรที่ใช่ก็ใช่ ผิดก็ผิด ว่าไปตามนั้น พี่ติ๋มเป็นผู้ใหญ่ใจกว้าง จะมีการเคลียร์กันมั้ย?

“ผมอยากเคลียร์ เพราะตอนเป็นพระ ผมนั่งโซฟา พี่ติ๋มนั่งข้างล่างเคารพผม ซึ่งผมไปบ้านพี่ติ๋มเลย ตอนสึกแล้วผมก็นั่งเจี๋ยมเจี้ยม น่าจะนั่งอ่านโทรศัพท์อยู่ น่าจะไลฟ์อยู่”

จะให้เห็นว่าวันนึงที่เป็นพระ พี่ติ๋มก็ไหว้ทิด อีกภาพทิดนั่งข้างล่าง?

“ขาดแต่พนมมือครับ”

เห็นชัดเจนในมุมนึงเหมือนกัน?

“เราเป็นเด็กครับ เราสึกมาแล้ว แต่ก่อนคนกราบไหว้เรา นับถือเรา ทุกวันนี้เราสึกมา บางทีต้องไหว้คนอื่นก่อน เราไหว้เด็กก่อนก็ได้ เขาก็เหมือนพี่ เหมือนแม่เรา”

กรณีที่พี่เขาไม่อยากให้คุณคบเพื่อน ไม่ได้พูดเกินไปใช่มั้ย?

“พี่เขาย้ำบ่อย ๆ ด้วยความที่เขาเป็นห่วงจริง ๆ กลัวคบคนไม่ดี กลัวพาไปทำให้เสียหาย สีเทา กลัวเรามัวหมองไปด้วย”

สีเทานี่ มีนักข่าวไปถาม “บุ๋ม ปนัดดา” เขาบอกไม่พูดดีกว่า เหมือนคุณมีเรื่องธุรกิจสีเทามั้ย?

“ผมไม่มีร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมไม่ชอบเลยธุรกิจสีเทา ผมสึกมา 40 วัน จะไปทำยังไงได้ เอาตรงๆ สึกปุ๊บก็อยู่บ้านพี่ติ๋ม แล้วก็ไปทำงาน ไปนอนที่อื่นบ้างถ้าไปต่างจังหวัด ยืนยันว่าไม่มีสีเทาแน่นอน ถ้าสังคมเคลือบแคลงว่าผมทำธุรกิจสีเทา คนเป็นพระมา 30 ปี บวกเณรด้วย สึกออกมา 40 กว่าวัน แล้วทำธุรกิจสีเทา ผมก็อยากให้พี่สาวที่ผมรักมาก และจะรักไปตลอดด้วย สีเทานั้นคืออะไร พี่พูดมาเลยดีกว่า เพราะผมไม่ได้ทำแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์

แต่เขาก็ไม่ได้กล่าวหาว่าคุณทำนะ แค่นักข่าวไปถามเขา เขาบอกเรื่องนี้ไม่พูดดีกว่าให้ไปถามคุณเอง?

“ด้วยความเคารพพี่หนุ่ม ถ้าผมย้อนพี่หนุ่ม ผมไม่พูดแล้วกัน สังคมมองพี่ยังไง  พูดแบบนี้มันกระทบงานผม สมปองสีเทานี่ อย่าไปจ้างรีวิวนะ อย่าเอามาทำงาน  ผมก็กระทบนะ ฉะนั้นถ้าพี่บุ๋มคิดว่าน้องชายคนนี้มีธุรกิจสีเทา พี่พูดเลย ผมไม่โกรธเลย แล้วบอกผมเลย อันนี้ไม่ดี ปองอย่าทำนะ เตือนผมก็ได้ เพราะผมไม่ได้ทำแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ ขายหวยใต้ดินเหรอ เปิดบ่อนการพนันเหรอ ยาเสพติดเหรอ ผมชัดเจนไม่ยุ่งอยู่แล้ว ไม่ทำธุรกิจสีเทา บอกมาเลยพี่ไม่ต้องอ้ำอึ้งว่าไม่พูดดีกว่า ไปถามเขาเอง ผมถามคืนตอนนี้แหละ ไม่ว่าพี่คนไหนที่ห่วงใยผม รักผม ถ้าผมผิดพลาดอะไรบอกผมมาเลย บอกผมมาตรงๆ ผมคิดว่าพี่บุ๋ม พี่ติ๋ม พี่หนุ่มเป็นพี่เสมอ ใจกับผม ผมก็ใจด้วย ไม่มีโกรธครับพี่”

เรื่องไวน์ เห็นพี่ติ๋มพูดว่าคุณดื่มไวน์ ให้เขาซื้อตู้ไวน์?

“สึกวันแรก ก็ดิ่งไปบ้านพี่ติ๋มเลย ทานข้าวมื้อแรกที่นั่น มีแก้วไวน์เรียง พี่ติ๋มบอกสึกมานาน ลองดื่มลองใช้ชีวิตซะหน่อย เลิกเอาจีวรมาคลุมที่ตัวผมซะที ผมสึกมานานแล้ว ผมใช้เวลา 2-3 เดือน เชื่อเถอะขนาดพี่หนุ่มก็เคยติดคำว่าพระกับผมบ่อย จนผมต้องย้ำว่าผมเป็นทิดแล้ว หลายคนเอาจีวรมาคลุมตัวผมไว้ พอผมสึกหลายคนก็พูดว่าทำตัวสำรวมสิ สวดมนต์สิ ทำวัตรเช้าเย็นสิ คนก็ยังสวดเลย แต่เราลาสิกขา เราลาจากธรรมะมาแล้ว เรามาใช้ชีวิตฆราวาส วันนั้นด้วยความน่ารักพี่ติ๋มคือก็ให้ลองดื่มดู ผมดื่มปุ๊บอร่อยตรงไหน ดื่มเพื่ออะไรมันแค่เครื่องดื่ม เขาก็บอกว่าคนมีระดับเขาดื่มกัน ผมก็ยังถามว่าคนจนดื่มไม่ได้เหรอตามสไตล์ผม เขาบอกว่าดื่มได้ ก็ไม่ได้คิดอะไร พี่เขาก็รักผม หลังจากนั้นเขาเป็นห่วงผม อย่าไปดื่มต่อหน้าคนนะ เดี๋ยวเสียภาพลักษณ์ บวชมา 30 ปี เดี๋ยวเขาจะหาว่าไม่ได้อะไร เขาก็เตือนด้วยความหวังดี ผมก็แซวพูดทีเล่นทีจริง ถ้าไม่ให้ผมดื่มข้างนอก ผมก็ดื่มข้างใน ผมไปเจอตู้ผมยังเซอร์ไพรส์เลยว่าเอาจริงเหรอ พี่ติ๋มจัดให้ ผมยังงง ก็มีอยู่แถวนึง 5-6 ขวด มันเหมือนน้ำผลไม้ เราเคยเห็นฝรั่งเอาเท้าเหยียบองุ่นเป็นไวน์ ยังเคยแซวดื่มน้ำล้างเท้าฝรั่ง ดื่มเสร็จมีความหวาน ถ้าให้ผมดื่มเข้าสังคม หรือผู้หลักผู้ใหญ่ อันนี้ผมพอดื่มได้”

ตอนคุณออกไป คุณเอาไวน์ไปด้วย เอาไปหลายขวดมั้ย?

“มันเหลือครึ่งขวด ดื่มแล้วเหลือครึ่งขวดโควิดใครจะดื่มต่อ ผมก็เอาไงดี ก็เลยเอาไปครึ่งขวด มันเหมือนน้ำปลาบ้านผมมั้ยต้องคืนขวด ผมไม่รู้เห็นครึ่งขวดก็เอาไป  ไม่ได้คิดขโมย จะขโมยไวน์เพื่ออะไร เหมือนพี่สาวให้เราแล้ว แต่ถามว่าผมติดมั้ย ถ้าติดเหล้าเบียร์ติดไวน์คืออะไร คือต้องดื่มทุกวัน ดื่มทุกชั่วโมง ดื่มแล้วดื่มอีก แต่ผมไม่เจอสังคม ผมไม่ดื่มเลยนะพี่”

คุณไม่ได้เป็นคนดื่ม?

“ไม่ดื่ม ผมไม่ได้บอกทีมงานเอามาดื่มหน่อย ไม่มี”

ตอนเป็นพระไม่เคยดื่ม?

“ไม่เคยดื่ม นี่คือครั้งแรกที่พี่สาวเอ็นดูเรา ให้เราดื่ม เขารินให้เราเองด้วยความรัก”

เรื่องรูป เมื่อก่อนรูปวางคู่กัน วันดีคืนดีคุณไป คุณทิ้งรูปพี่ติ๋มให้โดดเดี่ยว?

“สัญชาตญาณย้ายของ พี่จะเอารูปเขามาด้วยเหรอ ภาพสองภาพนี้ ศิลปินคนนึงเขาวาดให้ แล้วญาติผม พี่น้อยเขาไปจัดวางด้วยกัน แล้วมีหลวงพ่อรวย ตอนย้ายของเราก็เอาภาพเราไป ถ้าผมไม่เอาภาพผมมา สมมติเขาเอาไปทิ้งถังขยะมั้ย เรื่องธรรมดามั้ย ผมก็รู้สึกต้องเอาของผมไป เสื้อผ้าก็เป็นความรักความเมตตาพี่ติ๋ม เขารักเอ็นดูผมเหมือนน้อง เขาบอกว่าสมปองไปกับเลขาฯ เขา ไปดูเสื้อผ้านะ ไปถึงเอ๊ะยังไง เขามอบให้เราฟรีหรือต้องซื้อ เขาบอกว่ามีส่วนนึงที่ผู้บริหารมอบให้ ผมก็ตอบแทนเขาดีกว่า ผมไลฟ์เลย ผมไม่รู้ราคาหรอก ถ้าให้ซื้อเองผมไปตลาดนัด ผมซื้อตัวละร้อย”

เสื้อลาคอส?

“เราเคยได้ยิน ยังแซวเป็นมุกเลย ผมไม่สนหรอกผมใส่อะไร ลาคอสถามว่าใส่มั้ย ก็ใส่ได้ ผมใส่ได้หมด เอาตรงๆ ผมมองหน้าด้วยซ้ำ อันนี้ได้มั้ย แพงไปมั้ย ให้บอกผม ให้เลือกสีมาให้ผม ผมเลือกไม่เป็น ไม่ได้ดัดจริต ตัวแหล อันไหนให้ได้ก็ให้ อันไหนให้ไม่ได้ก็ไม่ต้องให้ แล้วผมหาซื้อเสื้อผ้ายาก ผมก็บอกว่าถ้ามากไปน้อยไป ก็บอกผมได้นะ”

ทำไมภาพต้องตั้งคู่กัน?

“พี่น้อยจัด พี่ชายผม ลูกลุงผมเขาจัด ก็ไว้ภาพด้วยกัน”

ทำไมไม่เอาภาพคุณไว้ขวามือ เอาภาพพี่ติ๋มไว้ซ้ายมือ อันนี้เหมือนยกมือไหว้?

“ก็ด้วยความเคารพ แม่ก็ได้ ด้วยความรักด้วยความเคารพ”

เรื่องที่ดินส.ป.ก. พี่ติ๋มบอกว่าคุณต้องการรวยทางลัด 3 เดือนต้องการเงิน 100 ล้าน?

“พูดจริงครับ ตอนแรกไม่ได้คิดไว้หรอก คนเราออกมาเป็นฆราวาส ผมมีหนี้ ก็อยากใช้หนี้ให้หมดให้เร็ว มีเงินดูแลครอบครัวได้ แล้วก็อยากช่วยเหลือสังคม อย่างที่ผมช่วยมาตลอด”

สึกมาเพื่อการนี้?

“หาเงินเหรอ จะอาศัยขอพี่หนุ่มเฉย ๆ ก็ไม่ได้ ผมต้องทำงาน แล้วใครจะมั่นใจว่าสึกมาแล้วจะมีงาน ด้วยเมตตาพี่ติ๋มพาไปวัดแห่งนึง ท่านดูดวงให้ ผมก็สายมู บอกว่าไม่เกิน 100 วัน มี 100 ล้าน ไม่จริงให้เหยียบเลย พอเจอพี่ติ๋มก็บอกว่าท่านพูดแบบนี้ พี่ติ๋มก็ยิ้มบอกว่าดี แต่ก็เตือนว่าเธอไม่ต้องไปรีบหาเงินหรอก ค่อย ๆ ทำงานไป ผมก็ไม่ได้คิดว่าจะได้ 100 ล้านใน 3 เดือนหรอก ความจริงก็เกิดขึ้นไม่ได้ ออกมาไม่รู้การตลาด จะมาทำงานอะไรได้ 100 ล้าน”

ทำไมถึงอยากมี 100 ล้าน จะเอาไปทำอะไร?

“ใช้หนี้ มีหนี้ก็ต้องใช้หนี้ เป็นหนี้ที่ผมใช้จ่ายหลายอย่าง ดูแลทีมงาน ดูแลที่บ้าน พ่อแม่ พี่ๆ ถึงเป็นพระเราก็ต้องดูแล เรื่องที่ดิน”

เงินส่วนนึงไปใช้หนี้ที่ดิน ที่ดินอะไร?

“ที่ดินไม่ใช่ของผม เป็นของญาติพี่น้อง คนบ้านนอกบ้านนา อยากมีอาชีพ ที่ทางทำกิน เขาก็ไปเจอที่มา ซื้อน้อยได้มากตามประสาคนบ้านนอกเรา เขาก็มาปรึกษาว่ามหาพอจะมีมั้ย ตอนเป็นพระเราก็ไม่มี เขาบอกมันดีนะ ไม่มีเราก็หายืมให้ ตามสไตล์ผม หน้าใหญ่ใจโต ไม่ยืมก็หายืมให้ ส่วนหนึ่งก็เป็นหนี้ตรงนี้นอกจากช่วยเหลือสังคม พอถึงเวลานึง มหาทำไม่ไหวแล้ว ปรึกษาได้มั้ย ไม่ใช่เฉพาะญาติผม”

ตกลงที่ที่ไปซื้อ ยอมรับว่าญาติคุณ พ่อแม่ต่าง ๆ นานา ซื้อจริง?

“เขาไปจัดการ เขาจัดเช่าจัดซื้อผมไม่รู้ด้วยหรอก ถ้าจะผิดก็สนับสนุนให้ยืม หาให้ แต่จริงๆ เราก็หาให้นั่นแหละ เมตตามากไปจะแพ้ภัยพาล บางทีคนรู้จัก ลูกศิษย์ลูกหามีที่ดินริมทะเลตรงนั้น ช่วยหน่อย ช่วยขายหน่อย ถ้าผมช่วยได้ผมช่วย”

แต่วันนี้เขาเปิดมาที่ดินตรงนั้นเป็นที่ส.ป.ก.?

“อันนี้ไม่รู้ เวลาคนอยากได้ที่ ก็ไม่ได้ยุ่งอะไรมาก เพราะไม่ใช่หน้าที่ของผม หาเงินให้ ถ้าไม่มีก็ยืมให้”

คุณไปพูดกับคุณบุ๋มว่ามีที่ 300 ไร่?

“ถ้าผมบอกว่ามีที่ แสนไร่ ล้านไร่เชื่อมั้ย บางครั้งด้วยความผมพูดทีเล่นทีจริง ก็พูดใหญ่พูดโต”

บอกเลยว่าข้อเสียคุณอย่างนึงคือชอบพูดอะไรไปเรื่อยตั้งแต่เป็นพระ ตอนเป็นพระผมนับถือก็กราบไหว้ แต่ผมเตือนไม่ได้เพราะเป็นพระ แต่แค่รู้สึกว่าตอนเป็นพระทิดเองก็ชอบพูดไปเรื่อย วันดีคืนดีบอกว่าจะไปสร้างทีมฟุตบอล ย้ายไปอยู่อังกฤษ ไปสร้างวัดไทยอยู่ แต่สิ่งเหล่านี้มันย้อนกลับมาแทงคุณในวันนี้?

“ผมก็ไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ผมพูดทีเล่นทีจริง พูดไปเรื่อย วันนี้จะมาเป็นหอกทิ่มแทงผม วันนี้ผมตระหนักจริงๆ ว่าที่มีคนเตือนให้ใจเย็นๆ อย่าทำหลายอย่าง อย่าเพิ่งพูดออกไปก่อน ถ้าทำไม่ได้จะหมา จะเสีย ล่าสุดเจอพี่คนนึงในวงการ บอกทำอะไรใจเย็นๆ ทำหนังทำเพลงโครงการต่าง ๆ มีเงินเหรอ ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ทำ หลายคนเตือนผม ไม่ต้องรอพี่หนุ่มหรอก ทีมงานก็เตือนอย่าพูดเยอะ บางอย่างไม่ได้ทำก็พูดไปแล้ว เอาตรง ๆ ก็ประโยคเดิมเป็นหอกทิ่มแทงผม ตอนนี้ผมตระหนักจริง ๆ ว่าข้างนอกเป็นแบบนี้และผมต้องเรียนรู้”

เขาลงพื้นที่กันหมดแล้ว ไปเช็กแล้ว สุดท้ายถ้าเป็นที่ส.ป.ก.โดนยึดหมดเลยนะ?

“ผมบอกญาติพี่น้องหมดแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ตามกฎหมายเลย”

วันนี้คุณบอกว่าไม่ถึงขนาด 300 ไร่ แต่ยอมรับว่ามีจริง แต่จำนวนก็ไม่รู้?

“ไม่รู้จริงๆ ถ้าสุดท้ายเขายึด ก็ตามกฎหมายเลย เราคนไทยอยู่ภายใต้กฎหมาย ถ้าผิดกฎหมายก็ยึดคืน ก็ตามนั้น”

ถ้าเขาตรวจสอบแล้วเป็นที่อุทยาน บุกรุกป่าสงวน คุกนะ?

“เวลาญาติมาหาเราให้เราช่วย ถ้าผิดก็อาจผิดตรงไม่รู้กฎหมายแม่น สนับสนุนหรือเปล่าที่เราให้ยืม แต่มันไม่ได้มีชื่อผม ผมไม่ได้เป็นคนซื้อ ไม่ได้เป็นคนจัดการ”

สิ่งที่พูดในรายการวันนี้จะเป็นหลักฐาน?

“ครับ ตรวจสอบได้เลย ตามกฎหมายเลย ผมไม่ได้เป็นคนซื้อ ถ้าต้องคืนก็ต้องคืน ตามกฎหมายเลย”

ถ้ารุกป่าสงวนโดนคุก?

“ก็ว่ากันตามกฎหมาย”

เข็ดมั้ย การพูดอะไรเรื่อยเปื่อย?

“ผมตระหนักจริง ๆ ว่าการที่เราพูดเล่น พูดใหญ่พูดโต เหมือนโอหัง คิดน้อย ตอนนี้มันชัดเจนมาก ๆ”

เรื่องความรัก เขาบอกคุณมีความรัก?

“ไม่มีครับ”

ผู้หญิงคนนี้คือใคร คุณทำนิ้วเหมือนเป็นความรัก คุณนั่งรถกับผู้หญิงคนนี้ ทำหน้าหัวใจ ยิ้มร่าเริงแจ่มใส?

“เพื่อนครับ ชื่อชมพู่ เป็นเพื่อนที่รู้จักกันมานานพอสมควร”

เขาว่าคุณเสียคนเพราะผู้หญิงคนนี้?

“ไม่ใช่ครับ เขาเป็นคนน่ารัก เขามีสามี มีลูกแล้ว สามีเขาก็เป็นเพื่อนผม สนิทกับผม สนิทกันด้วย รักกันด้วย ลูกเขาก็เหมือนหลานผมเลย ผมมั่นใจว่าเขาเป็นคนดี เป็นคนเก่ง ขยัน”

ฝากไปบอกเขาอย่ามาฟ้องผมนะ ได้ข่าวว่าเขาเตรียมฟ้องคนที่เอาภาพมาเปิดเผย?

“ต้องให้ทีมงานขออนุญาตเขา เดี๋ยวจะจัดการให้ ส่วนนึงเขาก็เป็นคนให้คำแนะนำดี เป็นเพื่อนที่รู้จักกัน”

คนนี้หรือเปล่าที่เจ๊ติ๋มไม่อยากให้คุณคุย?

“ถ้าพูดตรงๆ ก็ใช่ พี่ติ๋มเขาเป็นห่วงแหละ เพราะพี่ติ๋มไม่ได้รู้จักเขา ผมอยากให้รู้จักกันด้วยซ้ำ”

นี่คือสาเหตุหลักหรือเปล่า ที่ไม่อยากให้ไปคบแม่ค้าออนไลน์?

“คนนี้เลย ก็อย่าไปเดือดร้อนคนอื่น น้องโอลีฟไม่เกี่ยวกัน คือชมพู่เลย แล้วเป็นเพื่อนกันล้านเปอร์เซ็นต์ มองตาผมได้เลย กับชมพู่เป็นเพื่อนไม่คิดอะไรเกินเลยแม้แต่นิดเดียว สามีเขาผมก็รู้จัก สนิทสนม ลูกเขาผมก็ถือว่าเป็นหลานผมเลย เป็นเพื่อนจริงๆ ล้านเปอร์เซ็นต์ อย่าไปคิดอย่างอื่น อย่าไปพิมพ์หรือทำอะไรให้เขาเสียหาย สามีเขาจะไม่สบายใจ เพราะสามีเขาก็เป็นเพื่อนผม เป็นเพื่อนจริงๆ”

คุณจะตอบเป็นดาราไม่ได้นะ ว่าวันนั้นเป็นเพื่อน วันนี้รักกันแล้ว?

“พูดตรง ๆ ว่าไม่มีทางจะรักกัน”

เปิดทางให้ตอบ วันนี้ไม่ใช่ แต่วันหน้าไม่รู้?

“ไม่มีวันเป็นไปได้ ผมไม่ชอบมันครับ เป็นเพื่อนกัน น้ำหน้าอย่างมันเป็นแฟนผม เมียผมไม่ได้หรอกครับ ไม่ได้เหยียดนะ เราเป็นเพื่อนกัน เหมือนผมกับพี่จะเป็นคู่เกย์กันก็เป็นไปไม่ได้”

ทำไมไม่บอกพี่ติ๋มว่าเป็นเพื่อนกันจริง ๆ ?

“ผมบอกว่าเป็นเพื่อนกันจริง ๆ บอกด้วยซ้ำว่าถ้าพี่ติ๋มได้คุย พี่ติ๋มจะรัก บอกคุณเต้ด้วย เด็กคนนี้ฉลาด ถ้าเอามาทำงานด้วย ทีวีพูลจะเจริญรุ่งเรือง”

เขาจะให้เลิกคบคนนี้ คุณเลยรับไม่ได้เหรอ?

“เป็นส่วนเล็กๆ ส่วนนึง นอกนั้นก็มีแบบคบคนสีเทา ซึ่งไม่ได้หมายถึงชมพู่นะ คนอื่นที่เคยเอารถไปรับผม ไม่อยากโยงมาก ผมพิมพ์ในแชตเลย ว่าผมเคารพทุกอย่างที่พี่แนะนำ ขอบคุณมาก ๆ แต่เรื่องเพื่อนผมตัดสินใจเอง ผมพิจารณาเอง ผมรับประกันได้ผมไม่คบสีเทา ผมคบคนดี มีศีลธรรมแน่นอน”

ขอกราบขออภัยพี่ติ๋มตรงนี้ มีคลิปหลุดออกมา คลิปที่พี่ติ๋มพยายามเกาะคุณ ลูบพุง คนเลยคิดว่าคบกันฉันท์ชู้สาวหรือเปล่า รักเอยเตยหอมหรือเปล่า มันยังไง?

“ไม่มีเลยครับ อย่าไปมองอย่างนั้น พี่ติ๋มเป็นพี่สาวจริง ๆ เอ็นดูผม การจับพุงจับอะไรหน่อยเป็นธรรมดา เหมือนที่พี่ติ๋มพูดในรายการ เขาเอ็นดูผมเหมือนลูก การจับ การกอด เหมือนพี่ติ๋มกอดลูก เป็นเรื่องธรรมดามาก ผมเองก็ชอบกอด ถ้าเราจริงใจต่อกันก็ทำได้ พี่ติ๋มไม่ได้คิดอะไรกับผมแน่นอน ฉะนั้นอย่าไปว่าพี่ติ๋ม ถ้าใครรักผมก็อย่าพี่ติ๋มเลย เขาไม่คิดแบบนั้นแน่นอน ผมมั่นใจ ผมเป็นน้อง เป็นลูกด้วยซ้ำ เรื่องนี้ตัดไปได้เลย ไม่มี ส่วนหนึ่งที่มาวันนี้ ผมปฏิเสธไปหลายรายการมาก เพราะมีประเด็นพี่ติ๋มเป็นชู้สาวมั้ย อันนี้เป็นประเด็นที่ผมทนไม่ได้เลย พี่ติ๋มไม่ได้คิดอะไรกับผมแน่นอน”

หนี้ 20 กว่าล้านหมดหรือยัง?

“ยังครับ ยังต้องหาใช้อยู่”

จะกลับไปมั้ย?

“ถ้าพี่ติ๋มให้โอกาส ผมเป็นเด็กพร้อมไปกราบขอขมา ไปอธิบาย ไปขอขมาสองประเด็นหลักที่ออกมาไม่ลา ทำให้การงานวุ่นวายหลายอย่าง”

รู้สึกยังไง มีคนออกมาพูด อย่างพี่ดี้ นิติพงษ์ ไม่รู้หมายถึงคุณหรือเปล่า แต่มีหลายท่านพูดลอยๆ ว่าบวช 30 ปี ไม่มีอะไรเลยเหรอไง ทุกวันนี้มีแต่ความโลภต่างๆ นานา อยากตอบอะไร?

“ผมย้ำพี่ดี้ และทุกท่าน ผมโดนถามแบบนี้บ่อย ไม่ใช่คนแรกหรอก ว่า 30 ปีศาสนาให้อะไรมั้ย ศาสนาช่วยผมได้มาก ผมมีสติมาก ผมอาจเผลอไปบ้างแต่ผมก็ดึงสติกลับมาเร็ว ย้ำอีกครั้งนะครับ พระมหาสมปองได้ตายไปแล้ว ผมเป็นนายสมปอง ทิดสมปอง มหาสมปอง หรือแม่ปอง ถ้าสนิทกับผมเรียกไอ้ปองไปเลยก็ได้ ฉะนั้นอยากแยกให้ชัดเจน ว่าผมคือสมปอง นครไธสง นายสมปอง หรือไอ้ปองก็ได้ ผมจะมาใช้ชีวิตเป็นฆราวาส ผมรู้ว่าความทรงจำของทุกท่านมีพระมหาสมปอง เคยฟังโน่นนั่นนี่ ผมก็ยังแซวขำๆ ว่าคนรู้จักผม รู้จักตอนเป็นพระเท่านั้น หลายคนไม่มีความทรงจำกับผมตอนเป็นฆราวาส ให้เวลาผม ได้เรียนรู้โลกใบนี้ ผมไม่มีชีวิตวัยรุ่นเลย ถ้าผมออกมาอยากใช้ชีวิตวัยรุ่น ชีวิตวัยหนุ่ม ความเป็นวัยกลางคนคืนบ้าง ผมอยากให้สังคมเข้าใจผม ถ้าเห็นผมไปร้านชิล ไปดูหนัง ฟังเพลง นั่นคือวิถีฆราวาสที่เขาใช้กัน ซึ่งผมเป็นไอ้ปอง ผมจะใช้ชีวิตแบบนั้น อยากให้สังคมเข้าใจผมจริงๆ ไม่ใช่พระมหาสมปอง คนนั้นได้มรณภาพ และตายไปแล้ว อยากให้เข้าใจจริงๆ”

อยากให้แยก พระสมปองเป็นอดีตไม่มีตัวตน วันนี้คือไอ้สมปอง ชีวิตวัยรุ่นหายไป ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยดื่มเหล้า ไม่เคยไปเที่ยว วันนี้สึกออกมาอยากลองใช้แบบนั้นบ้าง?

“ให้ผมใช้บ้างเถอะ ผมไม่ได้ใช้มากมายหรอก”

 อย่าเอาจีวรมาคลุมเลย?

“คนยังเห็นผมเป็นพระอยู่ อยากให้ใช้ชีวิตเหมือนพระ ถ้าพูดกวนหน่อย ผมจะสึกออกมาทำไมถ้าอยากใช้ชีวิตแบบพระ ผมก็บวชต่อ มันเป็นฆราวาสวิถี ผมเหมือนเด็กที่เจอของเล่นแล้วตื่นเต้น มีพี่คนนึงบอกว่าเห็นความเป็นเด็กในตัวเรา ทั้งที่ไม่รู้ว่าอันตรายหรือเปล่าผมก็ยอมรับว่าตื่นเต้น อยากลองใช้ แต่ไม่ใช่เป็นวิถีที่ทำทุกวัน”

ล่าสุด พี่ศรีสุวรรณ เขาได้รับการร้องเข้ามาจากคนกลุ่มนึง เขาบอกว่าทิดไปรับงานแล้วไปลบไลฟ์เขาทิ้ง เหมือนเบี้ยวงานเขา?

“ใช่คำแรงว่าเบี้ยวงาน ซึ่งอันนี้ผมโทรไปเคลียร์ ผมฟังจากพี่คนนึงก่อนว่าไม่รักกันแล้วเหรอ ผมก็โทรไปเลย เบี้ยวงานคือผมต้องได้เงินนะ วันนั้นผมไปช่วยฟรี ค่าน้ำมันบาทนึงก็ไม่เอา สองลงในเพจผมด้วย ถ้าพี่ไปอ่านคอมเมนต์ พี่จะอยากลบเอง เช่นเรื่องกล่องสุ่ม ผมก็ทิ้งไว้ให้ 3 วันแล้ว ที่พี่อยากไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่งที่นครนายก พอถึงจุดนึง มันเป็นเพจผม ผมช่วยงานฟรี ผมไม่ได้รับงาน ผมไม่ได้รับจ้าง ผมก็ต้องลบอยู่แล้ว ทีมงานผมก็ลบอยู่แล้ว ผมไม่ได้ลบเองหรอก ผมมีทีมงาน มีแอดมิน พิจารณาว่าถึงเวลาลบก็ลบ ถามว่ากระทบอะไรพี่ พี่คนนั้นตอนแรกเสียงแข็งใส่ผม แต่สุดท้ายบอกว่ากลุ่มดารานักร้องไปหาพี่ศรี เพราะพี่ศรีสนิทกับพี่คนนั้นอยู่ ใช้คำว่าเบี้ยวงาน ผมเสียนะ”

ครั้งนึงคุณเองก็ไปพาดพิงถึงพี่ศรี จะไปเตะไปอะไร?

“ไม่หรอก ก็พี่ศรีเขาพาดพิงถึงผมบ่อย ผมก็พาดพิงกลับไปบ้าง อยากโดนทิดเตะจังเลย คำคุยหรือเปล่า ผมไม่เคยต่อยเตะใคร วันนั้นก็แค่ปรามๆ นิดนึงว่าพี่ก็อย่ามาพูดกับผมแบบนี้นะ ผมไม่อยากก้าวร้าว แล้วผมก็บอกพี่คนนั้น ที่สนิทกับพี่ศรี ที่บอกว่าดารานักร้องไปหาพี่ศรีแล้วบอกว่าผมเบี้ยวงาน แล้วกระทบกับงานผม เขาบอกพฤหัสบดี เขาจะตั้งโต๊ะแถลง ผมบอกว่าตั้งโต๊ะแถลงเลย แ ล้วแถลงขอโทษผมด้วย เพราะหนึ่งมันไม่ใช่งาน ผมไปช่วยฟรี ค่าตัวค่าน้ำมันสักบาทก็ไม่เอา สองผมลงในเพจผมด้วย ไม่ใช่กงการอะไรผมที่ต้องลง แต่ผมลงให้ พูดง่าย ๆ ผมมีน้ำใจ พี่จะตอบแทนผมแบบนี้เหรอ ใครกันแน่ไม่เป็นพี่เป็นน้องกัน คนนี้คือคนที่โทรมาอะไรกับผม เขาจัดงานนี้ เขาบอกเขาเสียหาย มันเสียหายยังไง มันไม่ใช่งาน ฉะนั้นตั้งโต๊ะแถลงแล้วขอโทษผมด้วย เหมือนเขาก็อยากให้ผมไปไลฟ์ให้อีก ผมบอกถ้าเคลียร์ตรงนี้ให้ผมไม่ได้ ผมไม่ไป ผมเปลืองตัว ผมทำงานฟรี เพจผมโดนด่าก็ด่าผม พอทีมงานเห็นคอมเมนต์ลบเยอะๆ เขาก็รู้สึกว่างานฟรี ไปด้วย เบี้ยวงานตรงไหน ไปแล้ว ไลฟ์ให้แล้ว พูดให้แล้ว ลงเพจให้แล้วด้วย ไม่ใช่กงการอะไรด้วย เราถือว่าทำบุญให้วัด ฉะนั้นผมเบี้ยวอะไร ดารานักร้องที่จะมาแถลง ต้องแถลงขอโทษผมด้วย เพราะพี่นั่นแหละไม่มีใจกับผม สรุปคือผมไม่ได้เบี้ยวงาน”

รู้สึกยังไงบ้างกับชีวิต 40 วันที่เราสึกออกมาเป็นฆราวาส เป็นอย่างที่เราคิดมั้ย ผิดจากที่คาดไว้มั้ย?

“40 วันมันหลายอารมณ์มาก มีทั้งช่วงดีและไม่ดี เหมือนไฮ-โลว์ ขึ้นสูงคนชมชอบ กับชีวิตที่คนด่าคนว่า แต่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เหมือนสึนามิเข้าประเทศ ตกใจช็อก รับมือไม่ทัน เหมือนที่ออกมาจากบ้านพี่ติ๋ม ก็งง ๆ ตอนนี้เหมือนมีหอเตือนภัย พอมาครั้งที่สองเรารู้แล้วต้องรับมือยังไง เราต้องมีหอเตือนภัย จากตัวผมเอง จากทีมงาน คนที่รักผม ซึ่งเขาก็เตือนภัยผมเข้ามาเยอะมากให้กำลังใจเยอะมาก สอนก็เยอะ ให้ผมตั้งสติดี ๆ ให้ข้อคิดก็เยอะ ถึงผมบวชพระ 20 ปี ไม่ใช่ออกมาแล้วมีสติเหนือกว่าคนอื่น หลายครั้งเราด้อยกว่าเขาด้วย เราต้องเรียนรู้จากรุ่นลูกหลาน หรือเพื่อน พี่ ทุกคน รับฟังเขาเอามาพัฒนาตัวเอง สำคัญสุดคือลูกเพจผมเขาโปรเทค เตือน บอกว่าอันนี้ควรไม่ควร ฉะนั้นมันได้ประสบการณ์หลายอย่าง ถ้าเปรียบเทียบอยู่วัดก็เหมือนอยู่คอนโด  วันนึงเหมือนออกจากคอนโดมาอยู่หมู่บ้าน คนอยู่หลากหลายมาก ผมไปขี้ลืมราดเขาก็ด่าผม เขาไปเห็นคนอื่นขี้ ก็คิดว่าขี้ผม เขาก็ด่าผม จนมีคนมายอมรับผมถึงหลุดจากคำครหา คนหลากหลายพ่อพันธุ์
แม่ก็ได้ประสบการณ์หลากหลาย ผมเข้าใจแล้วที่คนบอกว่าอย่าสึกเลย อยู่ตรงนั้นดีแล้ว เขารักเขาห่วง ว่าเราออกมา มีชื่อเสียง ไม่ได้ออกมาเงียบๆ แบบเขา โอกาสโดนแรงกระแทกมันเยอะ เขาห่วงใยเราจริง ๆ แล้วตอนนี้ผมก็เจอแบบนั้นจริง ๆ แต่มุมนึงผมก็รู้สึกสนุกกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราได้เรียนรู้หลายอย่างที่เราคิดว่าเราฉลาด แต่เราคือเด็กอนุบาล เราคือเด็กประถมที่ต้องเรียนรู้ และต้องยอมรับจริง ๆ ว่าบางเรื่องมึงโง่ ต้องเรียนรู้คนต่างๆ มากมาย ผมเริ่มจากศูนย์ก็เยอะ หลายๆ เรื่องเลย”

30 ปีที่ผ่านมา ไม่ใช่เวลาแป๊บเดียว?

“คนยกย่องตอนเป็นเณรก็มีคนอุปถัมภ์ เป็นพระมาก็มีคนประเคนกับข้าว ไม่ต้องคิด ไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากมาย ใช้เงินประมาณนึงน้อยๆ ยิ่งมีชื่อเสียง คนมารุมล้อม คนระดับไหนก็ไหว้เรา แต่พอออกมาผมลงมาเลย เราต้องไหว้เขาก่อนแม้แต่เด็กก็ตาม เจอเด็ก เจอรปภ. ก็ต้องไหว้ก่อนไม่งั้นเดี๋ยวหยิ่งหรือเปล่า ผมกลัวตรงนี้ที่สุด สำคัญที่สุดผมชอบเห็นคนมีความสุข ใครเห็นผมแล้วยิ้ม หัวเราะ มีความสุข เห็นหน้าก็ขำแล้ว ผมจะรู้สึกผิดหวังหรือเสียใจคือผมทำให้เขาไม่มีคยวามสุข ทำให้เขาเห็นข่าวแล้วเบื่อ เซ็ง อารมณ์ไม่ดี อยากด่า ถ้าผมทำอะไรแล้วผมเดือดร้อนผมโอเค แต่ถ้าทำอะไรแล้วเพื่อนผมเดือดร้อน พี่ผม หรือพี่ติ๋ม มีคนมาว่าพี่ชู้สาวมากมาย ซึ่งไม่มี ผมขอยืนยันอีกครั้งเลยเรื่องนี้ เรื่องการงานที่วุ่นวายเพราะผม ผมผิดหวังเรื่องนี้ที่สุด ผมอยากให้คนเห็นผมแล้วยิ้ม หัวเราะที่สุด ซึ่งผมก็ตั้งใจแล้วว่าจะกลับไปเวย์นั้นให้ได้ แต่ถ้าวันนี้ผมรับปาก แล้วอนาคตผมผิดพลาดอีก ก็อยากให้เข้าใจว่าผมเป็นปุถุชนอย่างชัดเจน”

หลายคนอาจถามว่าทำไมต้องไล่บี้ทิดแบบนี้ วันนี้จำเป็นต้องถามให้หายสงสัย หนึ่งทิดสมปอง ยังทำงานกับผม อะไรก็ตามที่ผมพูดได้ หรือเตือนได้ ผมก็จะบอก ก่อนเข้ารายการ ตอนผมติดต่อไป อยากให้เขามาชี้แจงว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็บอกว่าไม่อยากมา ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน แต่สุดท้ายบอกว่าเขาจะมา แต่อย่าหาว่าผมสอนทิด ผมบอกเขาว่าสิ่งหนึ่งที่ต้องเอาไปคิดให้แตกก่อนออกรายการ คำว่าสง่าผ่าเผยคืออะไร?

“ผมชอบคำนี้ ถ้าเราอยู่ในสังคมอย่างหลบๆ ซ่อน ๆ หนี มันอยู่ไม่ได้หรอกครับ ผมชอบเจอคนด้วย ผมชอบคำนี้ว่าสง่าผ่าเผย สง่างาม ต่อให้ผิดเราต้องยอมรับผิด และแก้ไขไป”

คนเราผิดได้ แต่ต้องรู้ก่อนว่าตัวเองผิดจริงมั้ย จะได้ขอโทษให้ถูกต้อง ถ้าไม่รู้ว่าผิดอะไร แน่นอนไม่มีทางขอโทษได้อย่างสง่างาม แน่นอนทิดต้องมีขวากหนามบ้าง วันนี้เป็นฆราวาส อาจไม่เคยเจอบททดสอบ วันนี้คือบททดสอบ ถ้าเราอยู่อย่างสง่าผ่าเผย ไม่ได้ผิดต่อใคร วันนี้ถามให้สิ้นสงสัย เพื่อไม่ต้องค้างคาประเด็นอีก เพราะเขาไม่อยากสัมภาษณ์อีกแล้ว ผมก็ทำหน้าที่เป็นตัวแทน เพื่อให้ตอบให้ชัดเจน สื่อดูอยู่เยอะ สังคมก็มองอยู่เยอะ เรื่องที่ถ้าผิดก็คืนไป หากู้ยืมเงินให้บ้านซื้อ ผิดจริงก็ยอมรับ ถ้าเขาเช็กก็ว่ากันไปตามกฎหมาย เรื่องพี่ติ๋มคุณยอมรับว่าผิดจริงๆ เงิน 1 ล้านเดี๋ยวคืน ยืนยันว่าพี่ติ๋มทำให้ด้วยใจ ยืนยันว่าพี่ติ๋มไม่มีเรื่องชู้สาว คุณชมพู่ไม่ได้ทำธุรกิจสีเทา คุณก็อยากให้คุณบุ๋มพูดให้ชัดว่าคุณไม่ได้ทำธุรกิจสีเทา?

“ผมไม่ได้ทำล้านเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังรักพี่บุ๋มเหมือนเดิม เขารักและห่วงแหละ”

กับไพรวัลย์ได้คุยกันมั้ย?

“ได้คุยอยู่เรื่อยๆ ตอนน้องมีเรื่องราวก็ให้กำลังใจกัน ก็แซว ๆ กันอยู่ สลับจากน้องมาเป็นพี่เลย อาทิตย์หน้าเป็นน้องแล้วกัน แซวๆ หยอกๆ กัน”

เพราะอะไร อาทิตย์ก่อนทิดน้องโดน อาทิตย์นี้ทิดพี่โดน?

“สลับมือกันอยู่เรื่อยครับ สักหน่อยคงได้พบได้เจอกัน เพราะสองเพจก็รอวันที่เราแบทเทิลกัน รอเคลียร์ตัวเองให้ชัดเจน ผิดก็ว่าไปตามผิด อันไหนไม่ได้ทำก็ขออนุญาตอธิบายตรงนี้ ส่วนที่เบี้ยวงานก็อยากให้คนเข้าใจ และแยกแยะว่าผมเป็นไอ้ปองแล้ว ไม่ใช่พระมหาสมปอง ขออนุญาตย้ำอีกครั้ง และขอโทษพี่ติ๋ม ไม่ว่าการไปไม่ลา มาไม่ไหว้ เรื่องงานเรื่องการ เรื่องเงินที่จะเคลียร์ และขอโทษที่ทำให้ใครเครียด ไม่มีความสุขเพราะผม ผมจะกลับไปอยู่จุดที่ทำให้ทุกท่านมีความสุขเหมือนเดิม”

About Author